ทีโอที – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 14 Jan 2021 07:23:04 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 5 เรื่องน่ารู้ บิ๊กดีลควบรวม TOT-CAT สู่ NT พร้อมจับตาการขึ้นเป็น ‘Top 3’ ตลาดโทรคมนาคม https://positioningmag.com/1314137 Thu, 14 Jan 2021 06:04:14 +0000 https://positioningmag.com/?p=1314137 ปิดฉากมหากาพย์การควบรวมของ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT กับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT สักทีหลังจากยืดเยื้อมานาน โดยจากนี้จะไม่มี TOT กับ CAT แต่เป็น ‘บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)’ หรือ ‘NT’ ดังนั้นลองไปย้อนรอยกันว่ากว่าจะเป็น NT นั้นผ่านอะไรมาบ้าง พอเป็น NT แล้วดีอย่างไร และเป้าหมายจากนี้ของ NT คืออะไร

จุดกำเนิด TOT และ CAT

ย้อนไปที่จุดกำเนิดของทั้ง 2 บริษัทกันดู โดยเริ่มจาก บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (TOT Public Company Limited) เป็นรัฐวิสาหกิจประเภทสื่อสารโทรคมนาคมในสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยทีโอทีนั้นได้แปรรูปมาจาก องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ซึ่งก่อตั้งเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2497 ปัจจุบัน ทีโอที ได้ดำเนินกิจการเกี่ยวกับโทรศัพท์และการสื่อสารมาเป็นระยะเวลา 67 ปี โดยทำหน้าที่ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมทุกประเภททั้งในและระหว่างประเทศ ผ่านบริการต่าง ๆ ทั้งทางสายโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งประกอบด้วยใบอนุญาตแบบที่ 3 (ที่มีโครงข่ายของตนเองเพื่อให้เช่าใช้)

ส่วน ‘บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)’ หรือ ‘CAT Telecom Public Company Limited’ ก็เป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในรูปบริษัทมหาชน โดยเกิดจากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในกิจการโทรคมนาคมของการสื่อสารแห่งประเทศไทย (ก.ส.ท.) ที่ก่อตั้งเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2519 ที่ดำเนินธุรกิจด้านการสื่อสารโทรคมนาคมทั้งในและระหว่างประเทศ และในอดีตยังทำหน้าที่ให้บริการกิจการไปรษณีย์เพิ่มด้วย แต่หลังจากที่แปรรูปรัฐวิสาหกิจจึงได้แยกกิจการไปรษณีย์ออกจากกัน โดยกิจการไปรษณีย์ได้จัดตั้งเป็นบริษัทใหม่ในชื่อ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ส่วนกิจการโทรคมนาคมได้แปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดในชื่อ กสท โทรคมนาคมในปัจจุบัน

18 ปีแห่งความพยายามสู่ ‘NT’

จริง ๆ เรื่องการควบรวมของ TOT และ CAT เป็นอะไรที่ดำเนินการมานาน โดยนโยบายเริ่มต้นเมื่อปี 2545 แต่ที่ไม่สำเร็จเพราะถูกคัดค้านอย่างหนักจากสหภาพแรงงานของทั้ง 2 แห่ง อย่างไรก็ตาม หลังจากที่หารือร่วมระหว่างผู้บริหาร และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจของทั้ง 2 แห่ง เพื่อให้ได้ข้อสรุปใน 3 เรื่องสำคัญ คือ 1.แผนบริหารจัดการบุคลากร 2.สินทรัพย์และหนี้สิน และ 3.สัญญา และสัมปทานต่าง ๆ เพื่อให้มีความชัดเจนและไม่เกิดผลกระทบ จนในวันที่ 14 มกราคม 2563 ครม. ก็มีมติอนุมัติให้ TOT และ CAT ควบรวม โดยเปลี่ยนเป็น ‘บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)’ หรือ ‘NT’

แน่นอนว่าการควบรวม 2 บริษัทไม่ใช่เรื่องง่าย แถมยังมีการระบาดของ COVID-19 อีก ดังนั้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติขยายเวลาดำเนินการควบรวมให้อีก 6 เดือน จนมาควบรวมสำเร็จเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา ถือว่าสามารถดำเนินการได้ทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด โดยบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ยังคงมีฐานะเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจภายใต้สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีกระทรวงการคลังถือหุ้นทั้งหมด

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)

ควบรวมแล้วได้อะไร ?

2 บริษัทให้บริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคมเหมือนกัน ซึ่งแปลว่ามีการทำงานที่ถือว่าทับซ้อนกันรวมไปถึงการลงทุน หากอ้างอิงจากข้อมูลปี 2562 TOT มีสินทรัพย์ที่สำคัญ ได้แก่ โครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง 1.5 ล้านคอลต่อกิโมเลตร, โครงการเคเบิลใต้น้ำ 2 ระบบ, ท่อร้อยสายใต้ดิน 32,173 ไมโครดักส์ต่อกิโลเมตร, เสาโทรคมนาคม 13,445 ต้น, ศูนย์ข้อมูล 4 แห่ง และมีพนักงานทั้งหมด 13,026 คน

ส่วน CAT มีสินทรัพย์ที่สำคัญ ได้แก่ โครงการเคเบิลใต้น้ำ 6 ระบบ อยู่ระหว่างสร้าง 1 ระบบ, โครงการเคเบิลใยแแก้วนำแสง 0.7 ล้านคอลต่อกิโลเมตร, เสาโทรคมนาคม 18,159 ต้น, ท่อร้อยสาย 5,677 ไมโครดักส์ต่อกิโลเมตร และศูนย์ข้อมูล 9 แห่ง และพนักงาน 5,117 คน

จะเห็นว่ามีหลายส่วนที่ทั้ง 2 บริษัทลงทุนซ้ำซ้อนกันอยู่ ไม่ว่าจะท่อร้อยสายใต้ดิน, โครงการเคเบิลใต้น้ำ และศูนย์ข้อมูล ซึ่งถ้ารวมกันแล้ว ‘สังวรณ์ พุ่มเทียน’ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ CAT ได้เคยให้สัมภาษณ์กับประชาชาติว่า แผนที่เสนอมีความชัดเจนมากว่าการควบรวมจะช่วยให้รัฐประหยัดเงินลงทุนตั้งแต่ปี 2562-2570 ได้ถึง 1,137 ล้านบาท เพราะไม่ต้องลงทุนซ้ำซ้อน ก่อให้เกิดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 33%

ขึ้นเบอร์ 3 แซง Dtac

หนึ่งในสิ่งที่น่าจับตาคือ การขึ้นเป็น ‘เบอร์ 3’ ในตลาดโทรคมนาคมไทย เพราะเมื่อนำผลประกอบการของทั้ง 2 บริษัท อ้างอิงจากข้อมูลปี 2562 พบว่า TOT มีทรัพย์สินรวม 142,352 ล้านบาท มีรายได้รวม 67,847 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,896 ล้านบาท ส่วน CAT มีสินทรัพย์รวม 132,915 ล้านบาท รายได้รวม 87,533 ล้านบาท กำไรสุทธิ 28,025 ล้านบาท เมื่อรวมกันแล้วมูลค่าบริษัทของ NT สามารทถทะยานสู่ระดับ 3 แสนล้าน โดยมีรายได้รวม 155,380 ล้านบาท และมีกำไร 30,921 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อเทียบกับผู้เล่นเบอร์ 3 ในตลาดอย่าง Dtac ที่ในปี 2562 มีรายได้ 81,228 ล้านบาท กำไร 5,422 ล้านบาท นั่นแสดงให้เห็นว่ารายได้ของ NT ได้แซงผู้เล่นเบอร์ 3 ของตลาดไปแล้ว

Photo : Shutterstock

จับตากลยุทธ์โกยลูกค้า

ทั้งนี้ หากพิจารณาจากบริการด้านโทรคมนาคมเหมือนกับคู่แข่งในตลาดรายอื่น ๆ อย่างบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง, บริการโทรศัพท์มือถือของทั้ง TOT และ CAT รวมกันยังสู้ทั้ง 3 รายใหญ่ที่ทิ้งห่างไปไกลมากแล้ว โดยลูกค้าตลาดโมบายของ TOT Mobile มีอยู่ 1.8 แสนราย ส่วน My By CAT อยู่ที่ 2.5 ล้านราย เมื่อนำมาบริหารจัดการร่วมกันในฐานะ NT จะมีฐานลูกค้าอยู่ที่ 2.68 ล้านราย ส่วน อินเตอร์เน็ตบ้าน TOT มีลูกค้าประมาณ 1.5 ล้านราย ส่วน CAT มีเพียง 2 แสนราย รวมกันไม่ถึง 2 ล้านราย แม้ว่า TOT จะถือว่าเป็นผู้เล่นเบอร์ต้นในตลาดเน็ตบ้าน เเต่ผู้เล่นรายใหม่อย่าง ‘AIS’ ก็หายใจรดต้นคอมาเเล้ว

ดังนั้น ต้องจับตาดูว่าหลังจากควบรวมจนกลายเป็น NT โดยสมบูรณ์แล้วบริษัทจะนำคลื่นไปต่อยอดการรุกตลาดคอมเมอร์เชียลอย่างไรบ้าง เพราะการควบรวมทำให้มีคลื่นในมือถึง 600 MHz ได้แก่ จาก 6 ย่านความถี่ ได้แก่ 700 MHz, 26 GHz, 850 MHz, 2100 MHz, 2300 MHz และ 900 MHz เป็นรองเพียง AIS ที่มีรวม 1,450 MHz และ Truemove H 1020 MHz ส่วน Dtac ปัจจุบันมี 330 MHz และในส่วนของสาขาให้บริการเมื่อรวมกันทำให้มีถึง 536 แห่งทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม การเเข่งขันของโอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 รายก็ไม่มีใครยอมใคร ทั้งด้านราคาแพ็กเกจ, ประสิทธิภาพของเครือข่าย, สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ แม้กระทั่งเรื่องของคอนเทนต์ก็ไม่มีใครยอมใคร ซึ่งคงเป็นโจทย์หนักของ NT ถ้าอยากจะขึ้นเป็นผู้เล่น Top3 อย่างแท้จริง

]]>
1314137
TOT ปัดฝุ่น “ตู้แบ่งปัน” พลิกโฉมตู้โทรศัพท์สาธารณะเก่า สู่ “ตู้ปันสุข” เริ่มที่แจ้งวัฒนะ https://positioningmag.com/1277908 Mon, 11 May 2020 09:51:30 +0000 https://positioningmag.com/?p=1277908 ตู้ปันสุขกำลังเป็นที่นิยมในประเทศไทย ได้แบ่งปันสิ่งของ อาหาร และของใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อส่งต่อน้ำใจให้แก่คนยากไร้ในแต่ละชุมชน โดยที่ TOT ได้ดัดแปลงตู้โทรศัพท์สาธารณะเก่า มาเป็นตู้ปันสุข ก่อนหน้านี้ได้เคยนำร่องโครงการนี้เมื่อปี 2561 แล้ว

ปัดฝุ่นโครงการตู้แบ่งปัน ต่อยอดไอเดียตู้โทรศัพท์เก่า

ในช่วงหลายวันมานี้หลายคนคงจะได้เห็นการแชร์ต่อกันบนโลกออนไลน์ถึงกระแส “ตู้ปันสุข” ที่เป็นการตั้งตู้ไว้สำหรับนำสิ่งของ เครื่องใช้ต่างๆ มาส่งมอบแก่คนในชุมชน คอนเซ็ปต์หลักมีแค่ว่า ถ้าใครมีก็นำของมาเติมใส่ตู้ แต่ถ้าใครไม่มีก็หยิบไปแต่พอดีนั่นเอง

ผลปรากฏว่า คนไทยให้การตอบรับกับตู้ปันสุขอย่างดี จากทีเริ่มต้นเพียงแค่ 5 ตู้ 5 จุด ตอนนี้ได้ขยายไปในหลายจังหวัด มีจุดตั้งตู้ปันสุขมากเป็นหลายร้อยตู้แล้ว

นอกจากในชุมชนจะมีการนำเอาตู้กับข้าว หรือตู้เก่าๆ มาวางเป็นตู้ปันสุขแล้ว ฝั่งธุรกิจอย่าง TOT หรือ บมจ. ทีโอที ได้นำเอาตู้โทรศัพท์สาธารณะเก่ามาทำเป็นตู้ปันสุขเช่นเดียวกัน

ก่อนหน้านี้ TOT ได้เคยผุดโครงการ “ตู้แบ่งปัน” ตั้งแต่ปี 2561 เริ่มต้นที่สำนักงานใหญ่ TOT ด้านซอยแจ้งวัฒนะ 5 ได้ตั้งตู้แบ่งปันที่ดัดแปลงจากตู้โทรศัพท์สาธารณะที่ยกเลิกการใช้งานแล้ว เพื่อแจกจ่ายให้ชาวบ้านริมคลองเปรมประชากรที่มีรายได้น้อย

ตู้โทรศัพท์สาธารณะที่นำมาดัดแปลงนี้ ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันนวัตกรรม TOT ไอเดียหลักเกิดจากความคิดที่ว่า “ก่อนหน้าที่โทรศัพท์มือถือจะได้รับความนิยมนั้น ตู้โทรศัพท์สาธารณะของ TOT ได้รับใช้บริการคนไทยได้สื่อสารถึงกันทั่วประเทศ อยู่คู่สังคมไทยอย่างอบอุ่นมายาวนาน ก่อนที่จะจากไปตามกระแสเทคโนโลยี น่าจะทำให้มีคุณค่าทางด้านอื่นๆ ให้กับสังคม และให้คนได้ระลึกถึงอดีตที่ครั้งหนึ่งเราเคยใช้ตู้นี้โทรหาใครสักคน”

ตู้แบ่งปันนี้ได้นำเอาเสื้อผ้า ของเล่น อาหาร และของใช้ต่างๆ มาวางเพื่อบริจาคแก่คนใช้ชุมชน เริ่มต้นจากพนักงานของ TOT เองที่นำเอาของมาบริจาค และมีพนักงานจิตอาสาที่ช่วยแยกของในสภาพดี รวมถึงมีการทำป้ายประชาสัมพันธ์ และเดินแจกใบปลิวตามคลอง

แต่ในตอนนั้นได้มีการกำหนดวันตั้งตู้ และแจกของบริจาคเป็นรอบๆ ไป จะมีการประชาสัมพันธ์ก่อนล่วงหน้าที่มีการแจกของด้วย

จากตู้แบ่งปัน สู่ตู้ปันสุข

เมื่อกระแสของตู้ปันสุขกำลังผลิบานในสังคมไทย TOT จึงได้ปัดฝุ่นโครงการนี้อีกครั้ง โดยที่ได้ทำความสะอาดตู้แบ่งปัน แล้วมีคนเริ่มนำสิ่งของมาบริจาค ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ข้าวสาร อาหารแห้ง

ตอนนี้ TOT ยังคงตั้งตู้เพียงแค่ 1 ตู้ที่บริเวณสำนักงานใหญ่ ไม่แน่ว่าจากกระแสของตู้ปันสุขที่มีมากขึ้นในไทย อาจจะมีการดัดแปลงตู้โทรศัพท์มากขึ้นอีกก็เป็นได้

]]>
1277908