โดย “โยชิฮิเดะ สุงะ” หัวหน้าเลขานุการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น วัย 71 ปี ได้รับการวางตัวให้เป็นผู้สืบทอดทางการเมืองของนายกรัฐมนตรีอาเบะ หลังประกาศลาออกอย่างกะทันหัน เมื่อเดือนที่ผ่านมาด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ ท่ามกลางความท้าทายของญี่ปุ่นในช่วงวิกฤต COVID-19 เเละมรสุมเศรษฐกิจตกต่ำ
คะเเนนของสุงะนำโด่งจากผลโหวต 377 จาก 534 เสียง เอาชนะคะเเนน “ชิเกรุ อิชิบะ” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และอดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอย่าง “ฟูมิโอ คิชิดะ”
เป็นที่เเน่ชัดว่า ผู้ชนะที่ได้เป็นหัวหน้าพรรคแอลดีพี จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปอย่างเเน่นอน เพราะเป็นพรรครัฐบาลที่ได้ที่นั่งส่วนใหญ่ในสภาอยู่แล้ว โดยขั้นตอนต่อไปคือ การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในรัฐสภาในวันพุธที่ 16 ก.ย.ที่จะถึงนี้
กล่าวกันว่า สุงะคือตัวแทนรัฐบาลที่ประชาชนรู้จักมากที่สุดรองจากอาเบะ เพราะเขาทำหน้าที่หัวหน้าโฆษกรัฐบาลมานานกว่า 7 ปี และต้องเปิดแถลงกับผู้สื่อข่าววันละ 2 ครั้ง เขายังเป็นที่รู้จักด้วยฉายานาม “คุณลุงเรวะ” เพราะเขานี่เองคือคนเปิดชื่อรัชสมัยใหม่ของญี่ปุ่นเมื่อปีก่อน
สุงะ เกิดในครอบครัวเกษตรกรที่ปลูกสตรอว์เบอร์รี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยโฮเซในปี 1973 ก่อนหันมาลงเล่นการเมืองและเข้าเป็นสมาชิกพรรคแอลดีพี
ส่วนประวัติการทำงานและตำแหน่งของสุงะไม่ใช่แค่เลขาฯ ธรรมดา แต่ถือเป็นหน้าที่ “มือขวา” ของนายกฯ และเป็นคนสนิทที่สุดของชินโซ อาเบะมาตลอดเกือบ 8 ปี ทำให้ผลงานของเขาพิสูจน์ได้เพราะเป็นหนึ่งในผู้กำหนดทิศทางนโยบายต่างๆ มาตลอด
โดยคาดหมายว่า สุงะจะดำรงตำแหน่งไปจนครบวาระที่เหลือของอาเบะ จากนั้นจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนก.ย.ปี 2021 อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่นอาจจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดในเร็ว ๆ นี้
ที่มา : BBC , Japantimes , CNN
]]>หลังผ่านพ้นวันที่ 2,799 ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ วัย 65 ปี เพิ่งจะสร้างสถิตินายกฯ ญี่ปุ่นที่อยู่ในตำแหน่งนานที่สุดที่แดนปลาดิบเคยมีมา แต่สุขภาพของเขากำลังจะทำให้เขาต้องหยุดสถิติลง หลังเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเคโอ กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2563 และเพิ่งได้รับผลการตรวจครั้งล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ผลการตรวจพบว่าสุขภาพของอาเบะย่ำแย่ลงอีกนับตั้งแต่เริ่มเข้าโรงพยาบาลในเดือนกรกฎาคม การที่เขาเข้าโรงพยาบาลมาแล้ว 2 ครั้ง และครั้งหนึ่งต้องพักในโรงพยาบาลนาน 7 ชั่วโมงครึ่ง ทำให้เกิดความกังวลภายในพรรคเสรีประชาธิปไตยมาพักใหญ่แล้วว่า อาเบะอาจจะไม่สามารถทำหน้าที่ต่ออีก 1 ปีจนครบเทอมได้ และมีการคาดการณ์หาคนขึ้นแทนที่ตำแหน่งนายกฯ มาแล้วระยะหนึ่ง แม้หน้าฉากทางพรรคจะปฏิเสธกับนักข่าวว่าอาเบะยังมีสุขภาพดี
อาเบะนั้นป่วยเป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรังมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ทั้งนี้ รายละเอียดเชิงลึกในการเข้าโรงพยาบาลของอาเบะยังไม่เปิดเผยว่าเกิดจากสาเหตุใด
อย่างไรก็ตาม นายกฯ อาเบะจะแถลงข่าวเกี่ยวกับสุขภาพของเขาในเวลา 17.00 น. วันนี้ตามเวลาท้องถิ่นญี่ปุ่น
Source: The Japan Times, Aljazeera
]]>ชินโซ อาเบะ กล่าวว่า เขาจะปกป้องประชาชนสูงอายุ และบุคคลที่มีสุขภาพอ่อนแอ จากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แต่รัฐบาลจะไม่ประกาศภาวะฉุกเฉินอีกถึง แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ มีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศเกือบ 50,000 คน
นายกฯ ญี่ปุ่นอ้างว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลนั้นมีไม่มาก และผู้ที่มีอาการหนักก็มีไม่มาก จำนวนเตียงในโรงพยาบาลนั้นก็มีเพียงพอ
อาเบะคาดว่า การระบาดของ COVID-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่นหนักกว่าเมื่อครั้งที่เกิดวิกฤตการเงินโลกเมื่อปี 2551 เมื่อวันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้รับรองเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 1 ล้านล้านเยน สำหรับช่วยเหลือบรรดาธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม และจะพิจารณาให้การสนับสนุนเพิ่มเติมแก่หน่วยงานด้านการแพทย์ตามที่จำเป็น
รัฐบาลญี่ปุ่นถูกวิจารณ์อย่างหนักจากโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว Go To Travel ซึ่งรัฐบาลช่วยออกเงินค่าโรงแรม และที่พักให้ส่วนหนึ่งกับชาวญี่ปุ่นเพื่อออกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ สวนทางกับสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ที่ทางการท้องถิ่นต่างๆ ขอให้ประชาชนงดการเดินทาง และหลังจากวันหยุดยาวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
แต่นายกฯ อาเบะยืนยันว่า จะดำเนินโครงการนี้ต่อไป เพื่อสร้าง “วิถีชีวิตใหม่” ที่ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวได้ปลอดภัยถึงแม้ว่าจะมีไวรัสก็ตาม
]]>Kekst CNC บริษัทด้านยุทธศาสตร์การสื่อสาร ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในประเทศต่างๆ คือ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี สวีเดน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น เกี่ยวกับมาตรการของผู้นำประเทศในการรับมือไวรัส COVID-19 พบว่า นายกฯ ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่นมีผลคะแนนต่ำที่สุด คือ -33 จุด สะท้อนความไม่พอใจของชาวญี่ปุ่น
คะแนนของนายอาเบะยังน้อยกว่าที่ชาวอเมริกันประเมินประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ −20 ผู้นำที่ได้คะแนนในแดนลบเช่นกัน ก็คือ ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส และนายกฯ บอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ
ผู้นำที่ประชาชนให้คะแนนพอใจการรับมือ COVID-19 สูงที่สุดในกลุ่มประเทศพัฒนา คือ นายกฯ อังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี และ นายกฯ สเตฟาน ลูฟเฟน ของสวีเดนก็ได้คะแนนในด้านบวก
ชาวญี่ปุ่นไม่พอใจที่รัฐบาลของนายอาเบะล่าช้าในการควบคุมการระบาดของ COVID-19 ธุรกิจ SMEs ได้รับความช่วยเหลือน้อย และล่าช้า โดยมีธุรกิจเพียง 20% ที่บอกว่ารัฐบาลได้ช่วยเหลืออย่างเหมาะสม ซึ่งน้อยที่สุดใน 6 ประเทศที่สำรวจ ส่วนประเทศที่ธุรกิจพอใจในความช่วยเหลือของรัฐบบาลมากที่สุด คือ อังกฤษ
ประชาชนชาวญี่ปุ่น 32% ยังบอกว่ากังวลว่าจะตกงานเพราะ COVID-19 ขณะที่ประเทศต่างๆ ในกลุ่มนี้ ประชาชนมีความกังวลเรื่องงานราว 20% หรือน้อยกว่า
]]>ในวันที่ 9 กรกฎาคม ทั่วประเทศญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ 355 คน เฉพาะกรุงโตเกียวมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 224 คน ถือเป็นยอดรายวันที่สูงสุดของกรุงโตเกียวตั้งแต่เกิดการระบาด โดยก่อนหน้านี้ กรุงโตเกียวก็มีผู้ติดเชื้อรายวันเกิน 100 คนมานานกว่าสัปดาห์ ทั้งนี้ ยอดผู้ติดเชื้อรวมทั้งหมดในกรุงโตเกียวขณะนี้อยู่ที่ 7,272 คน
จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะในกรุงโตเกียว ทำให้นางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว ขอให้ชาวกรุงโตเกียวหลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกเมืองหลวงที่ไม่จำเป็น รวมทั้งผู้ว่าการจังหวัดรอบข้างกรุงโตเกียว เช่น ไซตามะ ชิบะ คานางาวะ ก็ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังกรุงโตเกียว เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัส
แต่นายยาซูโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีที่รับผิดชอบการป้องกันโรค COVID-19 กลับมีท่าที่ “สวนทาง” โดยเขาระบุว่า รัฐบาลยังไม่เปลี่ยนจุดยืน ไม่ห้ามประชาชนเดินทางข้ามจังหวัด เขากล่าวว่า “นโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่นคือ ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างเสรีเหมือนที่เคยเป็นมา” และยังบอกว่าได้โทรศัพท์หารือกับผู้ว่าการกรุงโตเกียวแล้ว
รัฐบาลญี่ปุ่นยังจะอนุญาตให้สามารถจัดกิจกรรมต่างๆ ได้โดยมีจำนวนสูงสุดของผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่เกิน 5,000 คนตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.
นอกจากนี้ การแข่งขันฟุตบอลอาชีพ “เจลีก” และเบสบอลอาชีพของญี่ปุ่น ก็จะให้ผู้คนกลับมาเข้าชมการแข่งขันที่สนามกีฬาได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 10 ก.ค. ตามแผนที่วางไว้เดิม แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นก็ตาม
รัฐบาลของชินโซ อาเบะ ได้ยุบคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำแนะนำเรื่องการรับมือไวรัส COVID-19 และจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นใหม่ภายใต้คณะรัฐมนตรี ประชุมกันครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ที่ 6 ก.ค. คณะกรรมการที่ส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองนี้เลือกที่จะเดินหน้าเศรษฐกิจ
โดยอ้างว่าการติดเชื้อระลอกนี้ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อในคนหนุ่มสาว (75% มีอายุ 21-39 ปี) ผู้ที่มีอาการรุนแรงมีไม่มาก โดยชี้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่มากขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการเพิ่มจำนวนการตรวจหาเชื้อ โดยในวันที่ 9 ก.ค. มีจำนวนการตรวจอยู่ที่ 3,400 คน มากกว่าช่วงการระบาดระลอกแรกเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2563 ถึง 3.4 เท่า
คณะกรรมการในคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นยังสรุปว่าขณะนี้มีทรัพยากรทางการแพทย์เพียงพอรองรับได้ สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ซึ่งตอนนั้นมีการประกาศภาวะฉุกเฉิน
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ยกเลิกการประกาศภาวะฉุกเฉินตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม และได้เดินหน้าฟื้นฟูกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างเต็มตัว ถึงแม้ทางการท้องถิ่นต่างๆ จะกระชับมาตรการป้องกันการติดเชื้ออีกครั้ง แต่รัฐบาลของนายกฯ อาเบะ ก็ยังคงย้ำว่า ยังควบคุมสถานการณ์ได้ ไม่มีความจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมเพิ่มเติม
]]>ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งในเมืองโอตะ จังหวัดกุนมะ ได้นำกล่องรับบริจาคหน้ากากอนามัยที่ประชาชนได้รับจากรัฐบาลออกไปทั้งหมด โดยเป็นไปตามคำสั่งของบริษัทไปรษณีย์แห่งญี่ปุ่น ที่บอกว่า การรับบริจาคเช่นนี้ “ขัดต่อนโยบายของรัฐบาล”
นอกจากนี้ หน่วยงานราชการหลายแห่ง ที่เคยรับบริจาคหน้ากากอนามัยของรัฐบาล ก็ยกเลิกโครงการเช่นเดียวกัน
นายกฯ ชินโซ อาเบะ ได้ใช้งบประมาณ 47,000 ล้านเยน เพื่อแจกจ่ายหน้ากากอนามัยผ้าให้กับประชาชนครัวเรือนละ 2 ชิ้น แต่มีปัญหามากมาย เช่น หน้ากากสกปรกเปรอะเปื้อน จนต้องเรียกคืนมาตรวจสอบและจัดส่งใหม่ เพิ่มภาระงบประมาณให้สูงขึ้นไปอีก
แต่ประชาชนกลับพบว่าหน้ากากของนายอาเบะมีขนาดเล็กกว่ามาตรฐานมาก จึงพากันนำไปบริจาคเพื่อให้เด็กๆ ใช้ ที่ทำการไปรษณีย์และสำนักงานเขตหลายแห่งก็จัดโครงการรับบริจาคหน้ากากที่ประชาชนไม่ต้องการ การกระทำเช่นนี้คาดว่าทำให้รัฐบาลเสียหน้าไม่น้อย
ผู้ใหญ่ในบริษัทไปรษณีย์แห่งญี่ปุ่นบางคนตั้งข้อสังเกตว่า เหมาะสมหรือไม่ที่ไปรษณีย์แห่งญี่ปุ่นเป็นผู้แจกจ่ายหน้ากากอนามัยของรัฐบาล แต่กลับมารับบริจาคหน้ากากที่ประชาชนไม่ต้องการ? จึงมีการสั่งการให้ยุติการรับบริจาค โดยอ้างว่าขัดนโยบายของรัฐบาล
ในเอกสารแถลงข่าวของบริษัทไปรษณีย์แห่งญี่ปุ่น ยังระบุว่า การเรียกนโยบายนี้ว่า “อาเบะโนมาส์ก” Abenomask เป็นการลบหลู่ความตั้งใจในการสร้างความปลอดภัยให้ประชาชนของนายกฯ จึงห้ามใช้คำนี้
เจ้าหน้าที่ของบริษัทไปรษณีย์แห่งญี่ปุ่น ได้อ้างถึงความเห็นของนายโยชิฮิเดะ ซูงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่เรียกร้องให้ประชาชนเก็บหน้ากากที่ได้รับแจกไว้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงการระบาดของโรคโควิดระลอกที่ 2
]]>นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ ออกคำสั่งยกเลิกครอบคลุม 39 จังหวัดจากทั้งหมด 47 จังหวัดทั่วประเทศ เว้นแต่กรุงโตเกียว และเมืองโอซาก้า ยังคงใช้มาตรการประกาศภาวะฉุกเฉินต่อไปจนกว่าจะสามารถควบคุม COVID-19 ได้
“ในขณะที่การควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้มากที่สุดด้วยการกระทำที่เสมือนว่าไวรัสกำลังอยู่รอบตัวเรา และเราในเวลานี้จะกลับคืนสู่ชีวิตการทำงานตามปกติและการใช้ชีวิตประจำวัน” อาเบะแถลง
รอยเตอร์รายงานว่า 39 จังหวัดที่ถูกสั่งยกเลิกคิดเป็นสัดส่วนประชากร 54% ของทั้งหมดทั่วประเทศ ขณะที่ภูมิภาคกรุงโตเกียวคิดเป็น 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจทั้งหมด
รัฐบาลญี่ปุ่นรายงานถึงตัวเลขผู้ป่วยที่ลดลง 20% ในระยะเวลา 9 วันที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 7 พ.ค. อยู่ที่ 4,449 และที่กรุงโตเกียวมีเคส COVID-19 ตกลงไปเหลือแค่ 10 คนในวันที่ 13 พ.ค.
ทำให้ตอนนี้ญี่ปุ่นมีจำนวนผู้ติดเชื้อรวมอยู่ที่ 16,049 คน เสียชีวิต 678 คน
]]>ถึงแม้รัฐบาลญี่ปุ่นจะออกมาตรการเข้มงวด เพื่อแก้ปัญหาหน้ากากอนามัยขาดแคลนท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนา ทั้งออกกฎหมายจำคุก 1 ปี ปรับเงิน 1 ล้านเยนผู้ที่โก่งราคาขายหน้ากาก หรือให้เงินสนับสนุนบริษัทต่างๆ เพิ่มกำลังการผลิตหน้ากาก แต่จนถึงขณะนี้หน้ากากอนามัยก็ยังหาซื้อไม่ได้ในญี่ปุ่น
นายกฯ ชินโซ อาเบะ แถลงข่าวโดยสวมหน้ากากผ้าขนาดกะทัดรัด ผิดมาตรฐานหน้ากากทั่วไป พร้อมระบุว่าจะแจกหน้ากากอนามัยผ้านี้ให้กับทุกครัวเรือนในญี่ปุ่น ครัวเรือนละ 2 ชิ้น และยังจะส่งหน้ากาก 500,000 ชิ้นไปให้กับสตรีมีครรภ์ทั่วประเทศด้วย ชาวญี่ปุ่นต่างเรียกนโยบายนี้ว่า “อาเบะโนมาสก์” Abenomask เลียนแบบนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจของนายอาเบะที่ขนานนามว่า “อาเบะโนมิกส์” Abenomics
หน้ากากของนายอาเบะเริ่มจัดส่งให้สตรีมีครรภ์และประชาชนเมื่อวันศุกร์ที่ 17 เม.ย. แต่เมื่อประชาชนได้รับกลับตกตะลึงเมื่อพบว่า หน้ากากอนามัยบางส่วนเปรอะเปื้อน ขึ้นรา มีเส้นผมของมนุษย์และฝุ่นติดอยู่ ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ มีการร้องเรียนหน้ากากที่มีปัญหามากกว่า 11,500 ชิ้น
แต่กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นกลับบอกว่า หน้ากากอนามัยที่มีปัญหาจะได้รับการเปลี่ยนใหม่ พร้อมเรียกร้องให้บริษัทที่ผลิตหน้ากากตรวจสอบให้ดี แต่ยังเดินหน้าแจกหน้ากากต่อไป
ชาวญี่ปุ่นได้ไปตั้งกระทู้ถามในเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุขว่า ทำไมหน้ากากของนายอาเบะมีขนาดเล็ก เหมือนกับของเด็กใช้? แต่ทางกระทรวงฯ อ้างว่าหน้ากากมีขนาดใหญ่พอที่จะปิดปากและจมูกของผู้ใหญ่
เมื่อวัดพิสูจน์พบว่า หน้ากากของนายอาเบะมีขนาด 95 X 135 มม. ขณะที่หน้ากากอนามัยมาตรฐานมีขนาด 95 X 175 มม.
#Abenomask
Too small to cover my beard ! pic.twitter.com/szx0KczoLT— Kenji Ikeda (@ikenda_64) April 17, 2020
ไม่เพียงแค่เรื่องขนาดของหน้ากากที่ผิดมาตรฐาน และความเลอะเทอะเปรอะเปื้อน แต่สื่งที่ชาวญี่ปุ่นไม่พอใจนโยบาย “อาเบะโนมาร์ก” คือ การใช้งบประมาณมากถึง 47,000 ล้านเยน เพื่อการนี้ ทั้งๆ ที่ควรจะนำเงินไปช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานแทบไม่ได้พักผ่อน หรือเพิ่มการตรวจคัดกรองเชื้อ ที่จะช่วยสกัดกั้นการระบาดได้มีประสิทธิภาพกว่า
โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า หน้ากากของนายอาเบะราคาชิ้นละ 200 เยน (ราว 60 บาท) แพงกว่าราคาทั่วไปเพราะมีค่าใช้จ่ายอื่น เช่น การทำแผ่นพับแนะนำวิธีซัก โดยเฉพาะค่าบรรจุซองและจัดส่งทางไปรษณีย์ก็สูงกว่า 1,000 ล้านเยน
Arrived 2 masks called #ABENOMASK
There are pros and cons, it's criticized "2 masks no #lockdown" but better than nothing, and it's good if disposable masks instead go to the #frontlines fighting against the #coronavirus. Wear masks when you are out, ne
#covid19 pic.twitter.com/iogiDXSXse
— japantotheworld.com (@japan2theworld) April 20, 2020
ชาวญี่ปุ่นให้ความเห็นเช่น
“หน้ากากหาซื้อไม่ได้มา 3 เดือนแล้ว ตอนนี้เพิ่งมาแจกไม่สายไปหน่อยหรือ?”
“เปลืองทั้งเงิน เวลา และแรงงานพนักงานไปรษณีย์ แจกหน้ากากผ้าที่ใช้งานไม่ได้”
“เอาเงินไปช่วยเหลือแพทย์ พยาบาล และคนที่ตกงานจะดีกว่าไหม?”
“บรรจุซองมาอย่างดี พร้อมแนะนำวิธีซัก (ที่รู้อยู่แล้ว) แต่หน้ากากขึ้นรา สกปรก”
“ WHO ชี้ชัดว่า หน้ากากผ้าไม่สามารถป้องกันไวรัสได้ เป็นเรื่องโง่ ๆ ที่คิดว่าหน้ากากนี้จะสกัดไวรัสที่ขนาดเล็ก 0.1 ไมครอน”
“ทำไมมีกฎหมายจำคุก ปรับล้านเยนแล้ว ถึงยังหาซื้อหน้ากากไม่ได้ รัฐบาลต้องเสียงบประมาณมาแจก”
ชาวญี่ปุ่นบางคนจึงคิดจะนำหน้ากากของนายอาเบะไปบริจาค หรือขายต่อทางอินเทอร์เน็ต ทำให้เว็บไซต์ขายสินค้ารายใหญ่อย่าง Mercari และ Yahoo Japan ไปสั่งห้ามขายหน้ากากผ้าบนเว็บของตนแล้ว
ชาวญี่ปุ่นหลายคนดัดแปลงภาพในการ์ตูนชื่อดังเพื่อเสียดสีนโยบาย “อาเบะโนมาร์ก” เช่น ครอบครัวพ่อแม่ลูก แต่ได้รับหน้ากากแค่ 2 ชิ้น หรือภาพนายอาเบะนั่งหลับคาหน้ากากในรัฐสภา ขณะที่นายทาโร อาโซ รองนายกฯ สาละวนอยู่กับหน้ากากที่ปิดหน้าปิดตาตัวเอง และที่แสบสันที่สุด คือ ภาพตัดแต่งนายอาเบะมีหน้ากาก 2 ชิ้นปิดปากและดวงตา เสียดสีนโยบาย “ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิด”
]]>การแข่งขัน โอลิมปิก 2020 ที่จะมีขึ้นวันที่ 24 กรกฏาคม ยังอยู่ในภาวะเครื่องหมายคำถามหลังจากที่ประเทศเจ้าภาพกำลังเผชิญภาวะเชื้อไวรัสระบาด โดยปัจจุบันมีรายงานผู้ติดเชื้อมากกว่า 900 คน และเสียชีวิตไปแล้ว 11 ราย
ก่อนหน้านี้ โธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) และทีมผู้จัดการแข่งขันที่โตเกียว ยืนยันว่ามหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ จะดำเนินต่อไปตามแผนเดิม ไม่มีการเลื่อนหรือยกเลิกโปรแกรม
ด้านของ ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม โดยเจ้าตัวระบุว่าต้องการให้ โอลิมปิก ดำเนินการต่อไป และวอนขอให้ประชาชนทุกคนในประเทศ ร่วมแรงร่วมใจกันดูแลตนเอง เพื่อช่วยกันลดการแพร่ระบาด
“พูดอย่างตรงไปตรงมา ลำพังทางรัฐบาลคงไม่สามารถเอาชนะการต่อสู้ครั้งนี้ได้ ผมจึงตัดสินใจแล้วว่าพวกเราทุกคนต้องช่วยกันดูแลเรื่องนี้ตลอดช่วง 1-2 สัปดาห์ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด”
]]>นายอาเบะเปิดเผยก่อนเดินทางเยือนตะวันออกกลาง เมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่าเขาไม่มีความคิดที่จะอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และประธานพรรคเสรีประชาธิปไตยหลังจากหมดวาระสมัยที่ 3 ถึงแม้ว่าภายในพรรคจะมีเสียงเรียกร้องให้เขาเป็นผู้นำต่อไป จากการนำพาพรรคคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งถึง 6 ครั้ง
นายอาเบะยังบอกว่า ไม่มีแผนจะยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าในตอนนี้ แต่เขาจะไม่ลังเล ถ้าหากได้เวลาที่เหมาะสม
นายอาเบะกำลังจะดำรงตำแหน่งนายกฯ ญี่ปุ่นครบ 3,000 วัน ซึ่งถือว่ายาวนานที่สุดหลังสงครามโลก เขาเคยดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2549 แต่ได้ลงจากตำแหน่งหนึ่งปีให้หลังเนื่องจากปัญหาสุขภาพ นายอาเบะกลับมาดำรงตำแหน่งผู้นำญี่ปุ่นอีกครั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2555 และได้พยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจตามแผนที่ถูกเรียกว่า “อาเบะโนมิกส์”
อย่างไรก็ตาม ภายในระยะเวลาการดำรงตำแหน่งที่ยาวนานนี้ นายอาเบะตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์ และเกิดข้อกล่าวหาหลายเรื่องเกี่ยวกับการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง ซึ่งรวมไปถึงเหตุอื้อฉาวเกี่ยวกับการขายที่ดินของรัฐในราคาถูกให้พวกของตน
กระทรวงการคลังได้ขายที่ดินให้แก่ผู้ประกอบการสถานศึกษารายหนึ่งในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดหลายร้อยล้านเยน โดยนางอากิเอะ อาเบะ ภริยาของนายอาเบะ มีชื่อเป็นผู้อำนวยการกิตติมศักดิ์ของโรงเรียนที่จะสร้างขึ้นบนที่ดินแห่งนั้น ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมา นอกจากนี้ยังพบว่า เจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลังได้แก้ไขเอกสารราชการที่เกี่ยวข้องกับการขายที่ดินนี้
ล่าสุด ยังมีกรณีงานชมดอกซากุระของสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดยใช้งบประมาณของรัฐ นายอาเบะถูกกล่าวหาว่า เชิญบุคคลที่เป็นฐานเสียงของตัวเอง และนักธุรกิจที่มีข้อครหาเข้าร่วมงาน และได้เพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมงานเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ภรรยา และผู้สนับสนุนที่เป็นฐานเสียงของเขา
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐธรรมนูญ ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้ดำเนินคดีอาญากับนายอาเบะ ในข้อหา “ทุจริตต่อหน้าที่” โดยระบุว่า นายอาเบะได้บังคับให้รัฐบาลใช้งบประมาณในการจัดงานนี้เกินกว่าที่กำหนดในช่วง 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2558 และจำนวนของผู้เข้าร่วมงานได้เพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปีที่แล้ว มีผู้ได้รับเชิญเข้าร่วมงานมากถึงราว 18,200 คน และใช้เงินไปกว่า 55 ล้านเยน หรือ 15 ล้านบาท ซึ่งมากกว่างบประมาณที่กำหนดไว้กว่า 3 เท่า
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นไม่มีการจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม วาระดำรงตำแหน่งของนายอาเบะในฐานะประธานพรรคเสรีประชาธิปไตย จะสิ้นสุดลงในเดือนกันยายน ปี 2564 เมื่อเขาพ้นจากตำแหน่งประธานพรรครัฐบาล ก็จะมีผลให้เขาต้องลงจากตำแหน่งผู้นำญี่ปุ่นไปด้วย โดยปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเป็นวาระที่ 3 และเป็นวาระสุดท้ายตามธรรมนูญของพรรค.
]]>