TRUE Lifestyle Shop แห่งแรก @ข้าวสาร

มนต์เสน่ห์ของบ้านเก่าทำด้วยไม้สักทั้งหลังบนถนนข้าวสาร บวกกับเทคโนโลยีและอุปกรณ์อันทันสมัยล่าสุด กลายเป็น “perfect contrast” ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว ณ “ทรู ไลฟ์สไตล์ ช็อป @ข้าวสาร” ซึ่งทุกไอเดียที่แฝงในรายละเอียดช่วยสะท้อนและตอกย้ำความเป็นทรูอย่างได้ผล

“จริงๆ ที่นี่ก็คือช็อปของทรูอีกแห่ง แต่เป็นช็อปที่ลดความเป็นช็อปลง และเพิ่มความเป็นบ้านเข้าไป เพื่อทำให้ร้านนี้สร้างความรู้สึกเหมือนเป็นบ้านของเพื่อนสนิท ที่มีแต่ความสนุก ความเป็นกันเอง และความจริงใจ รวมทั้งเป็นแหล่งรวมตัวสังสรรค์ สมกับชื่อ True Together” อิฏฐพร หนูคง จากบริษัท City Space ผู้ดูแลการออกแบบภายในของร้านแห่งนี้ สรุปคอนเซ็ปต์รวมของร้านให้ฟัง

อิฏฐพรเล่าย้อนถึงโจทย์ที่ได้รับ “ที่นี่คือ ”True Experience Shop จึงต้องฉีกออกจากทรูช็อปแบบเดิมที่คนจะเข้ามาใช้เวลาเพียงสั้นๆ เราจึงต้องสร้างบรรยากาศเป็นมิตร อบอุ่น และอยู่สบาย ที่สำคัญ เราลดสีแดงลงเพื่อไม่ให้ดูเหมือนว่าบ้านนี้ตะโกนบอกคุณอยู่ตลอดเวลาว่า ที่นี่คือทรู” ทั้งนี้ความเป็นทรูฯ จะแฝงอยู่ในบรรยากาศของบ้าน และสัญลักษณ์ของทรูฯ ที่จะปรากฏอย่างกลมกลืนและแนบเนียนเฉพาะบริเวณจุดขาย เช่น เคาน์เตอร์กาแฟ โบร์ชัวร์ขายสินค้า ชั้นวางโชว์ gadget และคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

โจทย์ข้อที่สองคือ การทำให้สินค้าของทรูซึ่งล้วนแต่เป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เมื่อเข้าไปวางแล้วไม่ดูขัดแย้งกับความขลังของบ้านเก่า ซึ่งอิฏฐพรใช้เทคนิคการใส่เรื่องราวให้กับบ้านกลายเป็น “บ้านเล่าเรื่อง” ซึ่งเรื่องราวที่เล่าขานนี้จึงมีจุดเริ่มต้นจากประวัติศาสตร์ของบ้าน ผ่านความเก่าของตัวบ้าน และสิ่งของภายในบ้านก็ค่อยๆ บอกเล่าถึงความจริงในปัจจุบันว่า สถานที่แห่งนี้ จริงๆ แล้วคือแหล่งสินค้าเทคโนโลยีที่ทันสมัยของ “ทรู”

…จากรูปภาพและวัตถุโบราณทุกชิ้นที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีต ผสมผสานกับลวดลายกราฟิกซึ่งให้สีสันสนุกสนานของยุคปัจจุบัน ร่วมด้วย เทคนิคแสงสีเสียอันทันสมัยฉายภาพความล้ำหน้า แต่แล้วองค์รวมทั้งหมดภายในบ้านก็ล้วนนำไปสู่ข้อสรุปถึงเรื่องราววิวัฒนาการของเทคโนโลยีทางการสื่อสาร ซึ่งเชื่อมโยงสินค้าและบริการที่ทรูฯ มีวางขายภายในร้าน ได้อย่างแยบยล น่าสนใจ และไม่เน้นการพาณิชย์จนเกินไป

บรรยากาศของชั้นล่างเน้นความสนุกสดใส ด้วยกราฟิกและเฟอร์นิเจอร์ที่มีลูกเล่น เช่น กราฟิกชายหญิงฟังเพลงที่บานประตูชั้นใน เก้าอี้โยกรูปผู้หญิงสีขาว เป็นต้น โดยมีเคาน์เตอร์ “coffee @true” อยู่ใจกลางห้อง ส่งกลิ่นหอมโชยของเมล็ดกาแฟคั่วชั้นดีคุณภาพส่งออกของเมืองไทย โต๊ะโชว์มือถือแนวยาวนำสายตาไปสู่ดีเจบูธซึ่งเป็นไฮไลต์ความสนุกของชั้นล่าง โดยเฉพาะในยามเย็นของวันที่มีดีเจมาเปิดเพลงสดๆ

ที่นั่งโซนด้านหน้าถูกจัดไว้ให้เหมาะกับผู้ที่อยากดื่มด่ำไลฟ์สไตล์ของถนนข้าวสาร ขณะที่โซนชั้นกลางจัดไว้ให้กับผู้ที่ต้องการเข้ามาติดต่อสื่อสารใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และใช้บริการ photo-processing ด้านในสุดยังมีห้องนั่งเล่นสำหรับผู้คลั่งไคล้ดนตรีคลาสสิกร่วมสมัย ซึ่งภายในรวบรวม CD หายากให้เลือกซื้อหามากมาย พร้อมด้วยรูปภาพเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ของสถานที่ และภาพอดีตที่มีคุณค่าหาดูยาก ตามแนวบันไดนำขึ้นไปสู่อีกบรรยากาศ ณ ชั้นบน

ขึ้นไปชั้นบนจะพบกับเรื่องราวและกลิ่นอายแห่งภูมิภาคอินโดจีนที่ซ่อนอยู่ในสีสันและของสะสมตกแต่ง เริ่มจากภาพคนไทยยิ้มยามน้ำท่วมติดเป็นวอลเปเปอร์ที่โถงกลาง พร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์ฟังกี้ (funky) คอยทำให้ผู้มาเยือนมีรอยยิ้มมุมปาก แทนคำ “ยินดีต้อนรับ” ได้อย่างน่าประทับ ก่อนจะนำไปสู่ที่นั่งสไตล์บูธรถไฟรูปแบบการเดินทางที่ได้อารมณ์ที่สุดของประเทศย่านนี้ ขณะที่ฝั่งตรงข้ามเป็นห้อง semi-close กึ่งปิดกึ่งเปิดให้ความรู้สึกส่วนตัวคล้ายแฟมิลี่รูม เหมาะแก่การประชุมกลุ่มย่อย

“เราทำให้เขารู้สึกเหมือนบ้านหลังที่สาม (third place concept) คือนอกจากบ้านและที่ทำงาน ลูกค้าสามารถมานั่งเล่นพักผ่อน นัดพบปะสังสรรค์เพื่อนฝูง หรือมานั่งทำงานกันที่นี่ได้อีกด้วย และที่สำคัญคือ ที่นี่ เราพยายามทำให้เขารับรู้และเข้าใจถึงความเป็นทรู จากสิ่งที่เห็น จับต้อง และสัมผัสได้จริง ณ ที่ร้านนี้ ซึ่งแฝงความรู้สึกว่า ”ทรู” เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ในชีวิตของพวกเขา จริงๆ” ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ของทรูฯ ให้ที่มาของ coffee @true ณ ข้าวสารแห่งนี้

ลูกเล่นอีกประการที่อิฏฐพรใส่ลงไปในบรรยากาศของร้านแห่งนี้คือ การสร้างความรู้สึกดีๆ ในทุกชั่วขณะที่ลูกค้าเข้ามา “surf net” ภายในร้าน ด้วยการสร้างที่นั่งที่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันไป เช่น เก้าอี้โยกโมเดิร์นรูปผู้หญิงที่ให้อารมณ์สนุก หรือที่นั่งสไตล์รถไฟสำหรับการนั่งเล่นเน็ตเป็นคู่หรือเป็นกลุ่ม เก้าอี้โคคูนที่เป็น wi-fi spot สำหรับคู่รักได้นั่งเบียดกันดูข้อมูลบน laptop เป็นต้น

“การสร้างความรู้สึกดีๆ ขณะใช้อินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ ความเร็วของ hi-speed หรือบริการอื่นๆ ที่เรามีไว้ให้พร้อม จะทำให้ลูกค้าประทับใจ และทุกครั้งที่เขาจะใช้อินเทอร์เน็ตเขาจะได้นึกถึงบรรยากาศที่ร้านนี้ และเมื่อเขามีโอกาสเขาจะอยากกลับมานั่ง surf net จิบกาแฟ ในร้านนี้” ปพนธ์บรรยายความรู้สึกที่อยากให้เกิดขึ้นกับลูกค้าที่นี่

ปพนธ์บอกถึงสาเหตุที่ “ทรู” ยอมทุ่มทุนสูงถึง 7 ล้านกว่าบาทในการพัฒนาร้านนี้ ก็เพื่อทำให้ลูกค้ารับรู้ว่าเทคโนโลยีของทรูจะช่วยให้เขามีไลฟ์สไตล์ที่สะดวกสบายขึ้นได้อย่างไรบ้าง และที่สำคัญนี่เป็นการลงทุนสร้าง Emotional Connect ให้กับแบรนด์ทรู “ถ้าเขาได้มี brand experience กับทรูที่นี่ ถามว่าคนจะรักทรูไหมที่เราทำอย่างนี้ ผมเชื่อว่า คงไม่มีใครปฏิเสธที่จะไม่รักทรู ซึ่งสิ่งนี้มันประเมินค่าไม่ได้”

ด้วยงบลงทุนไม่น้อย ร่วมกับพลังกายใจ และสมองที่ทรูฯ ระดมใส่ในร้านนี้ จุดประกายให้กับทรูฯ ถึงขั้นที่ปพนธ์กล่าวว่า นี่จะเป็นอีก Business Unit ของทรูฯ “มันอาจดูแปลกประหลาดที่บริษัทเทเลคอมแตกไลน์ไปทำธุรกิจร้านกาแฟ แต่มันก็มีความเชื่อมโยงทางธุรกิจได้ และหลายครั้งเทคโนโลยีก็ทำให้เราได้เห็นอะไรกว้างไกลขึ้น เหมือนที่เราได้เห็นจากสาขานี้ และที่สำคัญ ความประหลาดใจเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นและชวนติดตาม ขณะที่ความประหลาดใจที่มีแนวโน้มจะเกิดความสำเร็จ มันก็เป็นสิ่งที่ท้าทาย”

แผนคร่าวๆ ที่ปพนธ์แอบเปิดเผยให้ฟังเกี่ยวกับธุรกิจนี้ก็คือ ตอนนี้ทรูฯ แยกบริษัทที่ออกมาดูธุรกิจกาแฟโดยเฉพาะ และด้วยศักยภาพของทรูฯ ซึ่งมีสาขามากมาย ภายใน 18 เดือน เราอาจได้เห็นไลฟ์สไตล์ช็อปคล้ายๆ อย่างนี้อีกถึง 100 สาขา “เราเอาจริงจังตรงนี้มากกว่า 100% และก็ตั้งใจทำให้ coffee @true กลายเป็นเบอร์หนึ่งของเมืองไทย แม้ต้องใช้เวลา แต่ผมมั่นใจว่าธุรกิจตรงนี้เราทำได้”

เร็วๆ นี้ เรากำลังจะได้เห็น True Lifestyle Shop ที่สยามเซ็นเตอร์ สยามพารากอน และอีกกว่า 10 แห่งบริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน แม้รูปแบบอาจแตกต่างจากสาขาที่ข้าวสารอย่างสิ้นเชิง แต่แฝงคอนเซ็ปต์หลักของทรูฯ ที่จะเข้าไปนำเสนอเทคโนโลยีทันสมัยสู่ลูกค้าอย่างมีสีสัน และทำให้ไลฟ์สไตล์ของพวกเขาง่ายขึ้น “จริงๆ เราเริ่มมาจริงจังกับธุรกิจนี้ เพราะคนที่เข้ามาที่นี่ผลักดันให้เราเริ่มจริงจัง…”