แบรนด์แอมบาสเดอร์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 03 Nov 2022 12:10:11 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ทาวน์เฮาส์ “บ้านกลางเมือง” ปรับทำเลใหม่ หาแลนด์แบงก์ที่กลับมาอยู่ “กลางเมือง” จริงๆ https://positioningmag.com/1406682 Thu, 03 Nov 2022 11:22:23 +0000 https://positioningmag.com/?p=1406682 ทาวน์เฮาส์ “บ้านกลางเมือง” จากค่าย “เอพี” ฉลองครบรอบ 20 ปี ปรับกลยุทธ์ครั้งใหม่ เปลี่ยนวิธีหาแลนด์แบงก์มาอยู่ “กลางเมือง” สมชื่อ เจาะตลาดไลฟ์สไตล์คนเมืองแต่ไม่ต้องการอยู่บนคอนโดฯ พร้อมสร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์ เลือก “ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรก ทุ่มงบมิวสิกมาร์เก็ตติ้งมูลค่า 20 ล้านบาท

“บ้านกลางเมือง” เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่อยู่อาศัยที่ยืนยงในตลาด หลังเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2545 จนถึงปัจจุบัน เอพี ไทยแลนด์ ก็ยังคงเปิดโครงการภายใต้แบรนด์นี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเอกลักษณ์แบรนด์คือเป็น ทาวน์โฮม 3 ชั้น ทำเลในเมือง ส่วนรูปลักษณ์การออกแบบก็ปรับไปตามยุคสมัย จากเดิมเป็นทาวน์โฮมสไตล์คลาสสิก-ยุโรเปียน มาสู่สไตล์โมเดิร์นทาวน์โฮม

หลังอยู่ในตลาดมา 20 ปี แบรนด์บ้านกลางเมืองมีการแตกเซ็กเมนต์ออกมาเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

  • บ้านกลางเมือง ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5-8 เมตร ราคา 4-8 ล้านบาท
  • บ้านกลางเมือง THE EDITION บ้านแฝด 3 ชั้น หน้ากว้าง 11 เมตร ราคา 8-14 ล้านบาท
  • บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ ทาวน์โฮม 3-3.5 ชั้น หน้ากว้าง 6-8 เมตร ราคา 15-25 ล้านบาท

แม้ว่าแบรนด์จะแข็งแกร่ง โดยเอพีระบุว่าบ้านกลางเมืองถือเป็นผู้นำในตลาดทาวน์โฮม 3 ชั้น แต่ก็ต้องมีการปรับตัวให้ยึดหัวหาดได้ต่อเนื่อง

“เมธา รักธรรม” รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าทาวน์โฮม บมจ.เอพี (ไทยแลนด์)

เรามีโอกาสได้คุยกับ “เมธา รักธรรม” รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าทาวน์โฮม บมจ.เอพี ไทยแลนด์ เกี่ยวกับการปรับกลยุทธ์ใหม่ของแบรนด์บ้านกลางเมืองที่เริ่มขึ้นแล้ว และจะมีต่อเนื่องในปีหน้า ดังนี้

1.ทำเลที่จะกลับสู่ “กลางเมือง” จริงๆ

ปีนี้เอพีมีการจัดซื้อที่ดินของกลุ่มบ้านกลางเมืองให้เหมาะกับแบรนด์มากขึ้น กล่าวคือมีการจัดให้ บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ ต้องเป็นทาวน์โฮมที่อยู่ในเขตซีบีดี ขณะที่ บ้านกลางเมือง THE EDITION จะอยู่ในเขตรอบๆ ซีบีดี และ บ้านกลางเมือง ดั้งเดิมจะต้องยังอยู่ในเมือง ไม่ไกลห่างออกไปในเขตชานเมือง

“เรามามองผู้ซื้อของแบรนด์นี้ เขาเลือกอยู่ทาวน์โฮมบ้านกลางเมืองเพราะเขายังต้องการจะอยู่ในเมือง แต่ไม่ต้องการอยู่คอนโดฯ ทำให้การที่เราเคยเลือกทำเลทำโครงการไปในเขตชานเมืองนั้นจะไม่ตอบโจทย์” เมธากล่าว “เมื่อก่อนเราอาจจะดูจากรถไฟฟ้าเป็นหลัก คือหาที่ดินที่เกาะแนวรถไฟฟ้า แต่ปัจจุบันรถไฟฟ้าขยายไปไกลมาก ยกตัวอย่างสายสีม่วงไปสิ้นสุดที่บางใหญ่ ซึ่งจริงๆ เป็นชานเมืองแล้ว ดังนั้น อาจจะไม่ใช่ทำเลของบ้านกลางเมือง”

บ้านกลางเมือง
แบรนด์บ้านกลางเมืองทั้ง 3 เซ็กเมนต์

2.โครงการแบบมิกซ์โปรดักส์ และการหลุดกรอบ ‘3 ชั้น‘

อีกหนึ่งสิ่งที่จะได้เห็นมากขึ้นกับแบรนด์นี้ คือการทำโครงการแบบมิกซ์โปรดักส์ มีหลายแบบบ้านในโครงการเดียว เช่น มีทั้งทาวน์โฮมและบ้านแฝด

รวมถึงปีหน้าอาจจะได้เห็น “บ้านแฝด 2 ชั้นในทำเลกลางเมือง” ด้วย จากเดิมโปรดักส์นี้จะอยู่กับแบรนด์ “แกรนด์ พลีโน่” ในเครือเอพี แต่เมธามองว่าการแบ่งแบรนด์ตามลักษณะสินค้า คือ พลีโน่/แกรนด์ พลีโน่ เป็นที่อยู่ 2 ชั้น และบ้านกลางเมืองต้องเป็น 3 ชั้น เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นกับยุคนี้แล้ว

3.ยืดหยุ่นกับผู้ซื้อ มีสารพัดแบบบ้าน และเลือกได้เอง

เมธากล่าวว่า ปีนี้คือปีที่บ้านกลางเมืองมีแบบบ้านรวมมากที่สุดที่เคยทำมา คือมีถึง 10 แบบด้วยกัน (รวม 3 เซ็กเมนต์) เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง มีสไตล์หลากหลายมากขึ้น

ปี 2566 ก็จะมีซีรีส์ใหม่ออกมาเพิ่มอีก โดยเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นที่ยก Living Area พื้นที่ห้องนั่งเล่น ห้องทานอาหาร ขึ้นไปไว้ชั้น 2 แทนที่จะอยู่ชั้นล่างอย่างเคย ส่วนชั้น 3 สามารถปรับได้ตามใจว่าจะเป็นมาสเตอร์เบดรูมขนาดใหญ่หรือแบ่งเป็น 2 ห้องนอน ขณะที่ชั้นล่าง ก็เลือกสั่งกั้นห้องได้ว่าต้องการให้เป็นห้องทำงาน หรือห้องนอนผู้สูงอายุ หรือปรับแต่งตามใจชอบ ถือเป็นซีรีส์ที่มีความยืดหยุ่นให้ลูกค้าเลือก จะได้เห็นครั้งแรกในทำเลสุขุมวิท 101

4.แบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรก “ก้อง-สหรัถ”

2 ทศวรรษที่ผ่านมา บ้านกลางเมืองไม่เคยมีแบรนด์แอมบาสเดอร์ แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่เกิดขึ้นเพราะวิธีคิดด้านการตลาดที่เปลี่ยนไป จากเดิมคิดเฉพาะโปรโมชันแคมเปญตามรอบ แต่ขณะนี้ต้องแข่งกันด้วย “แบรนดิ้ง” แม้ว่าบ้านกลางเมืองยังขายได้วันนี้ แต่ต้องสร้างความแข็งแกร่งเพื่ออนาคต

เป็นที่มาของความร่วมมือกับแกรมมี่และ “ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกในฐานะ “ตำนาน” ของวงการ พร้อมสร้างมิวสิกมาร์เก็ตติ้ง นำเพลงดังมาเรียบเรียงใหม่สำหรับบ้านกลางเมืองโดยเฉพาะ เช่น สุดๆ ไปเลย, เธอสวย, ลึกสุดใจ แพ็กเกจสัญญาระยะ 1 ปี เอพีทุ่มทุนไป 20 ล้านบาท ปั้นให้แบรนด์ยังครองใจผู้บริโภค

บ้านกลางเมือง ก้อง สหรัถ
“ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา” แบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของบ้านกลางเมือง

สำหรับแบรนด์บ้านกลางเมืองปี 2565 มีการระดมเปิดโครงการไปถึง 29 โครงการ มูลค่ารวม 26,600 ล้านบาท มากที่สุดที่เอพีเคยเปิดในปีเดียว และปี 2566 จะได้เห็นโครงการใหม่ๆ ในแบรนด์นี้อีกหลายทำเล โดยเฉพาะ “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่” ที่จะเปิดอย่างน้อย 1-2 โครงการ หลังจากบ้านกลางเมือง คลาสเซ่ สุขุมวิท 77 ที่เปิดตัวปีนี้ทำยอดขายได้ดี สะท้อนดีมานด์ผู้บริโภคเซ็กเมนต์บนมีความต้องการทาวน์โฮมกลางเมืองสูง

]]>
1406682
UNIQLO แต่งตั้ง “โดราเอมอน” สีเขียวเป็นแอมบาสเดอร์ด้านความยั่งยืน https://positioningmag.com/1324418 Mon, 22 Mar 2021 07:47:08 +0000 https://positioningmag.com/?p=1324418 โดราเอมอนในร่างสีเขียว กลายเป็นคาแร็กเตอร์ใหม่ ที่จะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ด้านความยั่งยืนให้กับแบรนด์ฟาสต์แฟชั่นแดนปลาดิบ UNIQLO

โดราเอมอนสีเขียว UNIQLO สีเขียว

UNIQLO แบรนด์เครื่องแต่งกายจากญี่ปุ่น ประกาศแต่งตั้ง ให้ “โดราเอมอน” ดำรงตำแหน่งแอมบาสเดอร์ระดับโลกด้านความยั่งยืน ที่แปลงโฉมมาจากตัวการ์ตูนญี่ปุ่นสีฟ้า กลายมาเป็นสีเขียว ในนามว่า “โดราเอมอนโหมดความยั่งยืน” ที่จะอยู่ร่วมกับโลโก้ของ UNIQLO ซึ่งปรับโฉมเป็นสีเขียวเช่นเดียวกัน เพื่อสื่อสารข้อความด้านความยั่งยืนของยูนิโคล่ นั่นคือ “เปลี่ยนอนาคตด้วยพลังของเสื้อผ้า”

โคจิ ยาไน เจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง จำกัด กล่าวว่า

“เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับโดราเอมอน ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี ยูนิโคล่ได้ดำเนินโครงการด้านความยั่งยืนผ่านทางธุรกิจมากมายเพื่อนำไปสู่โลกที่ดีขึ้นและยั่งยืนมากขึ้น เราเชื่อว่าจากผลกระทบของการระบาดของ COVID-19 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมรวมถึงทัศนคติของผู้บริโภคที่พัฒนาขึ้น จึงทำให้การร่วมมือกับลูกค้า และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมีความสำคัญมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในเชิงบวก”

เบื้องหลังความร่วมมือกันกับโดราเอมอน

เนื่องจากตัวตนของโดราเอมอน ซึ่งถือกำเนิดในประเทศญี่ปุ่น และเป็นที่รักของผู้คนทั่วโลกจากรุ่นสู่รุ่นอย่างต่อเนื่องนั้น มีส่วนเชื่อมโยงกับ UNIQLO ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นเหมือนกัน และมุ่งมั่นที่จะนำเสนอเสื้อผ้าคุณภาพดีให้กับผู้คนทั่วโลกพร้อมกับแนวคิดในการสร้างสรรค์สังคมที่ดี

ในฐานะ UNIQLO แอมบาสเดอร์ระดับโลกด้านความยั่งยืน โดราเอมอน ผู้เดินทางมาจากอนาคตจะมาช่วยเปลี่ยนโลกสู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้น โดยทำหน้าที่ถ่ายทอดกิจกรรมเพื่อความยั่งยืนของ UNIQLO ให้เป็นเรื่องสนุก และเข้าใจง่าย

มีการแปลงโฉมโดราเอมอน และโลโก้ UNIQLO ให้เป็นสีเขียว เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะดำเนินกิจกรรมเพื่อความยั่งยืน โดยโดราเอมอนโหมดความยั่งยืนนี้จะปรากฏตัวตามร้านสาขาของ UNIQLO ทั่วโลก บนเว็บไซต์ และช่องทางการสื่อสารอื่นๆ

จากนี้ไป “โดราเอมอน” พร้อมด้วยฮารูกะ อายะเซะ และเหล่าแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกทั้ง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ , เค นิชิโคริ, ชินโกะ คุนิเอะดะ, กอร์ดอน รีด, อายุมุ ฮิระโนะ และอดัม สก็อตต์ จะร่วมกันดำเนินกิจกรรมเพื่อความยั่งยืนของ UNIQLO อย่างต่อเนื่อง

โลโก้สีเขียว

นอกจากการมีเจ้าโดราเอมอนในการช่วยสื่อสารแล้ว UNIQLO ยังปรับโฉมโลโก้เป็นสีเขียว พร้อมกับข้อความ “เปลี่ยนอนาคตด้วยพลังของเสื้อผ้า” คือข้อความหลักในการสื่อสาร เพื่อถ่ายทอดข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมเพื่อความยั่งยืนให้ทั่วโลกรับทราบผ่านทางช่องทางต่างๆ

]]>
1324418
“หมอยา” มาริโอ้ นั่งแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรก “กู๊ดมู้ด” เขย่าตลาดเครื่องดื่มซัมเมอร์ https://positioningmag.com/1219178 Mon, 11 Mar 2019 14:52:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1219178 ตลาดเครื่องดื่มมูลค่า 1.54 แสนล้านบาท พร้อมเปิดศึกซัมเมอร์ “ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค” ประกาศปั้นพอร์ตโฟลิโอใหม่ “วอเตอร์ พลัส” นวัตกรรมส่งตรงจากความสำเร็จของ ซันโทรี่ ญี่ปุ่น กับเครื่องดื่มแบรนด์ “goodmood” น้ำดื่มใสแต่งกลิ่นรส จัดเต็มกลยุทธ์สื่อสารสร้างการรับรู้สินค้าใหม่ ผ่านพรีเซ็นเตอร์คนดัง “มาริโอ้”

โอเมอร์ มาลิค ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ SPBT กล่าวว่า เตรียมส่งเครื่องดื่มแบรนด์ใหม่ “กู๊ดมู้ด” ซึ่งเป็นเครื่องดื่มกลุ่มใหม่วอเตอร์ พลัส (Water Plus) น้ำดื่มแต่งกลิ่นรส รูปแบบเครื่องดื่มน้ำใส ตอบโจทย์ดับกระหายและให้ความสดชื่น ซึ่งยังไม่มีสินค้ากลุ่มนี้ในประเทศไทย เพื่อบุกตลาดในช่วงหน้าร้อน

กู๊ดมู้ด เจาะกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำดื่มบรรจุขวด ซึ่งเป็นเพียงหมวดเดียวที่เติบโตในตลาดเครื่องดื่ม โดยเชิงมูลค่าอยู่ที่ 5% ในปี 2561 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งมีมูลค่า 34,900 ล้านบาท

“การเปิดตัว กู๊ดมู้ด จะทำให้ SPBT เป็นผู้เล่นหลักที่เข้ามาเปิดกลุ่มผลิตภัณฑ์วอเตอร์ พลัส ในประเทศไทย”

เคธี่ อึ้ง ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์ซันโทรี่ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “กู๊ดมู้ด” เป็นเครื่องดื่มที่นำเสนอรสชาติอร่อยและน้ำตาลน้อย หรือต่ำกว่า 6 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร จึงเหมาะสำหรับผู้บริโภคทุกกลุ่มและตอบเทรนด์การดูแลสุขภาพ มั่นใจว่ากู๊ดมู้ดจะเข้ามาสร้างพอร์ตโฟลิโอเครื่องดื่มใหม่ให้กับซันโทรี่ เป๊ปซี่โค และเป็นผู้นำในตลาดวอเตอร์ พลัส เช่นเดียวกับญี่ปุ่น

โดยเปิดตัวด้วย 2 รสชาติ คือ กลิ่น “แบล็คเคอแรนท์” วางจำหน่ายเฉพาะที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น และกลิ่น “โยเกิร์ต” ครั้งแรกในรูปแบบใสโดยบรรจุในขวดเพ็ทขนาด 450 มิลลิลิตร ในราคา 20 บาท จำหน่ายที่ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มารเก็ต และร้านค้าทั่วประเทศ 

ในด้านการผลิตและการตลาด SPBT เตรียมทุ่มงบประมาณ 270 ล้านบาทเพื่อขยายสายการผลิตและดำเนินกิจกรรมการตลาดอย่างเต็มรูปแบบ

สำหรับกลยุทธ์สื่อสารแบรนด์และสร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง ได้นักแสดงหนุ่มจากละครเรตติ้งแรง ทางช่อง 3 เรื่อง “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” มาริโอ้ เมาเร่อ มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของ “กู๊ดมู้ด” ในประเทศไทย เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ทำตลาดในช่วงหน้าร้อน

“คาแร็กเตอร์ที่สดใส มีชีวิตชีวาและมองโลกในแง่ดีของมาริโอ้ เหมาะกับภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ที่สร้างอารมณ์ดีๆ เพื่อวันดีๆ ที่จะถ่ายทอดความสดชื่นและสดใสของแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ลงตัว”

นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์โฆษณา สื่อกลางแจ้งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด สื่อดิจิทัลและโซเชียลมีเดีย สื่อในร้านค้าและ ณ จุดขาย พร้อมกิจกรรมส่งเสริมการขายแบบ 360 องศา จัดคาราวาน “กู๊ดมู้ด” แจกเครื่องดื่ม 1 ล้านขวด ให้ผู้บริโภคทั่วประเทศได้ทดลองชิม.

]]>
1219178
“แกร็บ” ดึง “BNK48” นั่งแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์ครั้งแรก หวังเข้าถึงโอตะ 10 ล้านรายในไทย https://positioningmag.com/1198824 Wed, 21 Nov 2018 11:30:08 +0000 https://positioningmag.com/?p=1198824 ต้องยอมรับว่ากระแสของ “BNK48” ฟีเวอร์อย่างมากในเมืองไทย ไม่ว่าขยับตัวไปทำอะไรก็มีแฟนคลับที่เรียกว่า “โอตะ” พร้อมซัพพอร์ตอยู่ตลอด และการที่ BNK48 วางแผนรับเป็นพรีเซ็นเตอร์แค่ 10 แบรนด์ในปีนี้ทำให้หลายแบรนด์ต่างต่อคิวให้ถูกเลือกเพื่อช่วยบิลท์ฐานลูกค้าของตัวเอง

แกร๊บ” (Garb) แพลตฟอร์มแบบ Online to Offline เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยได้ราว 5 ปีแล้ว เป็นแบรนด์ล่าสุดที่สามารถดึง BNK48 มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ถือเป็นครั้งแรกในบรรดา 8 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่แกร๊บเข้าไปทำธุรกิจอยู่จะมีแบรนด์แอมบาสเดอร์

เนื่องจากพฤติกรรมคนไทยชื่นชอบคนดัง แค่การสื่อสารปกติอาจไม่พอ ขณะที่ BNK48 ก็มีคนชื่นชอบจำนวนมาก สร้างปรากฏการณ์ “BNK48 ฟีเวอร์” แกร็บจึงตัดสินใจเลือกให้มาเป็นตัวแทนสื่อสาร 4 บริการที่มีในปัจจุบัน ได้แก่ รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ส่งของ และส่งอาหาร และยังขยายฐานผู้ใช้ไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ จากเดิมผู้ใช้หลักเป็นวัยทำงาน

โดยสมาชิก BNK48 ที่ถูกเลือกในครั้งนี้มีเพียง 16 คน รุ่น 1 และ 2 อย่างละ 8 คน จากทั้งจำนวนสมาชิกทั้งหมด 32 คน โดยเลือกจากผู้ที่ใช้บริการของแกร๊บจริงๆ ซึ่งแต่ละคนมีฐานผู้ติดตามในโซเชียลมีเดียล 5-6 แสนคน ทำให้คะแนคร่าวๆ มีฐานแฟนคลับทั้งหมดกว่า 10 ล้านคน

ต่อจากนี้ในทุกแคมเปญการตลาดของแกร๊บช่วง 1 ปีนี้ จะมี BNK48 เข้ามามีส่วนร่วมหมด โดยเตรียมเผยแพร่สื่อโฆษณาทุกช่องทาง โดยสื่อโฆษณาออนไลน์และสื่อโฆษณากลางแจ้ง และยังมีโปรโมชั่นโค้ดสำหรับเมมเบอร์ทั้ง 16 คน

ต่อไปหากใครเป็นแฟนคลับสมาชิกคนไหนสามารถนำชื่อไปใช้เป็นโค้ดส่วนลดจำนวน 20 บาท ใช้ได้อาทิตย์ละอย่างน้อย 2 ครั้งในทุกบริการของแกร็บ นอกจากนี้ยังได้ทำกิมมิกโดยที่หลังนั่งเสร็จ จะมีข้อความจากศิลปินที่ใช้โค้ดส่งมาด้วย ส่วนช่วงไตรมาสแรกของปี 2019 วางแผนที่จะจัดปาร์ตี้ Grab x BNK48 ด้วย

ธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า ท่ามกลางแอพพลิเคชั่นจำนวนมากที่โหลดมาไว้ในเครื่อง แต่มีเพียง 3-4 แอพเท่านั้นที่คนไทยใช้ประจำ ซึ่งแกร๊บอยากเป็นหนึ่งในนั้น ทำให้แกร๊บเห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีแบรนด์แอมบาสเดอร์เข้ามาช่วยสื่อสาร นอกจากฐานลูกค้าที่จะได้รับ ยังเป็นการเพิ่ม Engagement ด้วย”

1 เดือนก่อนหน้านี้ แกร็บ ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่อีก 3 ฟีเจอร์ได้แก่ 1.ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนจุดหมาย หรือจุดส่งได้ในระหว่างการเดินทาง, 2.นอกจากส่งข้อความและรูปภาพแล้ว ผู้โดยสารและผู้ขับขี่จะสามารถสื่อสารกันได้ผ่านข้อความเสียง และ 3.ถ้าผู้โดยสารยกเลิกการจองหรือไม่มาที่จุดรับ แกร็บจะชดเชยให้กับผู้ขับขี่สำหรับการเดินทางไปยังจุดรับ

เร็วๆ นี้แกร็บเตรียมออกบริการใหม่ได้แก่ Garb Fresh บริการที่ไปซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต โดยร่วมมือกับ Happy Fresh แพลตฟอร์มเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ ส่วนบริการต่อจากนี้แกร็บจะพิจาณาจากการตอบโจทย์ในชีวิตประจำวันของลูกค้าเป็นหลัก.

]]>
1198824
แจ็กพอต Lazada เลือกแบรนด์แอมบาสเดอร์ดังได้จังหวะ ชู “ออเจ้าเบลล่า” ชวนช้อปกระจายฉลองครบ 6 ปี https://positioningmag.com/1166846 Mon, 23 Apr 2018 00:15:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1166846 ครบรอบ 6 ปีลาซาด้า (Lazada) ท่าจะเฮง มีทั้งนายใหญ่แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทลาซาด้า เดินทางมาไทยเซ็นสัญญาโครงการใหญ่มูลค่า 11,000 ล้านบาทกับรัฐบาล แถมตอนกลับไปก็ยังโชว์ผลงานขายทุเรียนไทยลูกละ199 หยวน (ประมาณเกือบ 1,000 บาท) ได้ถึง 8,000 ลูกภายใน 1 นาทีผ่านเว็บไซต์ Tmall ในจีน

เท่านั้นยังไม่พอ ความโชคดีของลาซาด้า ยังได้แบรนด์แอมบาสเดอร์อย่าง เบลล่า ราณี แคมเปญ หรือ ออเจ้าการะเกด จากบุพเพสันนิวาส ละครฮิตแห่งปี ซึ่งบังเอิญอยู่ในช่วงพีคสุด ๆ ขึ้นเป็นตัวท็อปพรีเซ็นเตอร์ของแผ่นดินสยาม ทั้งที่เซ็นสัญญาจ้างงานกันมาตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน สำหรับเป็นดารารับเชิญในงานถ่ายทอดสดเทศกาลลดกระหน่ำในวัดคนโสด 11.11 (วันที่ 11 เดือน 11) ที่สามารถนำกลับมาเรียกนักช้อปได้อีกครั้งในโอกาสฉลองครบรอบ 6 ปี

จังหวะที่ลงตัวของลาซาด้า ทำเอาคู่แข่งอย่างช้อปปี้ (Shopee) ถึงกับต้องโต้กลับด้วยการดึงกลุ่มเซเลบริตี้พร้อมกันทีเดียว 10 คน มาสร้างกระแสกระตุ้นนักช้อปแพลตฟอร์มของตัวเองในช่วงเวลาไล่ ๆ กัน จากที่ก่อนหน้านี้ใช้คู่พระนางดังอย่าง ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ และ ณเดชน์ คูกิมิยะ เป็นพรีเซ็นเตอร์ทั้งที่ช้อปปี้เพิ่งจะเปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการในไทยมาได้เพียง 2 ปี

การเลือกแบรนด์แอมบาสเดอร์ได้ดีมีอนาคตของลาซาด้า เลยเข้าตำรา มีแบรนด์แอมบาสเดอร์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

อย่างไรก็ตาม บทบาทของแบรนด์แอมบาสเดอร์สำหรับลาซาด้า ก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากไปกว่า การเป็นแนะนำแพลตฟอร์มว่ามีส่วนลดและมีสินค้ามากมายแค่ไหน กับการมาร่วมในงานฉลองและกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้น โดยไม่ได้มีการนำเสนออะไรที่แปลกแตกต่างไปจากการใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์ทั่วไป

อเล็กแซนดรอ บิสชินี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท ลาซาด้า จำกัด ธนิดา ซุยวัฒนา เจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินและการบัญชี บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด พร้อมทั้ง เบลล่า ราณี แคมเปน แบรนด์แอมบาสเดอร์ของลาซาด้าประเทศไทย และลิลลี่ อภิชญา ทองคำ นักแสดงนำจากโฆษณาตัวใหม่ของลาซาด้า มาร่วมเฉลิมฉลองเป่าเทียนวันเกิดครบรอบ 6 ปีของลาซาด้า

แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่าความเคลื่อนไหวเนื่องในโอกาสครบรอบ 6 ปีของลาซาด้าส่งสัญญาณอะไรใหม่ ๆ ให้กับอีคอมเมิร์ซไทยบ้าง

ความเคลื่อนไหวเล็ก ๆ ที่เปลี่ยนไป แต่เป็นความต้องการของลาซาด้าที่จะทำให้ใหญ่ขึ้น และทำให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมและรับรู้มากขึ้น ควบคู่กับการช้อปปิ้งออนไลน์บนแพลตฟอร์มที่ทำให้คนเลือกช้อปเป็นแห่งแรกด้วยจำนวนร้านค้าและผู้ขายที่มากกว่า บวกกับโค้ดส่วนลดที่มีให้ตลอดเวลา เพื่อให้นักช้อปคอยติดตาม คือการที่ลาซาด้าหันมาให้ความสำคัญกับการทำซีเอสอาร์ (CSR) เพิ่มขึ้นในปีนี้

โดยจากเดิมนั้น แม้จะมีกิจกรรมซีเอสอาร์อยู่บ้างก็เป็นเรื่องที่ทำกันเองภายในบริษัท แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่ลาซาด้าเลือกที่จะจัดกิจกรรมซีเอสอาร์ที่ให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมด้วยเป็นครั้งแรก ในกิจกรรมวิ่งการกุศล Born to Run ที่เพิ่งจัดไป โดยได้แรงบันดาลใจมากจากโครงการก้าวคนละก้าวของตูนบอดี้สแลม ที่วิ่งเพื่อนำรายได้ไปบริจาคให้โรงพยาบาลที่ขาดแคลนเครื่องมือแพทย์ ซึ่งลาซาด้านำรายได้จากงานนี้เข้าไปสมทบทุนในโครงการเดียวกัน

โครงการนี้เป็นการอาศัยกระแสในสังคมไทย ที่ลาซาด้ามองว่าสามารถเข้าไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยได้อย่ากลมกลืนมากขึ้น ในเรื่องที่สังคมเห็นดีและมีแต่บวก

ส่วนกิจกรรมหลักในการเพิ่มยอดขายเนื่องในโอกาสครบรอบ 6 ปี ยังคงหนีไม่พ้นมุกที่นักช้อปชอบมากที่สุดนั่นคือโปรโมชั่นลดราคา โดยลาซาด้า เปิดตัว ลาซาด้าเบิร์ธเดย์ เฟสติวัล มหกรรมฉลองครอบรอบ 6 ปี กระตุ้นนักช้อปด้วยโปรโมชั่นในช่วงวันที่ 25-27 เมษายนนี้ ประกอบด้วย

  • ส่วนลดสูงสุดถึง 90% เอาใจทั้งขาช้อปเจ้าประจำและดึงดูดนักช้อปใหม่
  • ยังคงใช้กลยุทธ์แฟลชเซลส์ ในกลุ่มสินค้ายอดนิยมมากกว่า 600 ชิ้น เพื่อเพิ่มปริมาณการช้อปที่มากขึ้นในช่วงการฉลองครบรอบนี้
  • โค้ดส่วนลดสูงสุดกว่า 2,000 โค้ด ที่ลาซาด้าบอกว่าแค่เข้าแอปลาซาด้าก็มีสิทธิ์ได้รับโค้ดไปช้อป

นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในแอปและเว็บไซต์เพื่อให้นักช้อปสะดวกและตัดสินใจง่ายขึ้น เช่น เพิ่ม Instant Message ให้ผู้ซื้อสอบถามกับผู้ขายได้โดยตรง เพิ่มกิมมิกเขย่ามือถือรับโค้ดส่วนลด (Shakin’s Deal) ฯลฯ

ไม่ใช่แค่อยากเพิ่มนักช้อป แต่ลาซาด้าอยากเพิ่มผู้ขายด้วย

นอกเหนือจากการเอาใจคนไทยที่รักการช้อปออนไลน์แล้ว ลาซาด้าตระหนักดีว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แพลตฟอร์มของลาซาด้าจะไม่น่าสนใจในสายตานักช้อปเลย ถ้าไม่มีความหลากหลายและปริมาณสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการนักช้อปได้มากพอ ดังนั้นภารกิจการเพิ่มผู้ค้าในแพลตฟอร์มของลาซาด้า จึงเป็นสิ่งที่ต้องกระตุ้นไปพร้อม ๆ กันกับการเพิ่มปริมาณนักช้อปและยอดขาย

ในส่วนบริการสำหรับผู้ค้าหรือผู้ขาย ลาซาด้ามีการพัฒนาและเปิดให้บริการแอปพลิเคชั่นการขายออนไลน์ Lazada Seller Center เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับฝั่งผู้ขายเช่นกัน เนื่องในโอกาสครบรอบ 6 ปีในปีนี้

นอกจากนี้ยังมีกติกาเพื่อสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ค้าผู้ขายในลาซาด้าที่ปรับปรุงใหม่ในปีนี้ เช่น การแนะนำ Seller Rewards เป็นโครงการใหม่ที่จะนำเสนอในรูปแบบของรางวัลให้กับผู้ขายที่มีประสิทธิภาพในการดำเนินงานสูง มีการปรับปรุงโครงสร้างการจำกัดจำนวนคำสั่งซื้อ (OVL) และการจำกัดจำนวนคำสั่งคงค้าง (POL) รวมทั้งยกเลิกค่าปรับและอัพเดตหัวข้อการละเมิดนโยบายของลาซาด้าให้เป็นมิตรกับผู้ค้าผู้ขายมากขึ้น

ทั้งนี้ แม้ลาซาด้าจะแจกส่วนลดจัดโปรโมชั่นมากมาย แต่โดยรวมถึงวันนี้ บริษัทก็ยังไม่ได้มีกำไรจากการทำธุรกิจ เหมือน ๆ กับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่น ๆ ที่เข้ามาลุยตลาดไทย ทั้งช้อปปี้ อีเลฟเว่นสตรีท หรือแม้แต่ JD.com ที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่มเซ็นทรัล เพราะแต่ละรายก็ยังมีแต่ตัวเลขขาดทุนจากการลงทุนหนักในช่วงต้น และมียอดขายทุนเพิ่มขึ้นทุกปี

แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องน่าเป็นห่วงสำหรับเจ้าของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเหล่านี้ เพราะแต่ละรายล้วนแต่หวังถึงการเติบโตแบบซูเปอร์สปริงบอร์ด เมื่อนักช้อป ผู้ขาย และอินฟราสตรัคเจอร์ มีความพร้อมยิ่งขึ้น การขยายตัวก็จะเร็วและแรงยิ่งกว่าจนปรับตัวเลขจากจ่ายเป็นรับแทบไม่ทัน

ใครคิดภาพไม่ออก ก็ลองดูการขายทุเรียนผ่าน Tmall ของแจ็ค หม่า ที่สำแดงให้คนไทยได้เห็นล่าสุดดู ก็คงจะพอจินตนาการได้ถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซว่าจะโตได้อีกมากแค่ไหนในตลาดไทย.

]]>
1166846
สูตรเดิม “แม็กนั่ม” ควงซุป’ตาร์ตัวแม่ “ชมพู่ อารยา” หวังปั่นกระแสให้กลับมากระหึ่มโซเชียล https://positioningmag.com/1161101 Mon, 12 Mar 2018 04:44:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1161101 ไอศกรีมถือเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีการตัดสินใจซื้อทันที (Impulse Product) หากแบรนด์ไหนออกแรงทำตลาด จัดโปรโมชั่น ก็จะดึงเงินจากกระเป๋าผู้บริโภค ณ จุดขายหรือตู้แช่ได้ไม่ยาก

และด้วยคาแร็กเตอร์ของ Impulse Product การทำตลาดของแบรนด์ดังจึงต้องหมั่นหากิจกรรมหมัดเด็ดใหม่ ๆ มาสร้างความตื่นเต้นให้ผู้บริโภคตลอดเวลา ครองการเป็นแบรนด์อยู่ในใจ (Top of mind) เพื่อให้ผู้บริโภคนึกถึงเวลาจะซื้อสินค้า  

ยิ่งช่วงหน้าร้อน ถือเป็นไฮซีซั่นของตลาดไอศกรีม ที่ทำยอดขายโตทะลุทะลวงยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้งจึงอยู่นิ่งไม่ได้ เปิดเกมรุกก่อนใครด้วยการส่งรสชาติใหม่แม็กนั่ม เฮเซลนัท ลักซ์เพื่อเจาะตลาดไอศกรีมระดับพรีเมียมทันที และเป็นครั้งแรกที่แม็กนั่มฉีกรสชาติเดิม ๆ ที่มีเพียงช็อกโกแลต วานิลลาด้วย

อะบิจิต กุลคาลนิผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการตลาดไอศกรีมวอลล์ บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดื้ง จำกัด บอกว่า โจทย์สำคัญของการทำตลาดไอศกรีมคือต้องหาสิ่งใหม่ เทรนด์ใหม่ ๆ มาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

ดังนั้นบริษัทจึงทำการเปิดตัวสินค้าใหม่เพื่อทำตลาด และแม็กนั่ม เฮเซลนัท ลักซ์ ที่ลอนซ์ในไทยครั้งนี้ถือเป็นประเทศที่ 2 ในอาเซียนที่เปิดตัวด้วย เพราะมองว่าคนไทยคุ้นชินกับการรับประทานไอศกรีมคู่กับถั่วอยู่แล้ว จึงประเมินว่าจะทำให้กลุ่มเป้าหมายทานง่ายขึ้น

แต่การลอนช์โปรดักต์ แบรนด์ยังใช้สูตรเดิมในการชูวัตถุดิบหลัก” จากประเทศต้นตำรับมาเป็นจุดขาย โดยเฮเซลนัทส่งตรงจากตุรกี ไม่ต่างจากช็อกโกแลตแท้จากเยลเยียม หรือวานิลลาธรรมชาติแท้จากมาดากัสการ์ เป็นต้น 

สำหรับการเพิ่มรสชาติใหม่ นอกจากสร้างความวาไรตี้ให้กับผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นการเพิ่มพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์ด้วย จากเดิมมีเพียง 4 รสชาติ ได้แก่ คลาสสิก, อัลมอนด์, ไวท์อัลมอนด์ และเรด เวลเว็ท

สินค้าใหม่ยังมาพร้อมแพ็กเกจจิ้งสีสันม่วงทองเพราะแบรนด์ต้องการตอกย้ำภาพของไอศกรีมพรีเมียม นอกจากนี้ราคาก็สมกับตลาดบน เพราะจำหน่ายที่ 50 บาท เตรียมเข้าตู้แช่ทั่วประเทศ 15 มี..นี้

นำร่องร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น, แฟมิลี่มาร์ท และซูเปอร์มาร์เก็ต

ส่วนการทำกิจกรรมร้อนนี้ เป็นอีกครั้งที่แบรนด์แม็กนั่มกลับมาใช้ชมพู่ อารายาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ หลังห่างหายไปประมาณ 5 ปี โดยมีใหม่ดาวิกา โฮร์เน่ เป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่พักใหญ่ ว่ากันว่า การกลับมารอบนี้เธอได้ค่าตัวถึง 10 ล้านบาท การเลือกซุปตาร์ ตัวแม่ แบรนด์ตั้งต้นจากแคมเปญไอเดียที่ว่า #ฟินให้สุด #TakePleasureSeriously

แล้วมองหาคนที่จะมานำพรีเซนต์ความสุดในทุก ๆ เรื่อง เลยลงตัวชมพู่และเชื่อว่าผู้บริโภคจำนวนมากก็นึกถึงเธอด้วย จึงตอบโจทย์การทำตลาดทุกมิติของแบรนด์

นอกจากนี้ แม็กนั่มยังเปิดตัวรสชาติและแบรนด์แอมบาสเดอร์ใหม่ ณ Magnum Fin Square หรือจตุรัสแห่งความฟิน ที่สยามพารากอน ดึงบรรดาเซเลบริตี้เพื่อร่วมงาน ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ยกความพรีเมียมของไอศกรีมขึ้นไปอีกขั้น แต่มากไปกว่านั้น แบรนด์ต้องการให้เกิดกระแส Talk of The Town บนโลกโซเชียลมีเดีย ดึงแฟนคลับและติ่งของคนดังมาร่วมปั่นแฮชแท็กทางการตลาดให้ฟีเวอร์เหมือนที่เคยประสบความสำเร็จในอดีตนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ร้อนนี้วอลล์ดูจะรุกหนักไอศกรีมพรีเมียม จัดอลังการอีเวนต์ แต่อะบิจิตบอกว่า บริษัทไม่ได้โฟกัสแค่แม็กนั่มในตลาดบนเท่านั้น เพราะหากดูพอร์ตโฟลิโอของวอลล์มีไอศกรีมที่เป็นแบรนด์หัวหอก (Flagship Brand) หลายตัว เพื่อเจาะผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายแต่ละเซ็กเมนต์ต่างกันออกไป เช่น แม็กนั่มเจาะกลุ่มผู้ใหญ่, คอร์นเนตโต เจาะกลุ่มวัยรุ่น, แพดเดิลป๊อป จับกลุ่มเด็ก และเบนแอนด์เจอรี่ (Ben & Jerry’s) จับตลาดไอศกรีมนั่งรับประทาน

วอลล์มีแบรนด์แฟล็กชิพจำนวนมาก เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคแต่ละเซ็กเมนต์ และรองรับความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น โดยพฤติกรรมผู้บริโภคมองหาไอศกรีม Category ใหม่ ๆ ตลอดเวลา ให้สอดคล้องกับการรับประทานที่มักขึ้นอยู่กับโอกาสหรือ Occasion เช่น ทานหลังมื้อเที่ยง ก็ไปเซเว่นฯ ซื้อกลับบ้านไปทานตอนดูทีวีคนเดียว หรือออกไปสถานที่ต่าง ๆ แล้วทาน และวอลล์ก็มีสินค้าตอบโจทย์ตลาดทั้งหมด

ข้อมูลจากยูโรมอนิเตอร์ ระบุว่า ตลาดไอศกรีมปี 2559 มีมูลค่า 13,000 ล้านบาท เติบโต 8% โดยแม็กนั่มมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด 23%

ตามด้วยคอนเนตโต 14.4% ฟรุตทาเร่ 12.3% แม็กโนเลีย 7.1% และแพดเดิลป๊อป 6.3% เรียกว่าพอร์ตของวอลล์กินรวบ 4 ใน 5 อันดับผู้นำ

และเมื่อแยกเป็นคอร์ปอเรทแบรนด์ยูนิลีเวอร์ มีส่วนแบ่งตลาด 64% ตามด้วยเนสท์เล่ 14% และเฟรเซอร์แอนด์นีฟ (เอฟแอนด์เอ็น) 7%  

อย่างไรก็ตาม ตลาดรวมไอศกรีมในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีความร้อนแรงมาก เพราะผู้เล่นใหม่ ๆ ตบเท้าเข้ามาแบ่งมาร์เก็ตแชร์กันยกใหญ่ ทั้งไอศกรีมกูลิโกะ จากญี่ปุ่น, ล็อตเต้ จากเกาหลี และไอศกรีมสัญชาติไทยอเต้ และเอเต้ โบราณ ของเครือซีพี ยึดตู้แช่กันให้พรึ่บ! ผ่านตู้แช่รวมทุกแบรนด์ ตู้ของแบรนด์ และตู้แช่ของร้านสะดวกซื้อเอง ส่วนแบรนด์ไหนถูกใจผู้ผู้บริโภค ยอดขายร้อนนี้คงเป็นคำตอบ.

]]>
1161101
คุณแม่ลูกแฝด “ชมพู่” ฮอตไอติมละลาย “แม็กนั่ม” เชื่อเป็น “ตัวแม่” ดึงเป็น Brand Ambassador คนใหม่ ย้ำ Brand Positioning   https://positioningmag.com/1157260 Fri, 16 Feb 2018 07:34:17 +0000 https://positioningmag.com/?p=1157260 ไอศกรีมแม็กนั่ม ของยูนิลีเวอร์ ไม่ได้ถูกกำหนดให้เป็นแค่สินค้าในหมวดอาหาร ตั้งแต่ยูนิลีเวอร์ทุ่มเงินร้อยล้านรีลอนช์แบรนด์นี้มาตั้งแต่ปี 2012 ก็มุ่งหวังจะเป็นท็อปของไอศกรีมที่ไฮไลต์ด้วยส่วนผสมจากวัตถุดิบต่าง  ที่จะต้องคัดสรรที่เป็นที่หนึ่งจากทั่วโลกมาใช้ในการผลิต โดยมีส่วนผสมของช็อกโกแลตพรีเมียมจากเบลเยียม ที่ได้ชื่อว่าเป็นต้นตำรับช็อกโกแลต เป็นตัวชูโรง  

แต่สิ่งที่เป็นที่สุดที่ขาดไม่ได้ที่จะเป็นตัวไฮไลต์ให้กับไอศกรีมแม็กนั่มเพื่อสร้างทอล์กออฟเดอะทาวน์ทุกครั้งที่มีการจัดกิจกรรมก็คือ การคัดหาสุดยอดแบรนด์แอมบาสเดอร์ซึ่งมีเงื่อนไขง่ายๆ ตามคอนเซ็ปต์แบรนด์ก็คือ จะต้องเป็นที่สุด ดังที่สุดในช่วงเวลานั้น มาทำหน้าที่

พรีเซ็นเตอร์ของแม็กนั่มแต่ละรายไม่ว่าจะในระดับประเทศไทย หรือต่างประเทศจึงมีแต่ดารานักร้องดังตัวท็อป

ถ้าเทียบกับสินค้าคอนซูเมอร์ทั่วไป ไอศกรีมแม็กนั่มก็เหมือนสบู่ลักส์ของค่ายยูนิลีเวอร์ที่กำหนดโพสิชันนิ่งให้มีภาพลักษณ์ว่าเป็นสบู่ของซูเปอร์สตาร์ เพื่อสร้างภาพจูงใจกับผู้บริโภค

ไฮไลต์ของการกลับมาของแม็กนั่มครั้งนี้ อยู่ที่การเปลี่ยนแบรนด์แอมบาสเดอร์ใหม่ เป็นระดับตัวแม่ของวงการอย่าง ชมพู่อารยา เพื่อความที่สุดในทุก ๆ ด้านอย่างแท้จริง

นี่คือข้อความที่ส่งตรงจากแบรนด์แม็กนั่ม ที่อธิบายถึงเหตุผลในการเลือกชมพู่ในครั้งนี้ นอกเหนือจากการบรรยายสรรพคุณของไอศกรีมแม็กนั่มสำหรับกิจกรรมการตลาดรอบล่าสุด

โดยการกลับมาของแม็กนั่มครั้งนี้ ยูนิลีเวอร์ต้องการพลิกโฉมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อย้ำความเป็นที่สุดของความเป็นไอศกรีมระดับพรีเมียมแต่ยังเน้นจำหน่ายในราคาเท่าเดิม ซึ่งนอกจากการใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่แมสเสจส่วนใหญ่จะยังเน้นเรื่องเดิมๆ เพื่อตอกย้ำให้ผู้บริโภคเห็นการพัฒนาตัวเองของแม็กนั่ม ที่รักษาความพรีเมียมในการคัดสรรวัตถุดิบจากทั่วโลกมาใช้ในการผลิตไอศกรีมมาอย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่างเช่น การย้ำถึงส่วนประกอบในไอศกรีมแม็กนั่มรสชาติยอดนิยมอย่างรสคลาสสิกอัลมอนด์และไวท์อัลมอนด์ ว่าเป็นไอศกรีมที่ใช้ช็อกโกแลตเบลเยียมแท้ อัลมอนด์จากออสเตรเลีย วานิลลาธรรมชาติแท้จากเกาะมาดากัสการ์   

อีกสิ่งที่เปลี่ยนไปคือแพ็กเก็จจิ้งใหม่ เน้นให้ดูหรูขึ้น เพื่อความครบองค์ประกอบในการเดินเกมรุกตลาดพรีเมียมอย่างเต็มตัว

ส่วนของต้นน้ำเพื่อพลิกโฉม หรือ เมกโอเวอร์ ในครั้งนี้ จากเดิมเริ่มต้นที่ช็อกโกแลตพรีเมียม ก็จะพูดลงลึกไปถึงต้นกำเนิดจากเมล็ดโกโก้ ซึ่งเลือกเมล็ดโกโก้ที่ได้รับการรับรองจากองค์กร Rainforest Alliance Certified TM ว่าเป็นโกโก้ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพและการเพาะปลูกอย่างยั่งยืน เป็นมิตรกับธรรมชาติในทุกขั้นตอนที่นำมาผลิตช็อกโกแลตแท้เบลเยียม

อัลมอนด์ ยังคงส่งตรงจากออสเตรเลีย ประเทศที่ส่งออกอัลมอนด์ชั้นนำของโลก และวานิลลาธรรมชาติแท้ 100% สายพันธุ์ดีจากเกาะมาดากัสการ์

ภายใต้แพ็กเก็จหรูโฉมใหม่จึงอัดแน่นด้วยวัตถุดิบที่กล่าวถึง ให้ผู้บริโภครู้สึกคุ้มค่ายิ่งขึ้นในราคาเดิม

ชมพู่ ลูกสองแรงไม่ตก เพราะไม่เคยลืมบริหารแบรนด์

กลับมามองแบรนด์ชมพู่อารยา ซึ่งถูกตั้งฉายาว่าคุณแม่ชม ตั้งแต่ก่อนจะเริ่มตั้งท้องลูกแฝดใหม่ๆ เพราะความชัดเจนในการพรีเซนต์แฟชั่นเรื่องราวของเธอสู่แฟนๆ อย่างต่อเนื่องทุกช่องทางดิจิทัลที่เธอมี รวมทั้งผ่านรายการที่เธอร่วมเป็นพิธีกร และข่าวบันเทิงที่ยังคงติดตามเรื่องราวของเธออยู่เสมอ

ฉายาคุณแม่ถ้าไม่ใช่ตัวแม่จริงๆ ก็คงไม่มีใครเรียก การเรียกแบบนี้คือให้การยอมรับในฐานะผู้นำในวงการที่กล้าสร้างความแตกต่าง กล้าทำอะไรออกสื่อด้วยความมั่นใจ ซึ่งเป็นรูปแบบที่ชมพู่ยังคงรักษาภาพลักษณ์ต่อเนื่อง ทั้งในช่วงตั้งท้องจนถึงนาทีที่ให้กำเนิดลูกแฝดจนกระทั่งหลังคลอด แม้กระทั่งตอนนี้พาลูกแฝดเที่ยวตะลอนต่างประเทศได้แล้ว

การดึงชมพู่มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์รอบนี้ของแม็กนั่ม จึงถือว่าได้แบรนด์ที่มีความพร้อมใช้งานมาตอบโจทย์การตลาดได้ทันที ซึ่งแม็กนั่มมองเกมนี้ออก ถึงขั้นบอกว่าการพลิกโฉมครั้งใหญ่แบบนี้ ต้องทุ่มให้สุด ด้วยการดึงตัวแม่แห่งวงการมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์นั่นเอง

คอนเซ็ปต์ที่แม็กนั่มจะใช้กับแบรนด์แอมบาสเดอร์ใหม่ ครั้งนี้เน้นความมัน เหมือนสไตล์แม่ชมที่มักจะจัดเต็มทั้งชุดตัวเอง ชุดลูกแฝดเสมอ คือ #ฟินให้สุด #TakePleasureSeriously

เพราะด้วยคาแร็กเตอร์ของไลฟ์สไตล์และแฟชั่นของชมพู่ จัดว่าอยู่ในแนวหน้าของเมืองไทย จึงเป็นตัวแทนของความฟินขั้นสุดได้ไม่ยากแม็กนั่มเชื่อแบบนี้

แคมเปญนี้จะสุดแค่ไหน ต้องติดตามผ่านตู้ไอศกรีมทั้งที่ตู้วอลล์ หรือตู้แม็กนั่ม ที่ร้านค้าทั่วไป 7-Eleven Family Mart และซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วประเทศ ใครไม่อยากอ้วนดูเพลิน ๆ กับโมเมนต์ฟิน ๆ ของชมพู่กับไอศกรีมแม็กนั่มในช่องทางออนไลน์ที่ www.magnumicecream.com ทนความยั่วยวนกันไม่ไหวค่อยยอมอ้วนสักคำก็คงไม่ผิดอะไร.

]]>
1157260