ตุรกี ประกาศ ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 55% โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อลดผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น อัตราเงินเฟ้ออย่างเป็นทางการของประเทศในขณะนี้อยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 24 ปีที่ 84.4% ส่งผลให้เกิดวิกฤตค่าครองชีพที่ทำให้คนหลายล้านตกอยู่ในความยากลำบากทางการเงิน กระทบต่อธุรกิจขนาดเล็ก และทำให้หลายคนไม่สามารถซื้อสินค้าพื้นฐานได้

Recep Tayyip Erdogan ประธานาธิบดีตุรกี กล่าวว่า การเงินเดือนขั้นต่ำจะเพิ่มเป็น 8,500 ลีรา (15,700 บาท) โดยเริ่มในปี 2566 โดยคาดว่ากลุ่มแรงงานในเกณฑ์ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำมีสัดส่วนประมาณ 30% ของแรงงาน อย่างไรก็ตาม การปรับค่าแรงขั้นต่ำถึง 55% แต่นักเศรษฐศาสตร์กังวลว่ามันจะยิ่ง เพิ่มอัตราเงินเฟ้อ และมาตรการดังกล่าวเป็นเรื่องของการเมือง เนื่องจากตุรกีกำลังจะมีการเลือกตั้งในเดือนมิถุนายน 2566

Timothy Ash นักยุทธศาสตร์ด้านตลาดเกิดใหม่ที่ BlueBay Asset Management กล่าวว่า “แรงจูงใจ = ชนะการเลือกตั้ง ผลกระทบ = อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น”

ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของประเทศตุรกีเพิ่งชะลอตัวเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 18 เดือน โดยอยู่ที่ 84.4% ต่อปี ลดลงเล็กน้อยจาก 85.5% ในเดือนก่อนหน้า

ชาวตุรกีที่พยายามซื้อ iPhone และสินค้าอื่นๆ ของ Apple ผ่านเว็บไซต์ตั้งแต่วันพุธที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา จะได้รับข้อความระบุ ‘ข้อผิดพลาด’ ในการทำรายการ และไม่สามารถซื้อได้ เนื่องจาก Apple ปิดการขายผ่านเว็บไซต์เป็นการชั่วคราว หลังค่าเงินลีราดิ่งอย่างหนักจนมูลค่าการขายในตุรกีจะลดต่ำลงหากยังขายราคาเดิม

มูลค่าของค่าเงินลีรานั้นลดต่ำลงไป 43% แล้วในปีนี้ และเฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงอย่างรวดเร็วมากกว่า 22% เนื่องจากประธานาธิบดีของตุรกี “เรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน” เลือกใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพื่อจะกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งที่เงินเฟ้อในตุรกีพุ่งขึ้นเกือบ 20% แล้ว

ในทางตรงข้าม ราคาสินค้านำเข้าที่จำหน่ายด้วยค่าเงินท้องถิ่นจะเสมือนว่าได้ส่วนลดพิเศษเทียบกับราคาในประเทศอื่น และเมื่อแนวโน้มค่าเงินอาจจะยิ่งดิ่งลงอีกพร้อมกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ราคาสินค้านำเข้าในอนาคตอาจปรับสูงขึ้น ขณะที่ผู้จำหน่ายวุ่นกับการปรับราคาให้เหมาะสมท่ามกลางตลาดปั่นป่วน ผู้ซื้อหลายรายจึงได้สินค้าในราคาพิเศษไปตุนเรียบร้อย

เป็นเหตุให้ เว็บไซต์ Apple ของตุรกีถึงกับหยุดจำหน่ายสินค้าหลายรายการชั่วคราว หลังจากราคาสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ถือว่ามีมูลค่าต่ำกว่าราคาที่สหรัฐฯ ไปแล้วประมาณ 10% หลังค่าเงินลีราร่วง อย่างไรก็ตาม โฆษกของ Apple ประจำตุรกียังไม่ให้ความเห็นใดๆ

• ไม่ต้องพึ่งร้าน! ‘Apple’ เตรียมขาย ‘อะไหล่’ iPhone ให้ลูกค้าซ่อมเองที่บ้าน

ด้านเซลส์จำหน่ายสินค้า Apple ในกรุงอิสตันบูลระบุว่า ผู้ซื้อที่เข้ามาช่วงนี้มองสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เป็น “การลงทุน” พอๆ กับคนที่ต้องการซื้อใช้เอง

“เศรษฐกิจและอะไรๆ ช่วงนี้มันค่อนข้างเหนือจริงมาก แต่คนก็มองว่าร้านเราตอนนี้เป็นร้านที่มีมูลค่าจนแห่กันมาเต็มร้าน พวกเขารู้ว่าพวกเขาจะขายสินค้าได้แน่ๆ ในอีกสัก 1 ปีต่อจากนี้ และจะได้ราคามากกว่าที่จ่ายไป” เซลส์รายดังกล่าวระบุ โดยขอไม่เปิดเผยชื่อ

ซื้อแบรนด์นำเข้าเพื่อ “เก็งกำไร”

ด้านบริษัทอี-คอมเมิร์ซรายหนึ่งในตุรกีพบว่า ลูกค้าแห่กันเข้ามาซื้อสินค้าแบรนด์นำเข้าเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องสำอาง

• ประเมิน ‘เงินเฟ้อ’ มีแนวโน้มเร่งขึ้น เเต่อุปสงค์ในประเทศฟื้นตัวช้า ธุรกิจท่องเที่ยวยังมีข้อจำกัด

การร่วงลงของค่าเงินลีราประจวบเหมาะเข้ากับ ฤดูกาลลดราคา Black Friday และช่วงปีใหม่ ทำให้ผู้บริโภคกังวลว่าหลังจากปีใหม่ไปแล้ว ราคาสินค้าจะพุ่งทะยานขึ้นอย่างรุนแรง

“มาร์เก็ตเพลสส่วนใหญ่จะขอให้ผู้จำหน่ายรายใหญ่ตรึงราคาไว้ก่อน อย่างน้อยก็ในช่วงนี้ที่กำลังเป็นเทศกาลลดราคา เมื่อทั้งผู้ขายและมาร์เกตเพลสต่างต้องพึ่งพิงกันและกัน ทำให้ผู้ขายส่วนใหญ่จะยอมปฏิบัติตาม” ตัวแทนบริษัทอี-คอมเมิร์ซตุรกีรายดังกล่าวให้สัมภาษณ์กับ Reuters

สำหรับผู้ซื้อแล้ว อาจมองได้ว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะลงทุนตุนสินค้าช่วงนี้ แต่สำหรับผู้ขาย ความกังวลกำลังรออยู่ เพราะต้นทุนทุกอย่างกำลังเพิ่มขึ้นตามเงินเฟ้อและอัตราค่าเงินที่ร่วงลงเรื่อยๆ ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าแก๊ส ลามไปถึงธนาคารในยุโรปที่ปล่อยสินเชื่อให้ตุรกี อาจได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากเศรษฐกิจตุรกีหลังจากนี้

Source

ฟาห์เรตติน โคคา รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขตุรกี เปิดเผยว่า รัฐบาลอังการายังเตรียมลงนามสั่งซื้อวัคซีนจากไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทคจำนวน 4.5 ล้านโดส โดยมีออปชันซื้อเพิ่มได้อีก 30 ล้านโดส

สำหรับวัคซีนซิโนวัคนั้น ตุรกีจะได้รับในล็อตแรกทั้งหมด 3 ล้านโดส โดยมีออปชันสั่งเพิ่มได้อีก 50 ล้านโดส และคาดว่าจะเริ่มโครงการฉีดวัคซีนได้ภายในเดือน ม.ค. โดยเน้นสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และประชากรกลุ่มเปราะบางก่อน

โคคา ระบุว่า วัคซีนจากจีนจะถูกส่งมาถึงตุรกีในวันอาทิตย์ที่ 27 ธ.ค. นี้

จากผลการทดลองกับกลุ่มอาสาสมัคร 7,371 รายในตุรกีพบว่า วัคซีนของซิโนวัคให้ผลในการป้องกัน COVID-19 สูงถึง 91.25% แม้ว่าการทดลองในเฟสที่ 3 จะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ก็ตาม

รัฐบาลตุรกีตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้แก่ประชากร 1.5 หรือ 2 ล้านคนต่อวัน และโครงการฉีดวัคซีนในเฟสแรกจะครอบคลุมชาวตุรกี 9 ล้านคน

ตุรกีซึ่งมีประชากรราว 83 ล้านคน พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 แล้วกว่า 2.2 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิต 19,115 คน

Source

กระทรวงฯ ระบุในคำประกาศที่เผยแพร่เมื่อช่วงค่ำวันพุธที่ 11 พ.ย. ว่าคำสั่งห้ามสูบบุหรี่จะมีผลบังคับใช้ทันทีในหลายพื้นที่ อาทิ ถนนขนาดใหญ่และเล็ก (โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้กับการจราจร) จัตุรัสสาธารณะที่สำคัญ และจุดขนส่งสาธารณะ

คำสั่งห้ามครั้งนี้มุ่งเน้นการห้ามประชาชนสวมหน้ากากอนามัยไว้ใต้คางขณะสูบบุหรี่ในพื้นที่ที่มีฝูงชนหนาแน่น ด้านฟาห์เรตติน โคจา รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของตุรกี เรียกร้องประชาชนป้องกันตัวเองจากการติดโรค COVID-19 ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยและปฏิบัติตามกฎระเบียบการเว้นระยะห่างทางสังคม

ขณะเดียวกันหลายจังหวัดของตุรกี ซึ่งรวมถึงกรุงอิสตันบูล เมืองหลวงของประเทศ ซึ่งมีประชากรหนาแน่นมากที่สุด และจังหวัดอิซเมียร์ทางตะวันตก ยกระดับมาตรการล็อกดาวน์ต่อประชาชนที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป โดยอนุญาตให้ออกนอกบ้านได้ระหว่างเวลา 10.00 น. และ 16.00 น.

เว็บไซต์ข่าวนิกเกอิเอเชียนรีวิว รายงานว่า ตุรกีซื้อทองคำเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า เป็น 148 ตัน ระหว่างเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม ผิดกับรัสเซีย ที่ลดการเข้าซื้อทองคำลง 60% เหลือเพียง 28 ตัน

ตุรกีกำลังเห็นรายได้เงินตราต่างประเทศของพวกเขาลดลง เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงิน โดยการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และยังเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่สำคัญ ดำดิ่งเกือบแตะระดับศูนย์ระหว่างวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19)

ทั้งนี้ ค่าเงินลีราของตุรกี ดิ่งแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 7.269 ลีราต่อดอลลาร์

“มีเหตุผลทางเศรษฐกิจนิดหน่อย ที่ตุรกีเพิ่มการเข้าซื้อทองคำในตอนนี้” โคตะ ฮิรายามา นักวิเคราะห์จากเอสเออ็มบีซี นิกโกะ ซีเคียวรีตี กล่าว “ตุรกีจะมีเวลามากขึ้นในการปกป้องค่าเงินของตนเองที่อาจเสื่อมค่ายิ่งขึ้นอีก ด้วยการที่พวกเขาก็แค่ถือทุนสำรองระหว่างประเทศ”

นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า ตุรกีอาจเข้าซื้อทองคำ สืบเนื่องจากความสัมพันธ์ที่มึนตึงระหว่างพวกเขากับสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะหลังจากตุรกีรุกรานเข้าไปยังซีเรีย เพื่อกำราบกลุ่มนักรบเคิร์ดที่จับมือเป็นพันธมิตรกับกองทัพอเมริกาในการต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)

นอกจากนี้แล้ว ตุรกียังควบคุมตัวบาทหลวงชาวสหรัฐฯ คนหนึ่ง ตามข้อกล่าวหาก่อการร้าย ซึ่งกระตุ้นให้อเมริกากำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเล่นงานตุรกี และโหมกระพือวิกฤตค่าเงินในปี 2018

นิกเกอิเอเชียนรีวิว ระบุว่า หากความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ เลวร้ายลงไปมากกว่านี้ และหากอเมริกากำหนดมาตรการคว่ำบาตรหนักหน่วงขึ้น ตุรกีก็เสี่ยงถูกตัดขาดจากระบบชำระหนี้ด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งลงนามในร่างกฎหมายฉบับหนึ่ง ซึ่งขัดขวางสถาบันการเงินต่างๆ ในจีนจากการเข้าซื้อดอลลาร์

Source

ร้านอาหารหรูหราแห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่ในย่านซุททลุตเจ (Sutluce) ทางฝั่งยุโรปของเมือง ได้สรรหาวิธีทำให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายด้วยการจัดโต๊ะอาหารในลักษณะเหมือนนำที่ครอบแก้วมาครอบไว้ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับการปกป้องและปลอดภัยจากเชื้อโรคโดยสมบูรณ์

“ลูกค้าของเราได้รับการปกป้องอย่างดีจากไวรัสโคโรนา” เจฟเดต ไอซัส (Cevdet Aysas) เจ้าของร้านอาหาร จุกเซ เมเซ (Turkce Meze) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัว ดังนี้

เมื่อไวรัสโคโรนาเริ่มระบาดไปทั่วโลกในเดือนมีนาคม ไอซัสจึงได้คิดวิธีสร้างพื้นที่แยกหลายๆ แบบขึ้นมา เพื่อให้ผู้คนสามารถอิ่มเอมกับอาหารค่ำโดยไม่ต้องกังวลเรื่องไวรัส

ร้านอาหารแห่งนี้ได้สร้างพื้นที่ส่วนตัวขึ้นมา 8 จุดโดยใช้วัสดุโพลีคาร์บอเนต ไอซัสอธิบายว่าทีมของเขาฆ่าเชื้อชิ้นส่วนนี้ด้วยเครื่องกำเนิดโอโซนและรังสีอัลตราไวโอเลตเป็นประจำ ซึ่งยังวางโคโลญจน์ตุรกีและผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคสำหรับมือไว้ที่แต่ละโต๊ะ

ทางร้านยังจัดการให้การโต้ตอบระหว่างลูกค้าและบริกรเกิดขึ้นในระดับต่ำสุด โดยลูกค้าสามารถเรียกบริกรได้ด้วยการกดปุ่ม จากนั้นบริกรจะมาพร้อมหน้ากากอนามัย กระบังหน้า (face shield) และถุงมือ

“แขกของเราจำเป็นต้องสวมหน้ากากเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ แต่สามารถถอดออกได้เมื่อเขาเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวดังกล่าว”

ร้านอาหารรับลูกค้าที่ทำการจองผ่านระบบออนไลน์ไว้เท่านั้น โดยลูกค้าสามารถใช้บริการได้ 1 รอบ นาน 3 ชั่วโมง โดยในช่วงพักระหว่างแต่ละรอบจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาฆ่าเชื้อโรค

เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รัฐบาลตุรกีอนุญาตให้ร้านอาหารและร้านกาแฟกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง อันเป็นส่วนหนึ่งของการผ่อนคลายมาตรการจำกัดเนื่องด้วย COVID-19 เพื่อให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติ

อย่างไรก็ตาม นับแต่นั้นมารายงานสถิติผู้ป่วยโรค COVID-19 รายใหม่กลับมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นทั่วประเทศ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องประกาศบังคับใช้มาตรการเพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ตุรกีรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่ 1,467 รายและผู้เสียชีวิต 17 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยโรค COVID-19 สะสมรวมในประเทศอยู่ที่ 181,298 ราย โดยมีผู้เสียชีวิต 4,842 ราย

โครงการผลิตรถยนต์ผลิตเองเต็มรูปแบบนี้เป็นเป้าหมายของแอร์โดอันและพรรคเอเคของเขามานาน เพื่อแสดงให้เห็นถึงอำนาจทางเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ขนาดใหญ่แห่งนี้

ตุรกีเป็นผู้ส่งออกส่งออกรถยนต์สู่ยุโรปรายใหญ่อยู่แล้ว เช่นของบริษัทฟอร์ด เฟียตไครสเลอร์ เรโนลด์ โตโยต้า และฮุนได

โครงการใหม่นี้ที่เริ่มต้นเมื่อเดือนตุลาคมจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐ เช่น การลดหย่อนภาษี และก่อตั้งโรงงานผลิตในศูนย์กลางยานยนต์ เมืองปูร์ซา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของตุรกี อ้างจากการตัดสินใจของประธานาธิบดีในหนังสือประกาศโฆษณาของทางราชการ

รถยนต์ 5 รุ่นจะถูกผลิตโดยแรงงานกว่า 4,000 คน ถ้อยแถลง ระบุ และเสริมว่า รัฐบาลรับประกันว่าจะซื้อรถยนต์เหล่านี้ 30,000 คันในปี 2035

แอร์โดอันเปิดเผยแผนการนี้ครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายนปี 2017 ว่าจะเริ่มการผลิตรถยนต์เองในตุรกีในปี 2021 เขาถูกคาดหมายว่าจะขับรถยนต์รุ่นต้นแบบข้ามสะพานแห่งหนึ่งในงานเปิดตัววันที่ 27 ธันวาคม 2019 ในเขตเก็บเซ

กลุ่มธุรกิจที่มีชื่อว่า กลุ่มแผนริเริ่มยานยนต์แห่งตุรกี (Turkey’s Automobile Initiative Group : TOGG) ถูกก่อตั้งช่วงกลางปี 2018 โดย 5 กลุ่มอุตสาหกรรม Anadolu Group BMC Kok Group Turkcell ผู้ให้บริการคลื่นโทรศัพท์มือถือ และ Zorlu Holding บริษัทแม่ของสถานีโทรทัศน์ Vestel

ซีอีโอของ TOGG คือ กูร์แคน คาราคัส อดีตผู้บริหารบริษัทบ๊อชและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานของบริษัทนี้คือ เซอร์จิโอ โรชา อดีตประธานบริหารบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ โคเรีย TOGG ระบุว่า พวกเขาจะเริ่มการผลิตในปี 2022 ด้วยรถยนต์อเนกประสงค์ในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็ก

เมื่อเดือนตุลาคม โฟล์คสวาเกน ระบุว่า พวกเขาได้ระงับการตัดสินใจสุดท้ายว่าจะสร้างโรงงานรถยนต์ในตุรกีหรือไม่ ท่ามกลางเสียงประณามจากนานาชาติต่อปฏิบัติการทางทหารของตุรกีในซีเรียเมื่อเดือนตุลาคม

Source