กสิกรไทยเรียกความเชื่อมั่นในตลาด หนุนธุรกิจขนาดใหญ่ปรับแผนรุก เร่งเครื่องเตรียมลุยปี 57

กสิกรไทยเผยตัวเลขการลงทุนของธุรกิจรายใหญ่ปีนี้ พบปริมาณของโครงการและมูลค่ารวมการลงทุนกว่า 1 ล้านล้านบาท เติบโตใกล้เคียงกับปีก่อน สะท้อนการขยายตัวของผู้ประกอบการไทยที่แข็งแกร่ง พร้อมคาดการณ์ว่าจะมีความต้องการสินเชื่อและระดมทุนโดยธุรกิจรายใหญ่เพิ่มขึ้นจาก 7.5% ในปี 2556 เป็น 8.0% ในปี 2557

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ผู้ประกอบธุรกิจขนาดใหญ่ยังคงมีความต้องการในการระดมทุนเพื่อรองรับต่อการขยายตัวของกิจการ ท่ามกลางกระแสการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจที่อาจจะชะลอตัวในช่วงครึ่งหลังของปี โดยมีการปรับประมาณการการขยายตัวของจีดีพีจาก 4.8% เหลือ 4% จากความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ การปรับตัวของเศรษฐกิจจีน และ การล่าช้าของโครงการภาครัฐ

อย่างไรก็ตาม จากตัวเลขการลงทุนของธุรกิจรายใหญ่ปีนี้เทียบกับปีที่ผ่านมา พบปริมาณของโครงการตลอดจนมูลค่ารวมของการลงทุนยังคงมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับปีก่อน โดยมูลค่าการลงทุนมีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท โดยส่วนใหญ่เกิดจากธุรกิจด้านการอุปโภคบริโภคในประเทศ อันเป็นผลพวงของการเติบโตของหัวเมืองใหญ่และการลงทุนขั้นพื้นฐานจากการขยายตัวของโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานที่เพิ่มมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์การขยายตัวของผู้ประกอบการไทยที่ยังคงแข็งแรงอยู่ ส่งผลให้ความต้องการในตลาดด้านการระดมทุนยังเป็นไปในทิศทางที่ดี ซึ่งธนาคารสามารถระดมทุนให้ลูกค้าได้หลากหลายรูปแบบที่เหมาะสมกับแต่ละธุรกิจ จึงมั่นใจว่าตลาดยังมีความต้องการในการลงทุนเพื่อเตรียมรับมือการเติบโตของเศรษฐกิจที่จะกลับมาดีขึ้นในปีหน้า พร้อมคาดการณ์ว่า จะมีความต้องการสินเชื่อและระดมทุนโดยธุรกิจรายใหญ่เพิ่มขึ้นจาก 7.5% ในปี 2556 เป็น 8.0% ในปี 2557

นายภานพ อังศุสิงห์ ผู้บริหารสายงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวเสริมถึงทิศทางของตลาดเงินและตลาดทุนยังมีปัจจัยที่เอื้อต่อการลงทุนของผู้ประกอบการได้ อาทิ สภาพคล่องในตลาดที่ยังคงมีปริมาณการลงทุนทั้งจากนักลงทุนในและนอกประเทศ ประกอบกับแนวโน้มดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ที่กลับเป็นปัจจัยเร่งที่ทำให้ผู้ประกอบการตัดสินใจจัดหาแหล่งเงินทุนก่อนที่อัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นกว่านี้ ทั้งนี้ ธนาคารฯ มีมุมมองต่อภาพรวมเศรษฐกิจใน 2 ปีข้างหน้าว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางหลัก แม้ว่าความผันผวนจะเกิดขึ้นได้ แต่ความต้องการจากตลาดเงินและตลาดทุนยังในภาพรวมยังมีอยู่ จึงยังเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการที่มองหาลู่ทางในการระดมทุนเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของกิจการ ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงต้องเร่งเตรียมตัวให้พร้อมรับโอกาสทางธุรกิจดังกล่าว

พร้อมกันนี้ ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์การตลาดที่ความต้องการในการระดมทุนนั้นยังมีความหลากหลาย ซึ่งทางธนาคารกสิกรไทยเองก็ได้เข้าไปมีบทบาทต่อการระดมทุนให้กับธุรกิจขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าโครงการที่ธนาคารกำลังดำเนินการอยู่รวมกว่า 180,000 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยการระดมทุนทั้งจากตลาดหลักทรัพย์ (IPO) การระดมทุนผ่านกองทุนทั้ง กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) และ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) การออกหุ้นกู้ และ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) รวมถึงการระดมทุนรูปแบบใหม่ที่ธนาคารฯ ได้เป็นผู้จัดทำเป็นธนาคารแรกในไทย มั่นใจผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งรายได้และยอดการปล่อยสินเชื่อ