ภาษีดิจิทัล – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 08 Jan 2020 06:06:56 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ฝรั่งเศสขู่โต้กลับ หากทรัมป์ขึ้น “กำแพงภาษี” กระเป๋าหรู ไวน์ และชีส https://positioningmag.com/1259692 Wed, 08 Jan 2020 05:53:21 +0000 https://positioningmag.com/?p=1259692
  • ฝรั่งเศสเตือนสหรัฐฯ เตรียมโต้กลับหากทรัมป์ออกนโยบายกำแพงภาษีตามแผน ซึ่งจะกระทบสินค้าจากเมืองน้ำหอมมูลค่ารวมกว่า 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ
  • รัฐบาล ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนตั้งแต่ปีก่อนว่าจะขึ้นภาษีสูงสุด 100% สำหรับผลิตภัณฑ์กระเป๋าถือ ไวน์ และสินค้าอื่นๆ จากฝรั่งเศส หลังจากฝรั่งเศสออกกฎหมายเก็บภาษีบริการดิจิทัลเมื่อเดือน ก.ค. 2019
  • สหรัฐฯ มีแผนที่จะขึ้นกำแพงภาษีต่อสหภาพยุโรปอยู่แล้ว เนื่องจากข้อพิพาทที่อียูอาจมีการให้เงินอุดหนุนผิดกฎหมายแก่บริษัท Airbus บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินคู่แข่งของ Boeing จากสหรัฐฯ
  • เมื่อวันจันทร์ที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา ฝรั่งเศสออกโรงเตือนสหรัฐอเมริกาว่า รัฐบาลจะตอบโต้กลับหากสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้าจากฝรั่งเศสตามแผนที่วางไว้ โดย “บรูโน่ เลอ แมร์” รัฐมนตรีการคลังของฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์ทางสถานีวิทยุว่า รัฐบาลฝรั่งเศสจะตอบโต้กลับทันทีหากสหรัฐฯ ขึ้นภาษี และจะดึงมือองค์การการค้าโลก (WTO) เข้ามาเกี่ยวข้อง

    รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะขึ้นภาษีสูงสุดถึง 100% สำหรับสินค้าอย่างกระเป๋าถือ ไวน์ ชีส และสินค้าอื่นๆ จากฝรั่งเศส ซึ่งจะมีผลกระทบกับสินค้าฝรั่งเศสมูลค่ารวมกว่า 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ

    แผนการขึ้นภาษีครั้งนี้เป็นไปเพื่อโต้กลับหลังฝรั่งเศสออกนโยบายจัดเก็บภาษีจากบริษัทเทคโนโลยีหรือ “ภาษีดิจิทัล” เมื่อปีก่อน ฝั่งฝรั่งเศสให้เหตุผลในการจัดเก็บภาษีดิจิทัลว่า เป็นเพราะบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่มักจะเลี่ยงภาษีโดยการจัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศอื่นแทน นอกจากฝรั่งเศสแล้ว ประเทศอื่นๆ ในสหภาพยุโรปก็มีแผนที่จะเก็บภาษีดิจิทัลเช่นเดียวกัน

    ภาษีดิจิทัลของฝรั่งเศสนั้นจะจัดเก็บจากบริษัทเทคโนโลยีที่มีรายได้รวมทั่วโลกอย่างต่ำ 750 ล้านยูโร และมียอดขายดิจิทัลในประเทศฝรั่งเศสอย่างต่ำ 25 ล้านยูโร ซึ่งฝั่งสหรัฐฯ กล่าวว่า นโยบายนี้ “เป็นการกีดกันบริษัทอเมริกัน ไม่สอดคล้องกับหลักการพื้นฐานของนโยบายภาษีระดับสากล และมีการผลักภาระอย่างไม่ปกติที่ส่งผลกระทบกับบริษัทอเมริกัน”

    “หากสหรัฐฯ ตัดสินใจจะใช้มาตรการทางภาษีต่ออียูเพื่อตอบโต้ภาษีดิจิทัลของฝรั่งเศส การกระทำนี้จะกระทบความสัมพันธ์ของสองฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกอย่างลึกซึ้งและยาวนาน ในห้วงเวลาที่เราจำเป็นต้องยืนหยัดสามัคคีกันเช่นนี้” เลอ แมร์ เขียนในจดหมายที่ส่งถึง “โรเบิร์ต ไลท์ธิเซอร์” ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน

    นอกจากประเด็นใหม่อย่างภาษีดิจิทัล สหรัฐฯ มีแผนที่จะขึ้นภาษีกับอียูอยู่ก่อนแล้ว เนื่องมาจากประเด็นฟ้องร้องที่ทางสหรัฐฯ กล่าวว่าอียูมีการให้เงินอุดหนุนไม่เป็นธรรม โดยให้กู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่บริษัท Airbus ผู้ผลิตเครื่องบินรายสำคัญ และเป็นคู่แข่งของบริษัท Boeing จากสหรัฐฯ ทำให้สหรัฐฯ ต้องการขึ้นกำแพงภาษีสินค้าอื่นๆ เพื่อตอบโต้กลับ

    Source

    ]]>
    1259692
    ฝรั่งเศสผ่านกฎหมายเก็บ “ภาษีดิจิทัล” Apple – Amazon – Google – Facebook โดนด้วย “ทรัมป์” สั่งสอบด่วน “กีดกันการค้า” หรือไม่ ? https://positioningmag.com/1238934 Sat, 13 Jul 2019 04:59:35 +0000 https://positioningmag.com/?p=1238934 การเก็บภาษีดิจิทัลเป็นที่พูดถึงกันมากของรัฐบาลในทุกประเทศ ที่พยายามหาทางรีดภาษีกับบริษัทต่างชาติที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศ แต่ไม่สามารถเก็บภาษีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ด้วยบริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่จำนวนมาก สามารถใช้ประโยชน์จากการที่บางประเทศเก็บภาษีในอัตราต่ำ เช่น ไอร์แลนด์ และบางประเทศกระทั่งอาจไม่ต้องเสียเลย ทำให้บริษัทเหล่านี้ตักตวงผลกำไรเต็มที่

    ด้วยเหตุนี้เมื่อวานที่ผ่านมา (11 กรกฎาคม) ฝรั่งเศสจึงได้ผ่านกฎหมายภาษีบริการดิจิทัลไปเรียบร้อยแล้ว โดยภาษีนี้จะเรียกเก็บในอัตรา 3% ของรายได้ที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศส ซึ่งอัตราที่ว่านี้ไม่ได้เก็บภาษีจากอัตรากำไรเหมือนธุรกิจอื่นๆ

    แต่ไม่ใช่จู่ๆ จะส่งบิลไปเก็บกับทุกบริษัทที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้อง รัฐบาลแดนน้ำหอมระบุว่า ผู้ที่จะโดนเก็บต้องมีรายได้มากกว่า 750 ล้านยูโร หรือราว 25,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันต้องมีรายได้อย่างน้อย 25 ล้านยูโร ประมาณ 900 ล้านบาท เกิดขึ้นในฝรั่งเศส

    บริษัทที่เข้าข่ายมีกว่า 30 บริษัท รวมไปถึงยักษ์ใหญ่ของอเมริกาทั้ง Alphabet บริษัทแม่ของ GoogleAppleAmazon – Facebook และ Microsoft รวมไปถึงบริษัทเทคโนโลยีของจีน เยอรมัน สเปน และอังกฤษก็ได้รับผลกระทบ เช่นเดียวกับ Criteo โฆษณาออนไลน์ของฝรั่งเศส

    ถึงจะเพิ่งได้รับการรับรองแต่ภาษีที่ว่านี้จะถูกนับตั้งแต่ต้นปี 2019 เป็นต้นมา รัฐบาลฝรั่งเศสประเมินว่าจะสามารถเก็บภาษีคิดเป็นเม็ดเงินกว่า 400 ล้านยูโร หรือกวา 14,000 ล้านบาทเลยทีเดียว

    อย่างไรก็ตามด้วยความที่บริษัทส่วนใหญ่ที่โดนมีสัญชาติอเมริกันทำให้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งย้ำเสมอว่าอเมริกันต้องมาก่อนเสมอมาได้โดดมาป้องกันยกใหญ่

    โดยก่อนหน้าที่ภาษีจะผ่าน 1 วันโรเบิร์ต ไลต์ไฮเซอร์ผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ ได้ออกแถลงว่าอเมริกากังวลอย่างมากต่อภาษีบริการดิจิตอลที่เป็นการพุ่งเป้าเล่นงานบริษัทอเมริกันโดยไม่เป็นธรรม

    ดังนั้นประธานาธิบดีทรัมป์จึงสั่งให้เริ่มต้นการตรวจสอบโดยใช้อำนาจตามมาตรา 301 ของกฎหมายการค้าสหรัฐฯ ภายในระยะเวลา 1 ปี เพื่อพิจารณาว่า แผนการภาษีของฝรั่งเศสนี้ป็นแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่เป็นธรรมและกระทบกระเทือนบริษัทเทคโนโลยีอเมริกาหรือไม่ ?

    การสอบสวนนี้อาจปูทางให้วอชิงตัน ประกาศมาตรการตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากสินค้าฝรั่งเศส โดยที่แนวทางเช่นนี้เป็นสิ่งซึ่งทรัมป์ใช้บ่อยมาก นับจากเข้ารับตำแหน่งซึ่งรวมถึงการเล่นงานจีนที่อเมริกาอ้างว่า มีแนวทางปฏิบัติทางการค้าอย่างไม่เป็นธรรม

    ความเคลื่อนไหวนี้ยังอาจทำให้ประเด็นขัดแย้งทางการค้าระหว่างสองฟากฝังแอตแลนติก นั่นคือฝั่งสหรัฐฯกับฝั่งยุโรปบานปลายขยายวง หลังจากมีปัญหาในเรื่อง เหล็กกล้า อลูมิเนียม รถยนต์ เครื่องบินและสินค้าเกษตรกันอยู่แล้ว

    ขณะเดียวกันสำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ” (USRT) ระบุในคำแถลงว่า บริการดังกล่าวเป็นบริการที่บริษัทอเมริกันเป็นผู้นำทั่วโลก โครงสร้างภาษีใหม่ที่เสนอ ตลอดจนถึงถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่บ่งชี้ว่า ฝรั่งเศสพุ่งเป้าเก็บภาษีบริษัทเทคโนโลยีที่มีฐานในอเมริกาอย่างไม่เป็นธรรม

    ทางด้านทางด้าน TIT กลุ่มล็อบบี้ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของอเมริกาที่เป็นตัวแทนของ Apple – Amazon – Google และอีกมากมายแถลงว่า เห็นด้วยที่รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามตรวจสอบเรื่องนี้ แต่เรียกร้องให้ใช้มาตรา 301 โดยอิงกับความร่วมมือระหว่างประเทศ และหลีกเลี่ยงการออกมาตรการใช้ภาษีศุลกากรตอบโต้ฝรั่งเศส

    ..ชัค กราสส์ลีย์ ประธานคณะกรรมาธิการการเงินของวุฒิสภาสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน และ ส..รอน ไวเดน สมาชิกระดับสูงของคณะกรรมาธิการชุดนี้จากพรรคเดโมแครตออกมาให้ทัศนะว่า เห็นด้วยกับการสอบสวน เนื่องจากมองว่า ภาษีบริการดิจิตอลที่ฝรั่งเศสและชาติยุโรปอื่นๆ กำลังจะนำมาใช้เป็นการกีดกันการค้าและพุ่งเป้าที่บริษัทอเมริกันอย่างไม่เป็นธรรมซึ่งจะกระทบต่อตำแหน่งงานและแรงงานอเมริกัน

    กระนั้นไลต์ไฮเซอร์ย้ำว่ายูเอสทีอาร์ จะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในอีกหลายสัปดาห์ต่อจาก นี้และหลังจากนั้นจะออกรายงานฉบับสุดท้าย พร้อมมาตรการดำเนินการที่เสนอแนะ 

    เขาสำทับว่าอเมริกาจะยังคงสานต่อความพยายามร่วมกับประเทศอื่นๆ ในองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เพื่อบรรลุข้อตกลงพหุภาคีในการรับมือจัดการกับความท้าทายด้านระบบภาษีระหว่างประเทศ สืบเนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่เข้าสู่ยุคดิจิตอลเต็มตัวมากขึ้นทุกที

    Source

    Source

    ]]>
    1238934