ออสการ์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 10 Feb 2020 05:43:18 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ไม่พลิกโผ! Parasite สร้างประวัติศาสตร์ คว้าภาพยนตร์ยอดเยี่ยมออสการ์ https://positioningmag.com/1263768 Mon, 10 Feb 2020 05:10:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1263768 Parasite กลายเป็นหนังที่ไม่ใช่หนังภาษาอังกฤษเรื่องแรก ที่คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ได้สำเร็จ โดยหนังเกาหลีเรื่องดังแห่งปียังคว้ารางวัลสำคัญ ไปถึงรวมถึง 4 สาขา

บองจุนโฮ คว้ารางวัลใหญ่บนเวที ออสการ์ อย่างสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมโดย Parasite หนังดังแห่งปีจากเกาหลี ยังคว้าออสการ์ไปแล้วรวมถึง 3 สาขา ทั้งบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และหนังนานาชาติยอดเยี่ยมด้วย ขณะที่ วาคีน ฟีนิกซ์ ก็คว้ารางวัลสาขานักแสดงนำชายไปตามคาด

ไฮไลต์อีกอย่างของออสการ์ปีนี้ก็น่าจะเป็นการคว้ารางวัลของยอดฝีมืออย่าง วาคีน ฟีนิกซ์ จาก Joker ในบทที่ถูกพูดถึงมาตลอดทั้งปี และยังทำให้เขาเป็นโจกเกอร์ คนที่ 2 คว้ารางวัลนี้ได้สำเร็จ หลัง ฮีธ เล็ดเจอร์ ผู้ล่วงลับก็เคยได้รับรางวัลออสการ์จากบทวายร้ายในหนัง แบทแมน มาแล้ว

ฟีนิกซ์ เป็นตัวเต็งรางวัลออสการ์มาตั้งแต่ต้น และสุดท้ายก็คว้ารางวัลไปตามคาด เช่นเดียวกับ เรเน เซลเวเกอร์ ที่ทุกฝ่ายฟันธงล่วงหน้ากันมาหลายเดือน ว่าเธอน่าจะได้ออสการ์เป็นตัวที่ 2 จากการเปลี่ยนตัวเองเป็น จูดี การ์แลนด์ ได้อย่างน่าทึ่งใน Judy และสุดท้าย เซลเวเกอร์ ก็คว้ารางวัลได้จริง ๆ

นอกจากนั้นนักแสดงคนดังอย่าง แบรด พิตต์ ก็ยังคว้ารางวัลออสการ์สาขาการแสดงได้เป็นครั้งแรกในชีวิตจากบทสตั้นแมนในหนังที่เล่าเรื่องราวของเมืองแห่งวงการภาพยนตร์ Once Upon a Time… in Hollywood

ก่อนหน้านี้ แบรด พิตต์ วัย 56 ปี เคยได้รับรางวัลจากการร่วมสร้าง 12 Years a Slave ที่คว้ารางวัลสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับรางวัลในฐานะนักแสดง ส่วนรางวัลนักแสดงสมทบหญิงตกเป็นของ ลอรา เดิร์น จาก Marriage Story ที่กวาดรางวัลมาแล้วแทบจะทุกสถาบัน โดยนักแสดงที่แฟน ๆ น่าจะคุ้นเคยเธอกันมาจากหนังดังอย่าง Jurassic Park เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของดาราฮอลลีวูดอย่าง บรูซ เดิร์น และ ไดแอน แลต ซึ่งเธอก็กล่าวบนเวทีว่าพ่อแม่นี่แหละคือฮีโร่ที่ทำให้เธอเลือกที่จะเป็นนักแสดง

บางคนอาจจะกล่าวว่าเราไม่เคยไปเจอฮีโร่ของตัวเอง แต่สำหรับฉันแล้วโชคดีจริง ที่ฮีโร่ก็คือพ่อกับแม่นั่นเอง ฉันขอแบ่งปันรางวัลนี้ให้กับฮีโร่ทางการแสดงของตัวฉันเอง ไดแอน แลด และ บรูซ เดิร์น ด้วยค่ะ เดิร์น กล่าว

ขณะที่หนังตัวเต็งอย่าง Parasite ก็คว้ารางวัลสำคัญอย่างบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมไปได้สำเร็จ นอกจากนั้นก็ยังได้รับรางวัลหนังนานาชาติไปครองด้วย ถือว่าเป็นหนังเกาหลีที่คว้ารางวัลนี้ได้ และยังเป็นหนังเกาหลีเรื่องแรกที่ได้รางวัลออสการ์ด้วย

นอกจากนั้น Toy Story 4 ก็ยังได้รับรางวัลภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยม

งานมอบรางวัลออสการ์ครั้งที่ 92 ยังคงจัดงานโดยไม่มีพิธีกรหลักดำเนินรายการแบบที่ทำมาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งปีก่อน เควิน ฮาร์ท ต้องถอนตัวไปเพราะเรื่องฉาวเกี่ยวกับการโพสต์ Twitter ในอดีต แต่สุดท้ายกลับให้งานออกมาลื่นไหล และกระชับกว่าครั้งก่อน จนปีนี้ผู้จัดงานจึงเลือกที่จะดำเนินขั้นตอนต่าง ๆ ไปโดยไม่มีพิธีกรอีกครั้ง และให้ดาราสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นมาดำเนินรายการไปเรื่อย ๆ

ออสการ์ปีนี้ยังเต็มไปด้วยบรรยากาศทางการเมือง คนดังหลายคนกล่าวเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมทางเพศในวงการภาพยนตร์ ขณะที่อีกหลายคนก็แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องการเมือง รวมถึง แบรด พิตต์ ที่พูดระหว่างรับรางวัลสมทบชายว่าเขาบอกว่าผมมีเวลาพูด 45 วินาทีเท่านั้น ซึ่ง 45 วินาทีก็ถือว่ามากกว่าที่วุฒิสมาชิกให้เวลา จอห์น โบลตัน พูดในสัปดาห์นี้แล้วพิตต์ อ้างถึงขั้นตอนการถอดถอนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ วุฒิสมาชิก ไม่ยอมเรียกอดีตที่ปรึกษาของประธานาธิบดีมาให้ปากคำ

สรุปรางวัลออสการ์ 2020

ผู้กำกับ : บองจุนโฮ (Parasite)

นักแสดงสมทบชาย : แบรด พิตต์ (Once Upon a Time… in Hollywood)

นักแสดงสมทบหญิง : ลอรา เดิร์น (Marriage Story)

บทดั้งเดิม : บองจุนโฮ, จินวอนฮาน (Parasite)

บทภาพยนตร์ดัดแปลง : โทก้า ไวติติ (Jojo Rabbit)

ออกแบบงานสร้าง : บาบารา ลิง, แนนซี ไฮจ์ (Once Upon a Time… in Hollywood)

ออกแบบเครื่องแต่งกาย : แจ็คเกอร์ลีน ดูร์แรน (Little Women)

ผสมเสียง : มาร์ค เทย์เลอร์, สจ๊วร์ต วิลสัน (1917)

ตัดต่อเสียง : ดอนัลด์ ซิลเวสเตอร์ (Ford v Ferrari)

ภาพยนตร์อนิเมชั่น : Toy Story 4

อนิเมชั่นขนาดสั้น : Hair Love

สารคดีสั้น : Learning to Skateboard in a Warzone (If You’re a Girl)

Source

]]>
1263768
จากคนเคยถูกกีดกัน ปีนี้ Netflix แซงทุกสตูดิโอหนัง เข้าชิง “ออสการ์” มากที่สุด 24 รางวัล https://positioningmag.com/1260525 Tue, 14 Jan 2020 12:21:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1260525
  • ภาพยนตร์จากสตูดิโอ Netflix เริ่มได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัล ออสการ์ เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2014 โดยปีนั้นหนังที่ได้เข้าชิงคือ The Square ในหมวดสารคดียอดเยี่ยม
  • 6 ปีผ่านไป Netflix ได้เข้าชิงออสการ์ปี 2020 รวมถึง 24 รางวัล มากกว่าสตูดิโอระบบดั้งเดิมทุกบริษัท
  • ก่อนหน้านี้ Netflix เคยถูกกีดกันไม่ให้เข้าชิงออสการ์ กระบอกเสียงหลักของเรื่องนี้คือ “Steven Spielberg” โดยให้เหตุผลว่าหนัง Netflix ถูกสร้างมาเพื่อฉายในโทรทัศน์ไม่ใช่จอกว้างแบบโรงภาพยนตร์
  • วันที่ 13 มกราคม 2020 เวที ออสการ์ ประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลทุกหมวด โดย Netflix แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชื่อดังและเป็นสตูดิโอจัดสร้างภาพยนตร์เองด้วย ได้รับการเสนอเข้าชิงรวม 24 รายการ มากกว่าสตูดิโอดั้งเดิมอื่นๆ ทุกบริษัท

    ปีนี้หนัง Netflix ที่โดดเด่นที่สุดคือภาพยนตร์มาเฟีย “The Irishman” จากฝีมือผู้กำกับมือเก๋า Martin Scorsese เข้าชิงไปถึง 10 รางวัล และภาพยนตร์ดราม่า “Marriage Story” กำกับโดย Noah Baumbach ที่เข้าชิง 6 รางวัล

    Marriage Story (2019) ภาพยนตร์ Netflix ที่เข้าชิงออสการ์ 6 รางวัล ในปี 2020 (photo: Netflix)

    Netflix นั้นได้เข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2014 โดยครั้งนั้นภาพยนตร์เรื่อง The Square ได้เข้าชิงในหมวดสารคดียอดเยี่ยม (Best Documentary) หลังจากนั้นสตูดิโอสตรีมมิ่งนี้ได้รับเลือกเข้าชิงออสการ์อย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่ชนะรางวัลใดจนกระทั่งปี 2017 ที่ภาพยนตร์เรื่อง The White Helmets ชนะรางวัลสารคดีสั้นยอดเยี่ยม (Best Documentary Short Subject) ต่อด้วยปี 2018 ภาพยนตร์เรื่อง Icarus ชนะรางวัลสารคดียอดเยี่ยม (Best Documentary)

    จากนั้นมาในปี 2019 ภาพยนตร์เรื่อง Roma ของ Alfonso Cuaron กวาดไป 3 รางวัลใหญ่ ในหมวดผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Director) หมวดกำกับภาพยอดเยี่ยม (Best Cinematography) และหมวดภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม (Foreign Language Film) และยังได้เสนอชื่อชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Motion Picture) ด้วย แม้ว่าจะพลาดรางวัลนี้ไปก็ตาม

    สำหรับปี 2020 นี้ ทั้งเรื่อง The Irishman และ Marriage Story ได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Motion Picture) ทำให้ Netflix มีโอกาสสูงขึ้นอีกที่จะชนะรางวัลใหญ่ที่สุดบนเวทีออสการ์ แต่ถึงแม้จะไม่ชนะรางวัล การเข้าชิงถึง 24 รายการก็บอกได้ว่าเวทีนี้เปิดใจต้อนรับคุณภาพหนังจากสตรีมมิ่งแพลตฟอร์มยักษ์แห่งนี้เรียบร้อยแล้ว

    การที่ Netflix จะได้รับการยอมรับบนเวทีออสการ์หรือไม่นั้นเป็นประเด็นที่ถูกจับตามองมาตลอด เนื่องจากคณะกรรมการออสการ์บางรายไม่ยอมรับภาพยนตร์ Netflix ในการเข้าชิง และคณะกรรมการเคยพิจารณาจะเปลี่ยนกฎการคัดเลือกหนังเข้าชิงรางวัลออสการ์เพื่อกีดกันไม่ให้หนัง Netflix ถูกเสนอชื่อได้ โดยโต้โผใหญ่ที่ส่งเสียงมากที่สุดคือ “Steven Spielberg” โดยเขามองว่าโปรดักชันของ Netflix อยู่ในระดับโทรทัศน์ไม่ใช่หนังใหญ่เข้าโรง ดังนั้นควรจะเสนอชื่อชิงรางวัล Emmy Awards มากกว่า

    ต่อมาในเดือน มี.ค. 2019 กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ออกโรงเตือนคณะกรรมการออสการ์ว่า การเปลี่ยนกฎการคัดเลือกเพื่อกีดกันผู้ใดผู้หนึ่งอาจจะผิดกฎหมายป้องกันการผูกขาดได้ ทำให้ Netflix ยังคงยืนเด่นบนเวทีออสการ์ต่อไป

    The Two Popes (2019) จาก Netflix เข้าชิงออสการ์ปี 2020 ไป 3 รางวัล (photo: Netflix)

    ความสำเร็จของ Netflix บนเวทีออสการ์ ความดีความชอบส่วนใหญ่ต้องยกให้ Scott Stuber รองประธานฝ่ายภาพยนตร์ของ Netflix ผู้ช่วยให้หนังจากแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งได้เข้าไปอยู่ในวงสนทนาเมื่อกรรมการจะ
    คัดเลือกผู้เข้าชิง โดยเขามารับตำแหน่งนี้เมื่อปี 2017 ปีเดียวกับที่สตูดิโอสตรีมมิ่งชนะรางวัลแรกบนเวทีออสการ์

    “Scott พบวิธีการสร้างสมดุลระหว่างหนังสไตล์ฮอลลีวู้ดแบบดั้งเดิมกับนวัตกรรมใหม่ในแบบของ Netflix” Baumbach ผู้กำกับหนัง Marriage Story กล่าวกับสำนักข่าว Business Insider “เขายังเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ผมยังไม่เคยผิดหวังในตัว Scott เลย”

     

    Source: Business Insider, CNBC

    ]]>
    1260525