ธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ตราดอกเบี้ยในสหรัฐอเมริกาล่าสุดอยู่ในช่วง 5.25-5.5% ซึ่งถือเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงที่สุดในรอบ 22 ปี และยังไม่ส่งสัญญาณการลดดอกเบี้ยลงมาด้วยซ้ำ
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยในสหรัฐอเมริกาล่าสุดอยู่ในช่วง 5.25-5.5% ซึ่งถือเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงที่สุดในรอบ 22 ปี และเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันครั้งที่ 11 แล้ว
ในรายงานของ Fed ได้ชี้ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และอัตราเงินเฟ้อ และ Fed เองได้ให้ความสำคัญในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อที่จะทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อกลับเข้าสู่เป้าหมายระยะยาวที่ 2% ให้ได้
ตัวเลขเงินเฟ้อในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาอยู่ที่ 3% ซึ่งลดลงตามลำดับในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่เงินเฟ้อของสหรัฐฯ ทำสถิติสูงสุดที่ 9.1% ในปี 2022 ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันรายงานของ Fed ยังกล่าวถึงอุตสาหกรรมภาคการธนาคารของสหรัฐฯ ยังเข้มแข็ง และมีความยืดหยุ่น เพื่อที่จะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนรวมถึงประชาชนด้วย
เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่ได้ส่งสัญญาณที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลงในระยะเวลาอันใกล้นี้ด้วย และเปิดช่องไว้ว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนกันยายนนี้ โดย Fed จะติดตามดูข้อมูลทางเศรษฐกิจในช่วง 2 เดือนหลังจากนี้
ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังกล่าวเสริมว่าจะพยายามทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงแบบค่อยเป็นค่อยไป หลังจากที่ชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และพยายามไม่ให้ผลกระทบของการขึ้นดอกเบี้ยส่งผลต่อตลาดแรงงานมากเกินไป ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะไม่เข้าสู่สภาวะถดถอย
ในบทวิเคราะห์ของ Goldman Sachs มองว่า แถลงการณ์ของ Fed ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะชะลอลงแต่อย่างใดด้วยซ้ำ อย่างไรก็ดี สถาบันการเงินรายนี้ยังคงคาดหวังว่าท้ายที่สุดแล้วจะมีการคงดอกเบี้ยในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้