สื่ออเมริกันระบุ กูเกิล (Google) กำลังเตรียมชนช้างกับบริษัทอีคอมเมิร์ชผู้ขายสินค้าออนไลน์อย่างอเมซอน (Amazon) และอีเบย์ (eBay) ด้วยการวางแผนเพิ่มปุ่มซื้อหรือ ‘Buy’ บนหน้าผลลัพท์การค้นหาที่ผู้ใช้บนอุปกรณ์พกพาจะสามารถกดเพื่อซื้อสินค้าที่สนใจได้ทันที คาดผู้ใช้บนคอมพิวเตอร์จะยังไม่ได้เห็นปุ่มซื้อใหม่ที่ตกเป็นข่าวลือครั้งนี้
รายงานจากสำนักข่าววอลสตรีทเจอร์นอล (The Wall Street Journal) อ้างแหล่งข่าววงในระบุว่ากูเกิลจะดำเนินการเพิ่มปุ่มซื้อบนหน้าผลลัพท์การค้นหาของตัวเองในช่วง 2-3 สัปดาห์นับจากนี้ จุดนี้รายงานชี้ว่าเมื่อชาวออนไลน์คลิกปุ่ม Buy ก็จะพบกับหน้าแสดงสินค้าของกูเกิลซึ่งสามารถคลิกซื้อได้ทันที
ความเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่ากูเกิลกำลังจะกลายเป็นคู่แข่งของผู้ให้บริการตลาดออนไลน์หรือออนไลน์มาร์เก็ตเพลส ซึ่งเป็นแหล่งรวมสินค้าสำหรับค้าปลีกที่ชาวออนไลน์นิยมซื้อหาสินค้าไว้ใช้งาน เบื้องต้นคาดว่าบริษัทกลุ่มนี้จะได้รับผลกระทบไม่น้อย แม้ข้อมูลจะชี้ว่ากูเกิลเน้นให้บริการปุ่ม Buy ผ่านระบบค้นหาข้อมูลบนอุปกรณ์พกพาเท่านั้น ไม่รวมระบบค้นหาข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
สื่อออนไลน์อย่างเดอะเวิร์จ (The Verge) ระบุว่าผู้ใช้กูเกิลจะสามารถเลือกขนาดหรือสีของสินค้าที่ต้องการได้บนหน้าสินค้าของกูเกิล ขณะเดียวกัน กูเกิลจะเปิดให้ผู้ใช้สามารถเก็บข้อมูลบัตรเครดิตเพื่ออำนวยความสะดวกให้การซื้อครั้งต่อไปทำได้ง่ายขึ้นด้วย
รายงานชี้ว่ากูเกิลจะชิมลางให้บริการปุ่มซื้อนี้บนเพจผลลัพท์การเสิร์ชเพียงบางเพจเท่านั้น ผลจากการเจรจากับบริษัทค้าปลีกจำนวนหนึ่งในช่วงเริ่มให้บริการ
หากข่าวนี้เป็นความจริง กูเกิลอาจกลายเป็นผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ในตลาด เนื่องจากชาวออนไลน์เลือกใช้กูเกิลในการค้นหาข้อมูลบ่อยครั้ง ขณะเดียวกัน กูเกิลก็จะมีทางต่อยอดธุรกิจมากขึ้น เพราะปัจจุบันกูเกิลจะได้รับค่าโฆษณาเฉพาะเมื่อชาวออนไลน์คลิกเข้าสู่เว็บไซต์ค้าปลีกที่ลงโฆษณากับบริษัทเท่านั้น แต่ปุ่มซื้อจะทำให้กูเกิลได้รับรายได้จากการซื้อโดยตรงอีกทาง