ความสุขลด – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 08 Apr 2022 12:28:51 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 คนไทย “สุขลดลง” จากปัญหาค่าครองชีพ เครียดข่าวอาชญากรรม-เศรษฐกิจมากขึ้น https://positioningmag.com/1381114 Fri, 08 Apr 2022 11:50:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1381114
  • “โฮคูโฮโด” สำรวจคนไทยทุกๆ 2 เดือน รอบล่าสุดประจำเดือนเมษายน 2565 พบคนไทย “สุขลดลง” เทียบกับรอบก่อน เพราะกังวลเรื่องไวรัสผสมกับปัญหาค่าครองชีพ
  • คนไทยสนใจข่าวโอมิครอนน้อยลงแม้จะยังเป็นข่าวอันดับ 1 ข่าวแตงโมตกน้ำและสงครามรัสเซีย-ยูเครนมาแรง ข่าวอาชญากรรม การเมือง เศรษฐกิจเข้ามาอยู่ในความสนใจสูงขึ้น
  • การจับจ่ายเน้นด้านอาหาร ของใช้จำเป็น เครื่องใช้ไฟฟ้า ลดการซื้อเสื้อผ้า เครื่องสำอาง การท่องเที่ยว
  • สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) จัดสำรวจ “ผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคม” (Sei-katsu-sha) ทุกๆ 2 เดือน โดยในประเทศไทยรอบล่าสุดสำรวจเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2565 กลุ่มตัวอย่างเป็นคนไทยวัย 20-59 ปีจาก 6 ภูมิภาค จำนวน 1,200 คน

    ผลสำรวจรอบนี้จัดทำเป็นรายงานประจำเดือนเมษายน 2565 ในด้าน “ความสุข” ของคนไทยอยู่ที่ 63 คะแนน ลดลง -2 คะแนน เทียบกับรายงานรอบเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เนื่องจากโรค COVID-19 ยังระบาดอยู่ และมีปัจจัยความกังวลด้านเศรษฐกิจฝืดเคืองเข้ามาเสริม

    เมื่อสำรวจประเด็นข่าวที่คนไทยให้ความสนใจมากที่สุด 10 อันดับ จะเห็นได้ว่าคนไทยสนใจเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ และอาชญากรรมสูง ส่วนไวรัสโอมิครอนแม้จะยังอยู่อันดับ 1 แต่ได้รับความสนใจลดลงมาก ดังนี้

    1. COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ โอมิครอน 47% (-6%)
    2. แตงโมตกน้ำ (12%) (new)
    3. สงครามรัสเซีย-ยูเครน (9%) (new)
    4. การเมือง (9%) (+2%)
    5. เศรษฐกิจ (4%) (+2%)
    6. ค้ามนุษย์ (3%) (new)
    7. หลานฆ่ายายยัดถัง (2%) (new)
    8. ราคาน้ำมัน (2%) (new)
    9. คริปโตเคอร์เรนซี/บิตคอยน์ (2%) (คงเดิม)
    10. ฟุตบอล (2%) (-1%)

    คนไทยรัดเข็มขัด ใช้แต่ที่จำเป็นก่อน

    “จริงๆ แล้วคนไทยนั้นชอบช้อป แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ต่างๆ ตอนนี้ ทำให้สินค้าหลายๆ อย่างมีราคาสูงขึ้น ทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค ทำให้คนไทยระมัดระวังเรื่องของการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และซื้อของที่ไม่จำเป็นลดลง” ชุติมา วิริยะมหากุล ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) กล่าว

    นั่นทำให้ผลสำรวจความต้องการซื้อสินค้าของคนไทย กลุ่มที่เพิ่มมากขึ้นคือ “อาหาร” มาเป็นอันดับ 1 สัดส่วน 25% และเติบโต 5% “ของใช้ในชีวิตประจำวัน” อันดับ 2 สัดส่วน 15% เติบโต 2% “ตู้เย็น/เครื่องใช้ไฟฟ้า” อันดับ 5 สัดส่วน 5% เติบโต 1% และ “รถยนต์” อันดับ 9 สัดส่วน 4% เติบโต 2%

    ส่วนสินค้าที่คนไทยลดความต้องการลงคือ “เสื้อผ้า” “ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม” “การท่องเที่ยว” และ “คอมพิวเตอร์/แท็บเล็ต”

    ในมุมนักการตลาด เมื่อพบว่าคนไทยมีความสุขลดลง และเคร่งเครียดจากข่าวอาชญากรรม เศรษฐกิจ คนไทยมองหาความมั่งคั่งมากกว่างานที่มั่นคง ต้องการรายได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เป็นช่วง “สงกรานต์” ที่คนไทยยังให้ความสำคัญกับครอบครัวและยังมองหาของขวัญให้ญาติผู้ใหญ่อยู่ แม้จะรัดเข็มขัดมากก็ตาม

    พรนภัส สุลัยมณี” นักวางแผนกลยุทธ์ ฮาคูโฮโด เฟิร์ส (ประเทศไทย) จึงให้คำแนะนำแบรนด์ในการทำการตลาดที่ช่วยคลายเครียดและเน้นไปที่ครอบครัวเป็นหลัก ดังนี้

    1. แบรนด์ควรชวนคลายเครียดด้วยกิจกรรมใหม่ๆ เน้นเสริมความสัมพันธ์กับครอบครัวแต่ยังปลอดภัยจาก COVID-19 เพราะเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาของครอบครัว ที่แบรนด์สามารถเข้าไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ เปลี่ยนบรรยากาศการเฉลิมฉลองกับครอบครัว สนับสนุนการอุปโภคและบริโภคสินค้าภายในบ้านที่ดีต่อสุขภาพและจิตใจเป็นหลัก เพื่อชดเชยข้อจำกัดด้านการเดินทางท่องเที่ยว หรือ กลับบ้านไปหาครอบครัวในช่วงโอมิครอนนี้
    2. เสนอโปรโมชันช่วงซัมเมอร์ที่แปลกใหม่ พร้อมสนับสนุนการส่งความรักความห่วงใยถึงกัน เพื่อต้อนรับช่วงเวลาที่สำคัญของครอบครัว อย่างการส่งมอบความรักความห่วงใยให้กับครอบครัวหรือคนที่เรารักแม้อยู่ห่างไกลกัน

     

    อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

    ]]>
    1381114
    โควิดทำ ‘ความสุขคนพื้นที่แดงเข้ม’ หดอีก 2% เหตุ ‘ค่าใช้จ่าย’ สวนทางรายได้ https://positioningmag.com/1344932 Mon, 02 Aug 2021 12:55:56 +0000 https://positioningmag.com/?p=1344932 หากพูดถึงการ ‘ล็อกดาวน์’ เพราะการระบาดของ COVID-19 ในไทยมีทั้งหมดถึง 5 ครั้งไปแล้ว โดยย้อนไปครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 มี.ค.-31 พ.ค. 2563 มีผลทั่วประเทศ และมาในปี 2564 หลังเกิดการระบาดระลอก 4 ก็เริ่มมาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. 2564 ใน 10 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม จากนั้นก็ขยายเวลามาเป็นครั้งที่ 4 เริ่ม 20 ก.ค. 2564 พร้อมเพิ่ม 3 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม และล่าสุด ครั้งที่ 5 เริ่ม 3-31 ส.ค. 2564 ขยายพื้นที่ สีแดงเข้ม จาก 13 จังหวัดเป็น 29 จังหวัด ซึ่งการระบาดจนต้องล็อกดาวน์นั้นก็ส่งผลให้ คนไทยมีความสุขลดลงไปอีก

    ความสุขลดลง 2% ในพื้นที่แดงเข้ม

    สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ร่วมกับ บริษัท โซซิอัส จำกัด เผยผลสำรวจการคาดการณ์พฤติกรรมผู้บริโภคไทยประจำเดือนสิงหาคม 2564 โดยมีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามประกอบไปด้วยเพศชายและเพศหญิงจำนวน 1,200 คน อายุระหว่าง 20-59 ปี จาก 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ พบว่า คนไทยมีความสุขลดลง ซึ่งมีผลกระทบมาจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในระลอก 4

    นางสาวชุติมา วิริยะมหากุล ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า เพราะการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่รุนแรงมากขึ้นในขณะนี้ ส่งผลให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องใช้ชีวิตอยู่บ้านเป็นหลักโดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุด ซึ่งจากการสำรวจพบว่าสังคมไทยส่วนใหญ่มีความวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม มีความสุข ลดลง 2% เมื่อเทียบจากผลสำรวจในช่วงเดือนมิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา

    ด้วย ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นสวนทางกับสภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง ทำให้ต้องเน้นใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น รวมไปถึงการกักตุนอาหารเพื่อการดำรงชีพของตนเองและครอบครัวภายในบ้าน และเพิ่มความรู้และทักษะในการ หารายได้จากออนไลน์มากขึ้น

    คนกรุงเทพฯ เน้นการใช้จ่ายเพื่อใช้ชีวิตที่สะดวกในบ้าน เช่น เครื่องนอน เครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนคนต่างจังหวัดอยากจับจ่ายนอกบ้านมากขึ้น อาทิ ภาคเหนือและภาคตะวันออก ผู้คนอยากออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารนอกบ้าน กิจกรรมกลางแจ้ง รวมไปถึงการท่องเที่ยว

    ในขณะที่ภาคเหนือและภาคตะวันออก ผู้คนอยากออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารนอกบ้าน กิจกรรมกลางแจ้ง รวมไปถึงการท่องเที่ยว เพราะสถานการณ์โควิดในภูมิภาคนั้นไม่รุนแรงเท่า อีกปัจจัยหนึ่งในการใช้จ่ายก็คือ เทศกาลวันแม่ นอกจากมีโอกาสพาแม่ไปรับประทานอาหารแล้ว ผู้คนยังวางแผนซื้อกระเป๋า รองเท้า และเครื่องประดับเป็นของขวัญในวันแม่อีกด้วย

    คนกลับภูมิลำเนาระยะยาว

    นางสาวอานันท์ปภา ศิริวรรณ ผู้อำนวยการสายงานวางแผนกลยุทธ์ บริษัท โซซิอัส จำกัด กล่าวว่า จากผลวิจัยในครั้งนี้ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ ปัญหาปากท้องของประชาชนที่มองว่าไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไปและต้องปรับตัวอย่างมากเพื่ออยู่รอด เมื่อดูจากพฤติกรรมผู้บริโภคทั้งในกลุ่มเสี่ยง (พื้นที่สีแดงเข้ม) และกลุ่มพื้นที่เสี่ยงในต่างจังหวัด (พื้นที่ควบคุม) หากแบ่งตามภูมิภาคจะพบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากภาครัฐประกาศล็อกดาวน์ทำให้ผู้คนต่างกลับภูมิลำเนาและวางแผนอยู่แบบระยะยาว ส่งผลให้มีแนวโน้มการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ทั้งนอกจากเครื่องอุปโภคบริโภคที่มากขึ้นแล้ว ยังรวมถึงค่าน้ำมันและยานพาหนะ และใช้จ่ายเกี่ยวกับที่พักอาศัยไม่ว่าจะเป็นการต่อเติมหรือตกแต่งบ้าน

    หากจำแนกเป็นช่วงอายุ สำหรับวัย 20-39 ปี พบว่ามีความต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ที่รองรับในช่วง Work from home เช่น ของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ และในช่วงอายุ 50-59 ปี มีความต้องการสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเพื่อความสะดวกสบายและมีการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในเรื่องสุขภาพและความงามจากข้อมูลพบว่า 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่คนไทยใช้จ่ายมากที่สุดในช่วงสถานการณ์ล็อกดาวน์ เป็นกลุ่มสินค้าที่เน้นอำนวยความสะดวกการใช้ชีวิตในบ้านเป็นหลัก ได้แก่

    • อาหาร 25%
    • ของใช้เป็นในประจำวัน 17%
    • โทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟน 11%
    • อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และแท็บเล็ต 6%
    • เสื้อผ้าและเครื่องประดับ 5%

    หวยแม่น้ำหนึ่งติดโผข่าวที่คนไทยสนใจสูงสุด

    นางสาวอรุณโรจน์ เหล่าเจริญวงศ์ รองผู้อำนวยการสายงานวางแผนกลยุทธ์ บริษัท โซซิอัส จำกัด กล่าวเสริมว่า ประเด็นข่าวร้อนที่คนไทยติดตามและถูกพูดถึงมากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่

    1. ข่าวประเด็นสังคมที่เกี่ยวกับสถานการณ์ COVID-19 (40%)
    2. ข่าวการจัดสรรววัคซีน COVID-19 ของรัฐบาล (24%)
    3. ข่าวกระแสสังคมการเมืองที่หวังเห็นความโปร่งใส (8%)

    อันดับ 4 ได้แก่ ข่าวลุงพล-น้องชมพู่ อันดับ 5 อุบัติเหตุรถ BMW Z4 ส่วนในอันดับที่ 6-10 ยังคงเป็นข่าวเศรษฐกิจ การช่วยเหลือจากภาครัฐ หรือแม้กระทั่งการหารายได้ด้วยการเสี่ยงโชคจาก หวยแม่น้ำหนึ่ง ที่จะช่วยเยียวยาสถานการณ์ด้านการเงิน

    สำหรับแบรนด์ที่ต้องการสื่อสารในช่วงนี้ มีข้อเสนอแนะสองส่วนคือ

    1. การสื่อสารที่แตกต่างกันในพื้นที่เสี่ยง โซนสีแดงเข้ม เน้นสื่อสารแบบออนไลน์กับคนที่ต้องทำงาน รวมถึงการเรียนออนไลน์ที่บ้าน ส่วนในพื้นที่ควบคุม โซนสีแดง-สีเหลือง-สีส้ม-สีเขียว เน้นการสื่อสารทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ ให้เข้าถึงประชาชนที่ยังต้องเดินทางและใช้ชีวิตนอกบ้าน

    1. เน้นการสื่อสารแบ่งแยกตามกลุ่มที่มีความสนใจเน้นกิจกรรมในที่พักอาศัย การพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เพื่อพึ่งพาและเพิ่มรายได้ให้กับตนเอง ซึ่งแบรนด์ยังคงสามารถช่วยเพิ่มความสุขให้กับประชาชนที่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้านได้
    ]]>
    1344932