เครือข่ายสังคมอันดับ 1 ของโลกอย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) ออกมาปฏิเสธว่าวิกฤติบริการล่มทั่วโลกนานกว่า 45 นาทีเมื่อบ่ายวันอังคารที่ 27 มกราคมที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทยนั้นไม่ได้เกิดจากการถูกเจาะระบบของกลุ่ม ‘Lizard Squad’ อย่างที่มีการกล่าวอ้าง โดยบอกว่ามีความผิดพลาดในการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าระบบภายในของเฟซบุ๊กเอง ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้ชั่วขณะหนึ่ง
วิกฤติเฟซบุ๊กล่มครั้งล่าสุดถูกรายงานว่าเกิดขึ้นในเอเชีย สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และอังกฤษ โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กจากคอมพิวเตอร์และจากแอปพลิเคชันล้วนไม่สามารถทำงานได้ ขณะที่บริการเครือข่ายสังคมภาพอย่างอินสตาแกรม (Instagram) ซึ่งเป็นบริการในเครือเฟซบุ๊กก็ไม่สามารถให้บริการได้เช่นเดียวกัน
เฟซบุ๊กออกแถลงการณ์ว่ากรณีเฟซบุ๊กล่มที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าทางเทคนิก ไม่ใช่การถูกเจาะระบบตามที่กลุ่ม Lizard Squad อวดอ้างผ่านระบบทวิตเตอร์ (Twitter) ว่าเป็นผู้ทำให้เฟซบุ๊กใช้งานไม่ได้ โดยเฟซบุ๊กใช้คำว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นผลจากการโจมตีโดยกลุ่มอื่นหรือ third-party attack แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากเฟซบุ๊กลงมือเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าระบบภายใน
ภาวะเฟซบุ๊กล่มนี้ถือเป็นวิกฤติครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เฟซบุ๊กเคยล่มเมื่อวันที่ 24 กันยายนปี 2010 ครั้งนั้นเฟซบุ๊กไม่สามารถทำงานนานถึง 2.5 ชั่วโมง เบื้องต้นเฟซบุ๊กเรียกวิกฤติครั้งนี้ว่าเป็น ‘‘major outage’’ ซึ่งกินเวลานานถึง 1 ชั่วโมง
กระทบหลายล้านคน
จำนวนผู้ใช้งานมหาศาลของเฟซบุ๊กทำให้”ปัญหาเฟซบุ๊กล่ม” ได้รับความสนใจในวงกว้าง โดยปัจจุบัน เฟซบุ๊กมีผู้ใช้งานประจำมากกว่า 1.35 พันล้านคน ขณะที่อินสตาแกรมมีผู้ใช้งาน 300 ล้านคน ทั้งหมดนี้ส่งให้ข่าวการล่มของเฟซบุ๊กแพร่สะพัดไปบนเครือข่ายสังคมคู่แข่งอย่างทวิตเตอร์ (Twitter) ต่อเนื่อง จนทำให้แฮชแทค ‘‘facebookdown’’ ติดอันดับยอดนิยมอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่าปัญหาเฟซบุ๊กล่มนี้เกิดขึ้นก่อนกำหนดการประกาศผลประกอบการที่บริษัทเตรียมแถลงข่าวในวันพุธที่ 28 มกราคม โดยเมื่อเฟซบุ๊กกลับมาทำงานได้ ผู้ใช้จำนวนมากพบว่าเฟซบุ๊กยังมีปัญหาทำงานล่าช้าและไม่สามารถใช้งานบางคุณสมบัติได้ครบ
สำหรับกลุ่ม Lizard Squad นั้น รายงานระบุว่าทางกลุ่มมีการประกาศว่าเป็นผู้เจาะระบบเว็บไซต์มาเลเซียแอร์ไลน์ส (Malaysia Airlines) และกำลังเตรียมเผยแพร่ข้อมูลลับที่รวบรวมมาได้ โดยมาเลเซียแอร์ไลน์ถือเป็นองค์กรล่าสุดในบรรดาหลายองค์กรที่กลุ่ม Lizard Squad อ้างว่าสามารถเจาะระบบได้หลายแห่งในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทกลุ่มสื่อและเกม
ที่มา : http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000010592
