ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 01 Mar 2024 07:55:12 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “แอฟ-ทักษอร” พรีเซ็นเตอร์คนแรกในรอบ 95 ปีของ “ยูบิลลี่” ตอกย้ำแบรนด์ “เพชร” คุณภาพระดับโลก https://positioningmag.com/1464603 Fri, 01 Mar 2024 07:13:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1464603 “ยูบิลลี่ ไดมอนด์” เปิดตัว “แอฟทักษอร” เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์ในรอบ 95 ปี ช่วยโปรโมตย้ำแบรนด์ “เพชร” คุณภาพระดับโลกจากเบลเยียม พร้อมขยายวงเข้าถึงลูกค้าระดับกลางได้มากขึ้น

ก่อตั้งมานาน 95 ปีแต่ไม่เคยมีพรีเซ็นเตอร์จนกระทั่งปีนี้ เมื่อบริษัทต้องการเสริมแกร่งให้จุดยืนของแบรนด์ชัดและเข้าถึงลูกค้ากว้างขึ้น ทำให้ต้องมีพรีเซ็นเตอร์คนแรก

“อัญรัตน์ พรประกฤต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของแบรนด์เครื่องเพชร “ยูบิลลี่ ไดมอนด์” ประกาศแคมเปญใหญ่ “World Class Excellence” พร้อมเปิดตัว “แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ” เป็น “Friend of Jubilee Diamond” หรือพรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์

“อัญรัตน์ พรประกฤต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน)

ภายใต้แคมเปญนี้บริษัททุ่มงบการตลาด 50 ล้านบาท จัดทำหนังโฆษณา TVC ฉายทุกช่องทางดิจิทัล และขึ้นป้ายโฆษณา OOH ทั่วกรุงเทพฯ และหัวเมืองต่างจังหวัด เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคทั่วประเทศ

อัญรัตน์กล่าวว่า เหตุที่ต้องมีพรีเซ็นเตอร์เพราะต้องการให้การโปรโมตแบรนด์เข้าถึงลูกค้าเป็นวงกว้าง และที่ต้องเป็น “แอฟ-ทักษอร” เพราะเธอมีคาแรกเตอร์ที่ตรงกับ “เพชรยูบิลลี่” คือภายนอกอาจจะดูเป็นลุคสาวหวานและเรียบร้อย แต่ภายในเป็นคนแข็งแกร่ง เป็นลูกคนโตที่มีความเป็นผู้นำสูง ขับรถสปอร์ต จึงมีความน่าสนใจและเป็นคนที่มีหลากหลายแง่มุม

 

“เพชร” ระดับโลกสำหรับทุกระดับราคา

ด้าน “key messages” ที่จะสื่อสารกับแคมเปญนี้ อัญรัตน์กล่าวว่า ใจความหลักคือบริษัทต้องการ “ย้ำจุดแข็ง” ของแบรนด์ให้ชัดเจน นั่นคือการเป็นเครื่องประดับเพชรมาตรฐาน “ระดับโลก”

โดยเพชรทุกเม็ดของยูบิลลี่คัดสรรจากแหล่งเพชรที่เมืองแอนด์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม มีใบรับรองจากสถาบันรับรองเพชรชั้นนำระดับโลก รวมถึงใช้นวัตกรรมการผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงจากญี่ปุ่น ให้เพชรเป็นประกายสูงจากวิธีการเจียระไนและดีไซน์

ที่สำคัญคือต้องการย้ำว่า เพชรทุกระดับราคาที่ขายในร้านยูบิลลี่ ไดมอนด์ใช้มาตรฐานเดียวกันนี้ทั้งหมด ต้องการให้ลูกค้ามั่นใจว่าไม่ว่าจะซื้อที่สาขาใดใน 131 สาขาทั่วประเทศก็จะได้เพชรแท้ตามมาตรฐาน

 

ปีที่รุกหนักตลาด “Mid-Level” มากขึ้น

อัญรัตน์แบ่งแยกกลุ่มสินค้าในร้านคร่าวๆ เป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ กลุ่ม “High-Level” เครื่องเพชรระดับสูงในราคามากกว่า 1 แสนบาทต่อชิ้น และกลุ่ม “Mid-Level” ราคาไม่เกิน 1 แสนบาทต่อชิ้น

ส่วนกลุ่มลูกค้าที่ซื้อก็จะแบ่งเป็น 8 เซ็กเมนต์ตามยอดการใช้จ่ายต่อปีและไลฟ์สไตล์การใช้เครื่องเพชร ไล่ตั้งแต่กลุ่มผู้ซื้อชิ้นแรก (Entry Level) ไปจนถึงระดับสูงสุดคือกลุ่ม “High Spender” ผู้ซื้อเพชรหลักสิบล้านบาทต่อปี

สร้อยเพชรจากยูบิลลี่

ที่ผ่านมายอดขายในกลุ่ม “High Spender” คิดเป็นสัดส่วนในรายได้รวมของยูบิลลี่สูงถึง 20-25% เป็นกลุ่มลูกค้าที่ทางบริษัทดูแลอย่างใกล้ชิดและมีอีเวนต์สร้างประสบการณ์เอ๊กซ์คลูซีฟให้อยู่เสมอ

อย่างไรก็ตาม อัญรัตน์มองว่าปีนี้แบรนด์ต้องการจะขยายตลาดในกลุ่ม “Mid-Level” ให้มากขึ้น โดยกลุ่มเครื่องเพชรราคาหลักหมื่นต่อชิ้นนี้ไม่ได้มีแค่กลุ่มแหวนหมั้น-แหวนแต่งงาน แต่ยังมีเครื่องเพชรสำหรับสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้ง่ายที่ลูกค้ามักจะซื้อให้ตัวเอง (self purchase) โดยไม่ต้องรอโอกาสพิเศษ

ทำให้ยูบิลลี่ต้องการจะเน้นหนักกับตลาดนี้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความถี่ในการซื้อ สร้างลอยัลตี้ในแบรนด์ หรือดึงให้เพิ่มการใช้จ่ายต่อบิล ซึ่งทั้งหมดนี้จะใช้พลังของพรีเซ็นเตอร์อย่าง “แอฟ-ทักษอร” มาช่วยในการประชาสัมพันธ์

ยูบิลลี่
แหวนเพชรแถวสไตล์มินิมอล ใส่ได้ในชีวิตประจำวัน และมีแบบ Unisex ใช้บุกตลาด Mid-Level

รวมถึงยูบิลลี่จะออกแบบดีไซน์เครื่องประดับแบบใหม่กว่า 300 ดีไซน์ที่จะออกวางจำหน่ายในปีนี้ เน้นการสร้างดีไซน์ที่ใส่ได้ในชีวิตประจำวัน มีความหลากหลายให้เลือกตามบุคลิกและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน และมีหลายแบบที่จะเป็นเครื่องประดับ “Unisex” หลังพบดีมานด์ของกลุ่มผู้ชาย / LGBTQ+ สนใจใส่เครื่องประดับเพชรมากขึ้น หรือผู้หญิงเองก็ต้องการเครื่องประดับที่ไม่หวานจนเกินไป เป็นโอกาสการขายของเพชรยูบิลลี่

 

“ยูบิลลี่” ตั้งเป้ารายได้โต 8-10%

สรุปเป้ารายได้ของปีนี้ อัญรัตน์ตั้งเป้ายูบิลลี่จะเติบโต 8-10% จากการกระตุ้นตลาดผ่านแคมเปญ

ทั้งนี้ รายงานผลประกอบการของยูบิลลี่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อปี 2566 ทำรายได้รวม 1,580 ล้านบาท (-12.7% YoY) และทำกำไรสุทธิ 203 ล้านบาท (-34.6% YoY) ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และผู้บริโภคนิยมใช้จ่ายกับการท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นหลังเปิดประเทศอย่างเต็มที่

ส่วนปี 2567 นี้อัญรัตน์ยอมรับว่าสภาวะเศรษฐกิจอาจจะยังไม่เอื้อ เพราะถึงแม้กลุ่มเป้าหมายจะอยู่ในกลุ่มที่มีกำลังซื้อ แต่สภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาอาจมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกในการจับจ่ายได้

“เราควบคุมเศรษฐกิจไม่ได้ แต่ที่เราทำได้คือการหาทางเข้าถึงลูกค้าเพิ่มขึ้น ทำให้เราต้องสร้างพรีเซ็นเตอร์​ มาร์เก็ตติ้งในปีนี้เพื่อขยายฐานลูกค้า” อัญรัตน์กล่าวปิดท้าย

]]>
1464603
“ยูบิลลี่” ขายเพชรช่วงโควิดยังมีกำไร! คนลงทุนเพชรเพิ่ม คอลเลกชันมุ้งมิ้งช่วยดันยอด https://positioningmag.com/1322051 Fri, 05 Mar 2021 07:38:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1322051 “ยูบิลลี่” บริษัทเครื่องประดับเพชรของไทย รายงานผลประกอบการปี 2563 รายได้ลดลง -5% แต่กำไรสุทธิยังโตเล็กน้อย +1.8% หลังจากช่วงครึ่งปีหลังตลาดฟื้นตัว และคาดว่าจะโตต่อเนื่องถึงปีนี้ ทำให้ตั้งเป้าปี 2564 โต 10% เน้นเร่งยอดขายสาขาเดิม กระตุ้นยอดออนไลน์ และใช้งาน collab กับแบรนด์พันธมิตรสร้างดีมานด์

อัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลประกอบการบริษัทปี 2563 ทำรายได้ 1,704 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน -5% แต่ทำกำไรสุทธิ 266.8 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อย 1.8% เทียบกับปีก่อนยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์

โดยช่วงปีที่ผ่านมา สถานการณ์ COVID-19 มีผลกับยูบิลลี่ในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจาก 130 สาขาหน้าร้านของบริษัทตั้งอยู่ในศูนย์การค้า มาตรการล็อกดาวน์ของรัฐจึงมีผลให้ยูบิลลี่เหลือสาขาที่เปิดทำการได้เพียง 3 สาขาสแตนด์อะโลน คือ สีลม, สะพานเหล็ก และ จ.อยุธยา รายได้ช่วงไตรมาส 1-2 ปีก่อนจึงหดตัวลง

อัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน)

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการปรับมาเปิดช่องทาง อีคอมเมิร์ซ อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งช่วยพยุงยอดขายของบริษัทไว้ได้ โดยช่องทางนี้จะเหมาะกับผู้ซื้อเครื่องประดับราคาไม่สูง ซื้อเพื่อใส่ในชีวิตประจำวัน ในไตรมาส 2/63 บริษัทจึงรุกช่องทางออนไลน์ด้วยการใช้คอลเลกชันที่ collab กับคาแร็กเตอร์ LINE FRIENDS เป็นคอลเลกชันชูโรง ทั้งนี้ ตลอดทั้งปียอดขายของสาขาใหม่รวมกับช่องทางออนไลน์สามารถเติบโตได้ 3.7%

 

ปี’64 ตั้งเป้ากลับมาโต 10%

อัญรัตน์กล่าวต่อว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 บริษัทเห็นสัญญาณการ “ฟื้นตัว” ในตลาดเครื่องประดับเพชรแล้ว โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 อัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSS) โตถึง 7% เทียบกับปีก่อนหน้า แม้ว่าจะมีการระบาดระลอกสองของ COVID-19 ช่วงโค้งท้ายปีก็ตาม

ทำให้มองว่า กำลังซื้อปี 2564 น่าจะฟื้นตัวจากปีก่อน หลังจากบริษัทได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว จากช่วงที่ถูกปิดสาขาเกือบทั้งหมดโดยไม่มีเวลาเตรียมตัวมากนัก

สำหรับเป้าหมายของปี 2564 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% จากปีก่อน และเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 45% ทั้งนี้ ช่วงสองเดือนแรก บริษัทได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอกสองบ้างในเดือนมกราคม แต่ยังเชื่อว่ารวมทั้งไตรมาส 1 จะยังเติบโตได้ตามเป้า เนื่องจากการจับจ่ายของผู้ซื้อกลับมาเร็วในเดือนกุมภาพันธ์

 

อัดขายออนไลน์ งาน collab กับพันธมิตร

ด้านกลยุทธ์เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย อัญรัตน์วางแนวทาง 5 ข้อหลักที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ คือ

1) ออกคอลเลกชันใหม่เพื่อเร่งการซื้อ โดยจะมีการวิจัยสินค้าให้แม่นยำก่อนวางตลาดเพื่อทำให้การขายทำได้เร็ว ไม่เหลือสต๊อกค้าง โดยยกตัวอย่างผลงานเมื่อปีก่อน บริษัทออกคอลเลกชัน “วันแม่” เดือนสิงหาคม 2563 เพื่อกระตุ้นการซื้อหาเป็นของขวัญ ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก โดยเฉพาะสาขาต่างจังหวัด

คอลเลกชัน Mon Amour ต้อนรับวันแม่ 2563 หนึ่งในคอลเลกชันที่ขายดีและช่วยดันรายได้-กำไรครึ่งปีหลัง

2) ฟื้นโปรแกรม CRM กับลูกค้าเก่าให้เข้มแข็ง จากปัจจุบันยูบิลลี่มีฐานสมาชิก 1.8 แสนรายทั่วประเทศ กลุ่มนี้จะเป็นเป้าหมายสำคัญ เพื่อดึงให้เกิดการซื้อซ้ำ

3) เปิดสาขาใหม่ 3-5 สาขา เน้นทำเลศักยภาพที่ยูบิลลี่ยังไม่มีสาขาครอบคลุม โดยจะเริ่มเปิดช่วงครึ่งปีหลัง

4) ช่องทางออนไลน์ หลังจากปีก่อนเปิดเต็มรูปแบบ นำสินค้าทุกรายการขึ้นสู่แพลตฟอร์มออนไลน์แล้ว ปีนี้จะเป็นการอัด Exclusive Deal บนช่องทางนี้โดยเฉพาะ คาดว่าสัดส่วนอีคอมเมิร์ซจะปรับขึ้นมาเป็น 5-6% ของรายได้รวม

คอลเลกชัน collab กับคาแร็กเตอร์ LINE FRIENDS เจาะกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงานตอนต้น

5) พันธมิตรแบรนด์ เช่น งาน collab กับแบรนด์อื่น ยูบิลลี่มีพันธมิตรแล้ว 2 ราย คือ LINE และ Hello Kitty ปีนี้จะยังคงเป็นพันธมิตรต่อเนื่อง และมองหาพาร์ตเนอร์ใหม่ๆ

ตลาดเพชรกำลังกลับมาฟื้นทั่วโลก ข้อมูลจาก International Diamond Exchange ระบุว่า ราคาเพชรเจียระไนเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ปรับขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2563 ซึ่งเป็นจุดที่ราคาเพชรร่วงลงต่ำสุดเนื่องจากโรคระบาด แถมยังเป็นราคาที่ปรับขึ้นสูงยิ่งกว่าช่วงก่อนเกิดโรคระบาดด้วย คาดว่าเกิดจากความอัดอั้นของเศรษฐีที่ไม่ได้ออกเที่ยวต่างประเทศเหมือนเคย ทำให้มาลงทุนซื้อ “เพชร” จนขายดีเช่นเดียวกับสินค้าลักชัวรีอื่นๆ

]]>
1322051