โตโยต้า – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 30 Jan 2024 09:24:27 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Toyota ยังเป็นเบอร์ 1 ยอดขายรถยนต์มากสุด แซงแชมป์เก่า Volkswagen เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน https://positioningmag.com/1437023 Tue, 30 Jan 2024 07:45:51 +0000 https://positioningmag.com/?p=1437023 ‘โตโยต้า’ ได้แจ้งจำนวนยอดขายรถยนต์ของบริษัทนั้นมากถึง 11.2 ล้านคันทั่วโลก ทำให้บริษัทยังเป็นเบอร์ 1 ของผู้ผลิตรถยนต์ และยังแซงแชมป์เก่าจากเยอรมันอย่าง Volkswagen เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน แต่ในปีนี้บริษัทอาจประสบปัญหายอดขายลดลงหลังบริษัทลูกเผชิญเรื่องอื้อฉาวด้านความปลอดภัย

Toyota ผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่น ได้แจ้งยอดขายรถยนต์ของบริษัทและบริษัทลูกในปี 2023 ที่ผ่านมาทั่วโลกมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา นอกจากนี้ยอดขายรถยนต์ยังแซงหน้าคู่แข่งจากเยอรมันอย่าง Volkswagen เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน

ยอดขายรถยนต์ของบริษัทและบริษัทลูกในปี 2023 ที่ผ่านมาของ Toyota เติบโต 7.2% อยู่ที่ 11.2 ล้านคัน และมีรถที่ผลิตได้ทั้งหมด 11.5 ล้านคัน ซึ่งจำนวนดังกล่าวมากกว่าคู่แข่งจากเยอรมันอย่าง Volkswagen ซึ่งมียอดขายทั้งหมด 9.2 ล้านคัน

ถ้าหากนับแค่ Toyota อย่างเดียว ในปี 2023 ที่ผ่านมาบริษัทผลิตรถยนต์ได้ 10.3 ล้านคัน

โดยผู้ผลิตรถยนต์รายดังกล่าวนั้นผลิตรถยนต์ไฮบริดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของรถยนต์ที่ผลิตได้ทั้งหมด ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่ 104,018 คันคิดเป็นสัดส่วนแค่ 1% เท่านั้น

ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นรายนี้ผ่านสถานการณ์ Supply Chain หยุดชะงักในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ชิปขาดแคลน จนทำให้ Toyota ต้องปรับลดการผลิตมาแล้วในปี 2021 และยังรวมถึงการฟื้นตัวของความต้องการรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา หรือแม้แต่ยุโรป

อย่างไรก็ดีภายในปี 2024 นี้บริษัทลูกอย่าง Daihatsu อาจผลิตรถยนต์ได้ลดลง หลังจากบริษัทเผชิญเรื่องอื้อฉาวด้านความปลอดภัยในรถยนต์ 64 รุ่น จนทำให้บริษัทต้องลดการผลิตลง 25%

]]>
1437023
‘โตโยต้า’ เริ่มทดสอบ ‘รถยนต์พลังไฮโดรเจน’ บนถนนจริงเป็นครั้งแรกในออสเตรเลีย https://positioningmag.com/1451937 Wed, 15 Nov 2023 09:26:29 +0000 https://positioningmag.com/?p=1451937 แม้ว่าในตลาดรถอีวี ค่ายรถญี่ปุ่นอาจกำลังเสียท่าให้กับ จีน แต่ก็ยังมีรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน ที่ โตโยต้า (Toyota) หมายมั่นปั้นมือมารุกตลาดรถยนต์พลังงานสะอาด โดยล่าสุด บริษัทได้เริ่มทดสอบรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนบนถนนสาธารณะครั้งแรก ก่อนนำไปสู่การขายในเชิงพาณิชย์

เพื่อที่จะพยายามผลักดันให้ รถยนต์พลังงานไฮโดรเจน เป็นทางเลือกให้กับรถยนต์พลังงานสะอาด โตโยต้า จึงทดลองนำรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนเข้าร่วมการแข่งขันแบบเอนดูรานซ์ 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตเพื่อทดสอบความทนทานของรถยนต์ในญี่ปุ่นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และนับเป็นครั้งแรกในโลกที่รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ไฮโดรเจนเข้าร่วมการแข่งขันจริงจังอย่างเป็นทางการ

ล่าสุด โตโยต้าได้นำ รถตู้ HiAce ดัดแปลงพิเศษ ที่ขับเคลื่อนด้วยก๊าซไฮโดรเจน วิ่งบนถนนในเขตชานเมือง เมืองเมลเบิร์น เพื่อประเมินสมรรถนะและศักยภาพในการทำงานของรถยนต์ในกรณีการใช้งานจริง

“การทดสอบดังกล่าวนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อฝึกฝนเทคโนโลยีเครื่องยนต์ไฮโดรเจนที่กลั่นกรองผ่านมอเตอร์สปอร์ตให้ดียิ่งขึ้นไปอีกเพื่อการใช้งานจริง” โตโยต้า กล่าว

ทั้งนี้ หนึ่งในสาเหตุที่โตโยต้าทดสอบรถพลังงานไฮโดรเจนในประเทศออสเตรเลียก็เพราะ ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีไฮโดรเจนอุดมสมบูรณ์ และมีความต้องการที่จะนำไฮโดรเจนมาใช้งาน อย่างไรก็ตาม รถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่ใช้ในเชิงพาณิชย์อยู่แล้วนั้นใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้า ในขณะที่รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ไฮโดรเจนนั้นมีข้อได้เปรียบเนื่องจากมีชิ้นส่วนหลายส่วนที่เหมือนกันกับรถยนต์เครื่องยนต์เบนซิน ทำให้ค่ายรถญี่ปุ่นได้เปรียบในด้านการผลิตและบำรุงรักษา

Source

]]>
1451937
“มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย” มอบทุนสนับสนุนประจำปี 66 สานต่อโครงการปีที่ 31 ยกระดับคุณภาพชีวิตเด็กไทย ขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ความยั่งยืน https://positioningmag.com/1445875 Fri, 29 Sep 2023 03:50:08 +0000 https://positioningmag.com/?p=1445875

ประเทศไทยขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีน้ำใจ มีวัฒนธรรมในการช่วยเหลือเกื้อกูลกันมานมนาน ไม่ใช่แค่ตัวบุคคลอย่างเดียวเท่านั้น ในส่วนของภาคธุรกิจก็มีกิจกรรมในการส่งต่อความห่วงใย ผ่านทั้งในเรื่องของเงินบริจาค หรือสิ่งของ เพื่อใช้ในการดำรงชีพ เรียกว่าเป็นการมอบโอกาส มอบชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้น

ในการพัฒนาสังคม หรือชุมชนในประเทศไทยให้แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างยั่งยืนได้นั้น ต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจจากหลายๆ ฝ่าย ภาครัฐบาล เอกชน องค์กรการกุศล รวมไปถึงประชาชน เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนา และการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งในด้านความเป็นอยู่ สภาพแวดล้อม สุขอนามัย และการศึกษา

ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาคเอกชนก็มีส่วนสำหรับในการขับเคลื่อนสังคม ช่วยให้สังคมมีความเป้นอยู่ที่ดีขึ้น หนึ่งในองค์กรเอกชนที่เด่นชัดทั้งในแง่ของแบรนด์ดิ้ง และการช่วยเหลือสังคม ก็คือ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด องค์กรยักษ์ใหญ่ที่อยู่คู่ประเทศไทยมายาวนาน เรียกว่าคนไทยผูกพันกับโตโยต้า มอเตอร์อยู่ไม่น้อย นอกจากจะมีสินค้า และบริการที่ช่วยให้ผู้บริโภคได้มีชีวิตที่ดีขึ้นแล้ว โตโยต้า มอเตอร์ยังมีโครงการดีๆ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็ก และเยาวชนคนไทยให้ดีขึ้นด้วย

หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ “มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย” กันมาบ้างแล้ว มูลนิธินี้ได้ก่อตั้งขึ้นในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2535 ภายใต้เจตนารมณ์ของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เพื่อส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงมอบโอกาสในการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับเด็กและเยาวชน ให้ได้เติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพต่อไป โดยได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากนักวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิ จากสถาบันการศึกษาในประเทศ เพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคล อันเป็นรากฐานสำคัญของประเทศ

มูลนิธิโตโยต้าได้สานต่อโครงการนี้มาต่อเนื่องยาวนานถึง 31 ปี เป็นการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมโดยเฉพาะ ซึ่งจะมุ่งเน้นในเรื่องการส่งเสริมสังคม เน้นที่การสนับสนุนเสียมากกว่า โดยมี 3 แกนหลักที่ให้ความสำคัญ ได้แก่

  1. การให้ส่งเสริมในด้านการศึกษา
  2. การมอบโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็ก เยาวชน และผู้พิการ
  3. การส่งเสริมการดำเนินการขององค์กรสาธารณกุศลต่างๆ

เพราะทั้ง 3 แนวทาง เป็นพื้นฐานสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ ซึ่งทางมูลนิธิฯ มีความเชื่อในการ “พัฒนาบุคคล” เพื่อที่บุคคลจะเติบโตขึ้น และเป็นรากฐานที่สำคัญของประเทศได้นั่นเอง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กๆ ที่ขาดแคลนโอกาส ให้มีโอกาสเติบโตเป็นบุคลากรที่ดีของประเทศได้ ซึ่งในการพัฒนาบุคคลนั้น จำเป็นต้องวางรากฐานเรื่องการศึกษา และเสริมคุณภาพชีวิตให้ดี ช่วยส่งเสริมสังคมอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต

ทางมูลนิธิโตโยต้า ได้มีกิจกรรมสำคัญประจำปี ก็คือ “พิธีมอบทุนสนับสนุนประจำปี” เป็นการมอบทุนสนับสนุนแก่องค์กรการกุศล และมหาวิทยาลัยต่างๆ ในปีนี้ได้จัดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2566 ณ Toyota ALIVE บางนา ได้มอบทุนรวมมูลค่ากว่า 17.55 ล้านบาท

ไฮไลท์พิเศษของปีนี้ เรียกได้ว่าแตกต่างจากปีก่อน และเป็นปรับให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ทางมูลนิธิฯ มีการเพิ่มเติมทุนการศึกษาสำหรับการส่งเสริมฝีมือแรงงานวิชาชีพ ด้วยการสนับสนุนทุนพยาบาล และทุนอาชีวศึกษา เพื่อส่งเสริมการพัฒนางานด้านสาธารณสุข และภาคอุตสาหกรรม

ซึ่งสอดคล้องกับแนวทาง “อุตสาหกรรมใหม่” (New S-curve) อาทิ การผลิตบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถในด้านอาชีวะ รวมถึงการมอบทุนสนับสนุนพยาบาลวิชาชีพ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร (Medical Hub) เป็นต้น เป็นการสอดรับเทรนด์ Health & Wellness ที่มีคนสนใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาฝีมือด้านอุตสาหกรรม อันจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคตต่อไป

นอกจากการสนับสนุนด้านเงินทุนแล้ว มูลนิธิฯ ยังมีการสนับสนุนโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน และชุมชนเพิ่มเติมอีกด้วย เพื่อให้เด็ก และเยาวชนในวัยเรียนได้รับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนตามหลักโภชนาการ รวมถึงการสนับสนุนในด้านสาธารณูปโภค เพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

สำหรับพิธีมอบทุนสนับสนุนในปีนี้ นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานมูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย พร้อมด้วย นายกลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และนายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมเป็นเกียรติในการมอบทุนครั้งสำคัญนี้ด้วย

จะเห็นได้ว่า มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย มุ่งเน้นการช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่องมาตลอด 31 ปี โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการสนับสนุนดังกล่าว จะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้เยาวชนได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างยั่งยืน เหมาะสม และเท่าเทียมกัน รวมถึงช่วยให้เด็ก และเยาวชนในพื้นที่ห่างไกลได้มีโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิต และเติบโตด้วยความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นรากฐานที่แข็งแรงในการพัฒนาประเทศ อันจะนำไปสู่การยกระดับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงช่วยขับเคลื่อนสังคมไทยให้เข้าใกล้เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals) ต่อไปในอนาคต

“โตโยต้า สานโอกาส สร้างรอยยิ้ม”

]]>
1445875
‘โตโยต้า’ ฟาดกำไร Q1 กว่า 1.1 ล้านล้านเยน โต 94% พร้อมเร่งหาทาง “ลดต้นทุนรถอีวี” แข่งจีน! https://positioningmag.com/1439557 Wed, 02 Aug 2023 06:25:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1439557 ขึ้นแท่นเป็นค่ายรถยนต์ที่มี ยอดขายอันดับ 1 ยืนยาว 4 ปีซ้อน โดยล่าสุด โตโยต้า (Toyota) ได้รายงานผลประกอบการ ไตรมาส 1 ตามปีงบการเงิน 2023 (เมษายน-มิถุนายน) โดยผลกำไรเติบโตเกือบ 2 เท่า และที่น่าสนใจคือ รถยนต์ไฮบริด ที่มีการเติบโตจากหลักพันไปเป็นหลักหมื่น

ผลประกอบการของ โตโยต้า ในช่วงไตรมาส 1 ตามปีงบการเงิน 2023 อยู่ที่ 10.5 ล้านล้านเยน เติบโต +24.2% โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน (operating profit) 1.12 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น +94% และกำไรสุทธิ (net profit) อยู่ที่ 1.31 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น +78%

โดยโตโยต้า สามารถขายรถยนต์ได้ 2.53 ล้านคัน โดย 34% ของยอดขายเป็น รถยนต์หรู ทั้งแบรนด์โตโยต้าและเล็กซัสที่น่าสนใจคือ รถไฮบริดและรถพลังงานไฟฟ้าอื่น ๆ มียอดขายถึง 29,000 คัน เพิ่มขึ้นจาก 4,000 คั ที่จำหน่ายในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

โตโยต้า ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการและยอดขายของบริษัทเติบโตนั้นเป็นเพราะปัญหาขาดแคลนชิปที่ลดลง ขณะที่ยอดขายของบริษัทก็เติบโตในทุกภูมิภาคทั่วโลก นอกจากนี้ ราคาของรถยนต์ในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรปก็มีราคาดีขึ้น รวมถึงปัจจัยหนุนจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงทำให้รายได้ในหน่วยเงินเยนสูงขึ้น

โดยหากแยกเป็นแต่ละภูมิภาคพบว่า ผลประกอบการใน ญี่ปุ่น นั้นยังแข็งแกร่ง โดยมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปีก่อนหน้าเป็น 7 แสนล้านเยน คิดเป็นกว่า 60% ของกำไรจากการดำเนินงานทั้งหมด ส่วนในตลาด อเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นตลาดหลักอีกแห่งก็มีความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค เนื่องจากผลกระทบของการขาดแคลนชิปหลังการระบาดใหญ่ลดลง

Koji Sato ที่เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารต่อจาก Akio Toyoda เมื่อต้นปีนี้ เคยยอมรับว่า โตโยต้าล้าหลังในด้านรถยนต์ไฟฟ้า ดังนั้น บริษัทจะต้อง ตามให้ทัน โดยบริษัทจะต้องทำงานในเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งล่าสุด โตโยต้าได้ประกาศว่าจะ เสริมสร้างการพัฒนาเทคโนโลยี EV ในประเทศจีน โดยตั้งเป้าที่จะ ลดต้นทุนการผลิตรถอีวีลงอย่างมาก รวมถึงการพัฒนาฐานซัพพลายเออร์ในท้องถิ่นเพื่อให้สามารถแข่งขันได้มากขึ้น

โดยตลาดรถอีวีในจีนมีการแข่งขันสูงมาก จากเดิมที่เคยมองว่าเป็นโอกาสของผู้เล่นต่างประเทศ แต่ปัจจุบันกลับมีค่ายรถยนต์ในประเทศเกิดใหม่จำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีการดัมพ์ราคาจาก เทสลา (Tesla) ที่กำลังทำให้เกิดการแข่งราคาอย่างหนักในตลาด

สำหรับผลประกอบการในปีงบประมาณนี้ โตโยต้าคาดว่าจะมีรายได้รวม 38 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น +2.3% ส่วนกำไรสุทธิ (net profit) อยู่ที่ 2.58 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น +5.2% ส่วนรายได้จากการดำเนินงาน (operating income) อยู่ที่ 3 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น +10.1%

ทั้งนี้ หุ้นของโตโยต้า ที่เคยเพิ่มขึ้น 1.15% ก่อนการประกาศผลประกอบการ และหลังจากที่รายงานผลกำไรทำให้หุ้นปิดเพิ่ม 2.5% ที่ 2,445.5 เยน

reuters / japantoday

]]>
1439557
ไม่แผ่ว! ยอดขายทั่วโลกของ ‘โตโยต้า’ ในเดือนก.พ. พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทะลุ 7 แสนคัน https://positioningmag.com/1425756 Fri, 31 Mar 2023 00:58:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1425756 ถือว่าเริ่มต้นปีได้อย่างแข็งแรง สำหรับ โตโยต้า (Toyota) แบรนด์รถยนต์ที่มียอดขายอันดับ 1 ของโลก 3 ปีซ้อน โดยปี 2022 ทำมียอดจำหน่ายทั้งหมด 10.5 ล้านคัน และในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยอดขายของโตโยต้าก็เติบโตได้กว่า 10% สูงสุดเป็นประวัติการณ์

โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 10.3% จากปีที่แล้ว เป็น 773,271 คัน ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนนี้ โดยมีปัจจัยหนุนจากยอดขายในประเทศดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ก็เริ่มดีขึ้น

โดย ยอดขายในญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 53.2% เป็น 155,840 คัน หลังจากที่ลดลงอย่างหนักในปีที่แล้วเนื่องจากการขาดแคลนชิ้นส่วนและผลกระทบจากข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของ COVID-19 ส่วน ยอดขายรถยนต์ในต่างประเทศปรับตัวขึ้น 3.0% แตะที่ 617,431 คัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ ยอดขายในจีนเพิ่มขึ้น 0.9% โดยได้แรงหนุนจากการเปิดตัวรถยนต์โตโยต้ารุ่นใหม่ ๆ

ในส่วนของภาคการผลิตรถยนต์ภายในประเทศปรับตัวขึ้น 11.2% แตะ 281,521 คัน ส่งผลให้ยอดการผลิตรถยนต์ทั่วโลกของโตโยต้าพุ่งขึ้น 2% แตะที่ 755,839 คัน แม้วว่าการผลิตในต่างประเทศของโตโยต้าลดลง 2.7% เหลือ 474,318 คัน เนื่องจากการผลิตในจีนลดลง 14.1% ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม แม้จะมียอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ แต่โตโยต้ายังเจอกับปัญหาการส่งมอบรถยนต์ที่ล่าช้า เนื่องจากข้อจำกัดในการผลิตซึ่งเกิดจากการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะการส่งมอบในญี่ปุ่นมีความล่าช้าเป็นพิเศษ เนื่องจากผลิตโมเดลระดับไฮเอนด์ที่มีฟังก์ชันขั้นสูงซึ่งต้องอาศัยชิปจำนวนมาก

ทั้งนี้ โตโยต้าได้ปรับลดเป้าหมายการผลิตรถยนต์ทั่วโลกสำหรับปีงบการเงินที่สิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2023 ลงสู่ระดับ 9.1 ล้านคัน จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 9.2 ล้านคัน เนื่องจากผลกระทบของปัญหาขาดแคลนชิป ขณะที่เป้าหมายการผลิตในเดือนมีนาคม โตโยต้าวางเป้าที่จะผลิตรถยนต์ให้ได้ 900,000 คัน

Source

]]>
1425756
กำไร ‘โตโยต้า’ ลดลง 18% เนื่องจากเจอปัญหา ‘ต้นทุน’ ทำพิษโดยเฉพาะชิปที่ขาดแคลน https://positioningmag.com/1418923 Fri, 10 Feb 2023 13:29:09 +0000 https://positioningmag.com/?p=1418923 แม้ โตโยต้า (Toyota) จะยังรักษาแชมป์ค่ายรถเบอร์ 1 ของโลกปี 2022 ด้วยยอดขายเกือบ 10.5 ล้านคัน แต่ด้วยปัญหาขาดแคลนชิปที่ผู้ผลิตยานยนต์ทั่วโลกต่างต้องเผชิญเหมือน ๆ กัน บวกกับปัญหาเงินเฟ้อและเงินเยนอ่อนค่า ทำให้ต้นทุนของบริษัทสูงขึ้นจนกระทบกับผลกำไร

แม้โตโยต้าจะรักษาอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์ทั่วโลก 3 ปีซ้อน แต่เนื่องจาก เงินเยนที่อ่อนค่า ในขณะที่ ราคาวัสดุพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะ ชิปที่ขาดแคลน ได้ส่งผลกระทบต่อผลกำไรของโตโยต้าอย่างมาก โดยผลประกอบการรวม 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ (เม.ย. 2022-ธ.ค. 2022) อยู่ที่ 27.5 ล้านล้านเยน เติบโตขึ้น 18% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

แม้รายได้จะเติบโตแต่กำไรกลับไม่โตตาม โดยโตโยต้ามี กำไรสุทธิ 1.89 ล้านล้านเยน ลดลง 18% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณก่อน นับเฉพาะไตรมาส 3 (ต.ค.-ธ.ค) กำไรลดลง 8% อยู่ที่ 7.27 แสนล้านเยน ลดลงจาก 7.91 แสนล้านเยนในปีก่อนหน้า ทั้งนี้ โตโยต้ายังคงเป้ากำไรสุทธิทั้งปีงบประมาณ (ที่สิ้นสุดเดือน มี.ค. 2023) ที่ 2.36 ล้านล้านเยน หรือ ลดลง 17.2%

“ผู้แทนจำหน่าย ซัพพลายเออร์ และโรงงานผลิตทำงานหนักภายใต้สถานการณ์ที่แผนการผลิตผันผวนอย่างมากเนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์และภัยธรรมชาติ กำลังรับภาระจากซัพพลายเออร์ของเราที่เกิดจากราคาวัสดุและพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น เพื่อให้กิจกรรมเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันได้” โตโยต้า ระบุ

เซอิจิ ซุงิอุระ นักวิเคราะห์อาวุโสของสถาบันวิจัยโตไก โตเกียว มองว่า โตโยต้ายังอยู่ในสถานะที่ดีกว่าแบรนด์คู่แข่ง เนื่องจากบริษัทนั้น มีอำนาจต่อรองสูง กับซัพพลายเออร์ชิ้นส่วน นอกจากนี้ การตัดสินใจของจีนที่จะยุตินโยบายปลอดโควิดและอาจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ถือเป็นปัจจัยบวกเช่นกัน ดังนั้น แนวโน้มยอดขายรถยนต์จึงเป็นไปในทิศทางที่ดี

ในเดือนมกราคมปี 2023 โตโยต้าตั้งเป้าหมายการผลิตที่มั่นใจที่ 10.6 ล้านคัน ซึ่งสูงกว่าปีที่ผ่านมา และสูงปี 2019 ที่มียอดผลิต 9 ล้านคัน ถึงจะวางเป้าไว้สูง แต่ปัญหาขาดแคลนชิปอาจทำให้ยอดการผลิตอาจหายไป 10% จากเป้าหมาย

]]>
1418923
ซีอีโอ ‘โตโยต้า’ ชี้ ‘รถอีวี’ ยังไม่ใช่กระแสหลัก และนโยบายเลิกใช้ ‘รถสันดาป’ ยากจะทำตาม https://positioningmag.com/1403018 Tue, 04 Oct 2022 04:24:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1403018 หลายคนมองว่า ‘โตโยต้า’ (Toyota) ผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 1 ของโลกนั้น ช้า เกินไปสำหรับตลาดรถอีวี แต่ อากิโอะ โทโยดะ ซีอีโอของบริษัทก็ยังเชื่อว่ารถอีวียังไม่ใช่ กระแสหลัก อย่างที่ข่าวประโคมกัน และมองว่าข้อบังคับที่จะ เลิกใช้รถยนต์สันดาป เป็นไปได้ยากที่จะสำเร็จ

อากิโอะ โทโยดะ ซีอีโอ โตโยต้า มอเตอร์ ไม่เชื่อว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะถูกนำมาใช้เร็วตามที่ผู้ควบคุมนโยบายและคู่แข่งคิด เนื่องด้วยเหตุผลหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยด้านโครงสร้างพื้นฐาน ราคา และความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค ซึ่งปัจจัยดังกล่าวถือเป็นตัวอย่างของอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้น

นอกจากปัจจัยดังกล่าวแล้ว เรื่องข้อบังคับที่จะ ยกเลิกไม่ให้ใช้รถยนต์สันดาป ภายในปี 2035 ในหลายประเทศ ซึ่งโทโยดะก็เชื่อว่า ยากในการปฏิบัติตาม และหากคนเริ่มหันไปใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ปัญหาการขาดแคลนซัพพลายเชนแบตเตอร์รี่ ก็จะตามมา โดยเฉพาะยังการขาดแคลน ลิเธียมและนิกเกิล เกรดแบตเตอรี่ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ซึ่งนำไปสู่ปัญหาด้านการผลิต

“ตอนนี้รถยนต์ไฟฟ้ายังไม่ใช่กระแสหลักอย่างที่สื่อประโคมข่าว แต่จะใช้เวลาอีกนาน เช่นเดียวกับรถยนต์ไร้คนขับที่เราทุกคนคิดว่าจะเป็นเทรนด์”

อย่างไรก็ตาม โตโยต้าก็ไม่ได้ทิ้งการพาตัวเองเข้าสู่เทรนด์รถยนต์พลังงานสะอาด โดยได้เพิ่มงบลงทุน สองเท่า หรือราว 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 9 ปีจากนี้ และภายในปี 2025 โตโยต้าตั้งเป้าที่จะออกรถยนต์พลังงานสะอาด 15 รุ่น ไม่ว่าจะเป็นแบบไฮบริด, ปลั๊กอินไฮบริด, รถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน และรถอีวี 100% พร้อมกับตั้งเป้าหมายที่จะปล่อยคาร์บอนให้เป็นกลางภายในปี 2050

“สำหรับผมชัยชนะหมายถึงการทำสิ่งต่าง ๆ ที่แตกต่างออกไป ทำในสิ่งที่คนอื่นอาจสงสัย แต่เราเชื่อว่ามันจะทำให้เราอยู่เป็นผู้ชนะได้นานที่สุด”

สุดท้าย โทโยดะ ย้ำว่า โตโยต้าเปรียบเสมือนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ดังนั้น เป้าหมายของบริษัทยังคงเหมือนเดิม คือ สร้างความพอใจให้กับลูกค้าในวงกว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

Source

]]>
1403018
‘โตโยต้า’ เตรียมกลับมาเปิดสายการผลิตในญี่ปุ่นอีกครั้งหลังถูก ‘โจมตีทางไซเบอร์’ https://positioningmag.com/1376051 Wed, 02 Mar 2022 07:00:30 +0000 https://positioningmag.com/?p=1376051 Kojima Industries Corp. ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ของ โตโยต้า (Toyota) และโรงงานในเครือบางส่วนในญี่ปุ่น เช่น Hino และ Daihatsu ต้องหยุดสายการผลิตหลังจากถูกโจมตีทางไซเบอร์ โดยพบไวรัสในเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ของบริษัท แม้รายละเอียดอยู่ระหว่างการสอบสวน แต่โตโยต้าวางแผนจะกลับมาเปิดไลน์ผลิตอีกครั้งในวันนี้

โตโยต้าวางแผนที่จะกลับมาดำเนินการผลิตที่โรงงานทั้ง 14 แห่ง ภายในวันพุธนี้ หลังจากที่ต้องหยุดไลน์ผลิตทั้งหมด 28 สายการผลิตที่โรงงานในญี่ปุ่นเป็นเวลาหนึ่งวันเต็ม เนื่องจากการโจมตีทางไซเบอร์ไปที่บริษัท Kojima Industries อย่างไรก็ตาม กลไกการผลิตทางกายภาพของการผลิตไม่ได้รับผลกระทบจากไวรัส

ชิโอริ ฮาชิโมโตะ โฆษกหญิงของโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป เปิดเผยว่า ทั้งสองบริษัทได้ใช้ทางเลือกอื่นในการผลิตต่อไป แม้ว่าปัญหาเซิร์ฟเวอร์ยังไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งนี้ บริษัท Kojima Industries ถือเป็นซัพพลายเออร์ที่ทำหน้าที่ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนพลาสติกในญี่ปุ่น และเป็นผู้จัดหาสินค้ามากมายให้กับโตโยต้า เช่น เครื่องปรับอากาศ ส่วนประกอบพวงมาลัย และชิ้นส่วนอื่น ๆ สำหรับภายในและภายนอกรถยนต์

ด้าน Kojima Industries เปิดเผยว่า บริษัทได้รับ “ข้อความข่มขู่” เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมกับไวรัสในไฟล์คอมพิวเตอร์ แต่บอกไม่ได้ว่าเป็นแรนซัมแวร์หรือไม่ โดยตำรวจจังหวัดไอจิก็กำลังสอบสวนอยู่เช่น อย่างไรก็ตาม ปัญหาเซิร์ฟเวอร์ได้รับการแก้ไขบางส่วนในวันอาทิตย์ แต่บริษัทตัดสินใจว่าต้องใช้เวลาเพิ่มอีกหนึ่งวันเพื่อให้ระบบคอมพิวเตอร์โดยรวมทำงานได้ตามปกติ

Source

]]>
1376051
ไม่แผ่ว! ‘Toyota’ ขึ้นเบอร์ 1 ยอดขายรถยนต์มากสุดแซงแชมป์เก่า ‘Volkswagen’ 2 ปีติด https://positioningmag.com/1370405 Fri, 14 Jan 2022 03:49:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1370405 ข้อมูลจากบริษัท Toyota Motor Corp (โตโยต้า) เปิดเผยว่าแบรนด์ติดอันดับสูงสุดในด้านยอดขายรถยนต์ทั่วโลกในปี 2564 โดยแซงหน้าแชมป์เก่าอย่าง Volkswagen AG (โฟล์คสวาเกน) ของเยอรมนีเป็นปีที่สองติดต่อกัน ท่ามกลางปัญหาซัพพลายเชนชิ้นส่วนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เริ่มคลี่คลาย

โฟล์คสวาเกน เปิดเผยว่า ยอดขายทั่วโลกของปีที่แล้ว (2564) ลดลง 4.5% มาอยู่ที่ 8.88 ล้านคัน ซึ่งต่ำกว่าที่โตโยต้าจำหน่ายทั่วโลก 9.56 ล้านคันระหว่างเดือนมกราคมถึงพฤศจิกายนเท่านั้น ทั้งนี้ ยอดขายของโตโยต้านั้นนับรวมยอดขายของ Daihatsu Motor Co ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ขนาดเล็กของกลุ่ม และผู้ผลิตรถบรรทุก Hino Motors Ltd.

อย่างไรก็ตาม การหยุดชะงักของซัพพลายเชนชิ้นส่วนรถยนต์อันเนื่องมาจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตรถยนต์แทบทุกราย ทำให้โฟล์คสวาเกนต้องหยุดการผลิตรถยนต์เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิปทั่วโลก ส่งผลให้จำหน่ายรถยนต์ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่วนโตโยต้ายังได้รับผลกระทบน้อยกว่าจึงไม่ส่งผลต่อยอดขายมากนัก

ทั้งนี้ ยอดขายของโฟล์คสวาเกนในตลาดบ้านเกิดอย่างยุโรปตะวันตกลดลง -2.7% มาอยู่ที่ 2.86 ล้านคัน ขณะที่ยอดขายในตลาดหลักของจีนลดลง -14.1% มาอยู่ที่ 3.30 ล้านคัน ซึ่งนับรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายภายใต้แบรนด์ Audi และ Porsche

แม้รถยนต์สันดาปจะแผ่ว แต่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเป็น 452,900 คัน ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริดเพิ่มขึ้นประมาณ 60% เป็น 309,500 คัน โดยเจ้าหน้าที่ของโฟล์คสวาเกน กล่าวว่า ในขณะที่บริษัทประสบความสำเร็จในการขายที่น่าพอใจภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะชดเชยผลกระทบของวิกฤตการณ์ชิป

Source

]]>
1370405
ทันไหม! ‘โตโยต้า’ ลงทุน 3.5 หมื่นล้านเหรียญในรถยนต์ไฟฟ้า วางเป้าเปิดตัว 30 รุ่นภายในปี 2573  https://positioningmag.com/1367049 Wed, 15 Dec 2021 06:56:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1367049 โตโยต้า (Toyota) หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก แต่ในแง่ของรถยนต์ไฟฟ้านั้น ยอดขายส่วนใหญ่ของบริษัทมาจากรถยนต์ไฮบริดเป็นหลัก ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่อย่างเดียวทำยอดขายได้เพียงเศษเสี้ยวของยอดขายในปัจจุบัน

ในที่สุด ‘โตโยต้า’ ก็พยายามรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว โดยกำลังวางแผนที่จะลงทุน 4 ล้านล้านเยน (3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่จำนวน 30 รุ่นภายในปี 2573 นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ทั่วโลก 3.5 ล้านคันต่อปีภายในสิ้นทศวรรษนี้

โดยโตโยต้า จะเพิ่มการลงทุนใหม่ในด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่อีก 5 แสนล้านเยน (4.4 พันล้านดอลลาร์) รวมเป็น 2 ล้านล้านเยน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการใช้งบลงทุน 4 ล้านล้านเยนที่จะรวมทั้งรายจ่ายฝ่ายทุน ตลอดจนการวิจัยและพัฒนา รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ ทั้งไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง ซึ่งใช้ไฮโดรเจนเป็นแหล่งพลังงาน

“ในยุคที่มีความหลากหลายและไม่อยู่ในกฎนี้ สิ่งสำคัญคือต้องเปลี่ยนประเภทและปริมาณของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้อย่างยืดหยุ่น ขณะเดียวกันก็จับตาดูแนวโน้มของตลาด เราเชื่อว่าการปรับตัวอย่างรวดเร็วต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคตมีความสำคัญมากกว่าการพยายามทำนายอนาคต ซึ่งไม่มีอะไรนอกจากความไม่แน่นอน เราต้องการให้ลูกค้ามีตัวเลือกต่างๆ จนกว่าจะรู้เส้นทางที่ถูกต้อง” อากิโอะ โทโยดะ ซีอีโอ กล่าว 

ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันของโตโยต้าส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดที่ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ร่วมกัน ส่วนยอดขายรถ EV แบบใช้แบตเตอรี่เท่านั้นมีเพียงเศษเสี้ยวของยอดขายปัจจุบัน สำหรับแบรนด์หรูอย่าง Lexus โตโยต้าตั้งเป้าที่จะให้รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่คิดเป็น 100% ของยอดขายรถยนต์ในยุโรป อเมริกาเหนือ และจีน ภายในปี 2573 และทั่วโลกภายในปี 2578

แม้จะเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกรุ่นไฮบริด แต่โตโยต้าค่อนข้างช้าในการผลักดันไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า 100% เมื่อเทียบกับคู่แข่งทั่วโลก เช่น General Motors และ ฟอร์ด และเมื่อเดือนที่ผ่านมา คู่แข่งอย่าง Nissan ประกาศว่า จะลงทุน 2 ล้านล้านเยน (ประมาณ 1.76 หมื่นล้านดอลลาร์) ในอีก 5 ปีข้างหน้าเพื่อเร่งการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และมีแผนจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ 23 รุ่นภายในปี 2573 โดย 15 รุ่นจะเป็นระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

Source

]]>
1367049