สมาคมบริษัทจดทะเบียน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 23 Jun 2021 01:27:51 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ความท้าทายของการสร้าง Digital Transformation ในองค์กรคือ “ขีดความสามารถผู้นำ” https://positioningmag.com/1338338 Tue, 22 Jun 2021 16:24:48 +0000 https://positioningmag.com/?p=1338338 ผลสำรวจจากสมาชิกใน “สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย” ร่วมกับ แพคริม และ AMPOS พบว่า สมาชิกถึง 36% มองว่าการทำ Digital Transformation มีความสำคัญในระดับ 10/10 แต่ความเร็วที่เกิดขึ้นจริงขององค์กรส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับ 5/10 เท่านั้น โดยมีความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดคือ “ขีดความสามารถของผู้นำ”

จากงานสัมมนาออนไลน์ “Leadership Actions: From Digital Transformation to Organizational Transformation” จัดโดย Human Capital Management Club สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย ร่วมกับ “แพคริม” และ “AMPOS” ภายในงานมีการจัดสำรวจความคิดเห็นของสมาชิกจากสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย และเห็นได้ว่าส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการสร้าง Digital Transformation แต่บริษัทจำนวนมากยังเผชิญความท้าทายในการบรรลุผล

โดยการสำรวจครั้งนี้พบว่า 36% ของผู้เข้าร่วมลงคะแนนให้การทำ Digital Transformation ในองค์กรมีความสำคัญสูงสุด 10/10 ส่วนผู้ให้ระดับความสำคัญ 8 และ 9 รวมกันคิดเป็น 56% ขณะที่มีผู้ให้คะแนนระดับ 7 เพียง 9%

อย่างไรก็ตาม ผู้ร่วมสัมมนาส่วนใหญ่ประเมินตนเองว่า ความเร็วขององค์กรในการปรับตัวยังอยู่ที่ระดับ 5 คิดเป็นสัดส่วน 29% ส่วนที่เหลือ 56% ประเมินตนเองในระดับ 6-8 และมีบริษัทที่ประเมินตนเองในระดับ 2-4 อยู่ที่ 15%

เมื่อถามถึง “ความท้าทาย” ขององค์กรต่อการทำ Digital Transformation บริษัทมองว่ามีความท้าทายสำคัญ ดังนี้

1.ขีดความสามารถของผู้นำ (53%)
2.กลยุทธ์และทิศทางธุรกิจ (49%)
3.ทัศนคติและมุมมองความคิดของคนในองค์กร (44%)
4.ศักยภาพและทักษะของคนในองค์กร (33%)
5.วัฒนธรรมองค์กร (27%)
6.การเลือกเทคโนโลยีที่ใช้ (27%)
7.ขั้นตอนการดำเนินธุรกิจ (24%)
8.ความพร้อมด้านดาต้า (24%)
9.การลงมือปฏิบัติความริเริ่มด้านดิจิทัล (11%)
10.ทรัพยากรและงบประมาณ (11%)

จากอินไซต์ของผู้เข้าร่วมสัมมนาซึ่งมาจากบริษัทต่างๆ จะเห็นได้ว่า ความท้าทายในแง่ของ ‘hard skills’ อย่างทักษะของคนมีความสำคัญพอสมควร แต่ความท้าทายที่สูงกว่าคือเรื่อง ‘soft skills’ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถของผู้นำที่จะนำพาองค์กรให้เกิด Digital Transformation ได้จริง รวมถึงทัศนคติของคนในองค์กร ตลอดจนวัฒนธรรมองค์กรด้วย

ขณะที่ปัจจัยที่เป็นเหมือนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น งบประมาณ การสร้างความพร้อมด้านดาต้า ปัจจุบันนี้ไม่ใช่ความท้าทายหลักขององค์กรต่างๆ ในการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงตนเองแล้ว

จึงสรุปได้ว่า ความท้าทายสำคัญคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมคนในองค์กรเองให้ตอบรับการไปสู่ดิจิทัล จึงจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในองค์กรได้ในที่สุด

]]>
1338338
กฎหมายใหม่ตลาดทุนไทย https://positioningmag.com/38994 Thu, 31 Jan 2008 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=38994

ตลท. สำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต. และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย ร่วมจัดสัมมนา “พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (ฉบับแก้ไข) กฎหมายใหม่…เพื่อการพัฒนาตลาดทุนไทย” เพื่อซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับข้อบังคับเรื่อง บทบาท หน้าที่และความรับผิดชอบของกรรมการ ผู้บริหาร และเลขานุการบริษัทจดทะเบียน ก่อนประกาศใช้จริงประมาณเดือนมี.ค. โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากภาคตลาดทุน อาทิ ปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ภัทรียา เบญจพลชัย ประสงค์ วินัยแพทย์ คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม มนตรี ศรไพศาล และตัวแทนจากบริษัทจดทะเบียนเข้าร่วมรับฟังคับคั่ง ซึ่งกฎหมายใหม่นี้จะช่วยสร้างระบบธรรมาภิบาล และมุมมองที่ดีของบริษัทจดทะเบียนไทย ในสายตาของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

]]>
38994
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมความพร้อมเลขานุการบริษัท รับพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ฉบับใหม่ https://positioningmag.com/36672 Fri, 07 Sep 2007 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=36672

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ ก.ล.ต. และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย เตรียมความพร้อมเลขานุการบริษัทรับ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ใหม่ โดยจัดงานเสวนา “108 ภารกิจเลขานุการบริษัท” พร้อมจัดพิมพ์หนังสือ “บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของเลขานุการบริษัท” แจกให้ผู้ร่วมงานเสวนา โดยมีเลขานุการบริษัทจากบริษัทจดทะเบียนเข้าร่วมงานกว่า 400 คน

นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เลขานุการบริษัทหรือที่เรียกว่า Company Secretary เป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยให้บริษัทและคณะกรรมการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และบทบาทดังกล่าวจะยิ่งสำคัญมากยิ่งขึ้น เมื่อพรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ซึ่งพรบ.ดังกล่าวได้กำหนดให้คณะกรรมการต้องจัดให้มีเลขานุการบริษัท รวมทั้งกำหนดหน้าที่และบทลงโทษของเลขานุการบริษัทไว้ด้วย ดังนั้น เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทดังกล่าว ตลาด หลักทรัพย์ฯ จึงร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย จัดเสวนาเรื่อง “108 ภารกิจเลขานุการบริษัท” ในวันที่ 4 กันยายนนี้ ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งได้รับความสนใจจากเลขานุการบริษัทจดทะเบียนเข้าร่วมงานกว่า 400 คน

นายสุทธิชัยกล่าวว่า “การจัดงานในวันนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นให้บริษัทจดทะเบียนและผู้บริหารได้ตระหนักถึงความสำคัญของเลขานุการบริษัทและเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของเลขานุการบริษัทให้รับทราบถึงบทบาท และความรับผิดชอบตามกฎหมายใหม่ อย่างไรก็ตามการให้ความรู้ต้องมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยนอกเหนือจากการจัดเสวนาในวันนี้ และการพิมพ์หนังสือ “บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของเลขานุการบริษัท” แจกให้ผู้ร่วมงานเสวนาแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความเข้าใจแก่เลขานุการบริษัทเป็นระยะๆ ต่อไป”

นายชาลี จันทนยิ่งยง ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส สำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวว่า “ปัจจุบันร่างพรบ.หลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์อยู่ในขั้นตอนเตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนเสนอสภานิติบัญญัติ แห่งชาติพิจารณาต่อไป สำหรับข้อกำหนดในส่วนที่เกี่ยวกับเลขานุการบริษัทกฎหมายกำหนดบทเฉพาะกาลไว้แล้ว เพื่อให้มีเวลาปรับตัวพอสมควร อย่างไรก็ดีในระหว่างนี้ทั้งบริษัทและเลขานุการบริษัทควรต้องทำ ความเข้าใจกับข้อกำหนดต่าง ๆ ในกฎหมายฉบับนี้ และปรับตัวให้พร้อมรับกับกฎหมายใหม่ไว้ด้วย โดย ก.ล.ต. พร้อมตอบข้อสงสัยในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้”

ทั้งนี้ เลขานุการบริษัทคือ ผู้ที่คณะกรรมการแต่งตั้งเพื่อทำหน้าที่ดูแลกิจกรรมต่างๆ ของคณะกรรมการ และช่วยให้คณะกรรมการและบริษัทปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยคุณสมบัติสำคัญของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนี้หรือทำงานในตำแหน่งนี้ก็คือ เข้าใจธุรกิจขององค์กรเป็นอย่างดี มีความรู้ด้านกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง มีความสามารถในการประสานงาน การที่พรบ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จะกำหนดบทบาทและความรับผิดของเลขานุการบริษัทส่วนหนึ่งก็อาจทำให้เลขานุการบริษัทมีความกังวลขึ้น แต่อีกส่วนหนึ่งก็แสดงให้เห็นว่ากฎหมายให้ความสำคัญกับผู้ที่ทำหน้าที่นี้ ดังนั้น จึงนับเป็นโอกาสที่ดีที่เลขานุการบริษัทจะได้รับฟังข้อมูลจากผู้เข้าร่วมเสวนา ซึ่งเป็นโอกาสในการซักถามประเด็นที่เป็นข้อสงสัยด้วย

การเสวนาในครั้งนี้ มีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และมุมมองเกี่ยวกับเลขานุการบริษัท ได้แก่ นางณัฐญา นิยมานุสร ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมบรรษัทภิบาล สำนักงาน ก.ล.ต นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ผู้จัดการฝ่าย สำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นางภัทรพร มิลินทสูต กรรมการ ผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) นางกอบบุญ ศรีชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) และนายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

]]>
36672
สมาคมบริษัทจดทะเบียน จัดสัมมนาเรื่อง “ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับมาตรฐานการกำกับดูแลสถาบันการเงินต่อบริษัทที่ทำธุรกรรมกับสถาบันการเงิน ” https://positioningmag.com/35005 Wed, 06 Jun 2007 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=35005

สมาคมบริษัทจดทะเบียน โดยการสนับสนุนจากสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด และPricewaterhouseCoopers ร่วมจัดสัมมนาเรื่อง “ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับมาตรฐานการกำกับดูแลสถาบันการเงินต่อบริษัทที่ทำธุรกรรมกับสถาบันการเงิน ” “ Corporate Governance and Enterprise Value” โดย ดร. ธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จะมากล่าวปาฐกาถาพิเศษในหัวข้อ “Overview of Current Macro Economic Condition and Prudential Regulation – Impact to Thai Corporation” และขอเชิญรับฟังการบรรยายเรื่อง “ Moving to Risk Based Regulation in Financial Institutions – Impact to Thai Corporations ” โดย คุณสุปรียา นิโคลาโคลว พิพัฒน์มโนมัย ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด มหาชน และ Cameron Evans จาก PricewaterhouseCooper ในวันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน 2550 เวลา 9.00 -11.45 น. ณ ห้องดุสิตธานีฮอลล์ โรงแรมดุสิตธานี

ผู้เข้าฟังจะได้รับทราบมุมมองเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจและแนวโน้มของการปรับเปลี่ยนนโยบายในการกำกับดูแลสถาบันการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะในเรื่องความมีเสถียรภาพและความเพียงพอของเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของสถาบันการเงิน (BASEL II) ซึ่งจะเป็นไปตามมาตรฐานสากล ประกอบด้วยการคำนวณความเสี่ยงหลายด้าน เช่น Credit Risk, Market Risk, และ Operation Risk โดยปัจจัยที่สำคัญคือ Credit Risk คือ คุณภาพของลูกหนี้ที่มีการทำธุรกรรมกับสถาบันการเงิน ซึ่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจที่จะตามมาจะมีทั้งด้านบวกและด้านลบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพและความเสี่ยงของลูกหนี้ ซึ่งถ้ามี Credit rating ที่ไม่ดี ก็อาจจะมีต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นกว่าธุรกิจที่มี Credit Rating ดี

ทั้งนี้ สมาคมฯ เล็งเห็นว่าบริษัทต่างๆ ควรที่จะได้รับทราบถึงผลกระทบจากนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อที่จะได้เตรียมความพร้อมในด้านการบริหารจัดการทางการเงินจึงได้จัดสัมมนาครั้งนี้ขึ้น

ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งได้ที่สมาคมบริษัทจดทะเบียน โทร. 0-2229-2162-3

]]>
35005
เฮย์ กรุ๊ป และสมาคมบริษัทจดทะเบียน ประกาศความร่วมมือในการดำเนินการฝึกอบรมและพัฒนา https://positioningmag.com/34813 Tue, 29 May 2007 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=34813

บริษัท เฮย์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) และสมาคมบริษัทจดทะเบียนประกาศความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ในการดำเนินการพัฒนาภาวะผู้นำและทักษะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้กับผู้บริหารผ่านการสัมมนาเชิงปฏิบัติการในประเทศไทย

การสัมมนาเชิงปฏิบัติการข้่างต้นเป็นผลสืบเนื่องมาจากผลการสำรวจ Thailand Economic Outlook 2007 ที่จัดทำโดยสมาคมบริษัทจดทะเบียนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารระดับสูงชั้นนำของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรวมทั้งตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (MAI) รวม 77 ท่าน เกี่ยวกับทัศนะที่มีต่อแนวทางการพัฒนาศักยภาพเชิงแข่งขัน จากการสำรวจพบว่า การพัฒนาทรัพยากรบุคคลเป็นสิ่งที่ท้าทายมากกว่าปัจจัยด้านอื่น ๆ อย่าง โลจิสติกส์, การอนุรักษ์พลังงาน, กระบวนการผลิต และธรรมาภิบาลขององค์กร

ผลการสำรวจข้างต้นเป็นที่มาของการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการรวม 4 ครั้ง ได้แก่Scott Asia Communications “Executive Leadership Development” (30 พฤษภาคม 2550) “Building Top Team Effectiveness” (13 มิถุนายน 2550) “Coaching for High Performance” (27 มิถุนายน 2550) และ “Reducing Organisational Risk with Succession Planning” (4 กรกฎาคม 2550) ทั้งนี้ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท เฮย์ กรุ๊ป จะเป็นผู้นำเสนอเนื้อหาของการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ

คุณเพ็ญศรี สุธีรศาสนต์ ผู้อำนวยการสมาคมบริษัทจดทะเบียน กล่าวว่า สมาคมบริษัทจดทะเบียน และบริษัท เฮย์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) อยู่ระหว่างการจัดเตรียมการสัมมนาเพื่อเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันให้แก่กิจการในภาวะความไม่มั่นคงทางการเมืองและอุปสงค์ของผู้บริโภคที่ลดลง

คุณอโณทัย อดุลพันธ์ ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท เฮย์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากผลการวิจัยของบริษัทฯ ปัจจัยที่ำทำให้บริษัทประสบความสำเร็จด้านการเงินยังคงได้แก่ การพัฒนาภาวะผู้นำของผู้บริหาร การสอนงาน การบริหารจัดการพนักงานที่มีความสามารถ แผนทดแทนตำแหน่งงาน และการทำงานเป็นทีม โดยสมาคมบริษัทจดทะเบียนจะเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวให้แก่สมาชิกของสมาคมบริษัทจดทะเบียน”

คุณเพ็ญศรีกล่าวว่า การสัมมนาดังกล่าวเหมาะอย่างยิ่งสำหรับบริษัทในประเทศไทยที่กำลังเตรียมการสร้างความแข็งแกร่งในเชิงการแข่งขันผ่านการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างแผนทดแทนตำแหน่งงาน

คุณอโณทัยกล่าวเพิ่มเติมว่า “ในหัวข้อ ‘Executive Leadership Development’ เป็นการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่องแรกที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจว่า แรงจูงใจคืออะไรและผู้นำสามารถสร้างและคงไว้ซึ่งแรงจูงใจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของทีมงานได้อย่างไร”

การสัมมนาแต่ละหัวข้อจะใช้เวลาครึ่งวัน โดยหัวข้อเกี่ยวกับการพัฒนาภาวะผู้นำของผู้บริหารจะเน้นการวิเคราะห์แนวโน้มการพัฒนาภาวะผู้นำในปัจจุบัน สิ่งที่บริัษัทชั้นนำพึงปฏิบัติ วิกฤตการณ์ภาวะผู้นำในปัจจุบัน สิ่งที่ควรปฏิบัติ สิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติ สิ่งที่ผู้นำควรทำ รูปแบบของผู้นำ และเครื่องมือประเมินภาวะผู้นำด้วยตนเอง

การอบรมเชิงสัมมนาจะจัดขึ้นที่โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพฯ และจะมีการสรุปประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยในปี 2550 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดสอบถามได้ที่สมาคมบริษัทจดทะเบียนหรือเยี่ยมชมเว็ปไซด์ของสมาคมที่ www.lca.or.th

เกี่ยวกับบริษัท เฮย์ กรุ๊ป
บริษัท เฮย์ กรุ๊ป เป็นบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกที่ทำงานร่วมกับผู้นำองค์กรในการผลักดันกลยุทธ์มาสู่การปฏิบัติ เราพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และจูงใจพวกเขาเหล่านั้นให้ปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถ ด้วยสาขา 88 สาขาใน 47 ประเทศ เราทำงานร่วมกับลูกค้ากว่า 7,000 คนทั่วโลก ลูกค้าของเราประกอบด้วยองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนในหลากหลายอุตสาหกรรม และแน่นอนว่ามีความท้าทายทางธุรกิจที่แตกต่างกันออกไป เรามุ่งเน้นการสร้างความเปลี่ยนแปลงและผลักดันให้องค์กรเหล่านั้นตระหนักถึงศักยภาพที่มีอยู่ของตนเอง

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท เฮย์ กรุ๊ป โปรดเยี่ยมชมเว็ปไซต์ของเราที่
www.haygroup.com

เกี่ยวกับสมาคมบริษัทจดทะเบียน
สมาคมบริษัทจดทะเบียนเป็นตัวแทนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ กว่า 400 แห่ง เราช่วยให้สมาชิกเข้าใจพัฒนาการใหม่ๆ ของกระบวนการกำกับดูแลตลาดทุนของประเทศไทย และนำเสนอแนวทางที่มีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองต่อสิ่งท้าทายที่เกิดขึ้น โดยรวมตัวกันในรูปแบบของสมาคม ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมาคมบริษัทจดทะเบียนที่ www.lca.or.th

]]>
34813
สมาคมบริษัทจดทะเบียน จัดงานสัมมนาและรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 https://positioningmag.com/33678 Thu, 22 Mar 2007 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=33678

สมาคมบริษัทจดทะเบียนร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ จัดสัมมนาและรับฟังความคิดเห็น เรื่องแนวทางการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนในอนาคต ในวันที่ 15 มีนาคม 2550 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนา 528 คน

ดร.วีรวัฒน์ กาญจนดุล อุปนายกสมาคม กล่าวว่า “การแก้ไขพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้เสนอร่างให้กระทรวงการคลังพิจารณา เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติร่างนั้น สมาคมบริษัทจดทะเบียนได้รับความเห็นจากบริษัทจดทะเบียนในหลายประเด็น จึงได้จัดสัมมนาเพื่อที่จะให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับฟังการชี้แจงหลักการและเหตุผลในการแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ และเปิดให้มีการแสดงความเห็น”

ในการสัมมนาครั้งนี้ คุณชาลี จันทนยิ่งยง ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้บรรยายเรื่องการแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียน โดยครอบคลุมประเด็นในเรื่องหลักการแก้ไขกฎหมาย รวมทั้งการชี้แจงเรื่องบทบาทของสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนหลังการบังคับใช้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ จะนำเกณฑ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันของตลาดหลักทรัพย์ฯ มาบังคับใช้ เช่น เกณฑ์การทำรายการระหว่างกัน นอกจากนี้คุณชาลียังได้กล่าวว่า วัตถุประสงค์ในการแก้ไข พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ เพื่อเป็นการยกระดับบรรษัทภิบาลของประเทศ

ในช่วงที่สองของการสัมมนาได้มีการเสวนาเรื่อง “ผลกระทบของการแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ต่อบริษัทจดทะเบียน” โดยมี คุณชาลี จันทนยิ่งยง ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. คุณสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ดร.วีรวัฒน์ กาญจนดุล กรรมการ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร ดร.บุญเกียรติ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล คุณมนตรี ฐิรโฆไท กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการ บมจ.อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่น เป็นผู้ร่วมเสวนา และคุณมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นผู้ดำเนินการเสวนา

ดร.บุญเกียรติ โชควัฒนา ได้แสดงความเห็นถึงผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียนว่า การออกกฎหมายที่เข้มงวดอาจมีผลให้บริษัทจดทะเบียน มีต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น และอาจจะส่งผลให้บริษัทเอกชนมีความสนใจที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์น้อยลง

คุณมนตรี ฐิรโฆไท ได้ให้ความเห็นเรื่อง เลขานุการบริษัท ที่มีการกำหนดในร่าง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ฉบับแก้ไขว่าคณะกรรมการต้องจัดให้มีเลขานุการบริษัท ซึ่งได้มีการกำหนดบทลงโทษให้เท่าเทียมกับกรรมการบริษัท อาจจะเป็นปัญหากับทางปฎิบัติสำหรับบริษัทขนาดเล็ก

คุณสุทธิชัย จิตรวาณิช ได้ให้ความเห็นว่า เรื่องการแต่งตั้งเลขานุการบริษัท เป็นเรื่องที่มีความสำคัญกับบริษัทในอนาคต เลขานุการบริษัทไม่ใช่เสมียนจดบันทึกการประชุม แต่จะต้องมีความรู้รอบด้าน

ดร.วีรวัฒน์ กาญจนดุล มีความกังวลในเรื่องหน้าที่และความรับผิดชอบของกรรมการและผู้บริหารในเรื่อง Duty of Care และ Duty of Loyalty ประเด็นเชื่อโดยสุจริตว่ามีข้อมูลเพียงพอ เป็นเรื่องที่ยากในทางปฎิบัติ เพราะในการดำเนินธุรกิจเป็นไปไม่ได้ ที่จะมีข้อมูลครบถ้วนทุกครั้งที่มีการตัดสินใจและจะใช้เกณฑ์ใดมาตัดสิน จะมีผลให้กรรมการและผู้บริหารต้องรับภาระความเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้อง และมีโทษทางอาญาด้วย

ในการรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ ประเด็นหลักๆ ที่บริษัทจดทะเบียนได้ให้ความสนใจมากคือ บทบาทของคณะกรรมการกำกับตลาดทุน หน้าที่และความรับผิดชอบของเลขานุการบริษัท คำจำกัดความเรื่องบุคคลที่เกี่ยวข้อง และการกำกับในเรื่องรายการที่เกี่ยวโยงกัน

สมาคมบริษัทจดทะเบียนจะรวบรวมคำถามและความเห็นจากผู้เข้าร่วมสัมมนา เพื่อนำเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ฉบับแก้ไขนี้ต่อไป

]]>
33678
สภาวิชาชีพบัญชีร่วมกับสมาคมบริษัทจดทะเบียน ออกแนวทางปฎิบัติ เพื่อสร้างความเข้าใจในเรื่องผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงมาตราฐานบัญชี https://positioningmag.com/33064 Mon, 19 Feb 2007 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=33064

สภาวิชาชีพบัญชี และ สมาคมบริษัทจดทะเบียน ได้ร่วมกันศึกษาถึงประเด็นปัญหาในทางปฏิบัติ และ ความชัดเจน ในการเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชีเงินลงทุนในบริษัทย่อย และ บริษัทร่วม ในงบเฉพาะกิจการ จากวิธีส่วนได้เสีย (Equity method) เป็นวิธีราคาทุน ( Cost method) ซึ่งมีผลบังคับใช้กับบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสที่ 1 ปี 2550 นี้

ศาสตราจารย์เกษรี ณรงค์เดช นายกสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “ทางสภาวิชาชีพบัญชี ได้ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชี ที่มีผลต่อกิจการ จึงได้ให้แนวทางปฏิบัติทางบัญชีที่ชัดเจน และ ได้ให้ข้อผ่อนผันในกรณีที่มีข้อจำกัดทางกฎหมาย ทั้งนี้ทางสภาฯ ได้ร่วมมือกับทางสมาคมบริษัทจดทะเบียน จัดสัมมนาเพื่อให้มีความเข้าใจตรงกันและถูกต้องตามหลักการมาตรฐานการบัญชี”

ดร. วีรวัฒน์ กาญจนดุล ในฐานะ อุปนายก สมาคมบริษัทจดทะเบียน กล่าวถึง การสัมมนาการบัญชี เรื่อง แนวทางปฏิบัติการบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อย บริษัทร่วม และการจัดทำงบการเงินรวม ที่จะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ 2550 นี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้บริษัทจดทะเบียนเกิดความเข้าใจที่ชัดเจน และปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักการบัญชี ซึ่งเป็นเรื่องที่เร่งด่วน เนื่องจากมีผลบังคับกับบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1 ปี 2550 ที่จะถึงนี้

ทั้งนี้ทางสมาคมฯได้ทำหนังสือรวบรวมประเด็นคำถามและข้อคิดเห็น ต่อทางสภาวิชาชีพบัญชีฯ และได้รับความร่วมมืออย่างดีในการตอบคำถามและให้แนวทางปฏิบัติ โดยทางสมาคมฯ จะรวบรวมความเห็นและประเด็นปัญหาจากสมาชิกสมาคมฯ อย่างต่อเนื่องถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการบัญชี เพื่อนำเสนอต่อสภาวิชาชีพบัญชีฯ โดยเฉพาะจากบริษัทจดทะเบียนขนาดกลางและขนาดเล็กที่ยังไม่มีความพร้อมเท่าที่ควรในการปรับตัว เพื่อรองรับผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการบัญชีไทย เป็นมาตรฐานการบัญชีสากล ซึ่งเป็นหนึ่งในบทบาทของสมาคมบริษัทจดทะเบียนที่จะช่วยผลักดันในเรื่องการยกระดับมาตรฐานบรรษัทภิบาลของบริษัทจดทะเบียนไทย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
สมาคมบริษัทจดทะเบียน
โทร. 02-229-2162 – 3
โทรสาร 02-654-5591
www.lca.or.th

]]>
33064
สมาคมบริษัทจดทะเบียนขอให้ภาครัฐศึกษาผลกระทบรอบด้านก่อนออกมาตรการ https://positioningmag.com/32937 Tue, 13 Feb 2007 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=32937

สืบเนื่องจากการที่สมาคมบริษัทจดทะเบียน ได้สอบถามข้อมูลจากบริษัทจดทะเบียนโดยการสุ่มจากบริษัทขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และบริษัทส่งออก เกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการการกันเงินสำรอง 30% ของธนาคารแห่งประเทศไทย

นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บ้านปู ในฐานะอุปนายกสมาคมบริษัท จดทะเบียน เปิดเผยว่า “ บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ใช้เงินกู้ในประเทศ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย ในส่วนของบริษัทจดทะเบียนที่มีการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศ จะได้รับผลกระทบมากจากการกู้เงินลักษณะ Syndicated loan มากที่สุด ส่วนที่ได้รับผลกระทบน้อย หรือไม่ได้รับผลกระทบเลย คือการกู้เงินแบบ Rollover จากสัญญาเดิมที่มีก่อนการออกมาตรการเนื่องจากได้รับยกเว้น ซึ่งมาตรการผ่อนคลายระเบียบการกันเงินสำรอง 30%ของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เริ่มมีผลบังคับใช้ 1 ก.พ. นี้ จะช่วยลดภาระของบริษัทจดทะเบียนที่ต้องกู้เงินต่างประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทจดทะเบียนเห็นว่า ภาครัฐควรมีความละเอียดรอบคอบและความชัดเจน โดยเฉพาะมีการวิเคราะห์ผลกระทบด้านต่างๆเป็นการล่วงหน้าอย่างรอบด้าน ควบคู่กับการพบปะหารือกับภาคธุรกิจเป็นระยะๆ จะเป็นแนวทางที่ช่วยกันผนึกกำลังและสร้างความเข้าใจร่วมกัน ในการออกมาตรการทางการเงินที่เกิดประโยชน์อย่างสมดุลสำหรับทุกภาคส่วนในอนาคต”

นอกจากนี้ สมาคมบริษัทจดทะเบียน ร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์ และ Money Channel ได้ร่วมมือกันจัดทำโครงการ Thailand Economic Outlook Survey เพื่อสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจดทะเบียน เกี่ยวกับปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ รวมถึงภาพรวมแนวโน้มการดำเนินธุรกิจของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งนายชนินท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผลการสำรวจความเห็นของผู้บริหารระดับสูงบริษัทจดทะเบียนกว่า 70 ราย สรุปผล เมื่อวันที่ 31 มกราคมนี้ ร้อยละ 78 มองว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2550 จะเติบโตในระดับคงที่ถึงดีขึ้นเล็กน้อย และร้อยละ 94 ได้ประมาณการยอดขายของกิจการว่ายังคงเติบโตเป็นบวก แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ยังคงทำให้ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่กังวล คือ เรื่องราคาน้ำมัน และการเมืองภายในประเทศ” อนึ่ง สมาคมบริษัทจดทะเบียน จะออกรายงานวิเคราะห์ผลการสำรวจความคิดเห็นของภาพรวมทั้งปี และจะมีการสำรวจความเห็นของภาพรวมอีกครั้งในช่วงกลางปี โดยสมาคมบริษัทจดทะเบียนจะจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลสำรวจ และส่งให้สมาชิกสมาคมบริษัทจดทะเบียน ในเดือนกุมภาพันธ์นี้

]]>
32937