เอสซีจี ประกาศเดินหน้าลงทุนพัฒนาสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (HVA) มูลค่าการลงทุนรวม 3,190 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตปูนสำเร็จรูป (Mortar) ร่วมทุนธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างในอาเซียน พร้อมลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) มุ่งสู่ผู้นำอย่างยั่งยืนในอาเซียน
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติโครงการลงทุนในธุรกิจซิเมนต์ – ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง และการลงทุนในสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (HVA) ตามกลยุทธ์มุ่งสู่ผู้นำอย่างยั่งยืนในอาเซียน มูลค่าการลงทุนรวม 3,190 ล้านบาท ประกอบด้วย
1) การขยายการลงทุนธุรกิจปูนสำเร็จรูป (Mortar) ปูนสำเร็จรูป HVA สำหรับงานก่ออิฐและงานฉาบผนัง ที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ สะดวกต่อการใช้งาน และเหมาะกับการใช้ในงานก่อ-ฉาบอิฐมวลเบา โดยเอสซีจีได้ขยายกำลังการผลิต Mortar 2 ล้านตันต่อปี เป็นเงินลงทุนรวมประมาณ 2,800 ล้านบาท ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวก่อสร้างที่จังหวัดขอนแก่นและลำปาง และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2559
2) การร่วมทุนธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างในอาเซียน โดยเอสซีจีจะเข้าร่วมทุน ในสัดส่วนร้อยละ 50:50 กับบริษัทสยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อจัดตั้งบริษัท โกลบอลเฮ้าส์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยเป็นเงินลงทุนในส่วนของเอสซีจีประมาณ 200 ล้านบาท การร่วมทุนดังกล่าวจะช่วยสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างในรูปแบบคลังสินค้าในอาเซียน สอดคล้องกับกลยุทธ์ของเอสซีจีในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในอาเซียนซึ่งมีศักยภาพสูงในอนาคต โดยอาศัยความเป็นผู้นำตลาดและเครือข่ายธุรกิจในอาเซียนของเอสซีจีประกอบกับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจดังกล่าวของสยามโกลบอลเฮ้าส์
3) การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) โดยเอสซีจีจะลงทุนประมาณ 190 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของสินค้า HVA โดยการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็นร้อยละ 20 ในบริษัท Lysando AG ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจ R&D ด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (Life Science) โดยเงินลงทุนที่ใช้เป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณด้าน R&D ในปี 2557 ทั้งหมด 4,000 ล้านบาทของเอสซีจี