ทองคำ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 04 Jun 2024 03:15:13 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Rolex ประกาศขึ้นราคานาฬิกาครั้งที่ 2 ในรอบปี สาเหตุจากราคาทองคำพุ่งขึ้นสูงทำสถิติใหม่ https://positioningmag.com/1476373 Mon, 03 Jun 2024 05:16:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1476373 โรเล็กซ์ (Rolex) ผู้ผลิตนาฬิกาหรู ได้ปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นหลายรุ่น โดยการปรับเพิ่มราคาดังกล่าวนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ในรอบปี 2024 สาเหตุสำคัญมาจากราคาทองคำซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตนาฬิกาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น

Rolex ผู้ผลิตนาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์ ได้ปรับราคานาฬิกาหลายรุ่นราวๆ 4% เนื่องจากราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวมากขึ้น จากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน อย่างไรก็ดีราคานาฬิกาจากผู้ผลิตรายนี้นับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมานั้นยังปรับตัวไม่ถึง 15% ด้วยซ้ำ

ราคานาฬิกาในรุ่น Rolex Daytona ที่วางขายในสหราชอาณาจักรนั้นเพิ่มขึ้น 4% ในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่รุ่นอื่นๆ อย่าง GMT Master II รุ่น Deepsea หรือแม้แต่รุ่น Day-Date 40 นั้นก็มีราคาปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่สำหรับราคาในสหรัฐอเมริกากลับไม่ได้ปรับขึ้นแต่อย่างใด

สาเหตุสำคัญมาจากราคาทองคำที่เพิ่มมากขึ้น โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2024 เป็นต้นมา ราคาทองคำซึ่งถือเป็นหนึ่งในวัตถุดิบในการผลิตปรับตัวเพิ่มมากขึ้นถึง 14% เนื่องจากทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้น

ปกติแล้ว Rolex จะมีการปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นปีละ 1 ครั้ง ยกเว้นในกรณีวัตถุดิบที่ทำให้ราคาของนาฬิกาเพิ่มขึ้นแล้วนั้นยังรวมถึงความผันผวนของค่าเงินที่สูงนั้นอาจทำให้ผู้ผลิตรายนี้ปรับราคาเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทเคยทำมาแล้วในปี 2022 หลังจากที่ค่าเงินปอนด์มีความผันผวนอย่างหนัก

ข้อมูลจาก Watch Pro ชี้ว่านับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา ราคานาฬิกาของ Rolex หลายรุ่นได้ปรับตัวขึ้นมายังไม่ถึง 15% ด้วยซ้ำ

ปัจจุบัน Rolex นั้นผลิตนาฬิกาต่อปีมากถึง 1 ล้านเรือน สร้างรายได้ให้กับบริษัทต่อปีมากถึง 10,000 ล้านสวิสฟรังก์ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 407,200 ล้านบาท

ที่มา – Telegraph, Watch Pro

]]>
1476373
รัฐบาลจีนออกโรงเตือน “ทองคำปลอม” ระบาดบนอีคอมเมิร์ซจีน พบผู้เสียหายหลายพันราย https://positioningmag.com/1472075 Fri, 03 May 2024 06:20:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1472075 ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ราคาทองคำ ทั่วโลกได้ทะยานขึ้นอย่างมาก ในไทยเองปัจจุบันก็ทะลุ 40,000 บาทไปแล้ว แน่นอนว่ามีหลายคนที่อยากซื้อทองไว้เก็งกำไรในอนาคต และสิ่งที่ตามมาก็คือ มิจฉาชีพ ซึ่งในจีนตอนนี้ มีประชาชนหลายพันคนที่เป็นเหยื่อของ ทองปลอม

มีรายงานเกี่ยวกับ ทองปลอม จากสื่อท้องถิ่นและเว็บไซต์คุ้มครองผู้บริโภคของจีน เช่น Heimao และ Tousu เนื่องจากมีผู้บริโภคชาวจีนร้องเรียนหลังจากซื้อจี้ทองบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซออนไลน์อย่าง Taobao ซึ่งหลังจากทดสอบก็พบว่าเป็นทองปลอม นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายจากแพลตฟอร์ม Pinduoduo อีกด้วย

ส่งผลให้ รัฐบาลจีน ได้ออกมาเตือนว่า ประชาชนชาวจีน หลายพันคน โดนหลอกขายทองปลอม เนื่องจากชาวจีนจำนวนมากกำลังออมเงินโดยการซื้อทองคำ หลังจากที่ช่วงนี้เป็นขาขึ้นของราคาทอง โดย จีนถือเป็นประเทศผู้ซื้อเครื่องประดับทองรายใหญ่ที่สุดของโลก ตามข้อมูลจาก World Gold Council เผยว่า ผู้บริโภคชาวจีนซื้อเครื่องประดับทอง 603 ตัน ในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2022

จากเหตุการณ์ดังกล่าว รัฐบาลจีนได้ออกแนวทางในการตรวจสอบทองปลอม โดยอาจทดสอบโดย การฟังเสียงเวลาโยนลงพื้น หรือนำ กรดไนตริกหยดใส่เครื่องทอง หากหยดกรดปรากฏเป็นสีเขียว แสดงว่าวัตถุสีทองนั้นทำจากโลหะอื่นหรือชุบทอง แต่ที่สำคัญที่สุด ผู้บริโภคควร ซื้อทองจากแหล่งที่เชื่อถือได้

ทั้งนี้ สินค้าปลอมไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่ในประเทศจีน แต่จีนถือเป็นประเทศที่มีสินค้าลอกเลียนแบบและละเมิดลิขสิทธิ์จำนวนมาก โดยได้รับแรงหนุนจากทั้งผู้ซื้อที่ไม่รู้ว่ากำลังซื้อของปลอม และผู้ที่ยอมใช้สินค้าปลอมที่มีราคาถูกกว่าของแท้

Source

]]>
1472075
วัยรุ่นจีนหันมาลงทุนในทองคำมากขึ้น มองเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูง เงินมีน้อยก็ซื้อเก็บได้ https://positioningmag.com/1454514 Wed, 06 Dec 2023 05:51:02 +0000 https://positioningmag.com/?p=1454514 สภาวะเศรษฐกิจในประเทศจีนที่แม้ว่า GDP จะเติบโต แต่อัตราการว่างงานที่ยังเพิ่มสูงขึ้น ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังกลายเป็นขาลง รวมถึงควาไม่แน่นอนในด้านต่างๆ ส่งผลทำให้วัยรุ่นในประเทศจีนเริ่มหันมาลงทุนในทองคำมากยิ่งขึ้น

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวว่า วัยรุ่นในประเทศจีนเองเริ่มหันมาสนใจลงทุนในทองคำมากขึ้น หลังจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เป็นใจ นอกจากนี้แหล่งการลงทุนสำคัญของชาวจีนอย่างอสังหาริมทรัพย์ที่เคยสร้างรายได้อย่างงดงามกำลังอยู่ในสภาวะขาลงอย่างเต็มตัว

สาเหตุสำคัญที่ทำให้วัยรุ่นจีนหันมาซื้อทองคำเก็บอีกครั้ง เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจในประเทศจีนไม่เป็นใจ แม้ว่าตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนยังไปต่อได้ อย่างไรก็ดีตัวเลขอัตรการว่างงานของวัยรุ่นจีนในเดือนมิถุนายนนั้นสูงถึง 21.3% ทำให้ท้ายที่สุดทางการจีนต้องยกเลิกการประกาศตัวเลขดังกล่าว

ปัจจัยความไม่แน่นอนดังกล่าว รวมถึงสภาวะภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ราคาลดลงเมื่อเทียบกับในอดีต ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในประเทศจีนก็ยังมีระดับต่ำเตี้ยเรี่ยดินเมื่อเทียบกับในหลายประเทศ ยิ่งส่งผลทำให้วัยรุ่นจีนหันมาลงทุนในทองคำมากขึ้น

Chow Tai Fook บริษัทผู้ค้าเครื่องประดับและอัญมณี ได้ออกรายงานสำรวจชาวจีนในการซื้อสินค้าประเภทดังกล่าวเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา 70% ของผู้ที่มีอายุ 18-40 ปี นั้นพบว่ามีความต้องการซื้อเครื่องประดับที่ทำจากทองคำ ซึ่งปกติแล้วผู้ที่มักจะซื้อทองคำส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย

Kent Wong กรรมการผู้จัดการของ Chow Tai Fook กล่าวว่า บริษัทพบว่าวัยรุ่นอายุ 18-24 ปีเริ่มมีการซื้อทองคำ ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความแปลกใจให้กับบริษัท

Linda Liu อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นพนักงานบริษัทผลิตยาในกรุงปักกิ่ง ได้กล่าวว่า การซื้อทองทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น และสำหรับในงานแต่งงานของเธอเอง เธอต้องการเครื่องประดับที่ทำจากทองคำมากกว่าเพชรด้วยซ้ำ ขณะเดียวกันเธอเองยังกังวลถึงสภาวะตลาดแรงงานในประเทศจีนที่มีความไม่แน่นอนด้วย

นอกจากนี้ตามแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมในประเทศจีน วัยรุ่นเริ่มมีการพูดคุยถึงการลงทุนในทองคำ เนื่องจากแม้จะมีรายได้น้อยก็ยังสามารถซื้อทองคำเพียงไม่กี่กรัมได้

ประเทศจีนถือเป็นตลาดสำคัญในการซื้อขายทองคำ ซึ่งราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นสูงขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้น และล่าสุดได้ทำราคาสูงสุดใหม่เมื่อวันจันทร์ (4 ธันวาคม) ที่ผ่านมา ยิ่งทำให้ความคึกคักในการลงทุนทองคำเพิ่มสูงขึ้น

]]>
1454514
คุยกับ 2 ผู้บริหาร GCAP Gold กับมุมมองราคาทองคำ ทำไมถึงยังเป็นสินทรัพย์น่าลงทุนระยะยาวได้ https://positioningmag.com/1452197 Sun, 19 Nov 2023 07:52:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1452197 Positioning พาไปคุยกับ 2 ผู้บริหารของบริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP Gold ที่จะมาเปิดเผยถึงพฤติกรรมการลงทุนทองคำของคนไทย ปัจจัยอะไรที่ทำให้ราคาทองคำขึ้น-ลง การปรับตัวของบริษัทจากที่เป็นผู้ทองคำรายใหญ่ของไทยได้หันมาเปิดบริการออมทองคำด้วย

วลีที่เราอาจเคยได้ยินบ่อยอย่างมีเงินเค้านับเป็นน้อง มีทองเค้านับเป็นพี่ จะเห็นได้ว่าคนไทยกับทองคำมีความสัมพันธ์มาเป็นระยะเวลานานแล้ว แม้ว่าเวลาผ่านไปทองคำถือเป็นสินทรัพย์อันดับต้นๆ ที่คนไทยให้ความนิยมในการลงทุน ต่อจากการเก็บออมเงินในธนาคาร

แต่หลายคนสงสัยไม่น้อยว่าปัจจัยทำให้ราคาทองคำขึ้นลงในปัจจุบันมีอะไรบ้าง นอกจากนี้ถ้าอยากจะเริ่มออมทองคำนั้นต้องทำอย่างไรบ้าง

Positioning พูดคุยกับ ธนพิศาล คูหาเปรมกิจ ประธานกรรมการบริหารของ GCAP Gold รวมถึง ชัยวัฒน์ สามัคคีนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GCAP GOLD ซึ่งเป็น 2 ผู้บริหารรุ่นใหม่ของบริษัท ในหลากหลายมุมมองเกี่ยวกับทองคำรวมถึงธุรกิจของบริษัท

ชัยวัฒน์ สามัคคีนิชย์ – ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GCAP GOLD (ภาพจากบริษัท)

วิวัฒนาการของการลงทุนทองคำ และปัจจัยขึ้นลงของราคาทองคำ

ธนพิศาล และ ชัยวัฒน์ กล่าวว่าปัจจุบันการลงทุนในทองคำปัจจุบันมีวิวัฒนาการเพิ่มขึ้นเยอะมาก มีหลายผลิตภัณฑ์หลายๆ นักลงทุนสามารถลงทุนในหลายช่องทางได้ และมองว่าตอบโจทย์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ การซื้อทองคำแทง ตลาดซื้อขายล่วงหน้าทองคำ หรือแม้แต่การลงทุนซื้อทองคำแบบซื้อราคาเฉลี่ย (DCA) ที่สามารถออมทองคำได้ตั้งแต่ไม่กี่กรัม จนถึงมูลค่าหลายบาท

2 ผู้บริหารของ GCAP Gold ยังมองว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนลงทุนในทองคำคือ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์สำคัญในโลก คนจะมองว่าอะไรที่เซฟสุด ซึ่งทองคำเป็นสินทรัพย์หนึ่งที่เป็นคำตอบดังกล่าว

ธนพิศาล ยังกล่าวว่า เวลาโลกเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ราคาทองคำกลายเป็นกระชากขึ้นและไม่เคยกลับมาที่เดิมเลย และเขายังให้มุมมองว่าหลังเหตุการณ์ 9/11 ที่สหรัฐอเมริกามุมมองของนักลงทุนกับทองคำเปลี่ยนไปอย่างมาก เขายังให้ความเห็นว่าตอนนี้ค่าเงินบาทอ่อนค่า เมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา และมองว่าค่าเงินบาทจะอยู่ระดับนี้ 

ขณะเดียวกับ 2 ผู้บริหารมองว่าช่วงเศรษฐกิจถดถอย คนจะสนใจทองคำมากขึ้น ยิ่งมีข่าวสารน่ากังวล ราคาทองคำมักจะมีราคาขึ้น

ขณะที่ชัยวัฒน์ ได้กล่าวถึงปัจจัยราคาทองคำว่า ตอนนี้ตลาดทองคำเดายากมาก แต่เขาเชื่อว่าระยะยาวราคาทองคำน่าจะขึ้นแน่ๆ ขณะเดียวกันทิศทางราคาทองคำมีช่วงที่ราคาซึมๆ ก็มี ไม่ได้มองว่าจะขึ้นตลอด มันมีช่วงเวลาของมัน

ชัยวัฒน์ยังกล่าวเสริมว่า ตอนนี้ตลาดถือว่าเงียบมาก ตอนนี้นักลงทุนเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายไม่ขึ้น ตลาดหุ้นก็ขึ้น เขายังมองว่าปีหน้าตลาดสหรัฐฯ จะซบเซาหรือไม่ ต้องดูสภาวะดัชนีค่าเงินดอลลาร์ ถ้าหากดัชนีอ่อนค่าลงอาจไปราคาทองคำอาจกลับมาได้

ธนพิศาล คูหาเปรมกิจ – ประธานกรรมการบริหารของ GCAP Gold (ภาพจากบริษัท)

คนไทยกับการออมทอง

ชัยวัฒน์มองว่าคนไทยชินกับการออมทองมานานแล้ว ตั้งแต่ทองคำในอดีตมีราคาที่ถูกมากสามารถซื้อทองคำสลึงนึงได้ง่ายๆ แต่ปัจจุบันทองคำสลึงนึงถือว่าแพงมาก คนเริ่มศึกษาว่าทำไมทองคำถึงราคาขึ้น คนไทยมีวินัยออมทองคำ โดยลงทุนทีละเล็กละน้อย โดยเขาสังเกตว่าในช่วงของโควิดคนไทยเอาทองคำที่เก็บออมไว้มาขายเยอะมาก

เขายังชี้ว่าคนไทยมีพฤติกรรมออมมานานแล้ว ปัจจุบันวัยรุ่นก็ออมทองคำมากขึ้น นอกจากนี้คนไทยเองยังซื้อ Gift Card ทองคำให้มอบให้คนที่รัก หรือแม้แต่พ่อแม่ด้วย

เขายังชี้ว่าทองคำในฐานะสินทรัพย์อาจไม่หวือหวาเหมือนหุ้น แต่ทองมีความเสี่ยงแต่ไม่มากเท่า มองว่าในกรณีที่แย่สุดราคาของทองคำจะไม่ลดลงมาเหลือ 0 บาทเหมือนหุ้นรวมถึงตราสารหนี้ที่หลายคนมองว่ามีความปลอดภัยก็ยังมีโอกาสไม่ได้รับเงินต้นคืน

นอกจากนี้ทองคำสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ไว เขายังชี้ว่าพฤติกรรมของคนไทยชอบซื้อทองคำรูปพรรณ แต่ชัยวัฒน์ก็แนะนำว่าถ้าหากจะลงทุนแล้ว แนะนำให้เป็นทองคำแท่งเนื่องจากจะเสียค่าธุรกรรมน้อยกว่า และตลาดมีสภาพคล่องมากกว่า

ผู้บริหารของ GCAP Gold มองว่าควรจะลงทุนทองคำในรูปแบบเงินบาทจะปลอดภัยสุด – ภาพจาก Shutterstock

ชัยวัฒน์ อยากจะแนะนำเพื่อการออม มองว่าซื้อหรือลงทุนในทองคำแบบเป็นเงินบาทจะปลอดภัยสุด เขามองว่าการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าเหมือนกับมีคนถือหางให้ ทำให้ราคาทองคำที่อยู่ในรูปสกุลเงินบาทไม่เหวี่ยงมากเมื่อเทียบกับราคาทองคำในรูปแบบสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ ชัยวัฒน์มองว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยเองไม่แย่ แต่ในระยะยาวแล้วเขาเองให้มุมมองว่าค่าเงินบาทของไทยจะอ่อนค่าในระยะยาวจากโครงสร้างของเศรษฐกิจไทยเอง โอกาสค่าเงินบาทระยะยาวโอกาสแข็งค่าน้อยมาก เขาชี้ว่าราคาทองคำในรูปเงินบาทตอนนี้น่าจะขึ้นไปเรื่อยๆ

ในช่วงที่ผ่านมานั้น 2 ผู้บริหารมองว่าพฤติกรรมอีกอย่างของคนไทยคือถ้าหากเศรษฐกิจดีคนก็ซื้อทองคำไว้ เศรษฐกิจที่ไม่ดีคนซื้อน้อยลง แต่ปัญหาคือจะปรับตัวได้กับราคาทองคำที่แพงได้หรือเปล่า ถ้าคนปรับตัวกับราคาทองที่ยืนราคาได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร นอกจากนี้คนชอบโทรมาถามที่บริษัทตอนที่ราคาทองคำนั้นแพงที่สุด

สำหรับเรื่องการออมทองคำนั้น ทั้ง 2 อยากให้ออมทองกับบริษัทที่มีความมั่นคง แนะนำให้ดูคู่ค้าว่าเป็นใคร ต้องดูให้ดี และต้องระวังการโดนหลอกจากมิจฉาชีพด้วย เช่น หลอกว่าลงทุนในราคาทองคำถูกกว่า 20% แต่รับเงินปีหน้า แบบนี้ถือว่าโดนหลอก เป็นต้น

ผู้บริหารของ GCAP Gold ชี้ว่าปัจจัยที่น่าติดตามมองในปี 2024 คือเรื่องของค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา – ภาพจาก Shutterstock

ธุรกิจของ GCAP Gold

2 ผู้บริหารรุ่นใหม่ของ GCAP Gold ได้กล่าวว่าบริษัทประกอบธุรกิจซื้อขายทองคำแท่ง และเป็นผู้เล่นรายใหญ่ 1 ใน 5 ของตลาดทองคำในประเทศไทย และมีโรงหล่อทองคำที่ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ ปัจจุบันธุรกิจบริษัทมีทั้งค้าปลีกโดยส่งทองคำให้ตามร้านทอง รวมถึงดูแลรายย่อย จากปริมาณการค้าทองเพิ่มมากขึ้น ตามเทรนด์ราคา

ชัยวัฒน์ ได้กล่าวว่าปัจจุบันทองคำนั้น มีแหล่งที่มาหลักๆ คือมาจากประเทศออสเตรเลียซึ่งมีเหมืองทองคำกับโรงหล่อทองคำ รวมถึงประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นแหล่งรวมโรงหล่อทองคำ ทั้ง 2 นั้นถือเป็นแหล่งสำคัญของทองคำของโลก

ทั้ง 2 ผู้บริหารยังกล่าวว่า GCAP Gold ให้ความสำคัญกับลูกค้า คำไหนคำนั้น ทำธุรกิจตรงไปตรงมาเหมือนกับสมัยรุ่นของคุณปู่ ซึ่งทำให้ธุรกิจในปัจจุบันนั้นคงอยู่ได้

สำหรับการเปลี่ยนแปลงธุรกิจนั้น ชัยวัฒน์กล่าวว่า สมัยคุณพ่อ คือธุรกิจทองคำสมัยนั้นจะทำในสิ่งที่ทุกคนถนัด คือใครถนัดนำเข้าก็นำเข้า ใครถนัดส่งออกก็ส่งออก และสมัยก่อนการสั่งซื้อทองคำยังไม่มาก ก็มีคนช่วยจดคำสั่งซื้อ แต่เวลาผ่านไปก็นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยมากขึ้น ทำให้รับคำสั่งซื้อ-ขาย ได้มาก

นอกจากนี้บริษัทขยายเข้ามาในธุรกิจออมทองคำมาเป็นเวลา 7-8 ปีแล้ว มีลูกค้าออมทองคำกับบริษัทมากถึง 4,000 กว่าราย

2 ผู้บริหารยังกล่าวว่าตอนนี้ได้ทำแอปพลิเคชันตัวใหม่ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า มองว่าคนสนใจทองคำมากกว่านี้ เพื่อเตรียมรับลูกค้า และรองรับปริมาณธุรกรรมที่มากขึ้น ภายใน 3 ปีน่าจะโตได้อีกเท่าตัว และตอนนี้ราคาทองคำขยับตลอด บริษัทต้องดูแลลูกค้า ตลาดเปลี่ยนไป ราคาผันผวนมาก มองปัจจัยดังกล่าวเป็นนทั้งโอกาสและการปรับตัว

]]>
1452197
ผลพวง “สงครามอิสราเอล” ดันราคา “น้ำมัน” พุ่ง 4% https://positioningmag.com/1447262 Mon, 09 Oct 2023 06:45:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1447262 สงครามระหว่าง อิสราเอล และ ฮามาส กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ ได้ยืดเยื้อมาถึงวันที่ 3 แล้ว ซึ่งจากสงครามดังกล่าวได้ส่งผลต่อ ราคาน้ำมันและทองคำ 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้า น้ำมันดิบเบรนท์ มีราคาซื้อขายสูงขึ้น 4.53% ที่ 88.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในวันนี้ (9 ต.ค.2566) ขณะที่สหรัฐฯ ฟิวเจอร์ส West Texas Intermediate เพิ่มขึ้น 4.69% เป็น 88.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่าราคาน้ำมันที่พุ่งนั้นจะเกิดแค่ชั่วคราว เนื่องจากเป็นการตอบสนองของตลาดต่อภาวะสงคราม

โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มีความเห็นไปในทางเดียวกันว่า สงครามไม่ได้ทําให้แหล่งน้ํามันที่สําคัญใด ๆ ตกอยู่ในอันตรายโดยตรง เนื่องจากทั้งสองฝ่ายไม่ใช่ผู้ค้าน้ํามันรายใหญ่ โดย อิสราเอลมีโรงกลั่นน้ํามันสองแห่ง ที่มีกําลังการผลิตรวมกันเกือบ 300,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่ ดินแดนปาเลสไตน์ไม่ผลิตน้ำมัน อย่างไรก็ตาม แม้ความขัดแย้งทั้งสองจะไม่ได้ส่งผลต่อโรงกลั่นน้ำมันในประเทศสำคัญ ๆ โดยตรง แต่ก็เสมือนอยู่ หน้าประตูของภูมิภาคการผลิตและส่งออกน้ำมันที่สําคัญสําหรับผู้บริโภคทั่วโลก

“ผลกระทบที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันโดยตรงจริง ๆ คือ การลดอุปทานหรือการขนส่งน้ำมัน” Vivek Dhar ผู้อํานวยการฝ่ายวิจัยการขุดและสินค้าโภคภัณฑ์ด้านพลังงานของธนาคารเครือจักรภพ กล่าว

ไม่ใช่แค่ราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น แต่ราคา ทองคำ ก็สูงขึ้น 0.99% มาเคลื่อนไหวที่บริเวณ 1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนหาสินทรัพย์หลบภัย ส่วนราคาทองในไทย สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาครั้งที่ 1 เพิ่มขึ้น 400 บาท โดยราคารับซื้อทองคำแท่งบาทละ 32,350 บาท ขายออก 32,450 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 31,760.20 บาท ขายออก 32,950 บาท

ทั้งนี้ จากการโจมตีของกลุ่มฮามาส มีรายงานว่าชาวอิสราเอลอย่างน้อย 700 คนถูกสังหาร ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ได้บันทึกผู้เสียชีวิต 313 ราย จนถึงขณะนี้

Source

]]>
1447262
ธนาคารกลางจีนตุนทองคำ 9 เดือนติดต่อกันแล้ว ตั้งเป้าลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ https://positioningmag.com/1440096 Mon, 07 Aug 2023 11:30:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1440096 ธนาคารกลางจีนได้ตุนทองคำเพิ่มติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 แล้ว โดยเป้าหมายคือลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยข้อมูลในปัจจุบันนั้นจีนมีทองคำเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศสัดส่วนไม่ถึง 5% ด้วยซ้ำ ทำให้นักวิเคราะห์คาดว่าอาจมีการซื้ออย่างต่อเนื่องได้

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวว่า ธนาคารกลางของประเทศจีน (PBoC) ได้ซื้อทองคำเพิ่มมากถึง 740,000 ทรอยออนซ์ ซึ่งเทียบได้กับน้ำหนักราวๆ 23 ตัน เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และจะทำให้ธนาคารกลางของจีนสะสมทองคำเข้าคลังมากถึง 9 เดือนติดต่อกันแล้ว

ล่าสุดนั้นจะทำให้ธนาคารกลางจีนมีทองคำเก็บสะสมทั้งสิ้นราวๆ 2,137 ตัน หลังจากที่ได้ทยอยซื้อทองคำเพิ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนของปี 2022 ที่ผ่านมา โดยซื้อสุทธิทั้งสิ้นราวๆ 188 ตัน

PBoC ถือเป็นธนาคารกลางรายใหญ่ที่เป็นผู้นำในการซื้อทองคำเก็บเป็นทุนสำรอง เนื่องจากนโยบายของธนาคารกลางจีนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาได้ใช้นโยบายลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (De-Dollarization) เนื่องจากค่าเงินของสหรัฐได้แข็งค่าจากนโยบายการขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลทำให้สกุลเงินหลายประเทศอ่อนค่าลงอย่างหนัก

นอกจากนี้ด้วยความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ประกาศคว่ำบาตรรัสเซียจากเหตุผลการบุกยูเครน หรือแม้แต่กรณีความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ก็ทำให้หลายประเทศเริ่มหาทางออกจากการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่สื่อจีนอย่าง Global Times ได้สัมภาษณ์ Yang Delong นักเศรษฐศาสตร์จาก First Seafront Fund Management ชี้ว่าการเก็บทองคำเพิ่มเติมของ PBoC จะเป็นอีกรากฐานหนึ่งของความก้าวหน้าที่สกุลเงินหยวนของจีนจะได้รับการยอมรับจากนานาชาติมากขึ้น

สื่อจีนรายดังกล่าวยังได้สัมภาษณ์ Ming Ming นักเศรษฐศาสตร์ของ CITIC Securities ว่าจีนมีทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 5% ด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับธนาคารกลางของประเทศพัฒนาแล้ว ที่มีสัดส่วนสูงกว่านั้น และคาดว่าจีนจะซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง

โดยธนาคารกลางทั่วโลกได้พยายามที่จะลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นไม่ซื้อเงินดอลลาร์เก็บเป็นทุนสำรอง แต่พยายามหาสกุลเงินอื่นๆ ทดแทน หรือแม้แต่การเก็บสะสมทองคำ ซึ่งนโยบายดังกล่าวของธนาคารกลางทั่วโลก รวมถึงธนาคารกลางจีนเองยังส่งผลทำให้ราคาทองเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

]]>
1440096
Ausiris ชี้พฤติกรรมคนไทยชอบซื้อทองคำตอนขาขึ้น วัยรุ่นซื้อน้อยแต่ซื้อบ่อย มองระยะยาวทองมูลค่าเพิ่มขึ้นได้ https://positioningmag.com/1439093 Wed, 26 Jul 2023 12:39:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1439093 ออสสิริส มองราคาทองคำในระยะยาวนั้นเป็นขาขึ้น จากหลายปัจจัย มองพฤติกรรมของคนไทยในการซื้อทองคำมักจะซื้อตอนราคากำลังเป็นขาขึ้น ขณะเดียวกันวัยรุ่นไทยเริ่มสนใจซื้อทองคำมากขึ้น ซื้อน้อยแต่ซื้อบ่อย

บุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออสสิริส จำกัด (Ausiris) ได้กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาว่าถือเป็นช่วงเวลาที่ดี มียอดขายที่ดีมาก นอกจากนี้ราคาทองทำยังทำสถิติสูงสุดใหม่อีกด้วย

พฤติกรรมการซื้อทองของคนไทยส่วนใหญ่เวลาซื้อทองคำที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Ausiris มองเห็นคือ ถ้าราคาทองขาขึ้น คนจะซื้อทองคำมากผิดปกติ ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนระยะสั้นและกลาง แต่บริษัทได้แนะนำให้ซื้อหรือลงทุนในทองคำในระยะกลางถึงระยะยาว ซึ่งโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า

นอกจากนี้ บุญเลิศ ยังเห็นเห็นอายุคนซื้อทองลดลง ซึ่งเป็นวัยรุ่นวัยทำงานมากขึ้น แต่ปริมาณการซื้ออาจไม่ใช่ทองคำแท่งขนาดใหญ่แต่อย่างใด แต่ส่วนใหญ่นั้นซื้อเล็กๆ น้อยๆ แต่ซื้อบ่อยมากขึ้น เขายังชี้ว่าวัยรุ่นหาข้อมูลเวลาซื้อขายทองคำมากขึ้น แล้วก็เช็คดูข้อมูลว่าน่าเชื่อถือหรือไม่

ปัจจัยที่ทำให้ทองคำเป็นขึ้น

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Ausiris มองว่าปัจจัยที่ทำให้ทองคำมีราคาเพิ่มสูงขึ้นก็คือ การลดสภาพคล่องของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา รวมถึงการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ จะส่งผลต่อราคาทองคำ แต่ถ้าหากปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำมีราคาลดลงคือดอลลาร์แข็งค่า หรือแม้แต่เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาออกมาดูดี

ถ้ามองในระยะระยะยาวดอกเบี้ยของสหรัฐน่าจะขึ้นอีกไม่กี่ครั้งแล้วก็คงดอกเบี้ยยาวแล้วก็จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงมา ทำให้เขาคาดว่าทองคำจะทำราคาสูงสุดใหม่ในช่วงปีหน้าได้

นอกจากนี้เขายังมองถึงปัจจัยความไม่แน่นอนต่างๆ ทั่วโลกจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงธนาคารกลางหลายประเทศเริ่มไม่เก็บเงินดอลลาร์ในทุนสำรองระหว่างประเทศ แต่เป็นการเก็บทองคำแทน หรือแม้แต่เศรษฐกิจในเอเชียยังเติบโต ส่งผลทำให้ค่าเงินในเอเชียแข็งค่ามากขึ้น เป็นส่วนผลักดันที่ทำให้ราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้นหลังจากนี้ได้อีก

บุญเลิศ สิริภัทรวณิช – ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออสสิริส จำกัด

ธุรกิจทองคำของบริษัท และภาพรวมตลาด

บุญเลิศ ได้กล่าวถึงตลาดทองคำในประเทศไทยว่า ราคาไม่ใช่ประเด็นใหญ่แล้ว ราคาทองคำในไทยเป็นราคาตลาดโลกสมบูรณ์แบบ และกลไกตลาดใกล้เคียงตลาดโลกแล้ว แต่เขาชี้ว่าการเข้าถึงตลาดทองคำในไทยนั้นสำคัญกว่ามาก เห็นได้จากช่วงที่ผ่านมา หลายแพลตฟอร์มลงทุนออนไลน์เริ่มชักชวนให้คนเข้ามาลงทุนทองคำ

เขามองว่าสนามสู้รบในปัจจุบันไม่ใช่ร้านทองด้วยกันเอง แต่เขามองว่าอุตสาหกรรมทองคำ จะเติบโตจากปัจจัยการลงทุนด้วย ขณะเดียวกันบริษัทก็อยากขายทองคำแบบ 99.9% เนื่องจากตลาดโลกหันไปทางนี้มากกว่า (ซึ่งในไทยนั้นมีทองคำขายทั้ง 99.9% และ 96.5%)

สิ่งที่ Ausiris ได้ทำในตอนนี้คือการส่งมอบทองคำให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะซื้อทองคำที่มีขนาดเล็กก็น้อย หรือซื้อขนาดใหญ่มากได้ บริษัทสามารถจัดส่งได้หมด หรือแม้แต่ถ้าหากลูกค้าอยากซื้อขายแบบไหนได้หมด ไม่ว่าจะเป็นออมทองคำ ซื้อขาย หรือเวลารับมอบทองคำแท่งจริงๆ ก็ได้เช่นกัน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Ausiris ยังกล่าวว่าปัจจุบันรายได้ของบริษัทมีสัดส่วน 80% มาจากลูกค้าขายส่ง และอีก 20% จากลูกค้ารายย่อย ซึ่งเขาพยายามที่จะเข้าถึงลูกค้ารายย่อยมากขึ้น และเปลี่ยนสัดส่วนรายได้ให้สมดุลมากขึ้น และจะมาเจาะลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น และบริษัทยังมองเรื่องนวัตกรรม รวมถึงบริการให้กับลูกค้ามากกว่าเดิม 

เขาคาดว่าในปี 2023 นี้ยอดขายของบริษัทจะเติบโตมากกว่า 20%

บุญเลิศได้กล่าวทิ้งท้ายว่าเขามอง Ausiris เป็นแบรนด์ร้านทองในใจของลูกค้า ซึ่งคำพูดง่ายๆ แต่เขาจริงจังกับเรื่องนี้ และมองว่าบริษัทไม่ใช่แค่ผู้ขายอย่างเดียว แต่ยังต้องให้ความรู้ในเรื่องทองคำด้วย ถ้าไม่เข้าใจลูกค้าก็ขายสินค้าไม่ได้

]]>
1439093
นักวิเคราะห์ประเมิน ‘ทองคำ’ อาจทำลายสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 2,600 ดอลลาร์/ออนซ์ https://positioningmag.com/1424435 Wed, 22 Mar 2023 06:58:21 +0000 https://positioningmag.com/?p=1424435 แม้ว่าราคา ทองคำ วันนี้ (22 มี.ค.66) จะปรับลง 200 บาท แต่ทองไทยได้เงินบาทอ่อนหนุน จึงยังยืนในช่วง 31,000-32,000 บาท อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ธนาคารใหญ่ ๆ ในโลกกำลังเจอกับวิกฤตและธนาคารกลางสหรัฐตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ทำให้นักวิเคราะห์มองว่าราคาทองคำมีโอกาสทำลายสถิติสูงสุด

หลังจากที่หุ้นธนาคารได้รับผลกระทบจากการปิดตัวของ Silicon Valley Bank และ Credit Suisse ส่งผลให้นักลงทุนแห่กันไปที่ทองคำ ทำให้ราคาทองคำซื้อขายทะลุ 2,000 ดอลลาร์ พุ่งขึ้นประมาณ 10% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565

Tina Teng จากบริษัทที่ให้บริการทางการเงิน CMC Markets กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเร็ว ๆ นี้อาจทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากการลดลงของเงินดอลลาร์สหรัฐและอัตราผลตอบแทนพันธบัตร โดยคาดว่าราคาทองคำจะซื้อขายระหว่าง 2,500-2,600 ดอลลาร์/ออนซ์ (ราว 86,000-89,000 บาท) ทำสถิติสูงสุด แซงช่วงเดือนสิงหาคม 2563 ที่ราคาทองคำอยู่ที่ 2,075 ดอลลาร์/ออนซ์ (ราว 74,000 บาท) ตามข้อมูลของ Refinitiv

“ฉันคิดว่ามันเป็นไปได้มากที่เราเห็นผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของทองคำในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เราอาจเห็นได้ว่ามันจะทำลายจุดสูงสุดใหม่ในไม่ช้า”

ในปีที่ผ่านมา ความต้องการทองคำพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี เนื่องจากการซื้อจำนวนมากของธนาคารกลาง ตามรายงานของ World Gold Council โดยธนาคารกลางได้ซื้อทองคำสูงสุดในรอบ 55 ปีที่ 1,136 ตัน

Source

]]>
1424435
‘โลหะเงิน’ อาจแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี แถมมีแนวโน้มแซงหน้าราคา ‘ทองคำ’ https://positioningmag.com/1416691 Wed, 25 Jan 2023 07:40:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1416691 โลหะเงิน ถือเป็นโลหะมีค่าที่สำคัญอีกชนิดหนึ่ง และจากความต้องการใช้โลหะเงินที่มากขึ้นในปีนี้ มีการคาดการณ์ว่าราคาโลหะเงินอาจพุ่งทำระดับสูงสุดในรอบ 9 ปี และอาจจะแซงหน้าราคาทองคำเลยทีเดียว

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ราคาโลหะเงินอาจแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 ปีที่ 30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในปีนี้ ซึ่งอาจแซงหน้าราคาทองคำ เนื่องจากอุปทานที่ไม่เพียงพอ รวมถึงแนวโน้มที่เงินให้ ผลกำไรได้ดีกว่าทองคำ ในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อสูง

“ครั้งสุดท้ายที่เม็ดโลหะเงินแตะระดับ 30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คือในเดือนกุมภาพันธ์ 2013 และจากที่ผ่านมา โลหะเงินเคยทำกำไรได้เกือบ 20% ในปีที่อัตราเงินเฟ้อสูง จึงไม่น่าแปลกใจที่ราคาโลหะเงินจะพุ่งไปที่ 30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปีนี้” Janie Simpson ซีอีโอของ ABC Bullion กล่าว

ทั้งนี้ เม็ดโลหะเงิน (silver spot) เคยทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 49.45 ดอลลาร์ในปี 1980 เทียบกับอัตราเงินเฟ้อที่ 13.5% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากประมาณ 4 ดอลลาร์ในปี 1976 เมื่ออัตราเงินเฟ้อที่ 5.7% และช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา โลหะเงินมีการซื้อขายอยู่ที่ 24.02 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เทียบกับอัตราเงินเฟ้อที่ 6.5%

ปัจจุบันแร่เงินอยู่ในภาวะขาดแคลนและมีการลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยปัจจุบันเงินเป็นโลหะที่ใช้โดยทั่วไปในการผลิตยานยนต์ แผงโซลาร์เซลล์ เครื่องประดับ และอิเล็กทรอนิกส์ และคาดว่าแร่เงินจะ ขาดดุลมากกว่า 100 ล้านออนซ์ในอีก 5 ปีข้างหน้า เนื่องจากการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม โดยปัจจุบันการใช้แร่เงินในภาคอุตสาหกรรมคิดเป็นเกือบ 50% ของความต้องการทั้งหมด

“ความต้องการดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 15% ในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยเป็นผลมาจากความต้องการทางอุตสาหกรรมที่เร่งตัวขึ้นจากการใช้งานยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์” Nicky Shiels หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์โลหะของบริษัทค้าโลหะมีค่า MKS PAMP กล่าว

จากข้อมูลของ The Silver Institute ระบุว่า ในปี 2022 มีซัพพลายแร่เงินจากเหมืองแร่รวมทั้งหมด 843.2 ล้านออนซ์ ซึ่งถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับระดับสูงสุดในปี 2016 ที่ผลิตได้ 900 ล้านออนซ์ ขณะที่ Randy Smallwood ประธานบริษัทเหมือง Wheaton Precious Metals บอกว่า ซัพพลายโลหะเงินขึ้นถึงระดับสูงสุดเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว จากนั้นการผลิตโลหะเงินทั่วโลกก็ลดลง และจะไม่ได้เห็นแร่เงินจากเหมืองในปริมาณมากเท่านั้นแล้ว

Source

]]>
1416691
Standard Chartered คาด ‘Bitcoin’ อาจร่วงเหลือ 5,000 ดอลลาร์ในปีหน้า ส่วน ‘ทองคำ’ จะพุ่ง 30% https://positioningmag.com/1411104 Tue, 06 Dec 2022 03:41:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1411104 ถือเป็นอีกปีที่ตลาดคริปโตฯ เจอแต่ข่าวร้าย ๆ ซึ่งส่งผลให้เหรียญที่มีมูลค่าสูงสุดอย่าง บิตคอยน์ (Bitcoin) ปัจจุบันมีมูลค่าที่ 17,000 ดอลลาร์ จากที่เคยพุ่งสูงสุดถึงกว่า 67,000 ดอลลาร์ในช่วงปลายปี 2564 ล่าสุด Standard Chartered ได้ออกมามองถึงทิศทางบิตคอยน์ปีหน้า โดยคาดว่ามูลค่าจะเหลือเพียง 5,000 ดอลลาร์เท่านั้น

Eric Robertsen หัวหน้าฝ่ายวิจัยระดับโลกของ Standard Chartered Bank คาดการณ์ว่า บิตคอยน์อาจลดลงเหลือ 5,000 ดอลลาร์ในปีหน้า ซึ่งถ้าถึงระดับนั้น แปลว่ามูลค่าของบิตคอยน์จะลดลงประมาณ 70% จากราคาปัจจุบันที่ 17,000 ดอลลาร์ ซึ่งมูลค่าลดลงไปมากกว่า 60% หากนับเฉพาะปีนี้

หนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อมูลค่าของบิตคอยน์ก็คือ การล่มสลายของโครงการและบริษัทที่มีชื่อเสียงมากมาย ทำให้อุตสาหกรรมเสียหาย โดยเฉพาะที่ FTX ได้ยื่นล้มละลาย นับเป็นความเสียหายล่าสุดและใหญ่ที่สุด เพราะหลังจากที่ FTX ล้มก็ได้ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปทั้งตลาด

“ผลตอบแทนของคริปโตฯ ลดลงไปพร้อม ๆ กับหุ้นเทคโนโลยี และในขณะที่บริษัทหรือแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนคริปโตฯ จำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มพบว่าตัวเองมีสภาพคล่องไม่เพียงพอ ได้นำไปสู่ความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล” Eric Robertsen กล่าว

ในขณะที่มูลค่าของบิตคอยน์อาจจะลดลงในปีหน้า แต่ราคา ทองคำ อาจเพิ่มขึ้น 30% เป็น 2,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการถดถอยของสินทรัพย์ดิจิทัล โดยทองคำนั้นจะเป็นเหมือน แหล่งหลบภัย โดยนักลงทุนแห่กันไปเพื่อความมั่นคงในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวน

ไม่ใช่แค่ Standard Chartered ที่มองว่ามูลค่าของบิตคอยน์จะลดลงในปีหน้า แต่ Mark Mobius นักลงทุนรุ่นเก๋าก็คาดว่า บิตคอยน์จะร่วงลงสู่ระดับ 10,000 ดอลลาร์ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นจากธนาคารกลางสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม มีเพียง Tim Draper มหาเศรษฐีพันล้านยังเชื่อว่าในช่วงกลางปีหน้า มูลค่าของบิตคอยน์จะกลับมาแตะ 250,000 ดอลลาร์ ได้

Source

]]>
1411104