อีเวนต์การตลาด – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 06 Sep 2024 10:54:24 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 วิธีแก้ปัญหาลูกค้าไม่เข้าไซต์ “SC Asset” ยกบูธไปหาถึงในห้างฯ ลดกระหน่ำจูงใจให้จองทันที https://positioningmag.com/1489042 Fri, 06 Sep 2024 09:27:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1489042
  • กลยุทธ์การตลาด “SC Asset” ปี 2567 ปูพรม “ออกบูธ” ตามศูนย์การค้ารวม 10 ครั้ง มากกว่าปกติเกิน 2 เท่า หลังพบลูกค้าเข้าไซต์น้อยลง 20% ต้องไปหาลูกค้าถึงที่ ทำราคาลดกระหน่ำจูงใจให้จองเลย
  • เฉพาะกลุ่มโครงการแนวราบยังยืนยันเป้าหมายเดิมเปิดครบ 15 โครงการ 26,000 ล้านบาท และเป้าหมายยอดขาย 18,000 ล้านบาท กลุ่มราคาหลังละ 10 ล้านบาทขึ้นไปยังเติบโต
  • “ณัฏฐกิตติ์ ศิริรัตน์” หัวหน้าสายงานการตลาด บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยกลยุทธ์การตลาดของ SC Asset ปี 2567 ว่า ปีนี้ต้องใช้กลยุทธ์ที่ต่างออกไปหลังจากสถานการณ์ลูกค้าเข้าเยี่ยมชมโครงการ (Site Visit) น้อยลงกว่าปกติ 20% เนื่องจากลูกค้าบางส่วนลังเลที่จะตัดสินใจซื้อบ้านท่ามกลางเศรษฐกิจผันผวน จึงเลือกที่จะไม่เข้ามาชมไซต์

    เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้ทางบริษัทต้องหาทางจูงใจ ด้วยการเปิดแคมเปญ “SC Asset Mart” เดินสาย “ออกบูธ” ตามศูนย์การค้าเพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่กำลังมีแผนจะซื้อบ้านลองแวะมาดูโครงการที่อาจจะสนใจก่อน

    รวมถึงภายในบูธจะใช้กลยุทธ์ด้าน “ราคา” จูงใจ คัดแปลงพิเศษทำราคาลดสูงสุด 30% ลดเลยไม่ต้องรอโปรโมชันปลายปี เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจจองล็อกราคา ก่อนจะเข้าเยี่ยมชมไซต์โครงการเพื่อทำสัญญาอีกครั้ง

    SC Asset
    SC Asset Mart ในช่วงที่เหลือของปี 2567

    แคมเปญนี้เริ่มจัดครั้งแรกที่ “เซ็นทรัล ลาดพร้าว” เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน SC Asset เดินสายออกบูธไปแล้ว 4 ครั้ง กวาดยอดขายรวม 3,620 ล้านบาท

    หลังจากนี้จะมีการจัดบูธอีก 6 ครั้ง แบ่งเป็นภายในไตรมาส 3 ได้แก่ เซ็นทรัล เวสต์เกต, เอ็มสเฟียร์ และ ไอคอนสยาม ส่วนในไตรมาส 4 จะมีอีก 3 ครั้ง ได้แก่ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และ สยามพารากอน

    “ปกติเราออกบูธแบบนี้มากที่สุดไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี ปีนี้จัดเต็มมากที่จัดถึง 10 ครั้ง” ณัฏฐกิตติ์กล่าว “แน่นอนว่ายอดจองในงานก็อาจจะมี 30-40% ที่ไม่ทำสัญญาจริง มีการเปลี่ยนใจทีหลังหลังจากมาชมไซต์อาจจะยังไม่ถูกใจ แต่ยอดขายที่ได้โอนจริงก็ถือว่าน่าพอใจ ดีกว่าไม่ออกบูธที่อาจจะทำให้เราไม่ถึงเป้าได้”

    “ณัฏฐกิตติ์ ศิริรัตน์” หัวหน้าสายงานการตลาด บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น

     

    ฟันธงเปิดต่อครบ 15 โครงการ ไม่ลดเป้า

    ด้าน “มงกุฎ เตโชฬาร” หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านพัฒนาทรัพย์สินแนวราบ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยถึงแผนการเปิดตัวโครงการแนวราบของ SC Asset ในปี 2567 ว่า ช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีการเปิดตัวไปแล้ว 9 โครงการ มูลค่ารวม 18,450 ล้านบาท

    ส่วนในครึ่งปีหลัง บริษัทจะมีการเปิดตัวอีก 6 โครงการ มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท ทำให้การเปิดตัวกลุ่มโครงการแนวราบของบริษัทครบ 15 โครงการ มูลค่ารวม 26,000 กว่าล้านบาท ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ในช่วงต้นปี

    “มงกุฎ เตโชฬาร” หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านพัฒนาทรัพย์สินแนวราบ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น

    สำหรับ 6 โครงการแนวราบที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังของ SC Asset ได้แก่

    1. แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ณ อุทยาน จำนวน 47 ยูนิต ราคา 35-60 ล้านบาท (เปิดขายแล้ว)
    2. แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด บางนา กม.15 จำนวน 73 ยูนิต ราคา 30-50 ล้านบาท (เปิดขายแล้ว)
    3. แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด บรมราชชนนี จำนวน 21 ยูนิต ราคา 60-80 ล้านบาท (เปิดขาย 28-29 ก.ย. 67)
    4. คอนนาเซอร์ พัฒนาการ 32 จำนวน 20 ยูนิต ราคาเริ่ม 80 ล้านบาท (เปิดขาย ต.ค. 67)
    5. บางกอก บูเลอวาร์ด ซิกเนเจอร์ พระราม 2 (เปิดขายภายในไตรมาส 4/67)
    6. บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 2 (เปิดขายภายในไตรมาส 4/67)
    SC Asset
    แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ณ อุทยาน บ้านซีรีส์ใหม่ “เมดิเตอเรเนียน” ออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวภายในตัวบ้าน

    ณัฏฐกิตติ์กล่าวต่อว่า เป้าหมายยอดขายแนวราบของ SC Asset ยังคงเป้าที่ 18,000 ล้านบาท ไม่ได้ปรับลด เนื่องจากการเปิดขายโครงการใหม่ยังทำยอดได้ตามเป้า โดยเฉพาะกลุ่มบ้านราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปตลาดยังไปได้พอสมควร และเป็นเซ็กเมนต์ที่บริษัทมีฐานลูกค้าที่ชื่นชอบแบรนด์และสไตล์การออกแบบ ทำให้มีการซื้อซ้ำและบอกต่อ

    อย่างไรก็ตาม ปีนี้ตลาดบ้านราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปของ SC Asset ก็ได้รับผลกระทบจากความเข้มงวดในการให้กู้สินเชื่อบ้านของธนาคารเช่นกัน เพราะเมื่อปี 2566 อัตราปฏิเสธสินเชื่อ (Reject Rate) ของลูกค้ากลุ่มนี้จะอยู่ที่ 7-8% เท่านั้น แต่ปี 2567 ขยับขึ้นมาเป็น 10-14% แล้ว ขณะที่กลุ่มบ้านราคาไม่เกิน 10 ล้านบาทก็ยังถูกปฏิเสธสินเชื่อทรงตัวที่ 19% เท่ากับปีก่อน ทำให้ภาพรวมบริษัทจะต้องหายอดจองให้ได้มากขึ้นเพื่อชดเชยกับลูกค้าบางส่วนที่อาจจะกู้ไม่ผ่าน

    ณัฏฐกิตติ์กล่าวปิดท้ายว่า สำหรับตลาดแนวราบในปี 2568 เชื่อว่าการเปิดซัพพลายใหม่ในตลาดโดยเฉพาะกลุ่มบ้านหรูน่าจะเริ่มลดลง เพราะปีนี้ถือว่าหลายบริษัทหันมาเข้าตลาดเซ็กเมนต์นี้กันหมดแล้ว ปีหน้าจึงอาจจะเห็นภาพการชะลอตัวได้

    ]]>
    1489042
    CPN กางแผน Q4 ปีใหม่ไร้เงา “ลานเบียร์” เน้นมุมถ่ายรูปปังๆ-อีเวนต์เล็กแต่ชัวร์ดึงลูกค้า https://positioningmag.com/1305534 Wed, 11 Nov 2020 09:34:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1305534 เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เปิดแผน Q4 โค้งท้ายปี 63 ทุ่มงบ 400 ล้านจัดสามประสาน มุมถ่ายรูปสุดปัง-อีเวนต์เฉพาะกลุ่ม-โปรโมชัน หวังดันทราฟฟิก-ยอดขายทั้งเครือ (ยกเว้นพื้นที่ท่องเที่ยว) กลับมา 100% เท่าก่อนเกิดวิกฤต แย้มปีนี้เคานต์ดาวน์ปีใหม่ไม่มีลานเบียร์” เช่นเดียวกับปีก่อน แต่จะลงกิจกรรมอะไรต้องรอติดตาม

    ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เปิดเผยสถานการณ์บริษัท ณ สิ้น Q3/63 ทราฟฟิกลูกค้าเข้าศูนย์การค้าเฉลี่ยทั่วประเทศ (ไม่รวมศูนย์ฯ ในจุดท่องเที่ยว 4 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, เกาะสมุย, พัทยา, ภูเก็ต) กลับมาแตะ 85% ของช่วงเดียวกันปีก่อน และมีบางสาขาที่ทราฟฟิกกลับมาถึง 90-100% แล้วคือ มหาชัย, ชลบุรี และระยอง

    ที่ผ่านมา CPN มีการจัดโปรโมชันและอีเวนต์เพื่อดึงลูกค้ามาตลอดตั้งแต่ภาครัฐอนุญาตให้ศูนย์ฯ เปิดบริการอีกครั้ง
    แม้ว่าจะมีการลดงบการตลาดปี 63 จาก 1,000 ล้านบาทเหลือ 600 ล้านบาทก็ตาม แต่ได้บริหารการใช้งบให้มีประสิทธิภาพ ผ่านการจัดอีเวนต์เล็กแต่ตรงเป้าเฉพาะกลุ่ม เช่น กลุ่มครอบครัวและเด็ก กลุ่มสัตว์เลี้ยง กลุ่มคน ‘Young Old’ กลุ่มคอสเพลเยอร์ เป็นต้น

    บรรยากาศงานมหาชัย ไทย คาร์นิวัล 2020 ช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยเซ็นทรัล พลาซา มหาชัย สถานที่จัดงาน เป็นหนึ่งใน Top 3 ศูนย์การค้าที่มีทราฟฟิกกลับมาดีที่สุดของ CPN ในช่วงหลังคลายล็อกดาวน์

    เคานต์ดาวน์ไม่มีลานเบียร์ เน้นลานถ่ายรูปสุดปัง

    สำหรับช่วง Q4/63 นั้นปกติจะเป็น “หน้าขาย” ของศูนย์การค้าอยู่แล้ว เพราะเป็นเทศกาลช้อปปิ้งของขวัญ ทำให้บริษัทจะอัดงบการตลาดเฉพาะช่วงนี้ 400 ล้านบาท จัดทั้งอีเวนต์ โปรโมชัน และมุมถ่ายรูปรับเทศกาลคริสต์มาส-ปีใหม่ โดยปีนี้มาในแคมเปญ “The Magical Lights 2021” มหัศจรรย์แสงแห่งความสุข ที่ศูนย์การค้าทั้ง 33 แห่งทั่วประเทศ

    ข้ามช็อตไปที่ช่วงเดือนธันวาคมจนถึงเคานต์ดาวน์ปีใหม่ก่อน เมื่อปี 2562 นั้น CPN แจ้งข่าวช็อกวงการคนชอบดื่มไปแล้วนั่นคือ การยกเลิกลานเบียร์เซ็นทรัลเวิลด์ ทำให้ทั้งลานกลายเป็นจุดถ่ายรูปและงานคอนเสิร์ตส่งท้ายปีแทน

    บรรยากาศงานนับถอยหลังขึ้นปีใหม่ 2562-2563 ที่ลานเซ็นทรัลเวิลด์

    สำหรับปีนี้นั้น ดร.ณัฐกิตติ์คอนเฟิร์มว่าจะ “ไม่มีลานเบียร์” แน่นอน เช่นเดียวกับปีที่แล้ว แต่กิจกรรมจะมีอะไรบ้างต้องรอติดตามชม โดยแย้มว่าจะเป็นงาน “รูปแบบใหม่” จัดกิจกรรมเคานต์ดาวน์ในศูนย์ฯ 8 สาขา คือ เซ็นทรัลด์เวิลด์, เซ็นทรัล เวสต์เกต, ศาลายา, พัทยา บีช, พิษณุโลก, โคราช, หาดใหญ่ และเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่

    ส่วนสิ่งที่มีแน่ๆ กับงานเฉลิมฉลองส่งท้ายปีกับ CPN คือสารพัดมุมถ่ายรูป ด้านหน้าศูนย์ฯ ทุกแห่ง ประกอบด้วย 5 แลนด์มาร์ก คือ อุโมงค์ต้นไม้มหัศจรรย์, สายรุ้งดวงดาว, สวนลอยแห่งดวงดาว, น้ำตกสรวงสวรรค์ และโถงทางเดินศักดิ์สิทธิ์ และพิเศษเฉพาะที่เซ็นทรัลเวิลด์ จะมีต้นคริสต์มาสขนาดยักษ์เช่นเคย รวมถึงทุ่งดอกไม้ไฟประดับขนาดใหญ่ให้ถ่ายรูปกันอย่างจุใจ

    นอกจากมีกิจกรรมออฟไลน์แล้ว ยังเสริมด้วยกิจกรรมออนไลน์ที่จะปล่อยคอลเลกชันสติกเกอร์ LINE จากฝีมือศิลปินไทย “Painterbell” ต้อนรับคริสต์มาสและปีใหม่โดยเฉพาะ

     

    ไม่จัดใหญ่แต่จัด 1,000 อีเวนต์ขนาดเล็กตรงเป้าหมาย

    ดร.ณัฐกิตติ์กล่าวว่า ด้านงานอีเวนต์ของปีนี้ จะยังคงคอนเซ็ปต์เน้นจัดอีเวนต์เล็กแต่ดึงคนเฉพาะกลุ่ม มากกว่าอีเวนต์ขนาดใหญ่ที่เน้นทราฟฟิกมาก เพราะอีเวนต์เล็กที่ตรงเป้านั้นมองว่ามีประสิทธิภาพกว่า และประหยัดงบกว่าด้วย

    “ปีนี้ต้องเน้นมาแล้วซื้อของจริงและมาได้บ่อยๆ หรืออยู่ได้นาน มากกว่าอีเวนต์ใหญ่ที่ทราฟฟิกมามากๆ อีเวนต์ปีนี้ต้องเน้นคุณภาพลูกค้า เช่น เซ็นทรัลอีสต์วิลล์ จะมีจัดงานสัตว์เลี้ยงทุกสัปดาห์ ก็จะได้ลูกค้ากลุ่มนี้ที่มาได้ทุกเสาร์-อาทิตย์” ดร.ณัฐกิตติ์กล่าว

    ตัวอย่างอีเวนต์เฉพาะกลุ่ม Pets Art รับวาดภาพสัตว์เลี้ยง ดึงดูดคนรักสัตว์มาที่ศูนย์ฯ

    ดังนั้น ช่วงไตรมาสสุดท้ายจะได้เห็น CPN จัดอีเวนต์ย่อยกว่า 1,000 งานในศูนย์ฯ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะศูนย์ฯ ในแหล่งท่องเที่ยวจะใช้อีเวนต์เป็นตัวนำ ดึงลูกค้าคนไทยให้เข้ามาแทนต่างชาติ

    ปัจจุบันมีศูนย์ฯ 4 แห่งที่อยู่ในแหล่งท่องเที่ยวและได้รับผลกระทบหนักที่สุด มีทราฟฟิกลดเหลือ 50-70% จากปกติ คือ เซ็นทรัลเวิลด์, เกาะสมุย, พัทยา และภูเก็ต สำหรับเซ็นทรัลเวิลด์นั้นแม้จะอยู่กลางเขตออฟฟิศ แต่ขณะนี้หลายออฟฟิศยังให้พนักงานสลับทำงานจากบ้าน จึงมีคนเข้าศูนย์ฯ น้อยลงโดยปริยาย

     

    อัดโปรฯ แบบ Omnichannel ใช้ออนไลน์ช่วยเสริม

    ปิดท้ายสิ่งสำคัญของการจัดกิจกรรมคือดึงลูกค้าให้มาช้อปที่ศูนย์ฯ ทำให้ต้องจัดสารพัด “โปรโมชัน” ตลอดช่วงโค้งท้ายปีถึงปีใหม่ โดยจะมีแคมเปญใหญ่ 4 รอบ คือ

    • Black Friday วันที่ 27-29 พ.ย. 63
    • 12.12 วันที่ 3-13 ธ.ค. 63
    • Boxing Week วันที่ 24-27 ธ.ค. 63
    • Final Call วันที่ 4-10 ม.ค. 64
    ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กับสติกเกอร์ LINE จาก Painterbell

    นอกจากจะมีโปรฯ ลดแลกแจกแถมของร้านค้าเอง แคมเปญร่วมกับบัตรเครดิตต่างๆ และยังมีแคมเปญภาครัฐ “ช้อปดีมีคืน” มา Top Up เข้าไปอีก ปีนี้ยังพิเศษที่ CPN จับมือกับหน่วยธุรกิจดิจิทัลในเครือ คือ The 1, Dolfin และ Grab เข้ามาเสริมซึ่งกันและกันด้วย

    โดยลูกค้าที่เป็นสมาชิกแอปฯ The 1 เมื่อเปิดใช้ Dolfin จะได้รับเงินเข้าวอลเล็ตทันที 100 บาท และเมื่อใช้จ่ายผ่าน Dolfin ครบตามมูลค่าที่กำหนด จะได้คูปองคืนในวอลเล็ต สูงสุดที่ 5,000 บาท

    ส่วนโปรฯ กับ Grab จะช่วยอำนวยความสะดวกลูกค้าให้ไป-กลับศูนย์ฯ เซ็นทรัลทุกแห่งง่ายขึ้น ผ่านโค้ดพิเศษระหว่างวันที่ 14 ธ.ค. 63 – 10 ม.ค. 64 ผู้ใช้เก่าลดสูงสุด 80 บาทต่อครั้ง และผู้ใช้ใหม่ลดสูงสุด 40 บาทต่อครั้ง

    ฐานผู้ใช้ active users ของ Dolfin ปัจจุบันมีมากกว่า 2 ล้านคน เมื่อศูนย์ฯ จัดโปรฯ เร่งการใช้งานน่าจะช่วยทั้งดึงลูกค้ากลุ่มนี้เข้ามาช้อป และทำให้ลูกค้าที่ยังไม่ได้ดาวน์โหลด Dolfin สนใจใช้งานเพิ่มขึ้นด้วย

    ดร.ณัฐกิตต์กล่าวว่า คาดหวังว่ากระแสการช้อปปิ้งไตรมาส 4 น่าจะช่วยดึงทราฟฟิกและยอดขายให้กลับมาแตะ 100% เท่ากับช่วงก่อนเกิด COVID-19 ได้ (เฉพาะศูนย์ฯ ที่ไม่อยู่ในแหล่งท่องเที่ยว) โดยเชื่อว่าตลาดกลางบนซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มหลักของศูนย์ฯ ยังมีกำลังซื้อ

    “กลุ่มกลางบนกำลังซื้อยังดีอยู่ แต่เขารอ Special Deal” ดร.ณัฐกิตติ์กล่าว “เพราะฉะนั้น ปีนี้ทำอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีหลายอย่างพร้อมกัน โปรโมชันก็ต้องมีเยอะหลากหลาย ลูกค้าถึงจะยอมตัดสินใจซื้อ”

    ]]>
    1305534
    ‘ช่อง 7’ ลงขัน ‘วีจีไอ’ ตั้งบริษัทร่วมทุน ลุยธุรกิจบริหารสื่อโฆษณา-หาดาราทำอีเวนต์การตลาด https://positioningmag.com/1179615 Thu, 19 Jul 2018 14:17:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1179615 ถือเป็นอีกบิ๊กดีลที่ต้องจับตา เมื่อ 2 บริษัทด้านสื่อรายใหญ่ บริษัท วีจีไอ โกบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) ในเครือรถไฟฟ้าบีทีเอส ทำธุรกิจสื่อนอกบ้าน ได้ร่วมลงทุนกับบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด (บีบีทีวี) เจ้าของสถานีโทรทัศน์ช่อง 7HD เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุน บริษัท บีวี มีเดีย แอดส์ จำกัด

    โดยทั้งสองบริษัทจะถือหุ้นฝั่งละ 50% ของทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท หุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท

    ทั้งนี้บริษัทบีวี มีเดีย แอดส์ จะประกอบธุรกิจให้บริการและบริหารจัดการสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ จัดหาดารา นักแสดง หรือผู้มีชื่อเสียงมาร่วมทำกิจกรรมด้านการตลาดและการใช้ข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับจากธุรกิจด้านออนไลน์ประกอบการโฆษณา

    วีจีไอ มองว่า การร่วมทุนในครั้งนี้จะเป็นการขยายเครือข่ายสื่อออฟไลน์สู่ออนไลน์ (O2O Solution) ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และการทำตลาดร่วมกับบีบีทีวีซื่งทำธุรกิจด้านสื่อวิทยุโทรทัศน์ จะช่วยเพิ่มความหลากหลายทั้งรูปแบบสื่อโฆษณา กลยุทธ์ และวิธีการในการนำเสนอขายสื่อแบบครบวงจรสอดคล้องกับความต้องการของผู้ซื้อสื่อหรือลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

    ในขณะที่ช่อง 7 เองซึ่งมีทั้งสื่อทีวีและวิทยุจะเพิ่มโอกาสและช่องทางในการหารายได้จากโฆษณา และการทำตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ที่หลากหลายสามารถตอบโจทย์ลูกค้ายุคนี้ และยังสามารถรับมือกับการแข่งขันในสมรภูมิทีวีดิจิทัลได้มากขึ้น.

    ]]>
    1179615