รับชำระเงินดิจิทัล – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 14 Jan 2021 10:51:47 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘ฟินเทค’ ในเวียดนาม กำลังรุ่ง…MoMo สตาร์ทอัพ e-Wallet ระดมทุนใหญ่มุ่งเป็น Super App https://positioningmag.com/1314310 Thu, 14 Jan 2021 09:41:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1314310 สตาร์ทอัพฟินเทคในเวียดนาม กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก ล่าสุด MoMo ผู้ให้บริการ
อีวอลเล็ต (e-Wallet) รายใหญ่ที่สุดในประเทศ ระดมทุนได้เกิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ วางเเผนสู่การเป็น ‘Super App’ เตรียมเสนอขายหุ้น IPO ภายในปี 2025

เทคโนโลยีด้านการเงินในเวียดนาม ที่มีประชากรเกือบ 98 ล้านคน มีกลุ่มคนหนุ่มสาวจำนวนมาก เเละเป็นหนึ่งในประเทศที่เติบโตไวสุดในอาเซียน เริ่มได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้นในช่วงการเเพร่ระบาดของ COVID-19 เมื่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซเเละการค้าขายออนไลน์เป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้น ร้านค้าเเละผู้บริโภคมองหาตัวเลือกการชำระเงินเเบบไร้สัมผัส (Contactless Payment)

Pham Thanh Duc ซีอีโอของ MoMo เปิดเผยกับ Reuters ว่า ไม่สามารถระบุจำนวนเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ได้ เนื่องจากข้อตกลงที่ทำร่วมกับนักลงทุน แต่บอกได้ว่าครั้งนี้เพิ่มขึ้นกว่าการระดมทุนครั้งก่อนที่เคยทำไว้
100
ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3 พันล้านบาท)

โดยมีบริษัทใหญ่ 6 ราย ร่วมลงทุน ได้แก่ Warburg Pincus, Goodwater Capital, Affirma Capital Singapore, Kora Management, Macquarie Capital และ Tybourne Capital Management

MoMo มีชื่อย่อมาจาก Mobile Money ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2007 เป็นแอปพลิเคชันการชำระเงินออนไลน์ รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ปัจจุบันมียอดผู้ใช้บริการกว่า 23 ล้านคน โดยตั้งเป้าเพิ่มขึ้น 2 เท่าให้เป็นราว 50 ล้านคน ภายใน 2 ปีข้างหน้า พร้อมวางเเผนจะเสนอขายหุ้น IPO สู่สาธารณะภายในช่วงปี 2021-2025

การระดมทุนครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของ MoMo ให้ก้าวสู่การเป็นแอปพลิเคชันที่ครอบคลุมทุกบริการแบบครบวงจร ที่เรียกว่าSuper Appซึ่งพิสูจน์ให้เห็นเเล้วว่าเป็นโมเดลที่ประสบความสำเร็จทั้งในจีน สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย

แม้ว่าตอนนี้ชาวเวียดนามจะยังนิยมชำระด้วยเงินสดเป็นหลัก แต่การชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนก็เพิ่มสูงขึ้นเกือบเเตะ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2020 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 980% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2019

Tech in Asia รายงานว่า ธุรกิจฟินเทคในเวียดนาม ปัจจุบันมีผู้เล่นอยู่ราว 39 ราย มีการเเข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อชิงช่องว่างตลาด โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 เเอปอี-วอลเล็ตที่ได้รับการดาวน์โหลดมากที่สุด ได้แก่ MoMo, ViettelPay, AirPay และ ZaloPay

เจ้าใหญ่อย่าง MoMo ต้องรับศึกหนักเพื่อต่อสู้กับ VNPay เเอปฯ ชำระเงินออนไลน์ที่มียอดผู้ใช้งานอยู่ที่ราว 15 ล้านคน ซึ่งกำลังจะเป็นสตาร์ทอัพ ยูนิคอร์นตัวล่าสุดของเวียดนาม

โดยผู้ร่วมก่อตั้ง MoMo เคยกล่าวกับ Tech in Asia ว่า บริษัทยังมีข้อได้เปรียบในตลาดนี้ เนื่องจากมีผู้ค้าออฟไลน์จำนวนมาก” อยู่ในเครือข่าย ตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ไปจนถึง
ร้านกาแฟเเละร้านขายของชำรายย่อย

 

ที่มา : Reuters , Tech in Asia

 

]]>
1314310
แมคโดนัลด์ รุกตลาดเบอร์เกอร์ 4.0 https://positioningmag.com/1153357 Fri, 12 Jan 2018 00:15:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1153357 เมื่อเทคโนโลยีมีบทบาทกับทั้งพฤติกรรมลูกค้า และรูปแบบการให้บริการ แมคโดนัลด์ จึงต้องเดินเกม ประกาศตัวเป็นร้านอาหารทันสมัย (Modern Restaurant) โดยมีโจทย์สำคัญ คือ “จะทำอย่างไรให้ลูกค้าสั่งอาหารได้ง่ายๆ”

จึงเป็นที่มาของการผนึกกำลัง “พันธมิตร” ผู้ให้บริการรับชำระเงินดิจิทัลมากขึ้นต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับพันธมิตรหลายราย เอ็มเปย์, บลูเพย์ อาลีเพย์ และทรูมันนี่วอลเล็ท เพื่อรับชำระเงินค่าอาหารในร้านแมคโดนัลด์ผ่านคิวอาร์โค้ด

ที่ผ่านมาแมคโนนัลด์เริ่มให้รับชำระแบบไร้เงินสดตั้งแต่ปี 2554 ทั้งบัตรเครดิตวีซ่าเพย์เวฟ, บัตรแรบบิท และแรบบิท ไลน์ เพย์ 

เฮสเตอร์ ชิว ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด บอกว่า แมคโดนัลด์ ใช้งบลงทุน 800-1,000 ล้านบาท ใช้ขยายสาขา และนำเทคโนโลยีมาใช้มาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุคใหม่

ทั้งการร่วมมือกับ “โอมิเซะ” (Omise) นำระบบชำระเงินออนไลน์สำหรับสั่งซื้ออาหารผ่านทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน เพื่อเป็นไปตามเทรนด์ของเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่

เป้าหมายของแมคโดนัลด์ เพื่อต้องการลดสัดส่วนลูกค้าที่ชำระเงินสด จากปัจจุบันมีประมาณ 60-65% ให้เหลือ 50% ในช่วงกลางปี 2561 นี้

เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ติดตั้ง Self-Ordering Kiosk (SOD) หรือเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติด้วยตนเอง เป็นรายแรก ซึ่งปัจจุบันมียอดชำระเงินผ่านคีออสก์นี้ราว 5-10%   

นอกจากนี้ แมคโดนัลด์ ยังนำเมนูบอร์ดแบบวิดีโอวอลล์ระบบดิจิทัลมาใช้ ติดตั้งไปแล้ว 79 สาขา จะเพิ่มอีก 60 สาขาภายในปีนี้ เพื่อสร้างจุดเด่นแตกต่างจากร้านอาหารจานด่วนที่แข่งขันสูงมาก

ระบบนี้จะปรับเปลี่ยนหน้าจอทุก 3 นาที ซึ่งควบคุมและสั่งการจากส่วนกลาง แต่ละสาขาจะมีรายละเอียดแตกต่างกันไป ใช้ข้อมูลเมนูขายดีของแต่ละสาขาเป็นตัวกำหนดเบื้องต้น เช่น สาขาโรบินสัน สุขุมวิท ยอดขายบิ๊กแม็คจะพุ่งแรง เนื่องจากมีลูกค้าเป็นชาวต่างชาติจำนวนมาก ส่วนสาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ เมนูขายดีคือเบอร์เกอร์ปลา เนื่องจากเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ แมคโดนัลด์ชาวไทย 

ส่วนการขยายสาขา ตั้งเป้าเปิดอีก 15-20 สาขา เน้นร้านสาขารูปแบบไดรฟ์ทรูมากที่สุด 50% ทำเลสาขาใหม่ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และหัวเมืองหลักในจังหวัดใหม่ๆ รองรับลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ จากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 252 สาขา แยกเป็นสาขาไดรฟ์ทรู  82 สาขา และสาขาที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง 79 สาขา

เฮสเตอร์ ชิว กล่าวว่า จะยึดหลัก 2 อย่าง โลเกชั่น ที่ต้องมีทราฟฟิกมาก เพราะอุตสาหกรรมบริการมีการซื้อตัวกันสูง ทั้งจากการที่มีร้านอาหารเปิดใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการที่มีโรงแรมใหม่ๆ เปิดให้บริการ

แม้ในปีที่ผ่านมาผู้บริโภคจะมีการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศน้อยลง ทำให้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจค้าปลีกและร้านอหาร แต่แมคโดนัลด์ไม่มีนโยบายปรับราคา เนื่องจากต้องรักษาช่องว่างของราคาไม่ให้ถีบตัวห่างกับอาหารจานเดียวตามร้านข้างทาง หรือร้านอาหารในฟู้ดคอร์ทมากนัก

ในขณะเดียวกันก็ต้องเพิ่มมูลค่าที่เหนือกว่า เช่น มีเครื่องปรับอากาศ และมีห้องน้ำภายในตัวสำหรับสาขาสแตนด์อโลน และสาขาอื่นๆที่เจ้าของพื้นที่อนุญาตให้ทำห้องน้ำได้ เป็นต้น ปีนี้ตั้งเป้าเติบโตด้วยตัวเลขสองหลัก”

เมื่อ POSITIONING สอบถามเฮสเตอร์ ชิว ว่าสำหรับธุรกิจ QSR แล้วเขามองว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคจะเน้นหนักไปทางใดมากกว่ากัน ระหว่าง ความจงรักภักดี (Loyalty) กับ ความอ่อนไหวด้านราคา (Price Sensitive) เขาบอกว่า “แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องราคามากกว่า

ดังนั้น แพลตฟอร์มการรับชำระเงินแบบไร้เงินสด หรือแบบดิจิทัลจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะดึงดูดให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่ามากกว่าการจ่ายด้วยเงินสด และมาใช้บริการบ่อยครั้ง และคาดว่าจะกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นสองหลัก จากปีนี้ที่ยอดเพิ่มขึ้นหลักเดียว

แต่ราคาในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงว่าจะต้องจ่ายถูกหรือจ่ายน้อยกว่าเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงมีคุณค่า (Value) ด้านอื่นๆ เช่น บรรยากาศภายในร้าน การบริการ รวมถึงระบบสะสมแต้มที่ให้รางวัลหรือสิทธิประโยชน์ต่างๆ กับผู้บริโภค เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้คือการสร้างประสบการณ์ที่ดีและน่าจดจำให้กับผู้บริโภค

นอกจากนี้ เฮสเตอร์ ชิว ได้เล่าถึงข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคที่จะแตกต่างกันไปในแต่ละช่องทางว่า สาขา Drive-through จะมียอดขายอาหารเช้ามากถึง 25-30% เพราะพ่อแม่หรือผู้ปกครองขับรถแวะมาซื้ออาหารให้ลูกกินในรถก่อนรีบไปส่งที่โรงเรียน โดยเมนูอาหารเช้าที่ขายดีคือมัฟฟิน เพราะรับประทานสะดวก ไม่หกเลอะเทอะ ในขณะที่เมนูอาหารเช้าที่ขายดีในร้านแมคโดนัลด์ทั่วไปคือโจ๊กไก่,โจ๊กหมู เพราะเหมาะกับการนั่งรับประทานภายในร้าน
สำหรับแนวทางในการดำเนินธุรกิจของแมคโดนัลด์ทั่วโลกนั้นจำเป็นจะต้องเข้าใจพฤติกรรมและสอดรับไปกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคแต่ละท้องถิ่น เช่น ในต่างประเทศอย่างฟิลิปปินส์ ที่มีคนประกอบอาชีพเป็นคอล เซ็นเตอร์จำนวนมาก และเนื่องจากรูปแบบการทำงานจะทำงานกันเป็นกะ ตลอด 24 ชั่วโมง ที่นั่นร้านแมคโดนัลด์ 24 ชั่วโมง จึงได้รับการตอบรับดีมาก

อย่างในไทยแต่ละพื้นที่ก็ไม่เหมือนกัน สาขาที่ตั้งอยู่ในย่านแหล่งท่องเที่ยวหรือที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น ภูเก็ต กระบี่ สมุย นานา อัมรินทร์พลาซ่า สยามพารากอน และสาขาภายในสนามบิน เมนูเบอร์เกอร์ต่างๆ ก็จะขายดี ซึ่งรวมถึงภาษาที่ใช้สื่อสารก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนด้วย เช่น เมนูในสาขาแถบรัชดาก็จะมีภาษาจีนกำกับด้วย เนื่องจากมีลูกค้าชาวจีนเยอะ หรือเมนูในสาขาที่พัทยาก็จะมีภาษารัสเซียเพิ่มเติมเข้ามา เนื่องจากมีลูกค้าชาวรัสเซียทั้งที่เดินทางมาท่องเที่ยวและอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

นอกจากพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ ปัจจุบันมีผู้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่ของร้านแมคโดนัลด์แล้วประมาณ 2 แสนดาวน์โหลด คาดว่าสิ้นปี 2561 นี้จะเพิ่มเป็น 5 แสนยอดดาวน์โหลด ซึ่งเป็นแอปเพื่อให้บริการการรับชำระเงินแบบไร้เงินสดหลากหลายรูปแบบ

ในอนาคตอันใกล้นี้ จะเพิ่มบริการให้ผู้บริโภคสามารถสั่งอาหารล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชั่นไจากนั้นค่อยมารับที่สาขา เพื่อแก้ปัญหาการรอคิวนานในช่วงเวลาเร่งด่วน เช่น ช่วงพักกลางวันที่มักจะมีลูกค้าหนาแน่น ผู้บริโภคที่เตรียมตัวจะรับประทานมื้อกลางวันที่แมคโดนัลด์ก็สามารถสั่งเมนูโปรดไว้ก่อนได้ ไม่ต้องเสียเวลามารอคิว ซึ่งการบริการนี้จะเป็นไปในรูปแบบของ Location-Based Service (LBS)

เทคโนโลยีที่ทำให้ชีวิตผู้บริโภคง่ายขึ้นอย่างเงินดิจิทัล จึงเพิ่มบทบาทให้กับสมาร์ทโฟน ที่นับวันจะทวีความสำคัญและมีอิทธิพลต่อชีวิตคนเรามากไปกว่าการเปรียบเปรยเป็นอวัยวะที่ 33 และเป็นเครื่องมือทางการตลาดชั้นดีที่แบรนด์ต่างๆ ต้องการช่วงชิงเพื่อกำชัยเหนือคู่แข่ง

“คนเราออกจากบ้าน มีหลายคนที่ลืมกุญแจบ้าน ลืมกระเป๋าเงิน แต่มีน้อยคนมากนะ ที่จะลืมโทรศัพท์มือถือ” เฮสเตอร์ ชิว กล่าวทิ้งท้าย.

]]>
1153357