บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NVD เป็นบริษัทที่เน้นการพัฒนาโครงการแนวราบระดับกลางบนจนถึงลักชัวรีมาตลอด เช่น โครงการเนอวานา ดีฟายน์ ซึ่งเป็นพรีเมียมทาวน์โฮมราคา 8-15 ล้านบาท จนถึงโครงการเนอวานา คอลเลกชันที่เป็นบ้านเดี่ยวสุดหรูราคา 80-150 ล้านบาท
ในกลุ่มคอนโดมิเนียม เนอวานาเคยพัฒนามา 2 โครงการ คือ บันยันทรี เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นคอนโดฯ หรูริมแม่น้ำราคาเริ่ม 19.9 ล้านบาท
อีกโครงการหนึ่งคือ The MOST อิสรภาพ เป็นคอนโดฯ ตึกเตี้ย ใกล้รพ.ศิริราช จำนวนห้องชุดเพียง 193 ยูนิต ราคาเริ่ม 3.07 ล้านบาท ถือเป็นโครงการที่ขยับตลาดลงมาชิมลางในเซ็กเมนต์ระดับกลางของบริษัท ปัจจุบัน sold out ปิดการขายเรียบร้อยแล้ว
มาถึงปี 2566 เนอวานาจะไปต่อกับการเจาะตลาดแมส โดยขยับลงมาที่ตลาดกลางล่างในโครงการ “The MOST รัตนาธิเบศร์” ทำเลห่างจาก MRT สายสีม่วง สถานีแยกนนทบุรี 1 ระยะทาง 420 เมตร ติดกับเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ มูลค่าโครงการ 5,400 ล้านบาท ออกแบบเป็นอาคารสูง 45 ชั้น บนเนื้อที่ 5 ไร่ จำนวนห้องชุดรวม 1,832 ยูนิต ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่สุดที่เนอวานาเคยพัฒนา และทำราคาเริ่มต้นต่ำที่สุดที่เคยมีคือเริ่มที่ 1.79 ล้านบาท (*สำหรับห้อง simplex ชั้นเดียวปกติ)
“การทำคอนโดฯ จะช่วยแก้ปัญหาของเนอวานาที่ไม่ค่อยมีแบ็กล็อก เพราะเราพัฒนาแนวราบเป็นหลัก” ศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NVD กล่าว “ส่วนการเข้าสู่ตลาดระดับแมสมากขึ้น เป็นการท้าทายตัวเองว่าเราจะต้องเริ่มออกไปหาตลาดใหม่ๆ เหมือนกัน”
โครงการ The MOST รัตนาธิเบศร์ เปิดในทำเลรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งก่อนหน้านี้ถือว่าเป็นทำเล ‘ปราบเซียน’ เคยมีภาวะซัพพลายห้องชุดล้นตลาด
อย่างไรก็ตาม “รณชัย ไตรยสุนันท์” ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ NVD บอกว่า ตลาดเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวแล้วตั้งแต่ปี 2565 โครงการเก่าเริ่มมียอดขายที่ดีขึ้น ส่วนโครงการใหม่เริ่มมีการเปิดตัวอีกครั้ง
แต่ไม่ใช่ทุกโครงการที่เห็นสัญญาณบวก ตลาดคอนโดฯ สายสีม่วงยังเป็นทำเลที่ ‘มีคนไปได้กับไปไม่ได้’ อยู่
ทีมงานการตลาดเนอวานากล่าวกับ Positioning ว่า ตลาดคอนโดฯ สายสีม่วงในช่วงที่เลยแยกแครายมาบนถนนรัตนาธิเบศร์จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มชัดเจน คือ กลุ่มที่กลับมาทำยอดขายได้ดีจะขายได้ประมาณ 30 ยูนิตต่อเดือน และกลุ่มที่ยังขายได้ช้าก็จะทำยอดได้ประมาณ 10 ยูนิตต่อเดือนเท่านั้น
ความต่างของคอนโดฯ ที่ขายได้กับไม่ได้บนสายสีม่วง คือการมีจุดเด่นด้านทำเลที่ตั้ง คอนโดฯ ที่ขายได้จะต้องอยู่ในจุดใกล้ศูนย์การค้า/แหล่งช้อปปิ้ง เช่น เอสพลานาด งามวงศ์วาน-แคราย, โลตัส รัตนาธิเบศร์, บิ๊กซี รัตนาธิเบศร์, เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ หรือใกล้กับแหล่งงานในระยะเดินถึงโดยย่านนี้จะมีแหล่งงานสำคัญ เช่น ศูนย์ราชการ จ.นนทบุรี, สำนักงาน กสทช. (ใหม่)
นอกจากทำเลแล้ว หากตัวโครงการและแปลนห้องมีความโดดเด่นก็จะยิ่งทำให้ปิดการขายได้ง่ายขึ้น “ดีมานด์ห้องแบบดับเบิลสเปซมีสูงมากในตลาด แต่ซัพพลายในย่านนี้ไม่ค่อยมี ทำให้เราเลือกลงแปลนห้องแบบนี้เกิน 90% ของโครงการซึ่งจะทำให้ขายง่ายขึ้น” รณชัยกล่าว
โดยแปลนห้องของ The MOST รัตนาธิเบศร์ เฉพาะที่เป็นดับเบิลวอลุ่ม ขนาดเริ่มต้นจะเป็นห้องพื้นที่ 24+14 ตารางเมตร ราคาห้องนี้เริ่ม 2.19 ล้านบาท หรือถ้าเฉลี่ยทั้งโครงการราคาจะตก 75,000-80,000 บาทต่อตร.ม. (คิดตามพื้นที่ใช้สอยจริง)
ระยะหลังห้องแบบดับเบิลวอลุ่ม “ฮิต” มากขึ้นในตลาดคอนโดฯ เพราะผู้ซื้อรู้สึกว่าตนเองได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่าหากเทียบกับห้องแบบชั้นเดียวในราคาเดียวกัน แถมยังได้พื้นที่โถงนั่งเล่นที่โปร่งโล่งดู “หรู” มากขึ้นด้วย โดยยอมแลกพื้นที่บางส่วนของห้องชุดให้มีระยะเพดานเตี้ยลงกว่าห้องแบบชั้นเดียว
นอกจากการใช้แปลนห้องที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด เนอวานายังหาจุดขายเพิ่มให้ The MOST รัตนาธิเบศร์ โดยการจัด “พื้นที่ส่วนกลาง” รวม 5,000 ตารางเมตร มีส่วนกลางหลากหลายฟังก์ชันที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ให้ใช้ เช่น ห้องเกมรูม, ห้องคาราโอเกะ, พื้นที่กลางแจ้งสำหรับทานหมูกระทะ, พื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง, ออนเซน, ปีนผา ฯลฯ
The MOST รัตนาธิเบศร์ จะเปิดจองวันที่ 5 สิงหาคมนี้ ขณะนี้พร้อมให้เข้าชมเซสล์แกลลอรี โดยโครงการผ่านการทำ EIA แล้ว และคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จปลายปี 2569
]]>นายนันทชาติ กลีบพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เนอวานา พร้อมสร้างความคึกคักให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์อีกครั้ง ด้วยความมั่นใจในกลยุทธ์ของเราที่เน้นสร้างความโดดเด่นและแตกต่างทางด้านการออกแบบ รวมถึงนวัตกรรมการอยู่อาศัยที่ตอบรับกับทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต”
นายนันทชาติ กล่าวเสริมว่า “เราอยากให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของบ้านที่อยู่ในสังคมที่ดี ที่ทำให้ทุกชีวิตในครอบครัวมีความสุข ดังนั้นเราจึงออกแคมเปญทางการเงินให้เป็นเจ้าของบ้านเนอวานาได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยดอกเบี๊ยเพียง 0.5% ในปีแรก ซึ่งลูกค้าจะผ่อนธนาคารเพียง 1,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น อีกทั้งเรื่องภาระค่าใช้จ่ายในวันโอนฯ ทางเราก็ดูแลให้ลูกค้าไม่ต้องออกเงินก้อนเอง และยังให้ส่วนลดเพิ่มสูงสุดถึง 5 ล้านบาท”
ทั้งนี้ 8 โครงการพร้อมอยู่จากเนอวานาที่เข้าร่วมแคมเปญประกอบไปด้วย โครงการบ้านเดี่ยว Nirvana BEYOND 4 ทำเล พระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา, พระราม 2, ศรีนครินทร์, อุดรธานี และ Nirvana ICON ทำเลปิ่นเกล้า – พุทธมณฑลสาย 1 โครงการทาวน์โฮม Nirvana DEFINE ศรีนครินทร์ – พระราม 9 และโครงการโฮมออฟฟิศ ภายใต้แบรนด์ Nirvana @WORK 2 ทำเล ทั้งรามอินทรา และเกษตร – นวมินทร์
เรามีความมั่นใจว่าด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น สภาพโครงการที่เสร็จสมบูรณ์พร้อม ทำเลติดถนนใหญ่ที่สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า รวมถึงการบริหารงานภายใต้คุณภาพ ที่มีมาตรฐานของทั้ง 8 โครงการจากเนอวานา ประกอบกับโปรโมชั่นที่เร้าใจตรงกับความต้องการของลูกค้า จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อและได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่มองหาที่อยู่อาศัยใหม่” นายนันทชาติกล่าวสรุป
วันที่ 14 – 22 ก.ย.นี้ พบข้อเสนอสุดพิเศษกับแคมเปญ “ Nirvana LIVE BEYOND LIMITS” ให้คุณได้เหนือกว่าทุกข้อจำกัด… พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก www.nirvanadaii.com หรือ โทร 1787
]]>