**ช่วงข่าวเช้าช่อง 7 แชมป์ ช่อง 3 ยังต้องลุ้น

อย่างช่วงเช้าที่เป็นที่รู้กันว่ามีการแข่งขันกันรุนแรง แชมป์ตลอดกาลยังคงเป็นช่อง 7 ที่ปูพรมได้เรตติ้งไปตั้งแต่ 05.00-10.00 น.ด้วยการแบ่งรายการเป็น 3 ช่วง ตั้งแต่เช้าข่าว 7 สี เช้านี้ที่หมอชิต และสนามข่าว 7 สี โดยเฉพาะสองรายการที่เรตติ้งเช้าทะลุ 1.5 ได้บ่อยครั้ง 

ส่วนอันดับ 2 เรื่องเล่าเช้านี้ โฉมใหม่ ที่มี ไก่ ภาษิต มาเป็นหลัก และมีช่วง ชูวิทย์มีเรื่องเล่าเสริม และช่วงสอนภาษาอังกฤษสั้น ๆ อีก  แต่ช่อง 3 ก็ต้องลุ้นทุกวันว่าจะทะลุ 1 มาได้หรือไม่ โดยมีช่อง 8 เบียดมาติด ๆ ตามที่เคยสำรวจก่อนหน้านี้เรตติ้งวันที่ 1-19 ธ.ค.2560 (ยกเว้นเสาร์ อาทิตย์) 

รายการข่าวที่ต้องจับตามอง คือตีข่าวเช้า หลังปรับโฉมของช่อง 3SD  ที่มีทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ เป็นพิธีกรชูโรงตั้งแต่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา และรายการข่าวของจีเอ็มเอ็ม 25 ที่เรตติ้งหลุดต่ำกว่าอันดับที่ 20 มานาน ก็ถึงเวลารุก โดยรับ ”ต๊ะ พิภู” จากช่อง 3 มาอ่านในช่วงต้นปีหน้า

**ช่วงข่าวเที่ยงหืดเรตติ้งไม่เกิน 1 

สมรภูมิข่าวเที่ยง หรือข่าวช่วงกลางวัน เลือกสำรวจช่วงเวลา 10.00 -14.00 น.พบว่ามีหลากหลายรายการทั้งรายการอ่านข่าวทั่วไป คุยข่าว ฮาร์ดทอล์คทั้งแบบสด และรีรัน รูปแบบไม่ต่างกันมากนัก รวมถึงมีการนำเสนอข่าวเชิงเศรษฐกิจธุรกิจมาก่อนรายการข่าวหลัก  ที่ส่วนใหญ่ไม่ได้หวังเรตติ้ง แต่ทำเงินได้ในลักษณะการผสมผสานการโฆษณาระหว่างรายการข่าว 

เวลารายการข่าวเที่ยง หลายช่องเลือกขยับเวลาออนแอร์ก่อนเที่ยง เพื่อชิงคนดู บางช่องเริ่มเลยตั้งแต่ 10 โมง อย่างไทยพีบีเอส แต่ส่วนใหญ่เริ่มตั้งแต่ 11.00-11.30 น. เช่น ห้องข่าวภาคเที่ยงช่อง 7 แชมป์อันดับ 1 เริ่มตั้งแต่ประมาณ 11.20 น. พอๆ กับช่อง 3 เที่ยงวันทันเหตุการณ์ท่ีเริ่มก่อนหน้านั้นประมาณ 5 นาที หรือแม้แต่ พีพีทีวี ก็เริ่มก่อนช่อง 3 ประมาณ 5 นาที ยังมีช่องเนชั่น สปริงนิวส์ ที่เลือกเริ่มในช่วงก่อน 11.30 น. 

รูปแบบ มาเร็ว มาก่อน อัพเดท มาไวไปไว กระชับได้ใจความ พิธีกรข่าว หรือผู้ประกาศดูมีพลัง กระตือรือร้น ยิ่งทำให้หลายช่องได้เรตติ้ง แต่สำหรับช่วงเที่ยงที่คนดูมีภารกิจหลากหลาย แม้แต่แชมป์อย่างช่อง 7 ก็ยังดันเรตติ้งได้ไม่ถึง 1 หรือแม้แต่ช่อง 3 เที่ยงวันทันเหตุการณ์ที่ปรับทั้งเวลาเร็วขึ้น ให้เวลาออนแอร์สั้นลงเหลือประมาณ 1 ชั่วโมง จากเดิมยิงยาวเกือบ 2 ชั่วโมง เรตติ้งก็ยิ่งแผ่ว ก็ยิ่งต้องจบเร็วขึ้น

***เรื่องเด่นเย็นนี้ พาช่อง 3 สัมผัสที่ 1

ช่วงเรตติ้งข่าวเย็น ยังคงเป็นการสู้กันของช่องใหญ่ เวลานี้ ในช่วง 1-21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ถือว่าช่อง 3 ได้สัมผัสอันดับ 1 จากเรื่องเด่นเย็นนี้ แต่เหนือเจาะประเด็นข่าวของช่อง 7 ไม่มาก 

ตามมาด้วยรายการข่าวของเวิร์คพอยท์ และช่อง 8 แต่ที่เด่นขึ้นมาคือ “เรื่องพลบค่ำ” ของคู่ซี้ “กำภู–รัชนีย์ จากช่อง 9 ที่มีฐานแฟนคลับเหนียวแน่น ทั้งจากรายการวิทยุและรายการข่าวหลัก เรตติ้งพุ่งมาติดอยู่ในอันดับ 5 เหนือช่องวัน และไทยรัฐทีวี 

ใน 12 อันดับแรกคือสนามของการแข่งขันระหว่างช่องทีวีดิจิทัลประเภทวาไรตี้และเอชดีทั้งหมด

รวมถึง รายการ “คนชนข่าว” ของ โมนัย เย็นบุตร อดีตคนเนชั่นทีวี ที่ย้ายมาอยู่ค่ายทรูโฟร์ยู ก็สามารถสร้างเรตติ้งได้พอสมควรอยู่ในอันดับ 12 

ส่วนกลุ่ม 13-22 เป็นผลงานของช่องทีวีดิจิทัลประเภทข่าวแทบทั้งหมด ตั้งแต่รายการ ”ข่าวชนข่าว” จากช่องนิวทีวี ที่มี ”เจ๊ปอง-อัญชะลี ไพรีรัก” เป็นตัวชูโรง มีเรตติ้งเหนือกลุ่มช่องประเภทข่าวทั้งหมดโดยอยู่ในอันดับ 13  ตามจี้มาด้วย ”เก็บตกจากเนชั่น” ของเนชั่นทีวี และรายการข่าว GMM นิวส์ เย็นนี้ ของ GMM25 ที่เป็นช่องวาไรตี้ช่องเดียว ที่มาติดอยู่ในอันดับที่ 15

สูตรสำเร็จของข่าวช่วงเย็น หลายช่องเน้นให้มีการเล่าข่าวแบบขยายความให้ข้อมูลเกี่ยวกับข่าวใหญ่ ๆ มากขึ้น 

***ข่าวค่ำช่องใหญ่ขอบันเทิง เปิดเวทีข่าวช่องเบอร์รอง 

ช่วงรายการข่าวค่ำที่ไม่ใช่แค่เล่าข่าว เพราะหลายเรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่เช้า เหตุการณ์จบแล้วตั้งแต่บ่าย เย็น ตอนเย็นถ้าไม่ใช่เพราะลีลา การเล่าเร้าใจ ก็ต้องมีรูปแบบนำเสนอที่สร้างสรรค์ เพื่อขยายความข่าวที่เกิดขึ้นโอกาสทำเรตติ้งก็ไม่ยาก

และยิ่งช่วงเวลาหลัง 18.00 น.ที่ช่องใหญ่เจาะกลุ่มแมส เรื่องเสนอข่าวบันเทิง ละคร วาไรตี้แล้ว ทำให้เป็นโอกาสของช่องรอง ๆ ลงไปใน 10 อันดับแรก จึงเป็นพื้นที่ของช่องวัน ไทยรัฐ อมรินทร์ พีพีทีวี นิวทีวี

การขยายความข่าวด้วยการทอล์คช่วงหลัง 6โมงเย็น จึงเข้มข้นมากันเต็ม อย่างรายการ “ถามตรงตรง” ของจอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ อดีตลูกหม้อเนชั่น ช่องไทยรัฐ ได้เรตติ้งอยู่ในอันดับ 4 ชนะ ”ต่างคนต่างคิด” ดำเนินรายการโดยพุทธ อภิวรรณ ช่องอมรินทร์ ที่ได้อันดับ 6 

ใน 10 อันดับนี้ ยังมีอีกสองรายการของไทยรัฐ คือรายการไทยรัฐนิวส์โชว์  อยู่อันดับ 3 และ  ข่าวใส่ไข่  อันดับ 8 ที่ได้ดาราอย่าง มดดำ,กรรชัย, ม้า อรนภา, เหมี่ยว ปวันรันต์ และ รถเมล์ คะนึงนิจ มาเล่าข่าวสไตล์ก็อสซิปข่าวบันเทิง

รายการข่าวอีกรายการ ที่อยู่ในท็อปเทน คือ “เข้มข่าวค่ำ” ของพีพีทีวี ทีมีตัวหลักอย่าง ”เสถียร วิริยะพรรณพงศา” อดีตลูกหม้อเนชั่นอีกคน ได้เรตติ้งอันดับ 9 และ 12 ที่เสถียรจัดรายการฮาร์ดทอล์ค ”เป็นเรื่องเป็นข่าว” 

ขณะที่ ”เจ๊ปอง อัญชรีย์ ไพรีรักษ์” ก็ดันให้รายการ”นิวหมายข่าว”ของช่องนิวทีวี มาอยู่ในอันดับ 10 ได้ 

สำหรับวอยซ์ทีวีที่เป็นสถานีทีวีดิจิทัลรายล่าสุดที่ประกาศลดพนักงานลง 127 คน มีรายการข่าวที่เรตติ้งสูงสุดในช่วงค่ำคือ รายการ ”โอเวอร์วิว” ที่จัดรายการโดยพิธีกรสายฮาร์ดคอร์ “ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์” อยู่ในอันดับ 18 ในขณะที่รายการ ”ใบตองแห้ง ออนแอร์” ของ อธึกกิต แสวงสุข หรือใบตองแห้ง อยู่ในอันดับ 20.

กว่าจะออนแอร์ได้ เรียกว่าต้องลุ้นกันหน่อยๆ เพราะตอนแรกวางแผนออนแอร์วันที่ 1 พ.ย. แต่หลายอย่างยังต้องใช้เวลาเตรียม และที่สำคัญไปตรงกับช่องรุ่นพี่ 3HD ที่ดีเดย์ปล่อย เรื่องเล่าเช้านี้โฉมใหม่ วันที่ 1 พ.ย.เหมือนกัน โดยดึงเอา “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” มานั่งเล่าข่าว  (อ่านสงครามข่าวเริ่มตั้งแต่เช้า ช่อง 3 ดิ้นหนีเรตติ้งร่วง)

เมื่อทุกอย่างพร้อม ช่อง 3SD ก็ได้ฤกษ์ กดปุ่มเปิดตัว “ตีข่าวเช้า” ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ลงมาสู้ศึกสงครามข่าวเช้า ที่หลายช่องกำลังสู้รบเพื่อชิงเรตติ้กันอย่างหนัก เพราะอย่างน้อยยังช่วยสกัดไม่ให้เรตตื้งไหลไปที่ช่องอื่นๆ แม้ว่าจะดูเป็นการแข่งขันกันเองระหว่างช่องพี่ช่องน้อง

รายการตีข่าวเช้า ที่ 3 SD มี บริษัท เซิร์ช เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เป็นผู้ผลิต โดย ประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการ บริษัท บีอีซี เวิล์ด จำกัด (มหาชน) บอกว่า ให้การสนับสนุน และให้คำแนะนำ ส่วนจอนนี่ แอนโฟเน่ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซิร์ช ดูแล

ทางด้านจอนนี่ กล่าวว่า ยังมองเห็นโอกาสสร้างเรตติ้งรายการข่าวเช้าได้อีก แต่ต้องสร้างจุดเด่นให้แตกต่าง และเข้าถีงผู้ชมได้ง่าย และต้องตอบโจทย์พฤติกรรมคนดู ซึ่งมักจะเปิดทีวีไว้ “ฟังข่าว” เพื่อเตรียมตัวออกจากบ้านไปทำงาน ดังนั้น “พิธีกร” ของรายการ จึงต้องมีบุคลิกชัดเจน คือ “เสียงดัง ฟังชัด” เป็นหลัก

“สมัยเด็กเคยได้ฟังวิทยุ ละครตะบันไฟ ตะไลเพลิง (แม่ผัวตะบันไฟ แม่ยายตะไลเพลิง) ที่เสียงดังๆ โตมาก็ยังจำได้ จึงมองว่ารูปแบบนี้เหมาะกับข่าวเช้า ที่คนดู ม่จำเป็นต้องดู เพราะตื่นมาทำโน่นทำนี่ เตรียมออกจากบ้าน เปิดทีวีไว้ฟังได้ ผู้ประกาศข่าว นี่ต้องเน้นเสียงดังเลย ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ มีเสียงดัง และพิธีกรคนอื่นที่เลือกมาก็เสียงดัง เล่าให้เข้าใจง่าย คิดว่าเป็นรายการที่เสียงจะทรงพลังมาก“

พิธีกรข่าว จะมี 3 คน นอกจากทนายสงกรานต์แล้ว “เอ-ดนยกฤตย์ แดงหวานปีสีห์” ซึ่งลาออกมาจากช่อง 8 อาร์เอส และ อรรินทร์ ยมกกุล ซึ่งเป็นผู้ประกาศข่าวของช่อง 3 อยู่แล้วร่วมเล่าข่าวด้วย

จอนนี่ ยังมองว่า ด้วยสไตล์ของตีข่าวเช้า ที่เน้นคนดูที่เป็นคนทั่วไป แนวชาวบ้าน จะสร้างความแตกต่างจาก เรื่องเล่าเช้านี้

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า ทางเซิร์ซได้ทาบทาม ฟองสนาน จามรจันทร์ อดีตนักจัดรายการวิทยุ ซึ่งปัจจุบันหันมาเอาดีทางด้านโหราศาสตร์ ให้มาร่วมเป็นพิธีกรในรายการตีข่าวด้วย

ทางด้าน เอ ดนยกฤตย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย.ว่าเจอกัน หน้าจอช่อง 3 ช่อง 28 เช้าวันจันทร์ตีห้า ส่วนที่หายไปไหน 4 เดือน เรื่องมันยาว เดี๋ยวจะค่อยๆ เล่า จะเอาให้หมดเปลือกเลย อึดอัดมานาน…

เอ ดนยกฤตย์ นั้นได้ลาออกมาจากช่อง 8 อาร์เอสที่เคยเซ็นสัญญาจ้างกัน และยังไม่หมดสัญญา จอนนี่บอกว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาส่วนตัวของพิธีกร กับช่อง 8

เรื่องนี้ นอกจากต้องจับตาดูว่า สไตล์เล่าข่าวแนวชาวบ้านของ “ตีข่าวเช้า” จะแทรกตัวดึงเรตติ้งมาได้หรือไม่แล้ว ยังต้องดูด้วยว่าอาร์เอสจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง หรือจะเคลื่อนไหวเจรจาตกลงกันได้ในที่สุดหรือไม่

สำหรับข่าวเช้า ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของทีวีดิจิทัล ที่ต้องการช่วงชิงเรตติ้ง เนื่องจากเม็ดเงินโฆษณาช่วงรายการข่าวคิดเป็นสัดส่วน 25-30% ซึ่งส่วนใหญ่เม็ดเงินจะอยู่ในช่วงข่าวเช้า แม้อัตราขายต่อนาทีจะถูกกว่าช่วงเย็น หรือค่ำ หลายช่องแข่งกันเต็มที่ และให้เวลาออนแอร์นาน หลายช่องจึงเปิดศึกกันตั้งแต่ตีห้า เพื่อดึงผู้ชมแช่ช่องไว้ แม้ว่าเวลาทำรายได้จริง ๆ จะเริ่มช่วง 06.00-07.00 น.ก็ตาม

ทำให้ข่าวเช้าได้เม็ดเงินค่อนข้างสูง จนทำให้รายการข่าวโดยรวมได้เม็ดเงินโฆษณามากใกล้เคียงกับรายการบันเทิงวาไรตี้ เวลาสู้รบชิงเรตติ้ง หลายช่องจึงเปิดศึกกันตั้งแต่ตีห้า เพื่อดึงผู้ชมแช่ช่องไว้แม้ว่าเวลาทำรายได้จริง ๆ จะเริ่มช่วง 06.00-07.00 น. ก็ตาม

อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง

• “ชูวิทย์ 3HD VS ทนายสงกานต์ 3SD” “นักเล่าข่าวตัวพ่อ” เปิดศึกชิงเรตติ้งครอบครัวช่อง 3
• สงครามข่าวเริ่มตั้งแต่เช้า ช่อง 3 ดิ้นหนีเรตติ้งร่วง