ตลาดท่องเที่ยว – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 20 Dec 2022 10:06:47 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เช็กก่อนจัดทริปปี 2023! 5 สถานที่ท่องเที่ยวดังที่ “ปิดตัว” หรือ “ปิดปรับปรุง” หลังโควิด-19 https://positioningmag.com/1413145 Tue, 20 Dec 2022 05:42:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1413145 แม้เศรษฐกิจจะไม่เป็นใจ แต่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวทั่วโลกเชื่อว่าปี 2023 ก็จะยังคงเป็นปีแห่ง ‘revenge travel’ ผู้บริโภคใช้จ่ายเพื่อเที่ยวล้างแค้นตลอด 2-3 ปีที่ไม่ได้เที่ยวสมใจอยาก อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โควิด-19 ก็ทำให้หลายสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังต้อง “ปิดตัว” หรืออาจใช้โอกาสไร้นักท่องเที่ยว “ปิดปรับปรุง” ดังนี้

 

1.Train Street เมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม

Train Street ฮานอย (Photo by gokudo/Pexels)

สถานที่ท่องเที่ยวที่คล้ายตลาดร่มหุบบ้านเรา Train Street ในเมืองฮานอยเป็นถนนที่มีรถไฟผ่ากลาง โดยเมื่อรถไฟวิ่งมา ตัวขบวนรถจะห่างจากบ้านเรือนและร้านค้าเพียงไม่กี่นิ้ว ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมากเพราะจะได้โพสท่ากับรางรถไฟโดยมีบ้านและร้านค้าเป็นฉากหลัง รวมถึงความตื่นเต้นของการนั่งจิบกาแฟพลางชมขบวนรถไฟผ่านหน้าไปแบบเฉียดฉิว

อย่างไรก็ตาม สภาวะนักท่องเที่ยวล้นเกิน (Overtourism) บนถนน Train Street ก็ทำให้รัฐบาลเวียดนามมองถึงความปลอดภัยมากขึ้น โดยปี 2022 นี้เอง รัฐบาลเริ่มยกเลิกใบอนุญาตให้ร้านค้าต่างๆ บนถนนเส้นนี้ทำการค้าแล้ว และจะเริ่มนำแผงกั้นมาวางข้างรางรถไฟ เพื่อป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินเข้าไปบนรางโดยเสรีเหมือนก่อน

 

2.สวนนกจูร่ง ประเทศสิงคโปร์

สวนนกจูร่ง (Photo: Shutterstock)

สวนนกที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ประกาศปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2022 หลังจากทำการมานานกว่า 50 ปี

แต่สวนนกนี้ไม่ได้หายไปโดยสิ้นเชิง เพราะจะไปรวมกับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ ในบริเวณภาคเหนือของสิงคโปร์ เกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชมสัตว์และธรรมชาติใหม่คือ Mandai Rejuvenation Project ซึ่งจะเปิดเฟสแรกปี 2023 ก่อนจะทยอยเฟสต่อๆ ไปในปี 2024 และ 2025

 

3.ภัตตาคารลอยน้ำ Jumbo Kingdom เกาะฮ่องกง

ภัตตาคารลอยน้ำ Jumbo ฮ่องกง (Photo: Shutterstock)

เป็นข่าวดังไปตั้งแต่กลางปี เมื่อภัตตาคารลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก Jumbo Kingdom เกาะฮ่องกง จะปิดกิจการถาวร

ภัตตาคารลอยน้ำนี้ไปปรากฏอยู่ในภาพยนตร์และรายการทีวีระดับโลกมากมาย รวมถึงเคยได้ต้อนรับคนดังต่างๆ เช่น สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แต่ด้วยความใหญ่โตของมัน กับสถานการณ์ปิดตายของเกาะเพราะโควิด-19 ทำให้เจ้าของไม่สามารถจะยื้อกิจการไว้ได้ไหว

เจ้าของพยายามแล้วที่จะขายกิจการออกไป แต่เมื่อไม่มีผู้ซื้อ จึงต้องลากจูงไปหาที่เก็บเรือในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่เรือก็กลับจบไปกลางทางเมื่อแล่นผ่านทะเลจีนใต้

 

4.TeamLab Borderless กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

TeamLab Borderless (Photo: Shutterstock)

มิวเซียมเพื่อรับประสบการณ์แสงสี “ดิจิทัล” เต็มรูปแบบ โด่งดังในระดับโลกจนเคยได้รับตำแหน่งมิวเซียมที่มีคนเข้าเยี่ยมชมมากที่สุดในประวัติศาสตร์จากกินเนสบุ๊ก TeamLab Borderless จะมีการย้ายทำเลจากเดิมที่โอไดบะ ไปยังทำเลใหม่ที่โครงการชื่อ “Azabudai Hills” ซึ่งตัวโครงการจะสร้างเสร็จภายในปี 2023 แต่ TeamLab จะกลับมาเปิดจริงๆ เมื่อไหร่นั้นยังไม่มีประกาศแน่ชัด

 

5.พิพิธภัณฑ์รำลึก 9/11 เมืองนิวยอร์ก สหรัฐฯ

พิพิธภัณฑ์รำลึก 9/11

ก่อนที่พิพิธภัณฑ์และอนุสรณ์สถานแห่งชาติ วันที่ 11 กันยายน จะเปิดอย่างเป็นทางการ ณ Ground Zero ก่อนหน้านั้นเคยมีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์รำลึก 9/11 ขึ้นมาก่อน

พิพิธภัณฑ์ดังกล่าวเป็นสถานที่ที่จัดขึ้นโดยญาติมิตรของเหยื่อที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ 9/11 โดยเปิดตัวเมื่อปี 2006 เป็นมิวเซียมเล็กๆ เงียบๆ ในแมนฮัตตันที่จัดแสดงสิ่งของส่วนตัวของผู้จากไป รวมถึงเป็นสถานที่รวมตัวของญาติมิตรของเหยื่อในวาระต่างๆ

เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้มิวเซียมนี้ขาดทุนจนต้องปิดตัวไปในปี 2022 โปรแกรม Tribute Walking Tours ซึ่งปกติจัดโดยผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ 9/11 ก็ปิดการดำเนินการไปเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม แม้มิวเซียมนี้จะปิดตัวลงแต่สิ่งของต่างๆ ที่เคยจัดแสดงได้ถูกส่งไปแสดงต่อที่ New York State Museum ในเมืองออลบานี ทางเหนือของเมืองนิวยอร์กซิตี้

Source

]]>
1413145
เปิดพฤติกรรมชาว Millennials ดาวเด่นที่จะเป็นผู้บริโภคหลักในตลาดท่องเที่ยว https://positioningmag.com/1248732 Sun, 06 Oct 2019 09:26:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1248732 กลุ่ม Millennials เป็นปัจจัยหลักกระตุ้นการท่องเที่ยว และธุรกิจ Hostel เลยก็ว่าได้ หากกล่าวถึงที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวในอดีตอาจนึกถึงแค่โรงแรม ที่เพียบพร้อมไปด้วยการบริการ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ภายใน 10 ปีผ่านมาที่พักประเภท Hostel ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทที่สำคัญของการท่องเที่ยวไทยมากขึ้น เพื่อรองรับโครงสร้างนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป

ในปี 2561 ประเทศไทยรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 38.3 ล้านคน หนึ่งในปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากนักท่องเที่ยวในช่วงอายุ 25 – 34 ปี จากทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามายังประเทศไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คิดเป็นกว่า 28% ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมดที่เข้ามายังประเทศไทย มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมอยู่ที่ 12.5% ตั้งแต่ปี 2555 – 2560 ขณะที่กลุ่มอายุอื่นอยู่ที่ 9%

นิยามของ Millennials หรือผู้ที่เกิดช่วงปี พ.ศ. 2524 – 2539 กำลังกลายเป็นผู้บริโภคหลักในหลากหลายอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว พฤติกรรมสำคัญของกลุ่มนี้คือ การนำ “การท่องเที่ยว” มาเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักในการใช้ชีวิต ทั้งยังให้ความสำคัญกับการสร้างความสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อน

รวมถึงมีพฤติกรรมการเลือกเข้าพัก Hostel มากกว่ากลุ่มอื่น จากการสำรวจโดย Hostelworld group ผู้ให้บริการจอง Hostel ออนไลน์อันดับ 1 ระบุว่า ผู้เข้าพัก Hostel มากกว่า 70% เป็นชาว Millennials ซึ่งคุณลักษณะสำคัญ 3 ประการ ของชาว Millennials ที่สนับสนุนให้ธุรกิจอย่าง Hostel เติบโต ได้แก่

1. นิยมท่องเที่ยวตามชุมชน

เพื่อมองหาประสบการณ์ที่แปลกใหม่ แสวงหาความท้าทาย จากการศึกษาโดย Amadeus ซึ่งเป็นผู้นำการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเดินทางและการท่องเที่ยวระดับโลก ทำการวิจัยนักท่องเที่ยวในเอเชียแปซิฟิกกว่า 7,000 คนใน 14 ประเทศระบุว่า

ชาว Millennials ให้ความสำคัญกับคำแนะนำเกี่ยวกับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ตามชุมชน มากกว่าคำแนะนำเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว ทั้งนี้โรงแรมส่วนใหญ่มักตั้งอยู่ตาม Prime Location ต่างๆ มากกว่าตามพื้นที่ตามชุมชน แตกต่างจาก Hostel ที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ ที่นำที่พัก / บ้าน / ตึกแถว มาปรับปรุงเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวตามชุมชนได้เป็นอย่างดี

2. ไม่ชอบเที่ยวกับคนหมู่มาก

ชาว Millennials ชอบท่องเที่ยวคนเดียว (Solo traveler) มากกว่าการท่องเที่ยวกับกรุ๊ปทัวร์ จากการวิจัยโดย Princeton Survey Research Association พบว่า 58% ของนักท่องเที่ยวชาว Millennials ทั่วโลกชอบที่จะท่องเที่ยวคนเดียว ขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นอยู่ที่ราว 47% อย่างไรก็ตาม ชาว Millennials ยังคงเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ความสะดวกสบายในการเดินทาง จึงทำให้ยังมีการจับกลุ่มท่องเที่ยวกับ Solo traveler คนอื่นๆ ตาม Hostel

3. ชาว Millennials ชอบเที่ยวบ่อย

จากการสำรวจโดย Expedia Media Solution พบว่า คนรุ่น Millennials เดินทางไปเที่ยวบ่อยที่สุดอยู่ที่ประมาณ 6 ครั้งต่อปี ขณะที่ชาว Baby boomers เดินทางท่องเที่ยวประมาณ 4 ครั้งต่อปี ด้วยความที่ชาว Millennials ชื่นชอบการท่องเที่ยวบ่อยๆ เพื่อต้องการเติมเต็มให้กับชีวิต ผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน

ซึ่งจากการศึกษาโดย TripAdvisor พบว่า ชาว Millennials ใช้จ่ายในค่าที่พัก น้อยกว่าครึ่งของชาว Baby Boomers จากการเลือกสรรที่พักให้อยู่ในงบที่จำกัด Hostel จึงนับเป็นตัวเลือกสำคัญของที่พักราคาถูก ตอบสนองความต้องการของชาว Millennials ที่เดินทางท่องเที่ยวบ่อย แต่มีงบจำกัด ทั้งนี้ช่วงราคาที่พักต่อเตียง/ต่อห้องของ Hostel นั้นต่ำกว่าช่วงราคาที่พักประเภทอื่นส่วนใหญ่.

]]>
1248732