ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายเมืองอิตาลีประกาศขายบ้านร้างในราคาแค่ 1 ยูโร (ราว 36 บาท) แต่เวลานี้สถานการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นกับเมืองซาเลมี ในแคว้นซิซิลี เช่นกัน หลังจากฝ่ายบริหารของเกาะแห่งนี้นำเสนอที่พักอาศัยมากกว่า 30 แห่ง ที่จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงใหม่ ในราคาพอๆ กับแฮมเบอร์เกอร์ 1 ชิ้นของแมคโดนัลด์
ก่อนหน้านี้หลายเมืองของอิตาลีก็เคยประกาศขายบ้านพักในราคาถูก 1 ยูโรมาแล้ว ในนั้นรวมถึงเมือง Sambuca di Sicilia บนเกาะเดียวกันนี้ เนื่องจากจำนวนประชากรที่ลดลงอย่างน่าใจหาย เพราะชาวเมืองต่างย้ายออกไปหางานทำ เริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองใหญ่เป็นจำนวนมาก
ในส่วนของเมืองซาเลมี อาคารที่พักอาศัยจำนวนหนึ่งของเมืองถูกทิ้งร้างมานานหลายทศวรรษแล้ว หลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในพื้นที่เมื่อปี 1968 ก่อความเสียหายแก่สิ่งปลูกสร้างเป็นส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่นั้นฝ่ายบริหารได้ดำเนินการอย่างมากมายในความพยายามฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานระดับท้องถิ่น และหวังว่าผู้คนจะหันกลับมามองเมืองแห่งนี้ในฐานะสถานที่ที่เหมาะแก่การลงทุน
โดโมนิโก เวนูติ นายกเทศมนตรีของเมือง ให้สัมภาษณ์ต่อซีเอ็นเอ็น ทราเวล ว่า “ทุกอาคารเป็นของสภาเมือง และทางสภากำลังเร่งการขาย และลดกฎระเบียบที่ยุ่งยากล่าช้าของทางราชการ เพื่อดึงดูดนักลงทุน”
“ก่อนเริ่มโครงการนี้ สิ่งแรกที่เราทำคือฟื้นฟูพื้นที่เก่าของเมืองซาเลมี ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่พักอาศัย ปรับปรุงยกระดับโครงการพื้นฐานและการบริการต่างๆ ไล่ตั้งแต่ท้องถนน โครงข่ายไฟฟ้าและท่อน้ำทิ้ง ตอนนี้เมืองพร้อมแล้วสำหรับขั้นต่อไป” เขากล่าว
แม้แคว้นซิซิลี เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ยากจนที่สุดของอิตาลี แต่มันกลายเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โรงแรมสไตล์บูติคเปิดให้บริการจำนวนหนึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เมืองซาเลมี เป็นแหล่งที่ตั้งของปราสาทนอร์แมน, พิพิธภัณฑ์ศีลจุ่มแบบชนบท และพิพิธภัณฑ์พลเมืองซาเลมี นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและร้านกาแฟอีกจำนวนหนึ่งซึ่งล้วนเป็นร้านค้าในราคาประหยัด
นอกจากเมืองซาเลมี และ Sambuca di Sicilia แล้ว เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เมือง Cinquefrondi ในแคว้นคาลาเบรีย ทางภาคใต้ของอิตาลี ก็ประกาศขายบ้านที่จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงใหม่ในราคาแค่ 1 ยูโรเช่นกัน
กระนั้นก็ตาม ผู้เป็นเจ้าของจำเป็นต้องจ่ายเงินประกันเพิ่มอีก 250 ยูโรต่อปี เพื่อรับประกันว่าจะซ่อมแซมปรับปรุงบ้านให้มีสภาพสมบูรณ์พร้อมเข้าอยู่ได้หลังการซื้อขาย ภายในเวลาที่กำหนด
]]>จากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในวิกฤต COVID-19 ประกอบกับการใช้กฎหมายความมั่นคงของจีนเเละการชุมนุมประท้วง ส่งผลให้ชาวฮ่องกงตัดสินใจประกาศ “ขายอสังหาริมทรัพย์” ของตัวเองมากขึ้น
ข้อมูลจาก Centaline Property Agency ตัวแทนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกง ระบุว่า ปัจจุบันชาวฮ่องกงประกาศขายบ้านถึง 26,000 หลัง เป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นถึง 44% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ความกดดันจากกฎหมายความมั่นคงของจีน ความตึงเครียดทางการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจเเละอัตราการว่างงานที่เพิ่มสูงจากโรคระบาด ทำให้ประชาชนฮ่องกงบางส่วน มองหา “ลู่ทาง” ในการย้ายไปยังประเทศอื่นมากขึ้น
โดยสหราชอาณาจักร (UK) เป็นหนึ่งในประเทศยอดนิยมที่ชาวฮ่องกงอยากย้ายไปอยู่มากที่สุด เพราะความคุ้นเคยจากการที่เคยครอบครองเกาะฮ่องกงมาก่อน
Eric Yip ผู้อำนวยการ Link-UK Property Consultancy บริษัทตัวเเทนขายอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักรให้กับชาวฮ่องกง เปิดเผยกับ Bloomberg ว่า บริษัทของเขามีการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ในระหว่างเดือนมิ.ย. – ส.ค. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
เเนวโน้มดังกล่าวเกิดขึ้นหลังรัฐบาลอังกฤษ มอบสิทธิพิเศษทางวีซ่าอนุญาตให้ชาวฮ่องกง 3 ล้านคน สามารถยื่นขอสัญชาติได้ โดยลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการ “ขายบ้านหลังเดิม” ในฮ่องกง เพื่อนำเงินมาซื้อบ้านหลังใหม่ในสหราชอาณาจักรหรือประเทศอื่นๆ ที่จะย้ายไป
ที่มา : Bloomberg
]]>