“WINDSOR” ประกาศความสำเร็จโชว์รายได้ปี 53 โตตามเป้า 20 เปอร์เซ็นต์

“WINDSOR” (วินด์เซอร์) ผู้นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ไวนิลเพื่อการก่อสร้างและตกแต่งที่อยู่อาศัย โชว์รายได้ปี 53 โตตามเป้า 20 เปอร์เซ็นต์ รวมรายได้กว่า 1,200 ล้านบาท ประกาศเดินเกมส์รุกสร้างแบรนด์ต่อเนื่องในปี 54 ย้ำภาพลักษณ์แบรนด์คุณภาพผู้นำตลาด พร้อมดันสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้สู่ตลาดเต็มรูปแบบ หลังครองอันดับหนึ่งในตลาดประตูหน้าต่างไวนิล

นายปรเมศวร์ นิสากรเสน กรรมการผู้จัดการ บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม จำกัด บริษัทในเครือปูนซิเมนต์ไทย หรือ เอสซีจี (SCG) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก่อสร้างและตกแต่งไวนิล (Vinyl) ภายใต้แบรนด์ “WINDSOR” เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 53 ที่ผ่านมาว่า ในปี 53 บริษัทฯ มียอดขายรวมทั้งสิ้น 1,200 ล้านบาท โตขึ้นจากปีที่ผ่านมากว่า 20 เปอร์เซ็นต์ตามเป้าที่วางไว้ โดยความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากการขยายตลาดเข้าไปในกลุ่มบ้านขนาด 3-5 ล้านบาท ของกลุ่มดีเวลลอปเปอร์ผู้นำตลาด รวมถึงโครงการของกลุ่มภาครัฐหลายหน่วยงาน อีกทั้งกระแสความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการตกแต่งบ้านและที่อยู่อาศัยด้วยไวนิล และความเชื่อมั่นในสินค้าและบริการของวินด์เซอร์ในกลุ่มลูกค้าทุกประเภท

ทั้งนี้ สินค้าจากไวนิลภายใต้แบรนด์วินด์เซอร์ประกอบด้วยสินค้า 4 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่ม Window & Door 2) กลุ่ม Outdoor Product อาทิ รางน้ำฝน, ฝ้าชายคา, รั้ว, เฟอร์นิเจอร์ภายนอก เป็นต้น 3) กลุ่ม Advanced Material อาทิ ไม้พื้นไวนิล และไม้ตกแต่งไวนิล เป็นต้น 4) กลุ่ม Bath & Kitchen อาทิ บานซิงค์, ตู้แขวน, ตู้อ่างล้างจาน เป็นต้น โดยในปัจจุบันสินค้ากลุ่มที่ทำรายได้สูงสุดและแบรนด์วินด์เซอร์เป็นผู้นำตลาด คือ กลุ่ม Window & Door โดยปัจจุบันวินด์เซอร์และกลุ่มพันธมิตรครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดกว่า 80% ของตลาดในประเทศเฉพาะสินค้าประตูหน้าต่างจากไวนิล

สำหรับในปี 2554 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,400 ล้านบาท หรือโตกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ โดยเชื่อว่าการเติบโตของ ตลาดจะยังมีอย่างต่อเนื่อง อันมีปัจจัยสำคัญมาจากการเติบโตของตลาดบ้านใหม่ที่มีไม่น้อยกว่า 4 เปอร์เซ็นต์ เป็นผล จากการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าไปยังเขตเมืองชั้นนอก ทำให้เกิดการเร่งขยายตัวของทาวน์โฮม หรือบ้านจัดสรร ของ กลุ่มดีเวลลอปเปอร์ผู้นำตลาดอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ซึ่งกลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มที่นิยมใช้วัสดุคุณภาพสูง โดยเฉพาะไวนิลในการก่อสร้างและตกแต่งเพื่อสะท้อนถึงภาพลักษณ์ของโครงการ รวมถึงเป็นการตอบรับกระแสความนิยมใช้ผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่มาแรงในขณะนี้ รามถึงจุดแข็งของสินค้าแบรนด์วินด์เซอร์ที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจในคุณภาพ ดีไซน์ที่สวยงาม ตอบโจทย์การใช้งาน รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่าย และบริการก่อน-หลังการขายด้วย

เครือข่ายที่แข็งแกร่งกว่า 40 ศูนย์ทั่วภูมิภาค อีกทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และวัสดุใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง

“บริษัทฯ มีความมั่นใจว่าจะสามารถโตกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ โดยในปีนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายสำคัญคือการเดินเกมส์รุกสร้างแบรนด์วินด์เซอร์ให้เป็นที่จดจำในตลาดในฐานะผู้นำอันดับหนึ่งของนวัตกรรมผลิตภัณฑ์จากไวนิล อีกทั้งแผนการที่จะผลักดันสินค้าในกลุ่ม Advanced Material สินค้าทดแทนไม้ อาทิ ไม้พื้นไวนิล อย่างเต็มที่ โดยเชื่อว่าจะได้รับความนิยมไม่น้อยกว่าสินค้ากลุ่มประตูหน้าต่างที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยล่าสุดได้เปิดตัวไม้พื้นนวัตกรรมใหม่รุ่น Imperial ในงานสถาปนิกสยาม 54 ที่ผ่านมาและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก” นายปรเมศวร์กล่าวในตอนท้าย