“คอตโต้” ปลื้มยอดขาย “คอตโต้ อิตาเลีย” โต 7 เท่า เดินหน้าส่งกระเบื้องหรูคอลเล็กชั่น 2014 เจาะตลาดไฮเอนด์

“คอตโต้” ปลื้มยอดขาย “คอตโต้ อิตาเลีย” กระฉูด เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่าเมื่อเทียบกับยอดขายปีที่แล้ว เดินหน้าจับมือพันธมิตรระดับโลก “ฟลอริม” ส่งกระเบื้องสุดหรู “คอตโต้ อิตาเลีย คอลเล็กชั่น 2014” เจาะตลาดไฮเอนด์ ตอบโจทย์งานออกแบบ ที่สวยงามทันสมัย ตอกย้ำความเป็นโกลบอลแบรนด์ขึ้นอีกระดับโดยความร่วมมือในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ออกแบบ วิจัย พัฒนา ผลิตและการทำตลาด โดยใช้เทคโนโลยีชั้นสูงที่สามารถผลิตกระเบื้องขนาดใหญ่พิเศษ ซึ่งมีเพียงไม่กี่รายในโลกที่ทำได้
 
นายอนุวัตร เฉลิมไชย แบรนด์ไดเร็กเตอร์ คอตโต้ บริษัท เซรามิคซิเมนต์ไทย จำกัด กล่าวว่า เมื่อปีที่ผ่านมา คอตโต้ได้ประกาศความเป็นโกลบอลแบรนด์ด้วยการจับมือกับพันธมิตรระดับโลกจากอิตาลีอย่าง ฟลอริม มูติน่า และลามินั่ม สร้างสรรค์กระเบื้องหรูในคอลเล็กชั่น คอตโต้ อิตาเลีย ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากในกลุ่มสถาปนิกและนักออกแบบชาวไทย ส่งผลให้สินค้าในกลุ่มกระเบื้องนำเข้าจากอิตาลีของคอตโต้มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่า และเมื่อนำไปเปิดตัวในงานกระเบื้องระดับโลกอย่าง เซอร์ซาย (CERSAIE) ประเทศอิตาลี ก็ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก ทำให้แบรนด์คอตโต้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก สามารถเปิดตลาดส่งออกและ    มีลูกค้าจากต่างประเทศรายใหม่เพิ่มขึ้น ในปีนี้คอตโต้จึงได้ต่อยอดความสำเร็จด้วยการเดินหน้าตอกย้ำความเป็นโกลบอลแบรนด์ขึ้นอีกระดับโดยดีไซน์เนอร์ชาวไทยกับดีไซน์เนอร์จากอิตาลี  ได้ร่วมกันสร้างสรรค์กระเบื้อง “คอตโต้ อิตาเลีย คอลเล็กชั่น 2014” ซึ่งได้มีการร่วมมือกันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบ วิจัย พัฒนา การผลิต รวมทั้งการทำตลาด
 
“จุดเด่นของคอตโต้ อิตาเลีย คอลเล็กชั่น 2014  นอกจากความหรูหราสวยสมจริงเหมือนหินธรรมชาติ ผสมผสานเทคโนโลยีการผลิตชั้นสูงของฟลอริมแล้ว  ยังมีความพิเศษสุดคือความสามารถในการผลิตกระเบื้องขนาดใหญ่ 80×180 ซม. ซึ่งเป็นขนาดที่ใหญ่พิเศษ และมีเพียงไม่กี่รายในโลกที่ทำได้ จึงนับว่า คอตโต้ อิตาเลีย เป็นสุดยอดแห่งดีไซน์กระเบื้องพอร์ซเลนที่สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าระดับไฮเอนด์และตอบโจทย์งานออกแบบได้มากขึ้น” นายอนุวัตร กล่าว
 
คอตโต้ อิตาเลีย คอลเล็กชั่น 2014 ประกอบด้วย 3 ซีรี่ส์ คือ บัลซ่า (Balza) กระเบื้องที่มีผิวสัมผัสเหมือนหินแกรนิตโดย ได้รับแรงบันดาลใจจากความสวยงามแข็งแกร่งของหินผา, เซ็นโซ่ ดี มาร์โม (Senso Di Marmo) กระเบื้องที่มีลวดลายหินอ่อน หายากเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ และ นีโอ บะซอลท์ (Neo Basalt) กระเบื้องที่ผสมผสานลวดลายของหินบะซอลท์กับสีสันสถาปัตยกรรมสมัยใหม่  เพื่อตอบโจทย์งานออกแบบที่หลากหลาย โดยช่องทางในการโปรโมทในประเทศจะดำเนินการผ่านคอตโต้ สตูดิโอ, เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์  และคอนเซปต์โชว์รูมคอตโต้ที่อาคาร SQ1 สยามสแควร์ ซึ่งจะเปิดอย่างเป็นทางการประมาณกลางปีนี้
 
สำหรับทิศทางธุรกิจของคอตโต้ในปีนี้ จะเดินหน้าตอกย้ำการยกระดับสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก โดยเน้น Global Product  คือ การพัฒนาสินค้าระดับโลกทั้งคุณภาพและดีไซน์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าจากนานาประเทศทั่วโลก รวมถึงการขยาย   สายผลิตภัณฑ์ไปยังสินค้าและรูปแบบการใช้งานประเภทอื่น ส่วนทางด้าน Global Channel จะมุ่งกระจายสินค้าสู่ตลาดโลกให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะตลาด AEC ที่กำลังขยายตัวและตลาดยุโรป ออสเตรเลีย อเมริกา ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของคอตโต้
 
นอกจากนี้ คอตโต้จะยังคงไปร่วมงาน มิลาน ดีไซน์ วีก (Milan Design Week) อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งไปร่วมในงานเซอร์ซาย (CERSAIE) และ มาร์โมแมค (MARMOMACC) ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับกระเบื้องและหินระดับโลก ที่ประเทศอิตาลี รวมถึงมีการต่อยอดความสำเร็จจากการออกแบบและปรับปรุงห้องน้ำที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยไปดำเนินการต่อที่ห้องน้ำในสนามบินมัลเพนซ่า เมืองมิลาน