บัตรกดเงินสด – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 24 Jan 2025 11:09:44 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 การตลาดผ่าน “ซองทิชชู” ฉบับ A money ทำไมสินเชื่อต้องแจกทิชชูแทนใบปลิว? https://positioningmag.com/1508018 Fri, 24 Jan 2025 07:34:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1508018
  • ธุรกิจสินเชื่อในไทยที่มีบริษัทแม่เป็นบริษัทญี่ปุ่นมักใช้ “ทิชชู” เป็นเครื่องมือการตลาดควบคู่ใบปลิว เพื่อใช้โปรโมต 
  • เหตุผลที่ใช้ทิชชูเพราะดึงดูดลูกค้ามากกว่า เอาไปใช้งานต่อได้ ถ้าเทียบกับใบปลิวที่รับแล้วอาจจะทิ้งเลย
  • ยอดการสมัครสินเชื่อมาจากทิชชูเป็นอันดับหนึ่ง ถือว่าเป็นวิธีที่ได้ผล
  • ไอเดียจากประเทศญี่ปุ่น

    หลายคนอาจจะเคยเห็น หรือเคยได้รับ “ซองทิชชู” แจกฟรีจากบริษัทสินเชื่อส่วนบุคคล หรือบัตรกดเงินสดตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งเป็นการแจกซองทิชชูเหมือนแจกใบปลิวเลย หลายคนต้องแวะรับ ถ้าใครเดินผ่านก็ยังต้องเดินกลับมารับเลยก็มี เพราะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ต่างจากใบปลิวที่ถ้าได้รับมาก็คงหย่อนลงถังขยะในทันที หรือเลือกที่จะไม่รับเลยตั้งแต่แรก

    กลยุทธ์นี้ได้เริ่มต้นจากบริษัทสินเชื่อใหญ่ๆ อย่าง Umay+ และ A money ที่มีบริษัทแม่เป็นบริษัทญี่ปุ่น ได้นำไอเดียนี้ที่ใช้ในญี่ปุ่นแล้วประสบความสำเร็จมาใช้ในประเทศไทย กลายเป็นกลยุทธ์หลักในการสื่อสารกับลูกค้าที่ใช้ควบคู่กับสื่ออื่นๆ

    สมพร บุญเกิด ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและกลยุทธ์การตลาด บริษัท ไอร่า แอนด์ ไอฟุล จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการสินเชื่อ A money ได้เริ่มเล่าว่า

    “จริงๆ การใช้ซองทิชชู่ไม่ได้เป็นสิ่งใหม่ ต้นฉบับมาจากญี่ปุ่น เป็นเครื่องมือหลักในการทำประชาสัมพันธ์ที่ดีที่สุด ถ้าไปแจกใบปลิวลูกค้าไม่เข้าหา พอใช้ทิชชู่ลูกค้าจะเข้าหา Win-Win ทั้ง 2 ฝ่าย ได้ PR โลโก้บริษัท และมีทิชชูใช้ และมีการ Remind ซ้ำๆ เพราะไม่ได้ใช้หมดในครั้งเดียว ต้องมีการหยิบมาใช้เรื่อยๆ”

    โดยธุรกิจสินเชื่อมีการโฆษณาผ่านช่องทางออฟไลน์เป็นหลัก ทาง A money ได้ใช้ซองทิชชูควบคู่กับการแจกใบปลิว เป็นการผนึกกำลังกันเสียมากกว่า ซองทิชชูได้ในแง่ของการสร้างการรับรู้ การเข้าถึงลูกค้า แต่ใบปลิวจะได้ในการโปรโมตแคมเปญ ได้ใส่รายละเอียดทุกอย่าง เพราะซองทิชชูไม่สามารถใส่รายละเอียดของแคมเปญได้หมด 

    โดยในระบบหลังบ้านจะมีข้อมูลอยู่ว่าลูกค้ามาสมัครสินเชื่อจากช่องทางไหน ถ้าการสมัครที่สาขา ซองทิชชูยังเป็นสื่ออันดับหนึ่งที่ช่วยดึงลูกค้าใหม่ๆ ได้  

    ทิชชูแดงรับตรุษจีน

    แม้ในปีนี้ทิศทางตลาดจะเริ่มเปลี่ยนเล็กน้อย มีการเน้นสื่อออนไลน์มากขึ้น เพราะต้องอาศัยความเร็วในการสมัคร และการอนุมัติสินเชื่อ แต่ซองทิชชูก็ยังคงต้องใช้อย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ปีนี้มีกิมมิคอยู่ที่ใช้ “ซองทิชชูสีแดง” สร้างสีสันใหม่ๆ เพื่อรับกับเทศกาลปีใหม่ และตรุษจีน

    “เราเริ่มใช้ซองทิชชูแดงตั้งแต่ช่วงเทศกาลคริสต์มาสเมื่อปลายปีที่แล้ว เพื่อรับกับช่วงเทศกาลปีใหม่ และตรุษจีน ใช้ทิชชูสีแดงเพื่อสร้างสีสันใหม่ๆ กระตุ้นให้ลูกค้าอยากใช้มากขึ้น อีกทั้งสีแดงยังเป็นสีประจำบริษัท เป็นการกระตุ้นการรับรู้แบรนด์ได้ด้วย”

    ในแต่ละปีมีการผลิตซองทิชชูประมาณ 100,000 ชิ้น ในปีนี้ก็ผลิตในจำนวน 100,000 ชิ้นเช่นเดียวกัน 

    ถามว่าในอนาคตจะได้เห็นซองทิชชูรับกับเทศกาลอื่นๆ อีกหรือไม่ สมพรบอกว่าต้องรอดูผลตอบรับจากแคมเปญนี้ก่อน 

    สินเชื่อแข่งดุ ชิงความเร็ว ต้องเป็น 1 ใน 3

    A money เป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลกลุ่ม Non-bank ในไทย บริหารโดย บริษัท ไอร่า แอนด์ ไอฟุล จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งเมื่อปี 2557 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท เป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ไอร่า แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไอฟุล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ให้บริการธุรกิจการเงินจากประเทศญี่ปุ่น

    มีบริการหลักก็คือ สินเชื่อส่วนบุคคล และนาโนไฟแนนซ์ แต่รายได้หลักมาจากสินเชื่อส่วนบุคคล 80-90% ลูกค้าหลักเป็นกลุ่มพนักงานประจำ อายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป รายได้ตั้งแต่ 5,000 บาท แต่ไม่เกิน 30,000 บาท ส่วนนาโนไฟแนนซ์เน้นที่บุคคลที่ไม่มีรายได้ประจำ ไม่มีสลิปเงินเดือน เช่น กลุ่มฟรีแลนซ์ พ่อค้าแม่ค้าต่างๆ

    สมพร เสริมอีกว่า ตลาดสินเชื่อในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงมาก เพราะผู้เล่นธนาคารก็ลงมาจับตลาดนี้ และกฎเกณฑ์ของแบงก์ชาติที่กำหนดให้บุคคลเดียวสามารถสมัครสินเชื่อได้แค่ 3 บริษัทเท่านั้น ทำให้บริษัทต้องเน้นที่ “ความเร็ว” เป็นหลัก ทั้งเร็วเรื่องการเข้าถึง และอนุมัติเร็ว ต้องทำให้ตัวเองเป็น 1 ใน 3 ให้ได้ 

    “ตอนนี้การแข่งขันเน้นที่การอนุมัติเร็ว ใครเร็วใครได้ ใครๆ ก็อยากเป็น 1 ใน 3 เลยต้องเน้นระบบออนไลน์ สมัครผ่านมือถือ ผ่าน e-KYC อยู่บ้านก็สมัครได้ไม่ต้องไปที่สาขา”  

    ปัจจุบัน A money มีฐานลูกค้ารวมกว่า 500,000 ราย ยังเน้นการเติบโตตามเป้า จะโฟกัสที่ช่องทางออนไลน์เป็นหลัก

    ]]>
    1508018
    ถึงกักตัวก็บวกความสุขกับยูเมะพลัสได้ https://positioningmag.com/1319940 Thu, 25 Feb 2021 02:00:31 +0000 https://positioningmag.com/?p=1319940

    เข้าเฟสทํางานที่บ้านรอบ 2 กันแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงปรับตัวและชินกับการ ทํางานอยู่บ้านจนถึงขั้นเบื่อและเอือมกับการไม่ได้ออกไปไหน จนต้องเสาะหาวิธีผ่อนคลายความเครียดกันเลยทีเดียว ซึ่งก็พบว่าการช้อปออนไลน์ ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยเยียวยาจิตใจได้เป็นอย่างดี

    ก็ในเมื่อใจอยากช้อปไม่ว่าของจะชิ้นเล็ก ชิ้นใหญ่ ก็เกิดอาการตื่นตูม ตื่นเต้นกันทั้งนั้น โดยเฉพาะโมเมนต์ที่คอยไถโทรศัพท์เพื่อดูสถานะขนส่ง ชะเง้อประตูรอคนมาส่งของ หรือแม้กระทั่งการลุ้นตัวโก่งขณะแกะกล่องไปรษณีย์ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างในนั้น

    อาการแบบนี้ อารมณ์แบบนี้ใครช้อปออนไลน์ประจำ เป็นอันเข้าใจกัน ด้วยเหตุเพราะจิตใจเราโฟกัส ไม่วอกแวก รอลุ้นของที่สั่งด้วยความรู้สึก เซอร์ไพร์สอยู่ตลอดเวลา การช้อปออนไลน์จึงเข้ามาช่วยบำบัดจิตใจให้ผ่อนคลาย ขจัดความรู้สึกห่อเหี่ยว ขณะทำงานอยู่บ้านได้นั่นเอง

    เมื่อการช้อปออนไลน์เติมความสุขได้ขนาดนี้ บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส ก็ช่วยพลัสความสุขให้มากขึ้นอีกกว่าเดิมทั้งโปรโมชันบัตรกดเงินสด และพลัสความสุขอีกหลายต่อ นั่นก็คือหากใครเป็นพนักงานประจำที่มีเงินเดือนตั้งแต่ 7,000 บาท ขึ้นไป และมีอายุงาน 1 เดือน ก็สมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ได้ เพียง 10 นาทีเท่านั้น พร้อมกับเลือกรับโปรโมชันบัตรกดเงินสด ได้ถึง 2 ต่อ*

     

    ต่อที่ 1 รับเลยกระเป๋าตามฐานเงินเดือน อาทิ

    กระเป๋า SANTA BARBARA POLO&RACQUET CLUB มูลค่า 3,590 บาท (ฐานเงินเดือนตั้งแต่ 30,000 บาท ขึ้นไป)

    กระเป๋า Umay+ Trolley Bag มูลค่า 1,250 บาท (ฐานเงินเดือน 20,000 – 29,999 บาท)

    กระเป๋า Umay+ Twin Bag มูลค่า 400 บาท (ฐานเงินเดือน 7,000 – 19,999 บาท)

    ต่อที่ 2 เมื่ออนุมัติบัตรแล้ว เลือกรับเลย

    กดเงินสด 0% นาน 30 วัน หรือ กระเป๋า Todd ขนาด 20 นิ้ว มูลค่า 4,450 บาทเพียงเบิกถอนเงินสดครั้งแรกภายใน 30 วัน หลังได้รับการอนุมัติ

    *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

    ผู้ที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.umayplus.com/

    ดูโปรโมชั่นบัตรกดเงินสดยูเมะพลัสได้ที่ https://www.umayplus.com/promotion

    สมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ได้ที่ https://www.umayplus.com/cashcard/applyform

    ]]>
    1319940
    เร่งเครื่อง “สินเชื่อบุคคล” โตหลังวิกฤต KTC ลุยบัตรกดเงินสด เสริมรายได้เเทนดอกเบี้ยลด https://positioningmag.com/1293308 Wed, 19 Aug 2020 10:25:35 +0000 https://positioningmag.com/?p=1293308 ในปี 2563 แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวจาก COVID-19 ส่งผลกระทบต่อประชาชนให้ระมัดระวังการใช้จ่าย ต้องประหยัด เเละเน้นเก็บเงินไว้เป็นสภาพคล่องมากขึ้น 

    หลังมาตรการคลายล็อกดาวน์ ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ห้างร้านเเละภาคธุรกิจ ทยอยกลับมาให้บริการอีกครั้ง มีเเววจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง จากความหวังว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2 มาเเล้ว เป็นอีกหนึ่งโอกาสของกลุ่มธุรกิจ Non-Bank ที่จะเร่งเครื่องธุรกิจ “สินเชื่อบุคคล” มากขึ้น

    ช่วงเดือนเม.. ถึงพ..ที่ผ่านมา เราได้เห็นสัญญาณการผิดนัดชำระหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มสูงขึ้น จนในเดือนมิ..ถึงเดือนก.. ตัวเลขการผิดนัดชำระกลับมาสู่ระดับปกติแล้วพิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจสินเชื่อบุคคล บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด หรือ KTC กล่าว

    ในช่วงที่วิกฤต COVID-19 ทวีความรุนเเรงขึ้น KTC ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้า เช่น การลดขั้นต่ำการผ่อนชำระ ลดอัตราดอกเบี้ย เป็นต้น ขณะที่การปรับลดเพดานดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่กำหนดให้สินเชื่อบัตรเครดิตที่ลดจาก 18% เหลือ 16% สินเชื่อบุคคลลดจาก 28% เหลือ 25% ส่งผลกระทบต่อรายได้ธุรกิจ Non-Bank โดยตรง

    โดย KTC ประเมินว่า การปรับเพดานดอกเบี้ยดังกล่าว จะทำให้รายได้ดอกเบี้ยหายไปราว 100 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งจะต้องเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น อย่างการควบคุมความเสี่ยงเเละปรับเกณฑ์ด้านสายงานลูกค้าในการพิจารณาสินเชื่อ เช่น สายงานลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโดยตรง อย่างสายการบิน โรงแรม ทัวร์เเละการท่องเที่ยว

    ปัจจุบันยอดปฏิเสธบัตรใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 75% จากช่วงก่อน COVID-19 จะอยู่ที่ราว 70%”

    ผู้บริหาร KTC มองว่า เเม้ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เเม้สถานการณ์เริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่ก็ยังมีความเสี่ยง เพราะถ้าเศรษฐกิจยังฟื้นตัวช้า อย่างไรผู้คนก็จะระมัดระวังการใช้จ่ายและรักษาสภาพคล่องเงินสดมากขึ้น อีกทั้งต้องรอดูว่าภาครัฐทุ่มงบประมาณเพื่ออัดฉีดเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นหรือไม่ ดังนั้นภาพรวมในช่วงต่อไปจึงต้องมีการประเมินอีกที

    ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 มิ.. 2563 ทาง KTC มีโครงสร้างลูกหนี้ เเบ่งเป็นบัตรเครดิต 63.8% เเละสินเชื่อส่วนบุคคล 36.2% เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สินเชื่อบุคคลและดอกเบี้ยค้างรับรวม (ยอดลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล) อยู่ที่ 30,244 ล้านบาท ส่วนหนี้เสีย (NPL) ในหมวดของสินเชื่อบุคคลที่ถูกคำนวณตามมาตรฐานใหม่ TFRS9 อยู่ที่ 8.5% ต่างจากในมาตรฐานเดิม ณ ปี 2562 NPL อยู่ที่ 0.8% เท่านั้น 

    ด้วยสภาพเศรษฐกิจในยามนี้ เราจึงจะได้เห็นบรรดาบัตรเครดิต มีการออกแคมเปญ “ผ่อน 0%” กันมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย โดยเฉพาะในสินค้าที่มีวงเงินค่อนข้างสูง เช่น โรงพยาบาล ความงาม และรถยนต์ นับเป็นกลยุทธ์ในการแข่งขันของธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลในช่วงนี้

    ตั้งแต่ช่วงมาตรการล็อกดาวน์จนถึงปัจจุบัน พบว่ายอดการกดเงินลดลงประมาณ 1-2% จากการระมัดระวังการใช้จ่ายของลูกค้า เเละปกติมียอดใช้จ่ายเฉลี่ยทั้งหมดคนละ 1 หมื่นบาทต่อเดือน

    ด้านการกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจช่วงครึ่งปีหลังของ KTC จะมุ่งไปที่การทำให้รายได้ดอกเบี้ยที่ลดลงสามารถทยอยกลับคืนมาได้ ซึ่งมีกลยุทธ์หลักๆ อย่างการขายบริการสู่ธุรกิจสินเชื่อมีหลักประกัน เช่น สินเชื่อจำนำทะเบียนรถพี่เบิ้ม” เเละล่าสุดกับการเปิดตัวบัตรกดเงินสด KTC PROUD-UNIONPAY โดยตั้งเป้าผู้ใช้ถึงแสนใบ ภายในสิ้นปีนี้

    โดย KTC PROUD-UNIONPAY จะมี 4 ฟังก์ชันหลัก กดโอนรูดผ่อน ซึ่งในเดือนก..นี้ จะสามารถโอนเงินเข้าบัญชีทุกธนาคารแบบเรียลไทม์ผ่านแอปฯ KTC Mobile ได้ทันที ขณะที่กลุ่มลูกค้าหลักที่ต้องการจะเจาะยังเป็นกลุ่มมนุษย์เงินเดือนที่มีรับฐานเงินเดือนตั้งเเต่ 12,000 บาทในส่วนของผู้ที่มีรายได้ประจำ แต่หากเป็นเจ้าของธุรกิจเริ่ม 20,000 บาทต่อเดือน

    เราหันมาขยายฐานบัตรสินเชื่อกดเงินสด เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในสถานการณ์เศรษฐกิจเช่นนี้ได้มากกว่า

    โดยในปีนี้ KTC ตั้งเป้าสินเชื่อใหม่ว่าจะเติบโตราว 10% และคาดว่าจะมีสมาชิกมีบัตรใหม่เพิ่มขึ้น 1.6-1.8 แสนคน จากปัจจุบันที่มีอยู่ราว 891,875 บัญชี และมีส่วนแบ่งทางการตลาด 5.4% ของสินเชื่อส่วนบุคคลทั้งตลาด

     

    ]]>
    1293308