ทหาร – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 22 Apr 2024 13:26:01 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ตึงเครียดทั่วโลก! งบ ‘การทหาร’ ทั่วโลกพุ่งทะลุ 2.44 ล้านล้านดอลลาร์ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากภาวะสงคราม https://positioningmag.com/1470667 Mon, 22 Apr 2024 12:17:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1470667 จากสงคราม รัสเซีย-ยูเครน ตามด้วยความตึงเครียดแถบตะวันออกกลางของ อิสราเอล กับภัยคุกคาม ทั้งจาก กลุ่มฮามาส ฮิซบอลเลาะห์ อิหร่าน และในเขตเวสต์แบงก์ ยังไม่รวมความขัดแย้งของ จีน-สหรัฐฯ ที่พลอยทำให้ จีนกับไต้หวันเริ่มตึง ๆ ใส่กัน ดังนั้น การที่งบที่ใช้จ่ายกับการทหารทั่วโลกจะสูงขึ้น จึงไม่ใช่อะไรที่น่าแปลกใจนัก

ข้อมูลจาก สถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม (SIPRI) เปิดเผยว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา งบการลงทุนทางทหารทั่วโลกแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 2.44 ล้านล้านดอลลาร์ +6.8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2552 ที่มีรายงานเรื่องแนวโน้มการใช้จ่ายทางทหาร

“การใช้จ่ายทางทหารที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเป็นการตอบสนองโดยตรงต่อการเสื่อมถอยของสันติภาพและความมั่นคงทั่วโลก” หนาน เทียน นักวิจัยอาวุโสในโครงการการใช้จ่ายทางทหารและการผลิตอาวุธของ SIPRI กล่าว

รายงานระบุว่า รายจ่ายทางการทหารเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 9 และรายจ่ายทางการทหารเพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาคของโลก ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจาก สงครามรัสเซีย-ยูเครน และความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นใน ตะวันออกกลาง

แน่นอนว่ายูเครนและรัสเซียซึ่งอยู่ในภาวะสงครามอย่างแข็งขัน ติดอันดับประเทศที่เพิ่มการใช้จ่ายทางทหารมากที่สุดในปี 2566 อยู่ที่ 51% และ 24% ตามลำดับ โดยค่าใช้จ่ายทางการทหารตามจริงของ รัสเซีย ยังคงสูงกว่ายูเครนอยู่มาก โดยอยู่ที่ประมาณ 109,000 ล้านดอลลาร์ ส่วน ยูเครน อยู่ที่ 64,800 ล้านดอลลาร์

โดย รัสเซีย กลายเป็นรายจ่ายทางการทหารรายใหญ่ อันดับ 3 ของโลก ตามหลัง สหรัฐฯ ที่ใช้จ่าย 916,000 ล้านดอลลาร์ +2.3% และ จีน ใช้จ่าย 296,000 ล้านดอลลาร์ +6% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายของ เยอรมนี และ สหราชอาณาจักร เพิ่มขึ้น +9% และ +7.9% ตามลำดับ ส่วน อิสราเอล ซึ่งกำลังอยู่ในความขัดแย้งเช่นกัน ใช้จ่าย 27,500 ล้านดอลลาร์ +24%

“ค่าใช้จ่ายทางทหารรายเดือนของอิสราเอลเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่เริ่มสงครามในฉนวนกาซา”

ในแถบเอเชีย ประเทศอย่าง ไต้หวัน ใช้จ่ายทางทหารที่ 16,600 ล้านดอลลาร์ +11% ซึ่งเป็นยอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากสุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากไต้หวันก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามจากรัฐบาลจีน ส่วน เกาหลีใต้ ใช้ 47,900 ล้านดอลลาร์ +1.1%

ที่น่าสนใจคือ ญี่ปุ่น ที่ใช้มากถึง 50,200 ล้านดอลลาร์ +11% ซึ่งถือเป็นงบประมาณที่เพิ่มขึ้น มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2515 และยังถือเป็นงบสร้างกองทัพที่มากที่สุดของญี่ปุ่น นับตั้งแต่ช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2

สำหรับ ไทย มีการใช้จ่ายทางทหารอยู่อันดับที่ 38 ของโลก โดยมีงบประมาณอยู่ที่ 5,800 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากปีก่อนหน้า 6.5%

]]>
1470667
ญี่ปุ่น เตือน ‘รัฐประหารเมียนมา’ อาจเป็นการเพิ่ม ‘อิทธิพลจีน’ ในอาเซียน https://positioningmag.com/1317611 Tue, 02 Feb 2021 11:32:16 +0000 https://positioningmag.com/?p=1317611 กลาโหมญี่ปุ่น เตือนการตอบสนองต่อรัฐประหารเมียนมาต้องระมัดระวัง ไม่เช่นนั้นจะเป็นการเพิ่มอิทธิพลของจีนในอาเซียน โดยรัฐบาลโตเกียวกำลังจับตาความเคลื่อนไหวในเมียนมาอย่างใกล้ชิด

Yasuhide Nakayama รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่น ให้ความเห็นกับ Reuters ว่า ท่าทีของประเทศประชาธิปไตยเสี่ยงที่จะผลักให้เมียนมาตกไปอยู่ภายใต้อิทธิพลของจีน หากตอบสนองการทำรัฐประหาร จนกระทบต่อช่องทางสื่อสารกับเหล่านายพลผู้ทรงอิทธิพล

หากเราไม่จัดการเรื่องนี้ให้ดี เมียนมาจะยิ่งห่างเหินกับชาติประชาธิปไตยไปมากกว่าเดิม และจะหันไปเข้าร่วมกับจีนแทน พร้อมเสริมว่า ญี่ปุ่นควรหารือยุทธศาสตร์นี้ร่วมกันกับชาติพันธมิตร

กองทัพเมียนมา เข้ายึดอำนาจเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (1 ..) พร้อมประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศเป็นเวลา 1 ปี และควบคุมตัวนางอองซาน ซูจีที่ปรึกษาแห่งรัฐและผู้นำประเทศคนอื่นๆ โดยอ้างเหตุผลในการก่อรัฐประหารครั้งนี้ว่า เกิดจากการทุจริตเลือกตั้ง’ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของนางซูจี คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลาย 

รัฐบาลโตเกียว ระบุว่า ยังคงจับตาความเคลื่อนไหวในเมียนมาอย่างใกล้ชิด เเละวิเคราะห์สถานการณ์อย่างถี่ถ้วน

ญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในประเทศใหญ่ที่มีความสัมพันธ์กับเมียนมามายาวนาน ทั้งด้านการเมืองเเละการให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ การลงทุน ตอบโต้การัฐประหารครั้งนี้ ด้วยการเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางซูจีและสมาชิกรัฐบาลพลเรือน พร้อมขอให้ฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตย

Nakayama กล่าวอีกว่า ความเคลื่อนไหวใดๆ ที่จะระงับโครงการความร่วมมือระหว่างญี่ปุ่นกับกองทัพ
เมียนมา อาจส่งผลให้จีนมีอิทธิพลมากขึ้น เเละอาจทำลายความมั่นคงในภูมิภาค

โดยตั้งเเต่ปี 2014 กองกำลังป้องกันประเทศของญี่ปุ่น มีความสัมพันธ์กับกองทัพเมียนมา ผ่านการจัดสัมมนาและโครงการฝึกอบรมทางทหารอื่น ๆ ทั้งทางน้ำ ทางอากาศ การบรรเทาภัยพิบัติและสอนภาษาญี่ปุ่น รวมถึงโครงการแลกเปลี่ยนทางวิชาการ

ถ้าเราหยุดความสัมพันธ์นี้ กองทัพเมียนมากับกองทัพจีนก็จะยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น พวกเขาจะยิ่งออกห่างจากประเทศเสรี อย่างสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร เเละญี่ปุ่นผมคิดว่านั่นจะเป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงในภูมิภาคได้

 

ที่มา : Reuters (1) , (2)

]]>
1317611