ตำเเหน่งงาน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 22 Oct 2020 05:01:13 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 อนาคตเเรงงาน อีก 5 ปี “หุ่นยนต์-ระบบอัตโนมัติ” จะทำงานเเทนมนุษย์กว่า 85 ล้านตำเเหน่ง https://positioningmag.com/1302589 Thu, 22 Oct 2020 03:54:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1302589 การเเพร่ระบาดของ COVID-19  เร่งให้ตลาดแรงงาน เปลี่ยนจากการพึ่งพาแรงงานมนุษย์ ไปพึ่งพาแรงงานหุ่นยนต์เร็วขึ้น

จากรายงาน World Economic Forum ฉบับล่าสุด เปิดเผยว่า การมาของ COVID-19 ที่ระบาดทั่วโลก เป็นปัจจัยสำคัญที่เร่งให้มีการเปลี่ยนเเปลงทางเทคโนโลยีในสถานที่ทำงาน โดยตำเเหน่งงานของมนุษย์กว่า 85 ล้านตำแหน่งจะถูกทดเเทนด้วยระบบอัตโนมัติภายใน 5 ปีข้างหน้า

“กว่า 2 ใน 5 ของบริษัทขนาดใหญ่ที่ถูกสำรวจ มีแผนจะลดพนักงานลง เนื่องจากการผสมผสานเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน”

จากการสำรวจบริษัททั่วโลกเกือบ 300 แห่ง พบว่า 4 ใน 5 ของผู้บริหารระดับสูง กำลังวางเเผนที่จะปรับการทำงานให้เป็นดิจิทัลมากขึ้น ให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน ประชุมงานผ่านวิดีโอคอล เเละจะมีการปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะในด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง บริการอีคอมเมิร์ซ เเละการสื่อสารกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์

World Economic Forum ระบุว่า ภายในปี 2025 งานที่ถูกทำโดยมนุษย์จะถูกทดแทนด้วยระบบอัตโนมัติ มากถึง 85 ล้านตำแหน่ง ทั้งงานผู้ช่วยธุรการ พนักงานบัญชี ฝ่ายจัดการข้อมูล พนักงานบริการลูกค้า ฝ่ายบริการธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ยังมีความต้องการใช้ทักษะความสามารถของมนุษย์ มาช่วยควบคุมเเละดูเเลในงานที่มีความซับซ้อนมากขึ้นอย่าง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ระบบคลาวด์การพัฒนาผลิตภัณฑ์เเละธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนเเละสิ่งเเวดล้อม

การเพิ่มขึ้นของระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ก็สามารถสร้างงานให้มนุษย์เพิ่มขึ้น 97 ล้านตำแหน่งทั่วโลก ภายใน 5 ปีข้างหน้าเช่นกัน

ต่อไปนี้บริษัททั่วโลกจะมีการฝึกอบรมอัพสกิลเเละรีสกิลพนักงานที่มีอยู่มากขึ้น ซึ่งตอนนี้ยังมีพนักงานกว่าครึ่งหนึ่งที่ยังต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เพื่อให้ทำงานกับระบบอัตโนมัติในเร็ววันนี้

โดยบริษัทชั้นนำมองว่า ทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ จะมีความสำคัญกับการทำงานในองค์กรในอนาคต เเละคาดว่าพนักงานจะมีทักษะความอดทน ยืดหยุ่น และการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ หลังผ่านพ้นวิกฤตโรคระบาด COVID-19

 

ที่มา : CNN , weforum

]]>
1302589
ทรัมป์ ระงับออก “วีซ่าแรงงานต่างชาติ-กรีนการ์ด” ยาวถึงสิ้นปี ให้คนอเมริกันได้งานก่อน https://positioningmag.com/1284776 Tue, 23 Jun 2020 11:46:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1284776 โดนัลด์ ทรัมป์” ออกประกาศประธานาธิบดี (Presidential Proclamation) ขยายเวลาระงับการ
ออกกรีนการ์ด หรือ เอกสารอนุมัติการอยู่อาศัยและทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายในสหรัฐฯ สำหรับชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่นอกสหรัฐฯ ไปจนถึงสิ้นปีนี้ รวมทั้งระงับสั่งการออกวีซ่าทำงานหลายประเภทสำหรับชาวต่างชาติชั่วคราว

โดยประกาศประธานาธิบดีดังกล่าว ได้สั่งระงับการออกวีซ่าประเภท H-1B, H-4, H-2B, J-1 , J-2 เเละ L-1 เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 มิ..ไปจนถึง 31 .. 2020 

สำหรับวีซ่า H-1B เป็นประเภทที่ออกให้กับลูกจ้างชาวต่างชาติของบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ในสหรัฐฯ ส่วนวีซ่า H-2B ออกให้กับคนทำงานตามฤดูกาลที่ไม่ใช่ในภาคการเกษตร วีซ่า J-1 สำหรับลูกจ้างชั่วคราว และวีซ่าชั่วคราวประเภทอื่นสำหรับการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และวัฒนธรรม รวมทั้ง วีซ่า L-1 สำหรับผู้บริหารของบริษัทระหว่างประเทศ

รัฐบาลสหรัฐฯ ให้เหตุผลว่า มาตรการนี้จะช่วยให้มีตำแหน่งงานว่างสำหรับคนอเมริกันราว 525,000 ตำแหน่ง เเละป้องกันไม่ให้แรงงานจากต่างชาติมาเเย่งตำเเหน่งงานในช่วงฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังการระบาดของ COVID-19 ที่ยังคงมีผู้คนว่างงานจำนวนมาก โดยเดือนพ..ที่ผ่านมา ยอดว่างงานในสหรัฐฯ เคยพุ่งสูงถึง 36.5 ล้านราย เเละแรงงานอเมริกัน 1 ใน 4 ไม่มีงานทำ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ภาคบริการในสหรัฐฯ ได้กลับมาจ้างงานเพิ่มขึ้นเเล้วราว 2 ล้านตำเเหน่ง ส่วนภาคการผลิตมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นราว 2 เเสนตำเเหน่ง

การสั่งระงับการออกวีซ่าชั่วคราวให้กับชาวต่างชาติครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจร้านอาหาร และภาคเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่ต้องพึ่งพาแรงงานจากต่างประเทศ โดยเฉพาะแรงงานต่างชาติทักษะสูงในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ใน Silicon Valley กำลังจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก ด้วยข้อจำกัดวีซ่าจะส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถของประเทศในการแข่งขันด้านเทคโนโลยี 

Sundar Pichai  ซีอีโอของ Google บอกว่า แรงงานต่างชาติมีความสำคัญอย่างมากในความสำเร็จทางเศรษฐกิจที่ทำให้อเมริกาได้เป็นผู้นำระดับโลกในด้านเทคโนโลยี บริษัทรู้สึกผิดหวังกับคำสั่งนี้ โดยจะยังคงยืนหยัดเพื่อผู้อพยพเเละเปิดโอกาสการทำงานให้ทุกคนต่อไป

ด้าน Global Public Policy ของทวิตเตอร์ ก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน โดยระบุว่า คำสั่งนี้จะทำลายสิ่งที่สำคัญที่สุดของเศรษฐกิจอเมริกา รวมถึงความหลากหลายของผู้คนในประเทศนี้ เพราะพวกเขาต่างเดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อมาทำงาน จ่ายภาษี และมีส่วนร่วมในการแข่งขันในเวทีโลก

 

 

ที่มา : Reuters , CNN

 

]]>
1284776
เปิดเเผนโอนย้ายพนักงานกว่า 11,000 คน ในการควบรวม “ทีเอ็มบี – ธนชาต” https://positioningmag.com/1262244 Tue, 28 Jan 2020 13:32:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1262244 เปิดวิสัยทัศน์ “ทีเอ็มบี-ธนชาต” ยกโมเดล “ONE GOAL” เพิ่มฐานลูกค้าเป็น 10 ล้านราย ควบสาขาทับซ้อน ทยอยโอนย้ายพนักงานกว่า 1.1 หมื่นคน ก่อนเดดไลน์กระบวนการควบรวมเบ็ดเสร็จไม่เกิน 1 ก.ค. 2564 รอตั้งชื่อเเบงก์ใหม่ภายใน 18 เดือนจากนี้ 

เดินหน้าผนึกองค์กรต่อเนื่อง หลัง “ทีเอ็มบี-ธนชาต” ประกาศดีลควบรวม 2 ธนาคารใหญ่ของไทยที่มีมูลค่า 1.4 แสนล้าน ตั้งเเต่ช่วงต้นปี 2019 ที่ผ่านมา

สำหรับการโอนย้ายพนักงานกว่า 11,000 คนจากธนชาตไปธนาคารใหม่นั้น ทางทรัพยากรบุคคลกลางได้เริ่มดำเนินการสื่อสารและจะเริ่มดำเนินการโอนการจ้างพนักงานตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป และจะมีการทยอยโอนย้ายเป็นระยะ

โดยจะเริ่มที่กลุ่มผู้บริหารระดับสูง (C-Suite Level) ก่อน จากนั้นจะเป็นพนักงานระดับหัวหน้างาน (Top Management Level) ซึ่งทั้งสองธนาคารได้ร่วมกิจกรรม Team Building กันตั้งแต่ปีที่ผ่านมา

ปัจจุบันได้โอนย้ายระดับผู้บริหารสูงสุดเรียบร้อยแล้ว โดย 3 เดือนหลังจากนี้จะเป็นการทยอยโอนผู้บริหารระดับกลางลงมา ซึ่งการโอนย้ายพนักงานจะดำเนินการเป็นระยะ เพื่อมารวมกันกับพนักงานทีเอ็มบีที่มีอยู่ราว 8,000 คน ซึ่งจะทำให้มีพนักงานทั้งสิ้นประมาณ 19,000 คน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค. 2564

ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทีเอ็มบี เปิดเผยว่า การดำเนินการจับมือทางธุรกิจรวมกิจการของทั้งสองธนาคารมีความคืบหน้าไปมาก ในปีนี้ก็จะเดินหน้ากลยุทธ์ ONE DREAM, ONE TEAM, ONE GOAL เพื่อลูกค้าของทั้งสองธนาคาร เป้าหมายจึงไม่ใช่ “หนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสอง แต่ผลลัพธ์ต้องเท่ากับสาม” บริหารและพนักงานทุกคนจะต้องเรียนรู้ผลิตภัณฑ์ซึ่งกันและกัน

“พนักงานทุกคนจะต้องได้รับสวัสดิการเท่าเทียม ซึ่งจะให้สวัสดิการตามอายุงาน ไม่ใช่ตำแหน่ง รวมถึงสวัสดิการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่สมทบให้มากกว่าระบบ”

ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทีเอ็มบี

วิจิตรา ธรรมโพธิทอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านทรัพยากรบุคคล ทีเอ็มบี และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการทรัพยากรบุคคลกลาง ธนาคารธนชาต กล่าวว่า ทางธนาคารได้ให้เงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) ในอัตราที่สูงกว่าตลาดเพื่อให้พนักงานสามารถเก็บออมได้เพียงพอไว้ใช้ยามเกษียณ

ส่วนสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลนั้น ธนาคารจัดแผนตรวจสุขภาพโดยคำนึงถึงวัยและอายุของแต่ละคนเป็นหลัก เพราะเชื่อว่าความจำเป็นของการตรวจขึ้นอยู่กับอายุร่างกาย ไม่ใช่ตำแหน่งหรืออายุงาน โดยยังคงเปิดโอกาสให้พนักงานได้เลือกแผนสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลที่เหมาะสมกับตนเอง นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการเงินกู้สำหรับพนักงานที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์การกู้ยืมของธนาคารด้วย

เพิ่มฐานลูกค้าเป็น 10 ล้านราย

อนุวัติร์ เหลืองทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้ารายย่อย กล่าวว่า การรวมสองธนาคารจะทำให้จำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านราย โดยสิ่งสำคัญที่ธนาคารต้องทำคือการนำข้อมูลที่มีอยู่มาใช้เป็นอาวุธสำคัญในการนำเสนอโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ลูกค้าในเวลาที่เหมาะสม

“ในบรรดาช่องทางบริการทั้งหลาย พนักงานสาขาทั้งหมดคือหน้าบ้านและถือเป็นด่านแรกที่จะพบกับลูกค้า จึงจำเป็นที่จะต้องมีทักษะในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและมีคุณภาพที่สุด โดยเราจะมีการอบรมอย่างเข้มข้นและโค้ชชิ่งอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างให้พนักงานสาขากลายเป็นที่ปรึกษาที่มีคุณภาพ”

สำหรับ “ทีเอ็มบี” มีจุดเด่นในการระดมเงินฝาก, Deposit Franchise และรูปแบบการให้บริการด้านการเงินที่แตกต่างจากธนาคารแบบดั้งเดิม (Traditional Bank) ส่วน “ธนชาต” เป็นผู้เชี่ยวชาญการให้บริการสินเชื่อรายย่อยโดยเฉพาะสินเชื่อรถยนต์ เป็นผู้นำอันดับ 1 ของตลาด

อ่านเพิ่มเติม : ผ่าดีล ควบรวม “TMB” – “ธนชาต” มูลค่า 1.4 แสนล้าน อาจต้องลดสาขา แต่ไม่ลดคน

เปิด Co-Location ควบสาขาทับซ้อน 

ด้านประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า เป้าหมายหลักของธนาคารในตอนนี้คือ การรวมเป็นหนึ่งเดียวภายในกรกฎาคม 2564 โดยคำนึงถึงประสบการณ์ของลูกค้าที่ได้รับบริการเป็นหลัก ว่าต้องไม่ได้รับผลกระทบใดๆ

โดยธนาคารมีแผนที่จะเริ่มทยอยนำเสนอผลิตภัณฑ์ของแต่ละธนาคารให้ลูกค้าของอีกธนาคารได้รู้จักและทดลองใช้ และกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะเริ่มเปิดให้บริการ Co-Location/ Co-Brand Branch ที่เป็นสาขาร่วมระหว่างสองธนาคาร เเละเป็นสาขาที่อยู่ในพื้นที่ใกล้กัน โดยในปีแรกจะเริ่มทำ 90-100 แห่ง จากจำนวนสาขาที่มีอยู่ปัจจุบันจำนวน 900 แห่ง ทำให้จะเหลือ 800 แห่ง ซึ่งยืนยันว่าจะไม่กระทบลูกค้าและพนักงาน

ขณะที่ในเดือนมีนาคม ลูกค้าทั้งสองธนาคารจะได้ใช้บริการ ATM/ ADM จำนวนกว่า 4,700 เครื่อง ฟรีค่าธรรมเนียมฝาก ถอน โอน ลูกค้าทีเอ็มบี ทัช สามารถทำรายการกดเงินไม่ใช้บัตรจากเครื่องของธนชาตได้ และบิลสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ บัตรเครดิตของธนชาต ก็สามารถชำระได้ที่เครื่องของทีเอ็มบี

ทั้งนี้ เมื่อกระบวนการรวมกิจการเสร็จสิ้น ธนาคารใหม่นี้จะมีสินทรัพย์รวมเกือบ ล้านล้านบาท นับเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ ในระบบธนาคารพาณิชย์ไทย 

 

]]>
1262244