สำนักข่าวซินหัวรายงานการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญจีนว่า ราคาน้ำมันโลกที่พุ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเดือนเมษายนปีนี้ มีโอกาสจะลดลงในอีกสองสามปีข้างหน้า ในขณะที่โกลด์แมน แซคส์ ธนาคารเพื่อการลงทุนเจ้าสำคัญของตลาดวอลล์ สตรีท รายงานขัดแย้งกันว่า ราคาน้ำมันจะสูงสุดถึง 105 ยูเอสดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปี 2007
ฉาน เวยกู้ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยด้านเศรษฐศาสตร์และทางเทคโนโลยีปิโตรเลียม ประจำศูนย์วิจัย ของบริษัทไชน่า เนชั่นเนล ปิโตรเลียม ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของจีน บอกว่า สื่อมวลชนให้ความสนใจกับตัวเลขสูงสุด 105 ยูเอสดอลลาร์ต่อบาร์เรลของโกลด์แมน แซคส์มากเกินไป แต่ละเลยยอดประมาณการพื้นฐานที่ระบุไว้ด้วยว่า 50 ยูเอสดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งอาจเป็นไปได้ หากมีเหตุการณ์แรงๆ เกิดขึ้น เช่น ยอดผลิตน้ำมันโลกทะลุ
ฉาน บอกว่า ตามเงื่อนไขการผลิตของตลาดน้ำมันนานาชาติ และความแข็งตัวของดอลลาร์สหรัฐนั้น ราคาน้ำมันในอีกสองสามปีข้างหน้าอาจลดลงถึง 30-40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
“แรงขับจากการฟื้นคืนของสภาพเศรษฐกิจโลก ความต้องการน้ำมันได้เติบโตต่อเนื่องขณะที่ประสิทธิภาพผลผลิตดำรงอยู่ในระดับเดิมหลังจากหลายปีของราคาน้ำมันต่ำ ผลจากการนี้ คือความต้องการน้ำมัน และกำลังผลิตถูกผลักไปสู่สถานะที่เปราะบางและตึงเครียด ที่แม้แต่ปัจจัยน้อยนิดทางด้านการเมือง เศรษฐศาสตร์ การทหาร การจู่โจมก่อการร้าย หรือการพนัน ราคาอาจส่งผลถึงการขึ้นโด่งของราคาน้ำมัน”
ตัน ยาหลิง นักวิจัยของแผนกตลาดการเงินโลก ธนาคารแห่งจีน บอกว่า การลดมูลค่าอย่างต่อเนื่องของเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นอีกปัจจัยที่จะนำไปสู่การลดลงของราคาน้ำมัน ซึ่งวัดค่ากันเป็นยูเอสดอลลาร์ในตลาดโลก เช่น ราคาน้ำมันในต้นเดือนเมษายนที่ 55 ยูเอสดอลลาร์สหรัฐ มีค่าเพียงแค่ 38 ยูโรเท่านั้น จากเดิมที่ในปี 2002 ค่าหนึ่งดอลลาร์สหรัฐเคยมีค่าเท่ากับหนึ่งยูโร