เลโก้ไอเดีย – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 28 Aug 2020 08:36:29 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 IKEA x Lego ดีไซน์ “กล่องเก็บของ” สำหรับต่อเลโก้ หมดปัญหาตัวต่อกระจายเต็มพื้น https://positioningmag.com/1294458 Fri, 28 Aug 2020 07:26:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1294458 เลโก้ ของเล่นยอดฮิตของเด็ก (และผู้ใหญ่) ที่ช่วยสร้างเสริมจินตนาการ แต่ปัญหาก็คือ ตัวต่อจำนวนมากมักจะกระจายเต็มพื้นบ้านระหว่างลูกๆ สร้างสรรค์ผลงาน และเจ็บปวดเท้าทุกครั้งที่เหยียบโดน ทำให้พ่อแม่ไม่ปลื้มเท่าไหร่ บริษัท Lego จึงเลือก collab “กล่องเก็บของ” สำหรับเลโก้โดยเฉพาะกับ IKEA บริษัทเฟอร์นิเจอร์จากสวีเดน

กล่องเก็บของนี้ใช้ชื่อว่า Bygglek ออกแบบมาอย่างเรียบง่าย แบ่งออกเป็น 4 ขนาด และสามารถเก็บตัวต่อเลโก้ได้หลายร้อยตัว จุดไฮไลต์ของกล่องนี้คือภายในกล่องและฝาปิดกล่องจะเป็นปุ่มแบบตัวต่อเลโก้ ทำให้กล่องซ้อนกันเป็นชั้นๆ ได้เหมือนตัวต่อเลโก้นั่นเอง รวมถึงเวลาเด็กๆ เล่นตัวต่อเลโก้ก็สามารถใช้กล่องเป็นฐานได้เลย ทำให้การเคลื่อนย้ายจัดเก็บสะดวกขึ้น

ฝากล่องมีปุ่มต่อเลโก้ ใช้เป็นฐานในการสร้างงานขึ้นได้ (Photo : IKEA)

“ตัวกล่องเองสามารถออกแบบให้เป็นบ้าน เป็นสระว่ายน้ำ เป็นสนามกีฬาก็ได้ ไม่มีถูกไม่มีผิดเลย” ราสมุส บุช ล็อกสตราป ดีไซเนอร์ของ Lego หัวหน้าทีมออกแบบกล่องกล่าว

ล็อกสตราปชื่นชอบเลโก้มาตั้งแต่เด็ก และยังคงเก็บตัวต่อเลโก้ของเขาจากยุค 1970s ไว้ เขามองว่า เมื่อก่อนนี้การเล่นตัวต่อเลโก้มักจะต้องรอให้ถึงวันหยุดก่อน เพราะมันมักจะทำให้บ้านรกมาก “ตอนผมยังเด็ก เรามักจะเก็บตัวต่อไว้ในผ้าห่มผืนใหญ่ เมื่อมาดีไซน์กล่อง Bygglek เราจึงคุยกันถึงเรื่อง ทำอย่างไรให้เราสามารถเล่นตัวต่อและหยุดกลางคันได้โดยไม่ต้องมีตัวต่อกระจายคาเต็มพื้น” ล็อกสตราปกล่าว

(Photo : IKEA)

ทีมดีไซน์ยังคุยกับนักจิตวิทยาเด็กด้วย และพบว่าในมุมมองของเด็กมักเห็นว่ากองตัวต่อเต็มพื้นไม่ใช่ความรกรุงรัง แต่เป็นสภาพแวดล้อมของความคิดสร้างสรรค์ระหว่างที่งานศิลปะของพวกเขากำลังก่อร่างขึ้น อย่างไรก็ตาม มุมมองนี้ย่อมปะทะกับความต้องการของพ่อแม่ที่อยากให้บ้านเป็นระเบียบ

ดังนั้น ทีมของล็อกสตราปจึงมีเป้าหมายการหาทางออกให้กับทั้งพ่อแม่และเด็กๆ “ถ้าเราสามารถสร้างกล่องเก็บของที่เป็นได้ทั้งส่วนหนึ่งของตัวของเล่น และเป็นที่เก็บของด้วย นั่นคือความสำเร็จ” ล็อกสตราปกล่าวในงานแถลงข่าว

(Photo : IKEA)

กล่องเก็บของ IKEA x Lego นี้จะมาในแพ็กเกจกล่องแบนให้นำไปประกอบขึ้นรูปเองตามสไตล์ของ IKEA แต่รับรองว่าจะประกอบง่ายจนแม้แต่เด็ก 5 ขวบก็ทำได้ กล่องดังกล่าวจะเริ่มวางขายที่สหรัฐอเมริกาในเดือนตุลาคมนี้ ราคาจำหน่าย 9.99 เหรียญสหรัฐ สำหรับเซตกล่อง 3 ใบ และมีขายกล่องขนาดใหญ่ที่สุด 1 ใบราคา 14.99 เหรียญสหรัฐ โดยรุ่นนี้จะมาพร้อมตัวต่อเลโก้จำนวน 201 ชิ้นด้วย

เลโก้ที่จะมาพร้อมกล่องที่ขายใน IKEA จะเป็นตัวต่อแบบเรียบง่ายที่เด็กเล็กก็เล่นได้ พร้อมมีกิมมิกเกี่ยวกับบ้านด้วยตัวต่อรูปกล้วยกับฮอตด็อก สมกับที่ขายในร้านเฟอร์นิเจอร์

Source

]]>
1294458
เลโก้ ปรับตัวอย่างไรให้อยู่รอด ท่ามกลางกระแสตลาดของเล่นหดตัว https://positioningmag.com/1200342 Thu, 29 Nov 2018 11:15:31 +0000 https://positioningmag.com/?p=1200342 ท่ามกลางความระส่ำระสายของ “วงการของเล่น” ทั่วโลก หลังจากข่าวช็อกวงการที่เกิดขึ้นกลางปีก่อน ไม่ว่าจะเป็นการล้มละลายของ ‘ทอยส์ “อาร์” อัส’ บริษัทค้าปลีกของเล่นเด็กรายใหญ่ของสหรัฐฯ

คำถามที่ตามมาคือ “ของเล่น” ตายแล้วจริงหรือ? เพราะหลายคนเชื่อว่าต้นตอของปัญหาเกิดจากยุคดิจิทัลทำให้เด็กรุ่นใหม่หันไปเล่มเกมคอมพิวเตอร์มากกว่าหันมาจับของเล่นที่เป็นชิ้นเป็นอัน จนแม้แต่ยักษ์ในวงการก็ “อยู่ไม่ได้”

เลโก้ของเล่นตัวต่อพลาสติกระดับพรีเมียมอายุ 60 กว่าปี มีจำหน่ายใน 130 ประเทศทั่วโลกยืนยัน “ของเล่น” ยังไม่ตาย และสามารถเติบโตได้ เพียงแต่ต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสื่อสาร ที่ต้องหันไปหาสื่อออนไลน์ และช่องทางจัดจัดหน่ายที่ต้องขยายไปหาอีคอมเมิร์ซด้วย

เลโก้ที่อเมริกาและยุโรปเริ่มเติบโตได้น้อยลงจากผลกระทบหลายๆ อย่าง เลโก้จึงปรับแผนและเบนเข็มมารุกตลาดในกลุ่ม “เอเชียแปซิฟิก” มากขึ้น ด้วยในกลุ่มประเทศเหล่านี้เลโก้ยังเข้าถึงเด็กได้น้อยกว่าตลาดหลัก ที่สำคัญในอนาคตเด็กกว่า “ครึ่งโลก” จะอยู่ที่นี่

ไทย” เป็นหนึ่งในประเทศที่เลโก้กำลังให้ความสนใจไม่แพ้ประเทศร่วมทวีปอื่นๆ ที่เข้าไปทำตลาดอยู่ ทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เนื่องด้วยในเมืองไทยเลโก้ยังสามารถเข้าถึงเด็กไม่ถึง 10% น้อยกว่าประเทศในยุโรปที่มียอดขายสูงสุดถึง 5 เท่า

เลโก้จึงเชื่อว่าตลาดยังมีโอกาส แม้ปีนี้ตลาดของเล่นเพื่อเสริมทักษะสำหรับเด็กมูลค่าราว 1,000 ล้านบาท ซึ่งเลโก้มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ 20-25% จะเติบโตประมาณ 1-2% เท่านั้น น้อยกว่าช่วง 5 ปีมานี้ที่เติบโตรวมกว่า 10-15%

ที่ผ่านมาเลโก้ทำตลาดในเมืองไทยผ่านการจัดจำหน่ายของ “ดีเคเอสเอชเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายมานาน 20 ปี โดยยอดขายหลัก 65% มาจากจุดจำหน่ายที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ อีก 15% เป็น Specialty Store เช่นร้าน ‘ทอยส์ “อาร์” อัส’ ที่เหลือเป็นร้านไฮเปอร์มาร์เก็ตเช่น บิ๊กซี และโลตัส, ร้านขายของเล่นทั่วไป และ “อีคอมเมิร์ซ” ช่องทางล่าสุดที่เปิดตัวเมื่อปีก่อนบนลาซาด้า ซึ่งเลโก้หวังให้ตัวเองเป็นออมนิชาแนล ที่เข้าถึงลูกค้าในทุกช่องทาง

กลยุทธ์การตลาดของเลโก้ เน้นสร้างให้ลูกค้ามีประสบการณ์กับสินค้าจึงได้ปรับพื้นที่สำหรับทดลองสินค้าให้มากขึ้นในจุดห้างสรรพสินค้า เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเด็กที่เป็นฐานลูกค้าหลักได้มีส่วนร่วมกับสินค้า

ล่าสุดเลโก้ได้ควงแขน DKSH ลงขัน 50 ล้านบาท เปิด “เลโก้ ช็อป” แห่งแรกในประเทศไทย โดยทั่วโลกมีทั้งหมด 250 สาขา เฉพาะเอเชียมีประมาณ 50 สาขา เลโก้เชื่อว่าช่วยให้แบรนด์มีความเข้มแข็งขึ้นในเอเชียซึ่งเป็นตลาดที่ยังคงเติบโต เพราะคนชั้นกลางเพิ่มขึ้น

อัทสึชิ ฮาเซกาว่า ผู้จัดการทั่วไปตลาดกำลังพัฒนาเอเชีย บริษัทเลโก้ กรุ๊ป จำกัด บอกว่า

แม้หลายคนจะบอกว่า เด็กในไทยเกิดน้อยลง อนาคตต้องกระทบกับเลโก้แน่นอน แต่เราก็เชื่อว่า เด็ก 1 คนไม่ได้มีของเล่นแค่ชิ้นเดียวในชีวิต คนในครอบครัวก็พร้อมที่จะซื้อของเล่นให้เด็กอยู่แล้ว นอกจากนี้คนเดินห้างน้อยลงเราก็ไม่กังวล การเปิดเลโก้ ช็อปจะดึงคนเข้ามาเพิ่มแน่นอน”

เลโก้ ช็อปสาขาแรกตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน เน้นกลุ่มลูกค้าครอบครัวและนักท่องเที่ยว นอกจากจะมีจุดขาย The PAB Wall หรือ Pick A Brick Wall กำแพงที่บรรจุชิ้นส่วน ให้ลูกค้าสามารถเลือกหยิบชิ้นส่วนเลโก้ที่มีรูปทรงและสีสันต่างกัน ใส่ในกระป๋องใสที่เตรียมไว้เพื่อนำไปชำระเงิน

ยังวางสินค้าชุดเอ็กซ์คลูซีฟทั้ง “เลโก้ครีเอเตอร์” และ “เลโก้ไอเดีย” กว่า 32 แบบ เช่น ยานอาวกาศในสตาร์วอร์ หรือ ดิสนีย์ ซึ่งเป็นชุดยอดนิยม มาวางขายในราคาไม่ต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน และวางจำหน่ายในช่วงเวลาเดียวกับตลาดอเมริกาและยุโรป หรือช้าเกิน 2 อาทิตย์ ทำให้ต่อไปสาวกไม่จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศเพื่อหิ้วสินค้าเข้าประเทศอีกต่อไป

เพื่อเป็นการตัดตอน “วงจรนักหิ้ว” ซึ่งเลโก้ยอมรับยอดขายบางส่วนได้รับผลกระทบจากกลุ่มนี้อยู่บ้าง และราคาที่เมืองไทยค่อนข้างสูงเพราะสินค้าทั้งหมดนำเข้าจากจีนและยุโรป และราคาฮ่องกงถูกกว่ามากถึง 60% และบางชุดไม่มีวางขายในไทย แต่เลโก้ยังไม่ได้วางแผนปรับราคาให้ถูกลง เพราะภาษีนำเข้าไม่เหมือนกัน

คาดว่าจะมียอดเข้าชม 4 แสนคนในปีแรก และทำยอดขายในปีแรก 100 ล้านบาท ภายใน 5 ปี.

]]>
1200342