เอปสัน เกาะกระแสเศรษฐกิจไทยขยายตัว ส่งสินค้ากลุ่มธุรกิจรุกตลาดวงกว้าง

เอปสัน ประเทศไทย ตอบรับกระแสภาวะเศรษฐกิจของไทยขยายตัวต่อเนื่อง ส่งสินค้ากลุ่มธุรกิจรุกตลาดในหลายอุตสาหกรรม พร้อมวางกลยุทธ์ทางการขายและการตลาด สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าองค์กร ทั้งรัฐและเอกชน ต่อสินค้า บริการ และแบรนด์ของเอปสัน เพื่อการเติบโตในระยะยาว

มร.เออิจิ คาโตะ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของไทยในช่วงไตรมาสสองที่ผ่านมามีการขยายตัวขึ้นจากไตรมาสแรกของปี เห็นได้จากความต้องการอุปโภคบริโภคสินค้าของประชาชน และการลงทุนของภาครัฐและเอกชนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นใจของตลาดโดยรวมต่ออนาคตของเศรษฐกิจของไทย และคาดว่าในไตรมาส 3 ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะยังมีแนวโน้มขยายตัวเช่นนี้ต่อไป นี่เป็นโอกาสสำคัญของเอปสัน ในการขยายธุรกิจและฐานลูกค้าใหม่ๆ สำหรับสินค้าในกลุ่มธุรกิจ

“สินค้ากลุ่มธุรกิจของเอปสันประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นดอทเมตริกซ์ พรินเตอร์ พรินเตอร์พาสบุ๊ค ทีเอ็มพรินเตอร์ ที่เอปสันเป็นเจ้าตลาดอยู่ในขณะนี้ รวมถึงเลเซอร์ พรินเตอร์ ที่บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดตัวให้กว้างยิ่งขึ้น หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการขายในลักษณะที่เป็นโปรเจ็ค สำหรับองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่มาแล้ว โดยตั้งเป้ายอดรายได้ของปี 2554 ไว้ที่ 2,500 ล้านบาท และเป้ายอดรายได้ของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มธุรกิจ 650 ล้านบาท โดยดอทเมตริกซ์ พรินเตอร์ โตขึ้นอีก 105% ส่วนทีเอ็มพรินเตอร์โต 140%”

“ในเวลาที่ตลาดมีความมั่นใจเช่นนี้ สิ่งที่เอปสันต้องทำคือการตอกย้ำความมั่นใจในการลงทุนของลูกค้า ว่าลูกค้าได้ตัดสินใจถูกแล้วที่เลือกผลิตภัณฑ์เอปสัน บริษัทฯ มีพรินเตอร์หลากหลายประเภท เพื่อรองรับงานต่างๆ ภายในองค์กร ด้วยเทคโนโลยีชั้นเยี่ยม ที่สามารถมอบความคุ้มค่า ความประหยัด รวมถึงงานบริการที่เหนือคู่แข่ง ซึ่งความมั่นใจในทุกๆ ด้านของลูกค้าคือปัจจัยสำคัญในการเติบโตทางธุรกิจในระยะยาวของเอปสัน” มร.คาโตะ สรุป

ทางด้านนายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา กลุ่มสินค้าธุรกิจของเอปสัน เป็นกลุ่มที่มีการเติบโตมากที่สุด คือมากกว่า 25% ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่าปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าทั้งรัฐและเอกชนเลือกใช้สินค้าเอปสันมากขึ้นนั้น เป็นเพราะความมั่นใจในคุณค่าที่ลูกค้าจะได้รับในทันทีที่เลือกใช้ แบรนด์เอปสัน ลูกค้าองค์กรหรือสถาบันไม่ได้มองที่ราคาสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่มองที่ความคุ้มค่าในระยะยาวและในทุกด้าน ทั้งความประหยัดต้นทุนในการลงทุน ประหยัดค่าไฟ ความปลอดภัยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บริการหลังการซื้อ รวมไปถึงแบรนด์สินค้านั้นต้องมีความเคลื่อนไหวในตลาดอยู่เสมอ มีการเพิ่มสินค้าใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่กำลังตัดสินใจลงทุนเพิ่ม หรือกำลังจะเปลี่ยนหรืออัพเกรดเครื่องที่กำลังใช้อยู่

นายยรรยง ให้รายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าในกลุ่มธุรกิจของเอปสันว่า “ดอทเมตริกซ์ พรินเตอร์ ซึ่งปัจจุบัน เอปสันครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 85% มียอดขายเพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากการลงทุนเพิ่มขึ้นของหน่วยงานราชการ ในปีนี้ เอปสันยังคงเน้นลูกค้าในกลุ่มราชการที่ต้องการขยายตัวและอัพเกรดระบบการทำงานในสำนักงาน ทั้งยังได้เปิดตัวสินค้าใหม่ LQ-50 ที่ใช้ได้ทั้งกระดาษต่อเนื่องและกระดาษม้วน สามารถพิมพ์ใบเสร็จ ขนาด 4-6 นิ้ว สำหรับตอบสนองความต้องการของกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง และร้านค้าปลีกอีกด้วย”

“ส่วนพรินเตอร์พาสบุ๊ค เป็นสินค้าที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด เป็นที่นิยมในกลุ่มสถาบันการเงินและธนาคาร สำหรับสินค้ารุ่นใหม่ เป็นรุ่นที่มีฟังก์ชั่นครบครัน เพื่อรองรับตลาดนี้มากยิ่งขึ้น และบริษัทฯ มีแผนที่จะเจาะกลุ่มลูกค้าหน่วยงานราชการด้วยเช่นกัน อย่าง เครื่อง PLQ-22CSM ที่เป็นเครื่องมัลติฟังก์ชั่น สามารถพิมพ์ บันทึก สแกนบัตรประชาชนและเช็คได้ ตรวจสอบความถูกต้อง และโอนส่งข้อมูลยังไปยังธนาคารได้ในเครื่องเดียวกัน”

“ทีเอ็มพรินเตอร์ มีการเติบโตในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 50% เทียบกับปีที่ผ่านมา โดยร้านค้าและห้างสรรพสินค้าเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก แต่ในปีนี้ เอปสันจะเริ่มรุกตลาดโรงพยาบาล ซึ่งมีโอกาสทางการตลาดที่ใหญ่มาก เพราะมีงานพิมพ์ฉลากยา ฉลากติดอุปกรณ์การแพทย์ และป้ายชื่อผู้ป่วย ซึ่งในวันนี้ เอปสันได้เปิดตัว TM-C3400 เครื่องพิมพ์ฉลาก ระบบอิงค์เจ็ตสี สำหรับธุรกิจโรงพยาบาลและธุรกิจงานพิมพ์ขนาดเล็กโดยเฉพาะ ส่วนอีกตลาดหนึ่งที่เอปสันให้ความสนใจก็คือกลุ่มตลาดสายการบิน และได้ออก TM-L500A มาประเดิมตลาดเป็นรุ่นแรก”

“สำหรับเลเซอร์พรินเตอร์ ที่ผ่านมาเอปสันเน้นการขายในลักษณะโปรเจ็คให้กับหน่วยงานราชการหรือบริษัทเอกชนมากกว่า ไม่ได้วางขายตามไอทีมอลล์ หรือร้านตัวแทนจำหน่าย แต่สินค้ารุ่นที่กำลังเปิดตัวในวันนี้ บริษัทฯ มีแผนจะทำตลาดในช่องทางค้าปลีกมากขึ้น เพื่อตอบรับกับความต้องการขององค์กรที่ต้องการซื้อทีละไม่มาก โดยเน้นไปที่องค์กรขนาดเล็กถึงขนาดกลาง”

สำหรับกลยุทธ์ในการขายและการทำตลาดที่วางไว้ ประกอบไปด้วย
1)การขยายสินค้าให้ครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้ในทุกกลุ่มตลาด ทั้งการนำเสนอสินค้าใหม่ๆ ให้กับกลุ่มลูกค้าเดิมเพื่อขยายฐานตลาด รวมถึงเจาะตลาดใหม่ๆ ที่เอปสันยังไม่เคยเข้าไป
2)สร้างความแข็งแกร่งให้กับช่องทางการจัดจำหน่าย มุ่งหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อเจาะตลาดในกลุ่มองค์กร และราชการ โดยปัจจุบัน เอปสันได้เพิ่มตัวแทนจำหน่ายในกลุ่มสินค้าธุรกิจให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากถึงกว่า 100 ราย
3)เสริมความเข้มข้นให้กับทีมบุคคลากร ทั้งทางด้านทีมขายที่ดูแลกลุ่มลูกค้าในส่วนลูกค้าภาครัฐ (Government) ลูกค้าองค์กร (Corporate) และทีมขาย Specialist ที่ดูแลลูกค้าผลิตภัณฑ์ทีเอ็มพรินเตอร์ นอกจากนั้น ยังมีทีม Presale support เพื่อทำงานใกล้ชิดกับตัวแทนจำหน่าย ในการสนับสนุนการดำเนินงาน และสร้างสรรค์โซลูชันทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับลูกค้า
4)จัดตั้งทีมช่างพิเศษเพื่อให้บริการลูกค้ากลุ่มดังกล่าวโดยเฉพาะ เพื่อให้การบริการหลังการขายเป็นไปด้วยความราบรื่น รวดเร็ว ธุรกิจของลูกค้าจึงเติบโตได้อย่างไม่สะดุด

นายยรรยง กล่าวเปิดตัวเลเซอร์พรินเตอร์รุ่นใหม่ทั้ง 6 รุ่นว่า ในครั้งนี้ เอปสันต้องการนำเสนอแนวคิดผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยความประหยัดคุ้มค่าถึง 4 ด้าน โดยสินค้าทุกรุ่นจะเน้นดีไซน์ที่เล็ก กระทัดรัด ทั้งยังประหยัดพลังงาน และประหยัดค่าพิมพ์ด้วยต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นที่ต่ำ ท้ายสุดคือความประหยัดคุ้มค่า ด้วยราคาเครื่องที่เหมาะสมในคุณภาพที่เหนือกว่าตามมาตรฐานเอปสัน เลเซอร์พรินเตอร์รุ่นใหม่ทุกรุ่นมีจุดเด่นตรงที่ใช้ผงหมึก Epson AcuBrite? ที่ทำให้ได้คุณภาพงานพิมพ์คมชัด แม่นยำ และคงทนเก็บได้นานกว่า โดยมีตั้งแต่รุ่นที่เป็นเลเซอร์พรินเตอร์ขาวดำขนาดกะทัดรัด อย่าง Epson AcuLaser M1400 สามารถใช้กับตลับผงหมึกพิมพ์ได้ 2 ขนาด ทั้งตลับความจุสูง พิมพ์ได้มากถึง 2,200 แผ่น เพื่อรองรับงานพิมพ์จำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ช่วยลดต้นทุนการพิมพ์ และตลับความจุมาตรฐาน พิมพ์ได้ถึง 1,000 แผ่น สำหรับงานพิมพ์ที่มีจำนวนน้อย และ Epson AcuLaser C1700 ที่เป็นเลเซอร์พรินเตอร์สี ที่มีคุณภาพการพิมพ์สูงในต้นทุนการพิมพ์ที่ประหยัดคุ้มค่ากว่า

“สำหรับเครื่องมัลติฟังก์ชั่น ได้แก่ Epson AcuLaser MX14 และเครื่องที่สามารถเชื่อมต่อระบบเครือข่ายได้อย่าง Epson AcuLaser MX14NF ที่เป็นเลเซอร์พรินเตอร์ขาวดำมัลติฟังก์ชั่น และ Epson AcuLaser CX17NF เลเซอร์พรินเตอร์สีมัลติฟังก์ชั่น และสุดท้ายคือ Epson AcuLaser C2900N เลเซอร์พรินเตอร์สี สำหรับระบบเครือข่าย ความเร็วในการพิมพ์สูงสุดที่ 23 หน้าต่อนาที ทั้งสีและขาวดำ รองรับการพิมพ์ต่อเดือนได้สูงถึง 40,000 แผ่น”

“เอปสันมุ่งที่จะนำเสนอโซลูชั่นด้านการพิมพ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นงานในลักษณะใด ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าเอปสันมีเทคโนโลยีด้านการพิมพ์ที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม รวมถึงการให้บริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน และอำนวยความสะดวกราบรื่นให้กับการดำเนินธุรกิจของลูกค้าทุกกลุ่ม” นายยรรยง ทิ้งท้าย