คอนเทนต์เกาหลี – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 12 May 2023 11:43:02 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ซีรีส์ “เกาหลี” ที่ Netflix จะลงทุนกว่า 8.5 หมื่นล้าน ตั้งเป้าเพื่อตอบโจทย์ผู้ชม “ทั่วโลก” ไม่ใช่แค่เอเชีย https://positioningmag.com/1430360 Fri, 12 May 2023 09:06:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1430360 Netflix ประกาศมาก่อนหน้านี้ว่า ในอีก 4 ปีข้างหน้าจะมีการลงทุนซีรีส์-หนัง “เกาหลี” อีก 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 8.5 หมื่นล้านบาท โดยทั้งหมดจะเน้นการเจาะตลาดผู้ชม “ทั่วโลก” ไม่ใช่แค่ในเอเชียเท่านั้น จากผลสำเร็จของคอนเทนต์เกาหลีที่สามารถเข้าถึงใจผู้ชมทั่วโลกได้

Don Kang รองประธาน Netflix ด้านคอนเทนต์เกาหลี เปิดเผยกับ CNBC ว่า แผนการลงทุนคอนเทนต์เกาหลีอีก 2,500 ล้านเหรียญใน 4 ปีนั้น จะทำให้เกาหลีมีคอนเทนต์ประเภทที่ไม่ใช่เรื่องแต่ง (non-fiction) เช่น รายการวาไรตี้ เพิ่มเป็นเท่าตัว จากที่เคยมี 4 เรื่องในปี 2022 ปีนี้จะมี 8 เรื่อง

ในจำนวนนี้รวมถึงเรียลลิตี้โชว์ที่ออกฉายไปแล้วต้นปีนี้อย่าง “Physical 100” ที่รวบรวมผู้เข้าแข่งขันมาแข่งกันผ่านด่านที่ท้าทายต่อกำลังร่างกาย

“ผมคิดว่านั่นจะเป็นรายการวาไรตี้รายการแรกที่ได้คนดูในระดับโลก ทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้น” Kang กล่าว ปกติแล้วรายการวาไรตี้ของเกาหลีจะไม่ค่อยได้รับความนิยมนักนอกประเทศเกาหลีและกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก แต่ปรากฏว่า Physical 100 สำเร็จในการดึงคนดูนอกทวีป เป็นสัญญาณบวกในการกรุยทางต่อ

Physical 100 ขึ้นสู่อันดับ 1 รายการที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษที่ได้รับความนิยมมากที่สุดประจำสัปดาห์ เป็นเวลาสองสัปดาห์ต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้รายการวาไรตี้เกาหลีที่มีคนดูระดับโลกก็เคยมีให้เห็นบ้างแล้วในปี 2022 เมื่อรายการเรียลลิตี้จับคู่เดตอย่าง Single’s Inferno ขึ้นมาอยู่ใน 10 อันดับแรกของโลกเมื่อปีก่อน

 

คอนเทนต์ “เกาหลี” ไปสู่ระดับโลก

Kang กล่าวว่า ตนเคยทำงานด้านการจัดจำหน่ายคอนเทนต์เกาหลีในระดับโลกมาก่อนที่จะเข้าร่วมงานกับ Netflix ในปี 2018 เขามองว่า ก่อนหน้านี้คอนเทนต์เกาหลีที่ได้รับความนิยมจะเป็นประเภทโรแมนติกคอมเมดี้ และมักจะได้รับความนิยมในประเทศใกล้เคียงเท่านั้น เช่น ญี่ปุ่น ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะไกลกว่านี้ก็จะเริ่มมีความแตกต่างทางวัฒนธรรม

แต่ Netflix ลงทุนสูงกับการพากย์เสียงและใส่คำบรรยายที่ทำให้เข้ากับบริบทท้องถิ่นได้ดีขึ้น ทำให้ลดกำแพงภาษาลงได้และ “เปลี่ยนโลกให้แตกต่าง” เขากล่าว

squid game
Squid Game คอนเทนต์เกาหลีที่ได้รับความนิยมระดับโลก

“คุณไม่ควรปรามาสรสนิยมที่หลากหลายของผู้คนรอบโลก” Kang กล่าว และยกตัวอย่างถึง “Squid Game” ที่ Netflix เลือกเปลี่ยนชื่อเรื่องให้เหมาะกับสากลมากขึ้น

ในปีนี้คอนเทนต์ “เกาหลี” ของ Netflix ก็จะสร้างความแตกต่างหลากหลายให้มากกว่าแค่คอนเทนต์โรแมนติกด้วย โดยจะมีคอนเทนต์แนวดราม่า วันสิ้นโลก เสียดสีสังคม และแน่นอนว่าต้องมีรายการวาไรตี้

Kang มองว่า “เกาหลี” มีศักยภาพในการร้อยเรียงเรื่องราวที่สื่อสารวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของตนเองได้ แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถสะท้อนอารมณ์ความรู้สึกที่เชื่อมต่อกับผู้ชมในระดับโลกได้เช่นกัน

“เมื่อคนเกาหลีชื่นชอบคอนเทนต์นั้นๆ มันก็มีโอกาสมาก มากๆ ทีเดียวที่คนทั่วโลกจะชื่นชอบเช่นเดียวกัน” Kang กล่าวปิดท้าย

Source

]]>
1430360
Netflix 2020 : 10 อันดับซีรีส์ยอดวิวสูงสุดของโลก + เปิดโผ 15 คอนเทนต์ฮิตในไทย https://positioningmag.com/1311795 Wed, 23 Dec 2020 14:11:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1311795 Netflix ประกาศ 10 อันดับซีรีส์-รายการที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลกประจำปี 2020 แชมป์ครองอันดับหนึ่งของปีนี้ได้แก่ “Money Heist” Season 4 ซีรีส์แก๊งโจรปล้นธนาคารสุดมันส์ ส่วนประเทศไทยไม่ได้ประกาศอันดับอย่างชัดเจน แต่มีรายชื่อซีรีส์-หนัง-อนิเมะที่มาแรงของปี ส่วนใหญ่เป็นคอนเทนต์เกาหลีที่สร้างปรากฏการณ์ สะท้อนภาพความนิยมของคนไทยที่อย่างไรก็รักคอนเทนต์เอเชียน

กำลังจะพ้นปี 2020 (อันโหดร้าย) ในอีกไม่กี่วัน ปีนี้ชาวโลกส่วนใหญ่ต้องเผชิญสถานการณ์ล็อกดาวน์อย่างน้อย 1 รอบเพื่อสกัดการระบาดของโรค COVID-19 และส่งผลบวกให้บริการ “สตรีมมิ่ง” ไปโดยปริยาย รวมถึง Netflix หนึ่งในผู้เล่นหลักของวงการ

ปีนี้ยังเป็นปีแรกที่ Netflix ยอมแปะป้าย Top 10 คอนเทนต์ยอดนิยมในแพลตฟอร์ม จากที่เคยยืนหยัดมาตลอดว่าแพลตฟอร์มจะไม่ชี้นำการเลือกรับชมด้วยอันดับ โดยมีการเปิดเผยยอดรับชมเฉพาะเรื่องที่ฮิตสุดๆ เท่านั้น แต่สุดท้ายก็ต้องยอมปรับตามเสียงเรียกร้องตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020

สำหรับ 10 อันดับซีรีส์-รายการที่มีผู้ชมมากที่สุดบน Netflix ปี 2020 แพลตฟอร์มระบุว่า จะวัดเฉพาะยอดเข้าชม 28 วันแรกที่คอนเทนต์นั้นขึ้นสู่สตรีมมิ่ง และต้องมีการรับชมอย่างน้อย 2 นาทีจึงจะนับเป็นการชม 1 ครั้ง มีเรื่องไหนบ้างติดตามได้ด้านล่าง

Money Heist Part 4
1.Money Heist Season 4 – 65 ล้านครั้ง

ซีรีส์ที่แฟนๆ ต่างรอคอยการกลับมา Money Heist ซีรีส์ภาษาสเปนเกี่ยวกับแก๊งโจรปล้นธนาคารสุดฉลาดในชุดหมีสีแดงและหน้ากากดาลี พวกเขากลับมาปล้นกันอีกครั้งเมื่อเดือนเมษายน กวาดคนดูไป 65 ล้านครั้ง

2.Tiger King – 64 ล้านครั้ง

ตามมาแบบหายใจรดต้นคอ ซีรีส์เชิงสารคดีเกี่ยวกับ “โจ เอ็กโซติก” เจ้าของสวนสัตว์ กลายเป็นคอนเทนต์ไวรัลในช่วงล็อกดาวน์ทั่วโลกพอดีและได้ยอดวิวไป 64 ล้านครั้ง

3.The Queen’s Gambit – 62 ล้านครั้ง

มาทีหลังแต่มาแรง เรื่องราวของ “เบธ ฮาร์มอน” เด็กกำพร้าที่กลายมาเป็นอัจฉริยะกีฬาหมากรุกหญิง เข้าฉายในช่วงเดือนตุลาคม และกลายเป็นกระแสฮิตจนกีฬาหมากรุกกลับมานิยมอีกครั้ง ซีรีส์เรื่องนี้ยังเป็นหนึ่งในซีรีส์ฝั่งตะวันตกที่ติดอันดับฮิตในประเทศไทย

Too Hot Too Handle
4.Too Hot Too Handle – 51 ล้านครั้ง

รายการแนวเรียลลิตี้โชว์ที่จับหนุ่มสาวหน้าตาทรวดทรงสุดฮอตมาอยู่รวมกันในรีสอร์ต เป้าหมายเพื่อฝึกทักษะให้คนฮอตเหล่านี้รู้จักมีความสัมพันธ์ที่จริงจังและยั่งยืน

5.Ratched – 48 ล้านครั้ง

ซีรีส์ธริลเลอร์เกี่ยวกับ “มิลเดรด แรทเช็ด” หัวหน้าพยาบาลในโรงพยาบาลจิตเวชช่วงปี 1940s ถ่ายทอดชีวิตของเธอและโรงพยาบาลที่โหดร้าย และการเผชิญหน้ากับอาชญากรที่ได้รับโทษจากการข่มขืนเด็กหญิง

6.The Umbrella Academy Season 2 – 43 ล้านครั้ง

เด็ก 6 คนที่ถูกรับเลี้ยงโดยเศรษฐีเป็นกลุ่มเด็กที่มีพรสวรรค์มหัศจรรย์ พวกเขากลับมารวมตัวกันอีกครั้งเมื่อโตขึ้น และพบว่าโลกกำลังเผชิญภัยร้ายครั้งใหญ่ ทำให้ต้องรวมตัวกันเพื่อกู้โลก

Never Have I Ever
7.Never Have I Ever – 40 ล้านครั้ง

ซีรีส์ดราม่า-คอมเมดี้ของวัยรุ่น เมื่อเด็กสาวอินเดีย-อเมริกันสุดเนิร์ด อยากจะเปลี่ยนชีวิตตัวเองด้วยการเข้าหาหนุ่มฮอตที่สุดของโรงเรียน เหมือนจะเป็นซีรีส์เบาสมองทั่วไป แต่จริงๆ เรื่องราวจะเจาะลึกดราม่าของชีวิตเธอ

8.Space Force – 40 ล้านครั้ง

เรื่องของผู้บัญชาการกองทัพอวกาศแห่งสหรัฐฯ ซึ่งต้องนำทัพไปบุกดวงจันทร์ภายในปี 2024 สร้างจากแรงบันดาลใจเมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศตั้งกองทัพอวกาศเมื่อปี 2018 ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้จะมีมุกตลกเสียดสีสถานการณ์จริงทางการเมือง

9.Lucifer Season 5, part 1 – 38 ล้านครั้ง

ซีรีส์แบบผสมผสานทั้งแฟนตาซี สืบสวนสอบสวน และดราม่า-คอมเมดี้ เรื่องของยมทูต (สุดหล่อ) ลาพักร้อนจากนรกมาอยู่บนโลกมนุษย์ พบกับนางเอกนักสืบสาว และได้เข้าไปมีส่วนในการสืบคดีฆาตกรรม

10.The Floor is Lava – 37 ล้านครั้ง

รายการเรียลลิตี้โชว์อีกชุดที่ขึ้นมาติดอันดับสำเร็จ แนวคิดจากเกมวัยเด็กที่เราทุกคนน่าจะเคยเล่น สมมติกับเพื่อนว่า “ห้ามโดนพื้นเพราะพื้นเป็นลาวา” จากนั้นเราก็จะปีนป่ายไปรอบๆ ห้อง ใครตกพื้นก่อนแพ้ …และนั่นคือแนวคิดเกมโชว์ชุดนี้แต่เปลี่ยนมาใช้ผู้ใหญ่แข่งกัน

 

15 คอนเทนต์สุดฮิตใน Netflix ไทย

ตัดภาพมาที่ประเทศไทย Netflix ไม่ได้จัดอันดับแบบรวบตึงทุกคอนเทนต์ แต่มีการประกาศ “คอนเทนต์ยอดฮิต” โดยแบ่งตามหมวดหมู่ย่อยกันออกไป ซึ่งเราขอหยิบมานำเสนอ ดังนี้

It’s Okay to Not Be Okay
  • It’s Okay Not to Be Okay (เรื่องหัวใจ ไม่ไหวอย่าฝืน) *อันดับ 1 ที่ยืนระยะ Top 10 ได้นานที่สุด
  • Itaewon Class (ธุรกิจปิดเกมแค้น) *อันดับ 3 ที่ยืนระยะ Top 10 ได้นานที่สุด
  • Kingdom (ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด) Season 2 *อันดับ 1 ในหมวดซีรีส์เกาหลี
  • The King: Eternal Monarch (จอมราชัน บัลลังก์อมตะ) *อันดับ 2 ในหมวดซีรีส์เกาหลี
  • Snowpiercer (ปฏิวัติฝ่านรกน้ำแข็ง) *อันดับ 1 ในหมวดซีรีส์ไซไฟ
Emily in Paris
  • Emily in Paris (เอมิลี่ในปารีส) *อันดับ 1 ในหมวดซีรีส์คอมเมดี้
  • The Queen’s Gambit (เกมกระดานแห่งชีวิต) *อันดับ 1 ในหมวดซีรีส์ดราม่า
  • Howl’s Moving Castle (ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์) *อันดับ 1 ในหมวดภาพยนตร์อนิเมะ
  • Extraction (คนระห่ำ ภารกิจเดือด) *อันดับ 1 ในหมวดภาพยนตร์แอคชั่น
  • The Old Guard (ดิ โอลด์ การ์ด) *อันดับ 2 ในหมวดภาพยนตร์แอคชั่น
Low Season สุขสันต์วันโสด
  • Low Season สุขสันต์วันโสด *อันดับ 1 ในหมวดภาพยนตร์ไทยและหมวดภาพยนตร์โรแมนติก
  • #Alive (คนเป็นฝ่านรกซอมบี้) *อันดับ 1 ในหมวดภาพยนตร์สยองขวัญ
  • BLACKPINK: Light Up the Sky *อันดับ 1 ในหมวดภาพยนตร์สารคดี
  • Hope Frozen: A Quest to Live Twice (ความหวังแช่แข็ง ขอเกิดอีกครั้ง) *อันดับ 1 ในหมวดสารคดีไทย
  • Over the Moon (เนรมิตฝันสู่จันทรา) *อันดับ 1 ในหมวดภาพยนตร์เด็ก

นอกจากโผอย่างเป็นทางการแล้ว Positioning ยังรวบรวมข้อมูลจาก flixpatrol.com ซึ่งวัดความนิยมจาก engagement บนโซเชียลมีเดีย คือ Twitter และ Instagram โดยพบว่าในหมวด Top 10 ซีรีส์ยอดนิยมนั้น 6 ใน 10 เรื่องเป็นซีรีส์สัญชาติเกาหลี นอกจากนี้ยังมีซีรีส์ไทย 1 เรื่องที่ติดโผคือ “Unlucky Ploy ชีช้ำกะหล่ำพลอย” และอนิเมะญี่ปุ่นอีก 1 เรื่องคือ “ดาบพิฆาตอสูร” เห็นได้ว่าซีรีส์สายเอเชียนติดท็อปฮิตความนิยมในไทยถึง 8 ใน 10 อันดับ

The King: Eternal Monarch (จอมราชัน บัลลังก์อมตะ)

Netflix เริ่มเปิดเกมอัดซีรีส์เกาหลีเข้าแพลตฟอร์มมาตั้งแต่ปี 2561 แต่มาเห็นได้ชัดเจนช่วงปี 2562 ยิ่งมาถึงปี 2563 แพลตฟอร์มนี้ประสบความสำเร็จกับการทุ่มทุนสร้างและโปรโมต เพราะซีรีส์เกาหลีที่เป็นออริจินอลของ Netflix อย่าง It’s Okay to Not Be Okay และ The King : Eternal Monarch ไปจนถึงภาพยนตร์
ออริจินอลอย่าง #Alive ต่างติดอันดับยอดนิยมกันหมด

เป็นบทพิสูจน์ว่าแพลตฟอร์มกำลังมาถูกทาง กับการ Localization เน้นโปรโมตคอนเทนต์เกาหลี-เอเชียนในประเทศ เพราะรสนิยมคนไทยมีความแตกต่างจากตะวันตกหรือคนทั่วโลก และเป็นวิสัยทัศน์ที่ทำให้แพลตฟอร์มรับมือได้ทันสถานการณ์ที่สารพัดสตรีมมิ่งบูมเป็นดอกเห็ดในไทย และต่างต้องการจะกวาดคนดูทุกแขนงมาอยู่ในแพลตฟอร์มของตนเอง

Source: Independent UK, flixpatrol.com

]]>
1311795
คอนเทนต์เกาหลียังปัง GOT7 Real Thai ตอนแรกดันเรตติ้งให้ True4U https://positioningmag.com/1208971 Fri, 18 Jan 2019 09:57:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1208971 พลัง GOT7 จาก 4 หนุ่ม แบมแบม จินยอง ยองแจ และ มาร์ค รายการ “GOT7 เรียลไทย กับเหล่าผู้พิทักษ์” ออกอากาศวันแรกทำเรตติ้งสูงสุดของช่องทรูโฟร์ยู และติดอันดับ 15 รายการเรตติ้งสูงสุดของรายการช่วงไพรม์ไทม์ 

หลังจากที่ทรูโฟร์ยูประกาศเปลี่ยนกลยุทธ์เป็นช่อง ติ่งเกาหลี ประเดิมรายการใหม่ “GOT7 เรียลไทย กับเหล่าผู้พิทักษ์” ลงผังหวังดึงสาวกเกาหลี เข้ามาเป็นกลุ่มฐานผู้ชมช่อง สร้างความแตกต่างจากทีวีดิจิทัลทุกช่อง ซึ่งได้ผลตั้งแต่การออกอากาศวันแรก 16 มกราคม 2562 ได้เรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 0.467 เป็นรายการที่เรตติ้งสูงสุดของช่องประจำวัน

เมื่อแยกพื้นที่การรับชม พบว่า มีเรตติ้งผู้ชมในกลุ่มต่างจังหวัด 0.482 สูงกว่าพื้นที่กรุงเทพฯ 0.381 นอกจากนี้หากเทียบกับรายการที่ออกอากาศในช่วงเวลาเดียวกัน เวลาหลังข่าว 2 ทุ่ม จะพบว่า พลังอากาเซ ทำให้เรตติ้งรายการขึ้นมาอยู่ในอันดับ 15 ของช่วงเวลาเลยทีเดียว

ปกติรายการที่ทำเรตติ้งสูงสุดของช่องทรูโฟร์ยูประจำวัน คือ รายการราคาพารวย ออกอากาศช่วงเย็นของทุกวันทำงาน เรตติ้งทำได้อยู่ในระดับ 0.8 แต่วันที่ 16 ม.ค. มีการถ่ายทอดสดฟุตบอล มีเรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 0.383 เท่านั้น ทำให้รายการ GOT7 ทำเรตติ้งสูงสุดประจำวัน

หากเทียบกับรายการของช่องที่ออกอากาศในทุกวันพุธ โดยในวันพุธที่ 9 ม.ค. ที่ผ่านมานั้น ช่วงเวลานี้เป็นการออกอากาศ รายการ รีรัน ป๋าซ่า พาซิ่ง ได้เรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่เพียง 0.150 เท่านั้น 

ในขณะที่เรตติ้งเฉลี่ยของช่องทรูโฟร์ยู ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมานั้น อยู่ในอันดับ 15 มีเรตติ้งเฉลี่ย 0.114 เท่านั้น การที่รายการ GOT7 เรียลไทย ได้เรตติ้ง 0.467 นั้น นับว่าเป็นตัวเลขที่สูงกว่า ระดับเรตติ้งเฉลี่ยช่องมาก

ปลายปีที่แล้ว ทรู ได้ร่วมทุนซีเจ อีเอ็นเอ็ม (CJ E&M) ยักษ์ใหญ่ธุรกิจบันเทิงครบวงจรจากเกาหลี เจ้าของค่าย Xtvn ที่ฉายซีรีส์ดังหลยเรื่องที่คนไทยติดงอมแงม ตั้งบริษัท “ทรู ซีเจ ครีเอชั่นส์” เพื่อมาผลิตคอนเทนต์ป้อนให้กับทรูโฟร์ยู

ช่องทรูโฟร์ยูนำรายการที่มีต้นฉบับจากเกาหลี มาผลิตในเวอร์ชั่นไทยมาแล้ว เช่น รายการ You are my fantasy หรือ แฟนฉันเป็นซุปตาร์ แต่ได้เรตติ้งอยู่ในระดับ 0.1-0.2 เท่านั้น ส่วนซีรีส์รีเมกเกาหลี ที่นำมาผลิตในเวอร์ชั่นไทย ก็ได้เรตติ้งเฉลี่ยอยู่ในระดับ 0.1-0.3

การที่ความนิยมและเรตติ้งของรายการ GOT7 สูงกว่ารายการเกาหลีอื่นๆ ของช่อง ยังสามารถวิเคราะห์ได้ว่า ความดังของศิลปิน 4 หนุ่ม แบมแบม จินยอง ยองแจ และ มาร์ค ที่มีฐานแฟนจำนวนมากในไทย มาร่วมรายการ มีส่วนอย่างมากในการดึงผู้ชม ให้เข้ามาชมมากขึ้น การที่ GOT7 มีฐานแฟนคลับทั่วโลก จึงดึงผู้ชมเข้ามาร่วมรับชมรายการนี้สูงขึ้นทันที

ทั้งนี้รายการ GOT7 Real Thai (GOT7 Real Thai กับเหล่าผู้พิทักษ์) เป็นรายการที่ให้ 4 หนุ่ม แบมแบม จินยอง ยองแจ และ มาร์ค ปฏิบัติภารกิจตามหาโชคทั้งเจ็ดในประเทศไทยตามจังหวัดต่างๆ ได้แก่ กาญจนบุรี อยุธยา และอุบลราชธานี และยังมีความฮาจากบรรดาผู้พิทักษ์ เป็นรูปแบบรายการตลกแบบมีสาระ

นอกจากนี้ ระหว่างออกอากาศ แฮชแท็กรายการ ที่ใช้คำว่า #GOT7RealThai ก็ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไทยอันดับ 1 ทันที ด้วยเหตุผลของความดังของวง GOT7 ที่มีสาวกอยู่ทั่วโลก

นอกจากเรื่องอิทธิพลของพรีเซ็นเตอร์ จึงเป็นการส่งสัญญาณการแข่งขันที่จะเข้มข้นขึ้นของการผลิตคอนเทนต์ ในอุตสาหกรรมบันเทิงไทยที่กำลังเจอคู่แข่งระดับอาเซียนที่เข้ามาบุกถึงถิ่นอีกด้วย.

]]>
1208971