สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส เป็นสายการบินระดับโลกที่มีการเติบโตเร็วที่สุดสายการบินหนึ่ง และในวันนี้ได้ก้าวมาเป็นผู้นำในโลกดิจิตอลด้วยเช่นกัน เมื่อปลายเดือนมีนาคม 2016 สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ซึ่งได้รับเลือกเป็นสายการบินที่ดีที่สุดในโลกโดยสกายแทร็กซ์ ได้ก้าวสู่ความสำเร็จอีกครั้งหนึ่งเมื่อมีผู้ติดตามบนอินสตาแกรมครบ 1 ล้านคน

สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส เปิดตัวแอ็คเคานท์อินสตาแกรมเมื่อเดือนพฤษภาคม 2013 และสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ใช้อินสตาแกรมได้อย่างต่อเนื่อง ประมาณ 30,000 รายต่อเดือน ด้วยภาพที่สวยงามและน่าสนใจ ซึ่งสถานที่ที่โพสต์ขึ้นเหล่านั้นส่วนใหญ่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่อยู่ในเครือข่ายเส้นทางการบินของสายการบิน กาตาร์ แอร์เวย์ส จึงเสมือนเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ติดตามแอ็คเคานท์ได้ไปเที่ยวรอบโลก โดยไม่ต้องออกจากบ้าน ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ และเรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลาย ภาพที่ได้รับความนิยมและสนใจเป็นพิเศษ ได้แก่ ภาพถ่ายทางอากาศของเครื่องบินสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ขณะบินอยู่เหนือโอเปร่าเฮ้าส์ ในวันที่สายการบินให้บริการสู่นครซิดนีย์เป็นครั้งแรก ภาพการแสดงของมารายห์ แครีย์ ในงานดินเนอร์สุดพิเศษที่ลอสแองเจลิส และภาพเครื่องบินลงจอดใกล้ชายหาดที่ภูเก็ต

พนักงานต้อนรับ นักบิน และผู้โดยสารของสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ต่างเป็นกระบอกเสียงที่ดีของสายการบิน เพราะสามารถบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางจากประสบการณ์ของตนเอง อินสตาแกรมถือว่าเป็นโซเชียลมีเดียที่มีอิทธิพลมากที่สุดและเติบโตเร็วที่สุดในปัจจุบัน ผู้ใช้สามารถแบ่งปันภาพถ่ายและวิดีโอให้แก่ผู้ใช้คนอื่นๆ ได้เห็น อินสตาแกรมเป็นเครื่องมือการตลาดที่สำคัญที่แบรนด์ระดับโลกมักจะใช้เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภค โดยเฉพาะในภูมิภาคอ่าวอาหรับ

นางสาวชาลาม อัล ชาวา รองประธานอาวุโสด้านการตลาดและการสื่อสารองค์กร สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส กล่าวว่า “การที่เรามาถึงจุดที่มีผู้ติดตาม 1 ล้านคนบนอินสตาแกรม และยังเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่องทางโซเชียล มีเดียอื่นๆ นั้น เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์สที่ต้องการจะเป็นที่หนึ่งในธุรกิจการบิน โซเชียล มีเดียช่วยให้เราสามารถติดต่อกับผู้คนได้ทั่วโลก และเป็นการสะท้อนแบรนด์แคมเปญของเรา ก็คือ “Going Places Together” กลยุทธ์ของเราก็คือการแบ่งปันเรื่องราวและจิตวิญญาณของสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์สผ่านเนื้อหาที่น่าสนใจและสร้างแรงบันดาลใจ เป็นเหตุผลให้ความสัมพันธ์ของเรากับผู้คนทั่วโลกเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส เน้นด้านนวัตกรรมเสมอมา จึงไม่แปลกที่ทางสายการบินเล็งเห็นความสำคัญของสื่อออนไลน์ สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ซึ่งเป็นสายการบินประจำชาติของกาตาร์ ได้เริ่มใช้สแน็ปแช็ทหรือ snapchat (qatar-airways) และเป็นหนึ่งในสายการบินไม่กี่รายในโลกที่รุกหนักด้านสื่อออนไลน์ เช่นการลงภาพเบื้องหลังด้วยการใช้กล้องโกโปรเพื่อถ่ายทอดเที่ยวบินใหม่จากมุมมองของนักบิน ในงาน ITB Berlin ครั้งที่ผ่านมา สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์สได้เปิดตัวโฮโลแกรมสุดพิเศษเพื่อแสดงเครื่องบินรุ่นใหม่

สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ได้นำโซเชียลมีเดียมาแชร์เนื้อหาและสร้างการสนทนาในกลุ่มแฟนๆ ซึ่งนโยบายนี้สร้างประโยชน์ให้แก่องค์กรเป็นอย่างมาก ในปีนี้สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์สได้รับเลือกเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีค่าสูงสุดในโลก เป็นบริษัทจากประเทศกาตาร์บริษัทแรกที่ติดอันดับ Top 500 Global Brand ranking ของปี 2016 ในปีนี้ทางสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส จะเปิดตัวเส้นทางใหม่ 14 แห่ง ซึ่งประกาศไปแล้วที่ ITB ดังนั้นปีนี้จึงเป็นปีที่สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์สจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในด้านเครือข่ายบนโลกออนไลน์ควบคู่ไปกับด้านเครือข่ายเส้นทางการบินที่ให้บริการ

สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ได้เปิดตัวแคมเปญแบรนด์ใหม่ Going Places Together ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ติดตามในโซเชียลมีเดียและผู้โดยสาร สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์สเป็นแบรนด์ชั้นนำของโลกและเป็นแบรนด์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และจะพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้โดยสารและสังคมทั้งออฟไลน์และออนไลน์ต่อไป

 

จากภาพ : มาร์วาน โคลัยลัต (ซ้าย) ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการเชิงพาณิชย์ภาคพื้นตะวันออกไกลและออสเตรเลเซียของสายการบินกาตาร์ เป็นตัวแทนรับรางวัลสายการบินยอดเยี่ยมแห่งภาคตะวันออกกลาง ในงานทีทีจีแทรเวลอวอร์ดครั้งที่ 19 ที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯ

สายการบินกาตาร์ได้รับรางวัลอีกครั้งในงาน ทีทีจีแทรเวลอวอร์ดส์ ครั้งที่ 19 โดยได้รับเลือกให้เป็นสายการบินยอดเยี่ยมในตะวันออกกลางจากการรวบรวมผลโหวตของผู้อ่านวารสารการท่องเที่ยวระดับแนวหน้าประจำปีนี้ เป็นอีกครั้งที่สายการบินกาตาร์ได้รับเลือกให้เป็นสายการบินที่โดดเด่นที่สุดในตะวันออกกลางเป็นปีที่สามติดต่อกัน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินกาตาร์ นาย อัคบาร์ อัล เบเกอร์ กล่าวถึงความภาคภูมิใจที่สายการบินกาตาร์มีความโดดเด่นเหนือสายการบินอื่นๆในทวีป จนสามารถคว้ารางวัลนี้มาครองได้ “นับเป็นอีกครั้ง ที่เราได้แสดงให้เห็นถึงการเป็นสายการบินที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในทวีปเอเชีย รางวัลนี้จะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ และความทุ่มเทที่สายการบินกาตาร์มีให้กับผู้โดยสารทุกท่าน”

“เรามีแผนการขยายกิจการในทวีปตะวันออกไกล ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก การได้รับรางวัลเหล่านี้ จะช่วยให้แผนการขยายตัวของเราประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น”

“ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ความพยายามในการทำงานของเรา ได้รับการยอมรับจากพันธมิตรทางธุรกิจเป็นอย่างดีเยี่ยม และสายการบินของเราจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อที่จะเป็นผู้นำและผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมการบินต่อไป” นาย อัล เบเกอร์ กล่าว
ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา สายการบินกาตาร์ได้เปิดตัวเที่ยวบินใหม่ในหลายเส้นทางทั่วทวีปเอเชีย รวมไปถึง เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม, เมืองกวางเจา ประเทศจีน และบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย อีกทั้งยังเพิ่มเที่ยวบินจากเส้นทางหลัก ในทวีปเอเซีย เช่น กัวลาลัมเปอร์ มานิลา โอซาก้า และ โซล

นาย อัล เบเกอร์ กล่าวโดยรวมว่า แผนการขยายธุรกิจในอนาคต จะประกอบไปด้วยการเปิดตัวเส้นทางใหม่หลายเส้นทาง รวมไปถึงการเพิ่มเที่ยวบินในเส้นทางหลักที่กำลังให้บริการในขณะนี้ด้วย

งานเลี้ยงมอบรางวัลจัดขึ้นที่โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์ กรุงเทพฯ ซึ่งได้มีนาย มาร์วาน โคลัยลัต ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการเชิงพาณิชย์ของสายการบินกาตาร์ เป็นตัวแทนของสายการบินขึ้นรับรางวัลในคืนนั้นด้วย

“ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เราได้รับเลือกจากผู้อ่านทีทีจีเอเซียสำหรับรางวัลในครั้งนี้ ทางสายการบินกาตาร์ต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือมาโดยตลอด โดยเฉพาะตัวแทนท่องเที่ยวซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ให้ความสนับสนุนกับเราอย่างเต็มที่” นายโคลัยลัต กล่าว
“สายการบินกาตาร์มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จที่มีมาอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ เรามีความมุ่งมั่นที่จะให้บริการอย่างดีที่สุด ด้วยเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพ อุปกรณ์ที่ทันสมัย และบริการที่น่าประทับใจให้กับผู้โดยสารทุกท่านอย่างต่อเนื่องตลอดไป”

สายการบินกาตาร์ให้บริการด้วยฝูงเครื่องบินโบอิ้งและแอร์บัสรุ่นใหม่ จำนวน 62 ลำ มุ่งหน้าสู่มหานครทั้ง 82 แห่งในทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา แถบทวีปอินเดีย ตะวันออกไกล และอเมริกาเหนือ โดยในปัจจุบันนี้ ทางสายการบินได้สั่งซื้อเครื่องบินลำใหม่อีกกว่า 200 ลำ รวมมูลค่ามากกว่า 30 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ข้อมูลของทีทีจีเอเชียแทรเวลอวอร์ดส์: ทีทีจีแทรเวลอวอร์ด ถือเป็นรางวัลที่เป็นเกียรติสูงสุดในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในทวีปเอเชีย ตั้งแต่ครั้งแรกที่มีการจัดงานทีทีจีแทรเวลอวอร์ดในปี 2532 การจัดงานมีความยิ่งใหญ่ขึ้นทุกปีและเป็นที่ดึงดูดความสนใจจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่างๆมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นรางวัลของทางทีทีจีเอเชียอวอร์ด จึงมีการเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน จาก10 รางวัลในปีแรก การมอบรางวัลได้เพิ่มขึ้นเป็น 72 รางวัลในปัจจุบัน โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ทั้งจากผลโหวต และการตัดสินโดยคณะกรรมการ

ข้อมูลสายการบินกาตาร์:
ในปี 2556 สายการบินกาตาร์จะให้บริการด้วยเครื่องบินทั้งหมด 110 ลำ ซึ่งเพิ่มเป็นสองเท่าจากจำนวนเครื่องบินในปัจจุบัน สายการบินกาตาร์ได้ทำการสั่งแอร์บัสรุ่น A350s จำนวน 80 ลำ เครื่องบินโบอิ้งรุ่น 787s จำนวน 60 ลำ และ เครื่องบินโบอิ้งรุ่น 777s อีก 32 ลำ ซึ่งได้เริ่มทำการจัดส่ง ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2550 เป็นต้นมา อีกทั้งสายการบินกาตาร์ยังเป็นสายการบินแรกที่ทำการเปิดตัวเครื่องบินแอร์บัสใหม่ รุ่น A380 ซุเปอร์จัมโบ้ เป็นจำนวน 5 ลำ โดยจะมีกำหนดการจัดส่งในปี 2553 นอกจากนั้น เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทางสายการบินกาตาร์ได้ทำการสั่งเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A321s อีก 6 ลำจากงานฟาร์นโบโรห์แอร์โชว์ ทั้งนี้ สายการบินกาตาร์จะทำการย้ายไปสู่สนามบินนานาชาติโดฮาในปี 2554 ทันทีที่พื้นที่แรกเปิดให้บริการ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ www.ndiaproject.com

สายการบินกาตาร์ เป็น 1 ใน 6 สายการบินที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสายการบินระดับ 5 ดาว ด้านการบริการที่ยอดเยี่ยม จากสกายแทร็กซ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบอิสระในอุตสาหกรรมการบินที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก สกายแทร็กซ์ยังมอบรางวัลลูกเรือยอดเยี่ยมสำหรับสายการบินในภูมิภาคตะวันออกกลางให้กับสายการบินกาตาร์ในปี 2551 ในงานที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 6 และจากการสำรวจผู้โดยสารกว่า 15 ล้านคนทั่วโลก สายการบินกาตาร์ยังได้รับเลือกให้เป็นสายการบินยอดเยี่ยมของทวีปตะวันออกกลางเป็นปีที่สามติดต่อกันอีกด้วย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ www.qatarairways.com

สายการบินกาตาร์ สายการบินระดับ 5 ดาว ด้านการบริการยอดเยี่ยมจากสกายแทร็กซ์ เตรียมเปิดเที่ยวบินตรงสู่กรุงสต๊อคโฮล์ม ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2550 นี้เป็นต้นไป เพื่อให้บริการแก่นักธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่เดินทางสู่เมืองหลวงของประเทศสวีเดน รวม 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เชื่อมต่อกรุงเทพ กับสนามบินนานาชาติสต๊อคโฮล์ม-อารืลันดา ผ่านกรุงโดฮา เมืองหลวงของรัฐกาตาร์ ถือเป็นการเปิดเส้นทางสู่แถบสแกนดิเนเวียนครั้งแรกของสายการบินกาตาร์และเป็นสายการบินจากตะวันออกลางสายการบินแรกด้วยเช่นกัน

การเปิดเที่ยวบินใหม่ไปยังสต๊อคโฮล์ม ถือเป็นการเปิดเส้นทางที่ 2 สู่แถบยุโรปของสายการบินกาตาร์ในปีนี้ หลังจากเปิดเริ่มให้บริการเที่ยวบินระหว่างโดฮา และเจนีวาเมื่อเดือนมิถุนายน โดยเตรียมให้บริการผู้โดยสารด้วยเครื่องบินแอร์บัส 319 ซึ่งประกอบด้วยที่นั่ง 8 ที่นั่งชั้นธุรกิจและชั้นประหยัด 102 ที่นั่ง

ประเทศสวีเดนเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยุโรป โดยมีประชากร 9 ล้านคน กรุงสต๊อคโฮล์มซึ่งเป็นเมืองหลวงเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในแถบสแกนดิเนเวีย และมีประชากรอยู่อาศัยราว 800,000 คน ใกล้เคียงกับรัฐกาตาร์ สต๊อคโฮล์มประกอบด้วย 14 เกาะ เชื่อมถึงกันด้วยสะพาน 57 แห่ง ประกอบด้วยทั้งเขตเมืองเก่าสมัยศตวรรษที่ 13 และสถาปัตยกรรมไฮเทคสมัยใหม่

สวีเดนเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคทะเลบอลติค และดึงดูดทั้งนักธุรกิจที่ติดต่อเดินทางและนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวีย

รัฐกาตาร์มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจในหลายๆด้านกับประเทศสวีเดน รวมถึงแถบย่านสแกนดิเนเวียทั้งหมด ซึ่งรวมถึงธุรกิจอุตสาหกรรมก่อสร้าง เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม และโทรคมนาคม

อัคบาร์ อัล เบเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินกาตาร์ กล่าวว่า การเพิ่มเที่ยวบินสู่กรุงสต๊อคโฮล์มช่วยเสริมยุทธศาสตร์เส้นทางบินของสายการบินกาตาร์ในการให้บริการสู่เมืองสำคัญทั่วโลก “เรามีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่เป็นสายการบินแรกของกลุ่มประเทศอ่าว(อาหรับ) ที่บินสู่สต๊อคโฮล์ม ทำให้เราสามารถให้บริการแก่ตลาดแถบสแกนดิเนเวียนและแก่นักเดินทางจากตลาดของกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับไปยังประเทศในแถบสแกนดิเนเวียได้ทั้งสองทาง” อัลเบเกอร์กล่าว

“สต๊อคโฮล์มเป็นศูนย์กลางการพาณิชย์และธุรกิจที่สำคัญอย่างยิ่ง รวมทั้งยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ดังนั้นบริการใหม่ของเราจะเป็นการเชื่อมเส้นทางระหว่างสองเมืองที่มีความสำคัญของโลก”

สต๊อคโฮล์มจะเป็นจุดหมายปลายทางที่ 80 ของสายการบินกาตาร์ หนึ่งในสายการบินที่เติบโตรวดเร็วที่สุดของโลก ปัจจุบันให้บริการเที่ยวบินจากโดฮาสู่เมืองต่างๆ ทั่วยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา อเมริกาเหนือ อนุทวีปอินเดียและตะวันออกไกล ด้วยฝูงบินซึ่งเป็นเครื่องบินแอร์บัสทั้งหมด

อัลเบเกอร์กล่าวเสริมว่า “ด้วยเที่ยวบินที่เพิ่มมากขึ้น นักเดินทางจากทั่วโลกจะมีโอกาสใช้บริการอาคารผู้โดยสาร
“พรีเมียมเทอร์มินัล” ของสายการบินกาตาร์ที่สนามบินนานาชาติโดฮา ซึ่งสร้างขึ้นเป็นพิเศษสำหรับบริการผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสและบิสสิเนสคลาสโดยเฉพาะ อาคารดังกล่าวเพียบพร้อมด้วยบริการทั้งสปา จากุซซี่ ร้านค้าสินค้าปลอดภาษี ศูนย์ธุรกิจ และภัตตาคารอาหารชั้นเลิศ ถือเป็นอาคารผู้โดยสารเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกที่สร้างขึ้นสำหรับผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสและบิสเนสคลาสโดยเฉพาะ

ตารางเที่ยวบินกรุงเทพฯ–สต๊อคโฮล์ม:-

ออกจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ
วันจันทร์ เที่ยวบิน QR613 ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 07.50 น. ถึง สต๊อคโฮล์ม-อาร์ลันดา เวลา 18.00 น.
วันศุกร์ เที่ยวบิน QR613 ออกจากกรุงเทพฯเวลา 07.50 น. ถึง สต๊อคโฮล์ม-อาร์ลันดา เวลา 18.00 น.
เที่ยวบิน QR611 ออกจากกรุงเทพฯเวลา 19.20 น. ถึง สต๊อคโฮล์ม-อาร์ลันดา เวลา 07.05 น.
วันถัดไป
ออกจากสนามบินสต๊อคโฮล์ม-อาร์ลันดา
วันจันทร์ เที่ยวบิน QR090 ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 22.05 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 17.50 น.
วันอังคาร เที่ยวบิน QR092 ออกจากกรุงเทพฯเวลา 11.05 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 18.50 น.วันถัดไป
วันศุกร์ เที่ยวบิน QR090 ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 22.05 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 17.50 น.
วันเสาร์ เที่ยวบิน QR092 ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 11.05 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 18.50 น.วันถัดไป

ข้อมูลของสายการบินกาตาร์
สายการบินกาตาร์ เป็น 1 ใน 5 สายการบินที่ได้รับรางวัลให้เป็นสายการบินระดับ 5 ดาว ด้านการบริการยอดเยี่ยมจาก สกายแทร็กซ์ หน่วยงานตรวจสอบอิสระในอุตสาหกรรมการบินซึ่งได้รับการยอมรับทั่วโลก สกายแทร็กซ์ยังมอบรางวัลลูกเรือยอดเยี่ยมที่สุดในตะวันออกกลางเป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน และรางวัลสายการบินที่มีห้องโดยสารชั้นเฟิร์สคลาส
ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก จากการสำรวจจากผู้โดยสารกว่า 12 ล้านคนทั่วโลก ในช่วงปี 2549 -2550 สายการบิน

กาตาร์ได้ให้บริการแก่ผู้โดยสารกว่า 8 ล้านคนทั่วโลก หากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.qatarairways.com

ฝูงบินของสายการบินกาตาร์จะเพิ่มขนาดเป็น 2 เท่าหรือกว่า 110 ลำ ภายในปี 2558 โดยล่าสุดมีการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส A350 จำนวน 80 ลำ มูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท และโบอิ้ง 777 จำนวน 22 ลำ โดยมีกำหนดเริ่มรับมอบในเดือนพฤศจิกายน 2550 สายการบินเป็นลูกค้ารุ่นแรกของเครื่องบิน 2 ชั้น Airbus A380 รุ่น‘super jumbos’ ด้วยการสั่ง

เครื่องบิน 4 ลำ กำหนดเริ่มส่งมอบในปี 2552 ซึ่งตรงกับการเปิดตัวสนามบินนานาชาติโดฮาใหม่ หากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.ndiaproject.com

สายการบินกาตาร์แต่งตั้งผู้บริหาร
มร.อลัน ฉั่ว รับตำแหน่งผู้จัดการเขตประจำประเทศไทยและกัมพูชา

สายการบินกาตาร์ 1 ใน 5 สายการบินของโลก ที่ได้รับการจัดอันดับ 5 ดาว ด้านการบริการและความยอดเยี่ยมจากสกายแทร็กซ์ ประกาศแต่งตั้ง มร.อลัน ฉั่ว ขึ้นรับตำแหน่งผู้จัดการเขตประจำประเทศไทยและกัมพูชา

มร.อลัน ฉั่ว มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญการทำงานในแวดวงอุตสาหกรรมสายการบินมากว่า 20 ปี ในฐานะผู้จัดการเขต มร.อลันมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบภารกิจด้านการขาย การตลาดและการบริหารธุรกิจในไทยและกัมพูชาของสายการบินกาตาร์

ก่อนหน้านี้ มร.อลัน ฉั่ว เคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการเขตประจำประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 ก่อนจะมารับตำแหน่งในประเทศไทย ในปี 2550 นี้

ก่อนที่จะมาเข้าร่วมงานกับสายการบินกาตาร์นั้น มร.อลัน มีผลงานที่ได้รับการยอมรับในแวดวงธุรกิจสายการบิน มร.อลัน เคยร่วมงานกับสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ ตั้งแต่ปี 2527 โดยดำรงตำแหน่งผู้จัดการสาขาประจำประเทศต่างๆ ได้แก่ ตำแหน่งผู้จัดการสาขาฮ่องกง ลอสแองเจลิส ดาห์รานและอัมสเตอร์ดัม ก่อนจะย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้จัดการเขตประจำประเทศในแอฟริกาใต้และตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ในอียิปต์และอเมริกาเหนือ

มร.อลัน ฉั่ว กล่าวถึงตำแหน่งใหม่ล่าสุดที่ได้รับว่า “ผมรู้สึกยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสายการบินกาตาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสายการบินที่เติบโตเร็วที่สุด และผมยินดีที่จะได้แนะนำสายการบินระดับ 5 ดาว สู่ผู้โดยสารในประเทศไทย ซึ่งผมมั่นใจว่าจะได้นำประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมในการเดินทางมอบให้แก่ผู้โดยสารมากขึ้น”

มร.อลัน สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาจากมหาวิทยาลัยวินด์เซอร์ ออนทาริโอ ประเทศแคนาดา สมรสแล้ว มีบุตร-ธิดา รวม 2 คน อายุ 12 และ 13 ปี ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์

ข้อมูลของสายการบินกาตาร์
สายการบินกาตาร์ ปัจจุบันให้บริการด้วยฝูงบินแอร์บัสทั้งหมด 58 ลำ มีเครือข่ายเส้นทางบินนานาชาติทั้งหมด 78 เส้นทาง ครอบคลุมทั่วยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา อนุทวีปอินเดีย ตะวันออกไกล และอเมริกา โดยมีศูนย์กลางการบินอยู่ที่เมืองโดฮา รัฐกาตาร์ ฝูงบินของสายการบินกาตาร์จะเพิ่มขนาดเป็น 2 เท่า หรือกว่า110 ลำ ภายในปี 2558 โดยล่าสุดในมีการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส A350 จำนวน 80 ลำ และโบอิ้ง 777 จำนวน 22 ลำ โดยมีกำหนดเริ่มรับมอบในเดือนพฤศจิกายน 2550

สายการบินกาตาร์เพิ่งเปิดเส้นทางบินใหม่สู่เจนีวาและนิวยอร์กเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา และสู่วอชิงตันดีซีเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2550 ที่ผ่านมาเช่นกัน เส้นทางเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายเส้นทางบินตลอดปี 2550 ซึ่งก่อนหน้าที่ได้เปิดเส้นทางสู่ลากอส ดาร์เอสซาลาม เชนไน บาหลี โฮจิมินห์ซิตี้ไปแล้วเมื่อต้นปี

เส้นทางบินใหม่ของสายการบินกาตาร์ในปี 2550 รวมถึงเส้นทางสู่นาคปูร์ ในอินเดียตอนกลาง ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2550 เป็นต้นไป เที่ยวบินสู่สต๊อคโฮล์มเริ่ม 30 พฤศจิกายน ส่วนอาห์เมดาบัด (อินเดียตะวันตก) เริ่ม 12 ธันวาคม 2550

สายการบินกาตาร์เป็น 1 ใน 5 สายการบินของโลก ที่ได้รับการจัดอันดับ 5 ดาว ด้านการบริการและความยอดเยี่ยมจากสกายแทร็กซ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบอิสระที่ได้รับการยอมรับจากอุตสาหกรรมสายการบิน สกายแทร็กซ์ยังได้มอบรางวัลลูกเรือยอดเยี่ยมที่สุดในตะวันออกกลางเป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน รวมทั้งสายการบินที่มีห้องโดยสารชั้นเฟิร์สคลาสที่ดีที่สุดในโลกแก่สายการบินกาตาร์ หลังจากการสำรวจจากผู้โดยสารกว่า 12 ล้านคนทั่วโลก ระหว่างปีงบประมาณ 2006/07 สายการบินกาตาร์ให้บริการแก่ผู้โดยสารกว่า 8 ล้านคน ทั่วโลก หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ www.qayarairway.com

สายการบินยังเป็นลูกค้ารุ่นแรกของเครื่องบิน 2 ชั้น Airbus A380 รุ่น‘super jumbos’ ด้วยการสั่งเครื่องบิน 4 ลำ กำหนดเริ่มส่งมอบในปี 2552 ซึ่งตรงกับการเปิดตัวสนามบินนานาชาติโดฮาใหม่ หากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์
www.ndiaproject.com

สายการบินกาตาร์ประกาศขยายเส้นทางเพิ่มในประเทศอินเดีย โดยเพิ่มเส้นทางบินสู่เมืองนาคปูร์ และเมืองอาห์เมดาบัด ส่งผลให้มีการเพิ่มเครือข่ายการบินในอินเดียรวมทั้งสิ้น 8 เส้นทาง โดยในวันที่ 23 กันยายน จะเปิดให้บริการเที่ยวบินสู่เมืองนาคปูร์ 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และหลังจากนั้นอีกเพียง 3 เดือน จะเปิดให้บริการเที่ยวบินทุกวันจากโดฮาสู่เมืองอาห์เมดาบัด ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “แมนเชสเตอร์แห่งตะวันออก”

เมืองนาคปูร์ตั้งอยู่ในแคว้นมหาราษฎร์ นาคปูร์มีประชากรกว่า 2 ล้านคน เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางแหล่งปลูกส้ม บริษัทต่างชาติได้เริ่มให้ความสนใจกับเมืองนาคปูร์ในฐานะที่ประเทศอินเดียกำลังจะกลายเป็นแหล่งในการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่

สายการบินกาตาร์ จะเป็นเพียงสายการบินนานาชาติรายเดียวที่บินไปยังเมืองนาคปูร์ และหลังจากนั้นอีกเพียง 3 เดือน ส่ายการบินกาตาร์จะเปิดให้บริการเที่ยวบินทุกวันจากโดฮาสู่เมืองอาห์เมดาบัด ตั้งอยู่ในแคว้นกุจราฐซึ่งเป็นแคว้นทางตะวันตกของอินเดีย เมืองอาห์เมดาบัดเป็นเมืองที่ใหญ่สุดของแคว้นกุจราฐ และเป็นเมืองหลวง ศูนย์กลางแห่งการค้าพาณิชย์และวัฒนธรรม และเป็นแหล่งอุตสาหกรรมสิ่งทอที่เจริญยิ่ง จนได้รับการขนานนามว่า “แมนเชสเตอร์ตะวันออก” และเคยเป็นแนวหน้าในการเคลื่อนไหวเพื่ออิสรภาพของอินเดีย

เส้นทางใหม่ทั้งสองเส้นทาง จะบินด้วยเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A320 มีห้องโดยสาร 2 ระดับ ชั้นธุรกิจมี 12 ที่นั่ง และมี 132 ที่นั่งในชั้นประหยัด

ปัจจุบันสายการบินกาตาร์ ให้บริการเที่ยวบินทั้งหมด 42 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ สู่ 6 เมืองของอินเดีย โดยบินสัปดาห์ละ 7 เที่ยวบินไปยังเดลี มัมไบ เชนไน โคชิน ทรีวานดรัมและไฮเดอราบัด การเพิ่มเที่ยวบินไปยังเมืองนาคปูร์และเมืองอาเมห์ดาบัด ทำให้สายการบินกาตาร์มีเที่ยวบินทั้งสิ้น 51 เที่ยวบินครอบคลุม 8 เมือง ในประเทศอินเดีย

มร.อัคบาร์ อัล เบเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินกาตาร์ กล่าวว่า อินเดียเป็นประเทศที่สำคัญต่อกลยุทธ์การเติบโตของสายการบินกาตาร์ ซึ่งสะท้อนข้อเท็จจริงที่ว่า ปัจจุบันนี้สายการบินกาตาร์บินสู่จุดหมายปลายทางในอินเดีย มากกว่าประเทศอื่นๆ

“ผู้โดยสารของเรารอคอยอย่างใจจดใจจ่อมาหลายเดือนแล้ว สำหรับการเปิดเส้นทางใหม่ในเมืองนาคปูร์ ตอนนี้ผมมีความยินดีที่จะประกาศให้ทราบว่าในที่สุด เมืองนาคปูร์จะได้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางการบินนานาชาติของเรา เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนเป็นต้นไป ซึ่งเส้นทางบินสู่เมืองนาคปูร์นี้ เป็นเส้นทางที่เกิดขึ้นต่อจากเส้นทางมัมไบ ซึ่งเป็นเที่ยวบินรายวันที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง นาคปูร์จะเป็นประตูที่สองของสายการบินกาตาร์สู่แคว้นมหาราษฎร์ ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้โดยสารของเรา ”

นาคปูร์เป็นท้องที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรแห่งแคว้นมหาราษฎร์ ซึ่งเอื้อโอกาสอันดีอย่างมากในการประกอบธุรกิจ อีกทั้งเมืองนาคปูร์ยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่ใหญ่ที่สุด และได้มีการวางแผนสร้างเขตเศรษฐกิจใหม่และท่าอากาศยานในเมืองนี้

มร.อัคบาร์ กล่าวอีกว่า “เมืองอาห์เมดาบัด เป็นหนึ่งในศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย มีกิตติศัพท์เรื่องความสำคัญด้านการค้า การพาณิชย์และอุตสาหกรรม ทั้งเมืองนาคปูร์และเมืองอาห์เมดาบัดจะเป็นเมืองที่เชื่อมต่อที่ดีเยี่ยมจากตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป และสหรัฐอเมริกา”

มร.อัคบาร์ แสดงความขอบคุณนโยบายรัฐบาลของประเทศอินเดีย ที่ขยายอุตสาหกรรมการบินใหัมีการแข่งขันมากขึ้นทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งส่งผลดีต่อผู้โดยสาร อีกทั้งการขยายเส้นทางบินนี้ ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีของอินเดียและรัฐกาตาร์ที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งๆขึ้นไปอีกด้วย

ด้วยเศรษฐกิจที่เติบโตของอินเดีย อันจะนำไปสู่ศักยภาพในการพัฒนาไปสู่ระดับโลก สายการบินกาตาร์ได้สยายปีกการพัฒนาเศรษฐกิจโดยการเพิ่มการเชื่อมต่อระหว่างประเทศทั้งสอง ความสัมพันธ์ทางการค้าระดับทวิภีของอินเดียและรัฐกาตาร์มีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยหลักๆมาจากการส่งออกแก๊สธรรมชาติ (LNG) มูลค่าถึง 690 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากรัฐกาตาร์ไปยังอินเดีย

ปัจจุบันนี้สายการบินกาตาร์ บินโดยฝูงบินแอร์บัสทั้งหมด 58 ลำ มีเครือข่ายเส้นทางบินนานาชาติทั้งหมด 78 เส้นทาง ครอบคลุมทั่วยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา อนุทวีปอินเดีย ตะวันออกไกลและอเมริกา โดยมีศูนย์กลางการบินอยู่ที่เมืองโดฮา และไฮไลต์ของการขยายเส้นทางบินในปีนี้ คือการเปิดเส้นทางบินสู่มหานครนิวยอร์ก (เนวาร์ก)และกรุงวอชิงตันดีซี ซึ่งถือเป็นการบุกตลาดอเมริกาเหนือเป็นครั้งแรก

ด้วยเครือข่ายการบินนานาชาติที่เติบโตขึ้น ผู้โดยสารที่ใช้บริการของสายการบินกาตาร์และเดินทางจากโดฮาหรือแวะเปลี่ยนเครื่องที่โดฮา จะมีโอกาสดีมากขึ้นในการใช้บริการจากอาคารผู้โดยสาร “พรีเมียมเทอร์มินัล” ใหม่ ซึ่งสร้างขึ้นเป็นพิเศษสำหรับบริการผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสและบิสสิเนสคลาสโดยเฉพาะ

อาคารพรีเมียมเทอร์มินัลดังกล่าวเพียบพร้อมด้วยบริการทั้งสปา จากุซซี่ ร้านค้าสินค้าปลอดภาษี ศูนย์ธุรกิจ และภัตตาคารอาหารชั้นเลิศ โดยใช้งบประมาณในการสร้างทั้งสิ้น 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นอาคารผู้โดยสารเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกที่สร้างขึ้นสำหรับผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสและบิสเนสคลาสโดยเฉพาะ

ข้อมูลของสายการบินกาตาร์
สายการบินกาตาร์ เป็น 1 ใน 5 สายการบินที่ได้รับรางวัลให้เป็นสายการบินระดับ 5 ดาว ด้านการบริการจากสกายแทร็กซ์ และในเดือนกรกฎาคม 2550 สายการบินกาตาร์ได้รับการโหวตให้เป็นสายการบินที่มีห้องโดยสารชั้นเฟิร์สคลาสที่ดีที่สุดในโลก และยังได้รับรางวัลลูกเรือยอดเยี่ยมที่สุดในตะวันออกกลางเป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน และได้รับการโหวตให้เป็นสายการบินที่ดีที่สุดในตะวันออกกลาง

ในช่วงปี 2549 -2550 สายการบินกาตาร์ได้ให้บริการแก่ผู้โดยสารกว่า 8 ล้านคนทั่วโลก หากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.qatarairways.com

สายการบินกาตาร์ได้รับรางวัลพรีวิลเลจคลับและเมื่อเร็วๆนี้ได้รับ 8 รางวัลเฟรดดี้ อวอร์ด ซึ่งเป็นรางวัลทรงเกียรติที่มอบให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก หากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.qmiles.com

ฝูงบินของสายการบินกาตาร์จะเพิ่มขนาดเป็น 2 เท่าหรือกว่า 110 ลำ ภายในปี 2558 โดยล่าสุดมีการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส A350 จำนวน 80 ลำ มูลค่ากว่า 16,000 ล้านบาท และโบอิ้ง 777 จำนวน 22 ลำ โดยมีกำหนดเริ่มรับมอบในเดือนพฤศจิกายน 2550

สายการบินเป็นลูกค้ารุ่นแรกของเครื่องบิน 2 ชั้น Airbus A380 รุ่น‘super jumbos’ ด้วยการสั่งเครื่องบิน 4 ลำ กำหนดเริ่มส่งมอบในปี 2552 ซึ่งตรงกับการเปิดตัวสนามบินนานาชาติโดฮาใหม่ หากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.ndiaproject.com

จากภาพ :ในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้น ณ งานปารีส แอร์ โชว์ ที่เมือง เลอร์ บูเกร์ ประเทศฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2550 มร.อัคบาร์ อัล เบเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินกาตาร์ได้ประกาศยืนยันใบสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A350 รวมทั้งสิ้นจำนวน 80 ลำ มูลค่า 16,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมี มร.หลุยส์ แกลลัวร์ ประธานแอร์บัสเข้าร่วม

สายการบินกาตาร์ยืนยันใบสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A350 รวมทั้งสิ้นจำนวน 80 ลำ มูลค่า16,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งทำให้สายการบินการตาร์เป็นลูกค้ารายใหญ่สุดของเครื่องบินเชิงพาณิชย์รุ่นใหม่ของแอร์บัส ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่สุดของยุโรป นอกจากนี้สายการบินกาตาร์ยังได้เพิ่มยอดสั่งเครื่องบิน แอร์บัสรุ่น A380 จาก 2 ลำ เป็น 5 ลำ

ในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้น ณ งานปารีส แอร์ โชว์ ที่เมือง เลอร์ บูเกร์ ประเทศฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2550 มร.อัคบาร์ อัล เบเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินกาตาร์ได้ประกาศยืนยันใบสั่งซื้อเครื่องบินดังกล่าวในงานซึ่งมี มร.หลุยส์ แกลลัวร์ ประธานแอร์บัสเข้าร่วม

สำหรับการสั่งซื้อเครื่องบินรุ่น A350 นั้น เป็นการสั่งซื้อที่แทนแผนเดิมที่สายการบินกาตาร์เคยประกาศไปเมื่อ 2 ปีก่อนว่าจะซื้อแอร์บัส A350 จำนวน 60 ลำ แต่ในขณะนี้สายการบินกาตาร์ได้ตัดสินใจสั่งซื้อเครื่องบินที่ได้รับการออกแบบใหม่ ให้มีขนาดลำใหญ่เป็นพิเศษที่เรียกว่า “Extra Wide Body” ( XWB ) ซึ่งมีทั้งสิ้น 3 แบบ

ข้อตกลงของสายการบินกาตาร์ซึ่งประกาศในวันนี้ ประกอบด้วยการสั่งซื้อเครื่องบินรุ่น A350-800S จำนวน 20 ลำ รุ่น A350-900S จำนวน 40 ลำ และ A350-1000S จำนวน 20 ลำ ซึ่งเครื่องบินรุ่น A350-1000S เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีตัวเครื่องใหญ่พิเศษ ซึ่งสายการบินกาตาร์เป็นลูกค้ากลุ่มแรกของ A350-1000XWB

เครื่องบินแอร์บัสรุ่น A350-XWB มีจำนวนที่นั่ง 260 – 350 ที่นั่ง แตกต่างกันในแต่ละแบบ โดยจะเป็นเครื่องบินที่นั่ง 2 แบบ (two-class configuration) และจะให้บริการในเส้นทางหลักๆ ครอบคลุม ยุโรป แอฟริกา ตะวันออกไกล และอนุทวีปอินเดีย

กำหนดส่งมอบเครื่องบินในเดือนสิงหาคม ปี 2556 และจะค่อยๆทะยอยนำมาแทนที่เครื่องบินรุ่น A330S ซึ่งใช้เป็นหลักในฝูงบินของสายการบินกาตาร์ในปัจจุบัน

มร. อัคบาร์ อัล เบเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบิน กล่าวถึงการเจรจากับแอร์บัสถึงดีไซน์ของ A350-XWB ในงานแถลงข่าวว่า “สัญญาอันยาวนานฉบับนี้แสดงให้เห็นถึงความจริงจังของสายการบินต่อเครื่องบินรุ่นใหม่นี้”

“ใบสั่งซื้อ A350-XWB นี้ประกอบด้วยเครื่องทั้งหมด 3 แบบ ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นของสายการบินกาตาร์ที่มีให้กับความสามารถในการผลิตของแอร์บัสถึงการผลิตเครื่องบินแบบสองเครื่องยนต์ลำตัวกว้างรุ่นใหม่ ซึ่งมีความโดดเด่นและพร้อมนำมาให้บริการได้ในปี 2556 ทั้งนี้สายการบินกาตาร์มีความสัมพันธ์อันดีและจะยังร่วมงานกับแอร์บัสและโรลซ์รอยซ์ ในการนิยามและวางแผนการผลิตเครื่องบินรุ่นต่างๆ ต่อไป”

สายการบินกาตาร์เป็นสายการบินที่ให้บริการด้วยเครื่องแอร์บัสใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง ปัจจุบันนี้ให้บริการเที่ยวบินด้วยเครื่องบินจากแอร์บัสจำนวนถึง 58 ลำ ได้แก่รุ่น A319S, A320S, A330 Sและ A340S สายการบินกาตาร์ยังเป็นลูกค้ากลุ่มแรกที่สั่งซื้อเครื่องบินสองชั้น แอร์บัส A380 รุ่น “super jumbos” ซึ่งขณะนี้ได้สั่งซื้อเพิ่มขึ้นรวมเป็น 5 ลำแล้ว และจะมีการส่งมอบในต้นปี 2553

สายการบินกาตาร์มีศูนย์การบินที่โดฮา เป็น 1 ในสายการบินที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกซึ่งให้บริการเที่ยวบินจากโดฮาสู่เส้นต่างๆกว่า 75 เส้นทาง ครอบคลุมทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา อนุทวีปอินเดีย และตะวันออกไกล

ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายนเป็นต้นไป สายการบินกาตาร์จะเริ่มให้บริการในทวีปอเมริกาเหนือ โดยมีเที่ยวบินตรงสู่กรุงนิวยอร์กจากโดฮา 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เส้นทางบินใหม่ซึ่งจะให้บริการผ่านกรุงเจนีวานี้จะถึงสนามบินนานาชาติเนวาร์คลิเบอร์ตี้ ซึ่งสายการบินกาตาร์เป็นสายการบินในตะวันออกกลางรายแรกที่ให้บริการเที่ยวบินสู่สนามบินในย่านนิวยอร์ก

และหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ สายการบินกาตาร์จะเริ่มให้บริการเที่ยวบินเชื่อมเมืองหลวงของกาตาร์กับสหรัฐอเมริกา ในเส้นทางบินแบบไม่หยุดพักระหว่างโดฮาสู่วอชิงตันดีซี ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฏาคม 2550 ถึงสนามบินนานาชาติดัลเลสในวอชิงตันดีซี

ข้อมูลของสายการบินกาตาร์
สายการบินกาตาร์ เป็น 1 ใน 4 สายการบินของโลกที่ได้รับรางวัลระดับ 5 ดาวด้านการบริการจากสกายแทร็กซ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบอิสระที่ได้รับการยอมรับของอุตสาหกรรมการบิน นอกจากนี้ ยังได้มอบรางวัลลูกเรือยอดเยี่ยมที่สุดในตะวันออกกลางเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน และเป็นอันดับ 2 ของโลก จากการสำรวจจากผู้โดยสารกว่า 12 ล้านคนทั่วโลก

สายการบินกาตาร์มีการเติบโตเฉลี่ย 35% ต่อปี โดยให้บริการแก่ผู้โดยสารกว่า 8 ล้านคน ในปีงบประมาณ 2006/2007

สายการบินกาตาร์เปิดจองตั๋วและชำระเงินผ่านอินเตอร์เน็ตทั่วโลก ล่าสุดมอบโปรโมชั่นพิเศษแก่ผู้โดยสารชั้นบิสเนสคลาส บินทั่วยุโรปในราคาไม่เกิน 55,999 บาท ในขณะที่ชั้นประหยัดไป-กลับ กรุงเทพฯ-ลอนดอนราคาตั้งแต่ 19,999 บาท ลูกค้าที่สนใจสามารถจองตั๋วและชำระเงินออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ครบวงจรผ่าน www.qatarairways.com ด่วนภายใน 15 มิถุนายน 2550 นี้

สายการบินกาตาร์เพิ่มความสะดวกสบายในการจองตั๋วแก่ผู้โดยสารกับการจองตั๋วแบบออนไลน์ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้โดยสารทั่วโลกสามารถจองและชำระเงินจากที่ใดก็ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยผู้โดยสารสามารถเลือกอัตราค่าโดยสารที่ถูกที่สุดได้ ซึ่งมีตัวเลือกของช่วงเวลาและเที่ยวบินที่หลากหลายให้เลือก และชำระเงินผ่านบัตรเครดิตพร้อมสามารถเลือกรับการยืนยันการจองผ่านทางอีเมล์ของหรือเลือกรับตั๋วตัวจริงได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ

มร.โรฮาน เสนีวิรัตน์ ผู้จัดการเขตประจำประเทศไทยและกัมพูชากล่าวว่า “เพื่อฉลองการเปิดตัวบริการจองตั๋วและชำระเงินออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของเรา สายการบินขอมอบโปรโมชั่นพิเศษตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ชั้นประหยัด ในเส้นทางกรุงเทพฯ-ดูไบ ในราคาตั้งแต่ 9,999 บาท กรุงเทพฯ-ลอนดอนในราคาตั้งแต่ 19,999 บาท และกรุงเทพฯ –เคปทาวน์ในราคาตั้งแต่ 21,999 บาทให้ผู้โดยสารให้เลือกใช้บริการ” ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถจองโปรโมชั่นดังกล่าวนี้ ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 มิถุนายน และเดินทางภายใน 30 มิถุนายน 2550 นี้

นอกจากนี้ ผู้โดยสารที่เป็นสมาชิกของ Qatar Airways’ Privilege Club จะได้รับคะแนนสะสมไมล์เพิ่มขึ้นทันทีถึง 500 ไมล์ หากจองผ่านอินเตอร์เน็ต

ด้วยความมุ่งมั่นในการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารทุกท่านผ่านทางอินเตอร์เน็ต ในปีนี้นี้สายการบินจะเปิดการบริการใหม่อีกมากมายผ่านทางเว็บไซต์ พร้อมทั้งปรับโฉมใหม่ของเว็บไซต์อีกด้วย

มร. อัคบาร์ อัล เบเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินกาตาร์กล่าวว่า สายการบินมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างคาดไม่ถึง สายการบินจึงมีความพยายามที่จะยกระดับความสะดวกสบายในการจองบัตรโดยสารให้แก่ลูกค้าทุกท่าน

“สายการบินกาตาร์มีความมุ่งมั่นในการยกระดับการบริการทางด้านอีคอมเมิร์ซเพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการดำเนินธุรกิจของเรา ขณะที่ธุรกิจของเราเติบโตขึ้นซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงเกินคาดหมาย เราไม่เคยลืมที่จะให้ความสำคัญต่อการปรับปรุงกระบวนการต่างๆให้ง่ายขึ้นสำหรับผู้โดยสารของเรา และการให้บริการการจองบัตรโดยสารผ่านทางอินเตอร์เน็ตนี้แน่นอนว่าจะทำให้กระบวนการในการจองตั๋วสำหรับผู้โดยสารทุกท่านง่ายขึ้น”

สายการบินกาตาร์ถือเป็นหนึ่งในสายการบินที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกซึ่งให้บริการเที่ยวบินจากโดฮาสู่เส้นต่างๆกว่า 75 เส้นทางครอบคลุมทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา อนุทวีปอินดียและตะวันออกไกลด้วยเครื่องบินรุ่นใหม่จาก Airbus กว่า 57 ลำ

ด้วยการเติบโตของเครือข่ายการบินระหว่างประเทศ มร.อัล เบเกอร์กล่าวว่าจะมีนักท่องเที่ยวอีกจำนวนมากที่จะได้มีโอกาสใช้บริการระดับพรีเมียมของเทอร์มินัลใหม่ของสายการบินกาตาร์ที่สนามบินนานาชาติโดฮา ซึ่งจัดไว้สำหรับผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสและชั้นธุรกิจโดยเฉพาะ

เทอร์มินัลระดับพรีเมียมนี้ประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการที่เพียบพร้อมมากมายอาทิ สปา จากุซซี่ ร้านค้าปลอดภาษี ศูนย์บริการธุรกิจและภัตตราคารชั้นเลิศ ซึ่งใช้เวลาสร้างทั้งหมดเพียง 9 เดือนเท่านั้น โดยเทอร์มินัลนี้ถือเป็นอาคารผู้โดยสารเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกที่ถูกสร้างขึ้นสำหรับผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสและชั้นธุรกิจโดยเฉพาะ

ข้อมูลของสายการบินกาตาร์
สายการบินกาตาร์ เป็น 1 ใน 4 สายการบินที่ได้รับรางวัลให้เป็นสายการบินระดับ 5 ดาวด้านการบริการจากสกายแทร็กซ์ และยังได้รับรางวัลลูกเรือยอดเยี่ยมที่สุดในตะวันออกกลางเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน และเป็นอันดับ 2 ของโลก จากการสำรวจจากผู้โดยสารกว่า 12 ล้านคนทั่วโลก

สายการบินกาตาร์วางแผนซื้อเครื่องบินแอร์บัส A350 จำนวน 80 ลำ และโบอิ้ง 777 จำนวน 22 ลำ โดยมีกำหนดเริ่มรับมอบในเดือนพฤศจิกายน 2550

สายการบินเป็นลูกค้ารุ่นแรกของเครื่องบิน 2 ชั้น Airbus A380 รุ่น‘super jumbos’ ด้วยการสั่งเครื่องบิน 4 ลำ กำหนดเริ่มส่งมอบในปี 2552 ซึ่งตรงกับการเปิดตัวสนามบินนานาชาติโดฮาใหม่ หากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.ndiaproject.com

สายการบินกาตาร์เตรียมพร้อมเหินฟ้าสู่สหรัฐอเมริกา ประกาศฤกษ์เที่ยวบินนิวยอร์ก 28 มิถุนายน และวอชิงตันดีซี 19 กรกฎาคม 2550 นี้ ล่าสุดนำสัญลักษณ์เทพีสันติภาพ เอลวิส เพรสลีย์ และมาริลิน มอนโร ร่วมสร้างสีสันโปรโมทเส้นทางบินใหม่นี้ในงานตลาดท่องเที่ยวอาราเบียน (ATM) ที่ดูไบ ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

งานตลาดการท่องเที่ยวอาราเบียน หรือ Arabian Travel Market (ATM) จัดขึ้น ณ ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติดูไบ ถือเป็นงานด้านการท่องเที่ยวเก่าแก่ที่สุดในตะวันออกกลาง ดึงดูดผู้เข้าชมงานจากทั่วอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งในภูมิภาคและจากทั่วโลกเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้ สายการบินกาตาร์ได้เข้าร่วมงานและจัดบูธตกแต่งบรรยากาศเน้นแสดงออกถึงความเป็นอเมริกัน โดยมีนักแสดงแต่งกายเป็นเทพีสันติภาพ เอลวิส เพรสลีย์ และมาริลีน มอนโร พร้อมทีมเชียร์ลีดเดอร์ปอม-ปอมร่วมสร้างสีสันความบันเทิงดึงดูดผู้ร่วมชมงานอย่างคับคั่ง

สายการบินกาตาร์ยังได้เริ่มเปิดตัวแคมเปญสื่อเพื่อโปรโมทเส้นทางใหม่ โดยจะใช้สัญลักษณ์เทพีสันติภาพในแคมเปญดังกล่าวเพื่อสื่อถึงการบินสู่กรุงนิวยอร์กจากโดฮา 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน และเส้นทางบินระหว่างโดฮาสู่วอชิงตันดีซี ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฏาคม 2550 โดยโปรโมทผ่านสื่อภาษาอังกฤษและภาษาอาราบิกในอ่าวอาหรับ มุ่งเน้นตลาดสำคัญสำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางสู่อเมริกา รวมทั้งกาตาร์ คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย โอมาน และบาห์เรน

มร. อัคบาร์ อัล เบเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินกาตาร์ได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับ 2 เส้นทางที่สำคัญซึ่งจะทำการเปิดตัวในปีนี้ กล่าวว่า“พวกเราตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้ขยายสู่ตลาดอเมริกาในฤดูร้อนนี้ด้วยการเปิดตัวเที่ยวบินจากโดฮาสู่นิวยอร์กและวอชิงตัน ดีซี”

สำหรับบูธของสายการบินกาตาร์ในงาน ATM นี้ นอกจากสุดยอดความบันเทิงในรูปแบบอเมริกัน ผู้เข้าชมจะได้มีโอกาสสัมผัส First Class Lounge ซึ่งปัจจุบันพร้อมให้บริการบนเครื่อง Airbus A340 ในเส้นทางที่สำคัญๆ รวมถึงเส้นทางสู่วอชิงตัน ดีซีที่สายการบินจะทำการเปิดตัวในเร็วๆนี้

มร. อัล เบเกอร์ ยังได้กล่าวเสริมว่า “แคมเปญเส้นทางสู่อเมริกาที่กล่าวถึงความพร้อมของเราในการก้าวสู่ตลาดอเมริกาในฤดูร้อนนี้ได้ถูกเผยแพร่ไปตามสื่อที่สำคัญต่างๆทั่วอ่าวอาหรับ สายการบินมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถมีโอกาสขยายการบริการระดับ 5 ดาวของเราสู่อีกภูมิภาคหนึ่ง”

ปัจจุบันสายการบินกาตาร์ให้บริการด้วยเครื่องบิน Airbus ทั้งหมด 57 ลำสู่ 75 เส้นทางทั่วทั้งยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกัน ตะวันออกไกล และอนุทวีปอินเดีย

ด้วยการเติบโตของเครือข่ายการบินระหว่างประเทศทำให้นักท่องเที่ยวอีกจำนวนมากมีโอกาสใช้บริการระดับพรีเมียมของเทอร์มินัลใหม่ของสายการบินกาตาร์ที่สนามบินนานาชาติโดฮา ซึ่งจัดไว้สำหรับผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสและชั้นธุรกิจโดยเฉพาะ

เทอร์มินัลระดับพรีเมียมมูลค่ากว่า 90 ล้านเหรียญสหรัฐนี้ประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการที่เพียบพร้อมมากมายอาทิ สปา จากุซซี่ ร้านค้าปลอดภาษี ศูนย์บริการธุรกิจและภัตตราคารชั้นเลิศ ซึ่งใช้เวลาสร้างทั้งหมดเพียง 9 เดือนเท่านั้น โดยเทอร์มินัลนี้ถือเป็นอาคารผู้โดยสารเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกที่ถูกสร้างขึ้นสำหรับผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสและชั้นธุรกิจโดยเฉพาะ

ข้อมูลของสายการบินกาตาร์
สายการบินกาตาร์ เป็น 1 ใน 4 สายการบินที่ได้รับรางวัลให้เป็นสายการบินระดับ 5 ดาวด้านการบริการจากสกายแทร็กซ์ และยังได้รับรางวัลลูกเรือยอดเยี่ยมที่สุดในตะวันออกกลางเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน และเป็นอันดับ 2 ของโลก จากการสำรวจจากผู้โดยสารกว่า 12 ล้านคนทั่วโลก

สายการบินกาตาร์วางแผนซื้อเครื่องบินแอร์บัส A350 จำนวน 80 ลำ และโบอิ้ง 777 จำนวน 22 ลำ โดยมีกำหนดเริ่มรับมอบในเดือนพฤศจิกายน 2550

สายการบินเป็นลูกค้ารุ่นแรกของเครื่องบิน 2 ชั้น Airbus A380 รุ่น‘super jumbos’ ด้วยการสั่งเครื่องบิน 4 ลำ กำหนดเริ่มส่งมอบในปี 2552 ซึ่งตรงกับการเปิดตัวสนามบินนานาชาติโดฮาใหม่ หากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.ndiaproject.com

จากภาพ :มร. อาลี อัลราอิส ผู้จัดการทั่วไปด้านการค้าของสายการบินกาตาร์ ขึ้นรับรางวัลสุดยอดสายการบินแห่งตะวันออกกลางและแอฟริกา ณ งานมอบรางวัลประจำปี งานการท่องเที่ยวแห่งตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA) ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศดูไบ

อีกครั้งกับการพิสูจน์ความเป็นเลิศของสายการบินกาตาร์ ด้วยการเข้ารับรางวัลสายการบินยอดเยี่ยมแห่งตะวันออกกลางและแอฟริกาเป็นปีที่สอง ณ งานการท่องเที่ยวแห่งตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA) ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศดูไบเร็วๆนี้

มร. อาลี อัลราอิส ผู้จัดการทั่วไปด้านการค้าของสายการบินกาตาร์เป็นตัวแทนสายการบินเข้ารับรางวัลซึ่งจัดขึ้นอย่างงดงาม ณ โรงแรม อัล บัสแทน โรทานา เมืองดูไบ พร้อมกันนี้กาตาร์ยังได้รับรางวัลร้านค้าปลอดภาษียอดเยี่ยมแห่งภูมิภาคโดยมี มร.คริชนา คูมาริ ผู้จัดการทั่วไปร้านค้าปลอดภาษีแห่งกาตาร์เป็นตัวแทนขึ้นรับรางวัล

นอกจากนี้ การท่องเที่ยวแห่งกาตาร์ยังได้รับรางวัลคณะกรรมการการท่องเที่ยวยอดเยี่ยมแห่งภูมิภาคด้วยเช่นกัน โดยในงานมอบรางวัลดังกล่าวประกอบไปด้วยแขกผู้มีเกียรติและตัวแทนจากหลากหลายหน่วยงานที่สำคัญในธุรกิจการท่องเที่ยวเช่น สายการบิน โรงแรม บรัษัทรถเช่า รวมทั้ง ตัวแทนและบริษัททัวร์ต่างๆมากมาย

มร. อัคบาร์ อัล เบเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินกาตาร์ กล่าวด้วยความปลาบปลื้มต่อรางวัลที่ได้รับว่ารางวัลนี้ถือเป็นอีกแรงขับเคลื่อนหนึ่งของสายการบินก่อนการเปิดตัวเที่ยวบินใหม่สู่สหรัฐอเมริกาในฤดูร้อนนี้

“เราได้รับรางวัลนี้ในช่วงเวลาที่สายการบินกำลังมีการขยายที่สำคัญ คือการก้าวเข้าสู่ตลาดอเมริกาด้วยเที่ยวบินสู่กรุงนิวยอร์กในวันที่ 28 มิถุนายน และวอชิงตัน ดีซี ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้” มร. อัคบาร์ อัล เบเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินกาตาร์และร้านค้าปลอดภาษี กล่าว

“พร้อมด้วยเที่ยวบินสู่เจนีวา และสต็อกโฮล์มในปีนี้ รางวัลนี้ได้ช่วยสนับสนุนความตั้งใจของเราในการเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้โดยสารในภูมิภาค หรือแม้แต่ทั่วโลก”

“ผมรู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างยิ่งที่ในปีนี้ทั้งการท่องเที่ยวกาตาร์และร้านค้าปลอดภาษีกาตาร์ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งกาตาร์นั้นได้สร้างความเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่ต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาค”

มร.คริชนา คูมาริ ผู้จัดการทั่วไปร้านค้าปลอดภาษีแห่งกาตาร์เป็นตัวแทนขึ้นรับรางวัลร้านค้าปลอดภาษียอดเยี่ยมในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ

มร. อาลี อาลี ราอีส กล่าวเสริมว่า “การได้รับรางวัลนี้ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สำหรับสายการบินซึ่งทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อจุดมุ่งหมายในการเป็นหนึ่งในสายการบินที่ดีที่สุดในโลกของเรา ทั้งการรักษาความสำเร็จของเราสู่ปีที่สองนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการรักษาความเป็นผู้นำของสายการบินนานาชาติของเราอีกด้วย”

“สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของสายการบินกาตาร์ในการยกระดับด้านการบินและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้เกิดการแข่งขันที่สูงขึ้นในภูมิภาคต่อไป”

พร้อมกันนี้สายการบินกาตาร์ยังได้สร้างความประทับใจอย่างมากแก่ผู้เข้าร่วมงานตลาดการท่องเที่ยวอาราเบียน (ATM) ซึ่งจัดขึ้น ณ ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติดูไบ ซึ่งถือเป็นงานด้านการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค

ในงานนี้สายการบินได้เปิดตัวเที่ยวบินใหม่สู่สหรัฐอเมริกาซึ่งได้แก่ เส้นทางสู่มหานครนิวยอร์กและวอชิงตัน ดีซี โดยตกแต่งบูธในรูปแบบอเมริกัน ซึ่งการขยายเส้นทางนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายเส้นทางของสายการบินในปี 2550

ในต้นปีที่ผ่านมานี้สายการบินกาตาร์ได้ประกาศการขยายเส้นทางอันยิ่งใหญ่ ซึ่งรวมถึงการเปิดตัว 9 เส้นทางใหม่ในปี 2550

เส้นทางใหม่ของสายการบินกาตาร์ในปี 2550-

• ลากอส 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
• ดาร์ เอส ซาลาม ทุกวัน
• เชนไน ทุกวัน
• บาหลี 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
• โฮจิมินห์ซิตี้ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
• เจนีวา 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2550
• นิวยอร์ก 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2550
• วอชิงตัน ทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2550
• กรุงสตอกโฮล์ม 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป

ข้อมูลของสายการบินกาตาร์
สายการบินกาตาร์ เป็น 1 ใน 4 สายการบินที่ได้รับรางวัลให้เป็นสายการบินระดับ 5 ดาวด้านการบริการจากสกายแทร็กซ์ และยังได้รับรางวัลลูกเรือยอดเยี่ยมที่สุดในตะวันออกกลางเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน และเป็นอันดับ 2 ของโลก จากการสำรวจจากผู้โดยสารกว่า 12 ล้านคนทั่วโลก

สายการบินกาตาร์วางแผนซื้อเครื่องบินแอร์บัส A350 จำนวน 80 ลำ และโบอิ้ง 777 จำนวน 22 ลำ โดยมีกำหนดเริ่มรับมอบในเดือนพฤศจิกายน 2550

สายการบินเป็นลูกค้ารุ่นแรกของเครื่องบิน 2 ชั้น Airbus A380 รุ่น‘super jumbos’ ด้วยการสั่งเครื่องบิน 4 ลำ กำหนดเริ่มส่งมอบในปี 2552 ซึ่งตรงกับการเปิดตัวสนามบินนานาชาติโดฮาใหม่ หากท่านต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.ndiaproject.com