รีนาเชนเต – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 11 Dec 2024 13:45:43 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ชมมนต์ขลังคริสต์มาสยุโรป! ท่องไปในดินแดน The Christmas Factory สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ห้างรีนาเชนเต ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ในอิตาลี https://positioningmag.com/1502931 Wed, 11 Dec 2024 09:36:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1502931 คริสต์มาสถือเป็นอีกหนึ่งเทศกาลส่งท้ายปีที่ทุกคนต่างตั้งตารอคอย ยิ่งหากได้ไปเฉลิมฉลองคริสต์มาสที่ยุโรป ดินแดนต้นกำเนิดของเทศกาลนี้ก็คงจะรู้สึกฟินไม่น้อย วันนี้เซ็นทรัล รีเทล ชวนทุกคนบินลัดฟ้าออกเดินทางไปยังอิตาลี ประเทศที่นอกจากจะเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมที่น่าค้นหาแล้ว ยังเป็นหนึ่งในเมืองเช็กลิสต์ที่ใคร ๆ ก็อยากมาสัมผัสบรรยากาศคริสต์มาสกันสักครั้ง

มาเยือนอิตาลีทั้งทีหนึ่งในเช็กลิสต์ที่ต้องไม่พลาดคือ รีนาเชนเต (Rinascente) ห้างสรรพสินค้าลักชัวรีชื่อดังในเครือเซ็นทรัล รีเทล ที่มีทั้งหมด 9 สาขา ณ ใจกลางเมืองสำคัญของอิตาลี ไม่ว่าจะเป็น มิลาน, โรม เวีย เดล ตริโตเน, โรม เปียซซาฟิอุเม, ตูริน, ฟลอเรนซ์, คัลยารี, ปาแลร์โม, กาตาเนีย และ มอนซา ซึ่งในช่วงคริสต์มาสนี้ ห้างรีนาเชนเตได้ตกแต่งภายใต้คอนเซ็ปต์ “The Christmas Factory” ที่ชวนให้เหล่านักช้อปได้ท่องไปในบรรยากาศคริสต์มาสชวนฝันพร้อมสารพัดกิจกรรมพิเศษ และยังมีสินค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จำหน่ายเฉพาะในช่วงเทศกาล เพื่อมอบประสบการณ์คริสต์มาสแบบจัดเต็มสำหรับนักช้อป!

ตระการตากับ Brand Takeover เนรมิตทั้งภายนอกและภายในห้างเป็นแลนด์มาร์กสุดไอคอนนิก

ตื่นตาตื่นใจไปกับ Brand Takeover ของแบรนด์พาร์ทเนอร์ระดับโลกที่มาตกแต่งอาคารของห้างและ Window Display ตามธีมของแบรนด์ อาทิ Dior ที่เนรมิตห้างรีนาเชนเต สาขามิลาน ให้เปล่งประกายด้วยธีมสีทอง ในคอนเซ็ปต์ “Ball of Dreams” ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความหรูหราของพระราชวังแวร์ซายส์ รวมถึงแบรนด์ชั้นนำอีกมากมายที่มาร่วมเนรมิตห้างรีนาเชนเตสาขาอื่น ๆ ให้สวยงามโดดเด่นเหนือใคร

นอกจากนี้ภายในห้างรีนาเชนเตยังได้ใช้ 5 สีหลัก คือ สีเขียว แดง ทอง เงิน และขาว มาตกแต่งเพื่อเพิ่มกลิ่นอายความเฟสทีฟ และที่ขาดไม่ได้สำหรับการฉลองคริสต์มาสสุดคลาสสิก คือ ฉากถ้ำพระกุมารเยซู โดยในปีนี้
รีนาเชนเตได้ยกถนน Via San Gregorio Armeno ย่านงานฝีมือเลื่องชื่อของ Naples มาไว้ในห้าง พร้อมร่วมมือกับสตูดิโอระดับตำนานมาเนรมิตงานศิลป์สุดล้ำค่าให้ทุกคนได้ถ่ายภาพความประทับใจ

Photo by www.vittoriolafata.it

เพลิดเพลินไปกับคอลเลกชันของสะสม และของตกแต่งคริสต์มาสสุดพิเศษจากแบรนด์ชั้นนำ

ในปีนี้รีนาเชนเตได้นำ “Christmas Village” คอลเลกชันพิเศษจาก LEMAX แบรนด์ของสะสมที่มีชื่อเสียงจากอเมริกามาให้เหล่าสาวกได้ซื้อสะสมให้ครบเซต นอกจากนี้ยังมีตุ๊กตาไม้นัทแครกเกอร์ที่แกะสลักอย่างประณีต ตลอดจนของตกแต่งสุดอลังการที่ขนมาให้ช้อปกันแบบจุใจ อาทิ ลูกแก้วหิมะ กล่องดนตรี ตุ๊กตาซานตาคลอส และถุงเท้าคริสต์มาส จากแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ ที่จะมาสร้างคริสต์มาสในฝันให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

ลิ้มรสชาติแห่งการเฉลิมฉลองด้วยขบวนอาหาร ขนมหวาน และเครื่องดื่มชั้นเลิศ

เสริมบรรยากาศคริสต์มาสให้เต็มอิ่มยิ่งขึ้นด้วยป๊อปอัพโซน ‘Food Gifts’ ของขวัญที่ทั้งสวยและอร่อย อาทิ ปาเน็ตโทนและแพนโดโร เค้กสไตล์อิตาเลียนที่มีให้เลือกทั้งรสชาติดั้งเดิมหรือรสพิเศษที่ผลิตโดยแบรนด์ชั้นนำ อาทิ De Vivo, Fiasconaro (บรรจุในกล่องที่ออกแบบพิเศษโดย Dolce&Gabbana) ทั้งยังมีปาเน็ตโทนรสช็อกโกแลตสุดพรีเมียมวางจำหน่ายเฉพาะที่รีนาเชนเตเท่านั้น พร้อมขบวนเครื่องดื่มระดับพรีเมียมจากแบรนด์ขึ้นชื่อทั้ง Moët & Chandon, Dom Pérignon และอีกมากมายที่คัดสรรมาเพื่อเทศกาลนี้โดยเฉพาะ

ห้ามพลาด! มาร่วมสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งคริสต์มาสและประทับใจไปกับ The Christmas Factory ที่ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ทั้ง 9 สาขา ใน 8 เมือง

พิเศษสุด! สำหรับลูกค้าชาวไทย และสมาชิก The 1 เมื่อช้อปปิ้งสินค้าที่ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ทุกการใช้จ่าย 1 ยูโร สะสมได้ 1 คะแนน The 1 Points พร้อมส่วนลด 10% พร้อมทั้งบริการ Rinascente On Demand แชทตรงกับผู้ช่วยช้อปส่วนตัวชาวอิตาลีเพื่อฉลองคริสต์มาสก่อนใครได้ที่ Line: @RinascenteOnDemand หรือที่เว็บไซต์ rinascente.it

]]>
1502931
เปิดเส้นทาง “เซ็นทรัล รีเทล” ลงทุนห้างหรูในอิตาลี พลิก Rinascente จาก Department Store สู่ Luxury Retail https://positioningmag.com/1497320 Tue, 05 Nov 2024 08:12:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1497320
  • เซ็นทรัล รีเทล กับการลงทุนกลุ่มห้างหรูในยุโรป 13 ปี ปักหมุดอิตาลีด้วยการเข้าซื้อ Rinascente ห้างโลคอลตำนานกว่า 160 ปี 
  • พลิกโฉม Department Store สู่ Luxury Retail เบอร์ 1 ในอิตาลี
  • ปีที่ผ่านมาสามารถกวาดรายได้ 1,000 ล้านยูโร หรือ 36,000 ล้านบาท ทุบสถิติสูงสุดในประวัติการณ์ มีทราฟฟิก 20 ล้านคนต่อปี รวม 9 สาขา
  • ความฝันของเซ็นทรัลในการครองห้างหรูในยุโรป

    เซ็นทรัล รีเทล หรือ CRC บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หนึ่งในลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเซ็นทรัล กรุ๊ปที่นอกจากจะมีธุรกิจในไทย และเวียดนามแล้ว ยังมีธุรกิจห้างหรูในอิตาลีด้วย หลายคนอาจจะสงสัยธุรกิจห้างหรูในยุโรปของกลุ่มเซ็นทรัลมีการแบ่งโครงสร้างอย่างไร  

    renascente

    โดยที่ “รีนาเซนเต” ในอิตาลีจะอยู่ภายใต้เซ็นทรัล รีเทล เพียงกลุ่มเดียว เพราะก่อนหน้านี้มีการซื้อขายภายใต้ CRC พอเข้าตลาดหลักทรัพย์เลยอยู่ในเครือเดียวกันเลย ส่วนห้างหรูอื่นๆ ทั้งคาเดเว กรุ๊ป (เยอรมนี), อิลลุม (เดนมาร์ก), โกลบัส (สวิตเซอร์แลนด์), โกลเดนเนส ควอเทียร์ และกลุ่มห้างสรรพสินค้าเซลฟริดส์เจส (Selfridges Group) จะอยู่ภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล

    รีนาเซนเตมีประวัติยาวนานกว่า 160 ปี เริ่มก่อตั้งปี 1865 (พ.ศ. 2408) แต่เดิมใช้ชื่อว่า La Rinascente แปลว่า Reborn เพราะตอนนั้นในเมืองมิลาน เลยตั้งชื่อว่าเหมือนเป็นการเกิดใหม่อีกครั้ง ภายหลังได้รีแบรนด์เหลือแค่ Rinascente โดยที่ปัจจุบันมีทั้งหมด 9 สาขา ใน 8 เมือง ในประเทศอิตาลี

    แรกเริ่มเดิมทีรีนาเซนเตเป็นห้างสรรพสินค้าแบบ Traditional Department Store แบบเก่าแก่ ให้นึกถึงภาพ “ตั้งฮั่วเส็ง” ในไทย ให้ฟีลประมาณนั้นเลย อีกทั้งยังเป็นธุรกิจครอบครัวอีกด้วย จนมาถึงจุดหนึ่งที่ไม่มีลูกหลานดูแลกิจการต่อ จึงมองหาพาร์ทเนอร์ในการส่งต่อธุรกิจ เป็นจังหวะเดียวกันกับ “ทศ จิราธิวัฒน์” หัวเรือใหญ่กลุ่มเซ็นทรัล มีความใฝ่ฝันที่อยากมีห้างสรรพสินค้าในยุโรป การมีดีลของรีนาเซนเตเข้ามา เหมือนเป็นทางด่วนให้ความฝันนั้นเป็นจริงเร็วขึ้น โดยที่ไม่ต้องสร้างห้างเซ็นทรัลในยุโรปเลย

    renascente

    เซ็นทรัลเลยเข้าซื้อกิจการในช่วงปี 2554 ในตอนนั้นเป็นช่วงค่าเงินยูโรอ่อนค่าด้วย เลยเป็นผลดีในการซื้อขาย ก่อนหน้านี้ได้ซื้อตึกร้างแห่งหนึ่งในกรุงโรมเพื่อทำการรีโนเวตเป็นห้างแห่งใหม่ แต่ต้องหยุดสร้างเป็นเวลา 12 ปี เพราะเจอโครงสร้างเก่าแก่สมัยโบราณ จากนั้นจึงได้เปิดตัวรีนาเซนเตในกรุงโรมเมื่อปี 2560

    พลิกโฉมสู่ Luxury Retail 

    ก่อนที่เซ็นทรัล รีเทลจะเข้ามาซื้อกิจการ รีนาเซนเตมีผลประกอบการที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อีกทั้งจุดยืนของห้างก็เป็น Department Store แบบดั้งเดิม ไม่ได้สร้างแรงดึงดูดอะไรมากนัก ประกอบกับห้างที่ค่อนข้างเก่า นักท่องเที่ยวก็ไม่เข้า

    เมื่อเซ็นทรัล รีเทลเข้ามาซื้อกิจการจึงทำการสังคยนาใหม่ ตั้งแต่การปรับโฉม ปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้ห้างดั้งเดิมกลายเป็น Luxury Retail เน้นสินค้าแบรนด์เนม ลักชัวรี่ เพราะอิตาลีขึ้นชื่อเรื่องสินค้าแบรนด์เนมอยู่แล้ว พร้อมกับเติมความแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ให้มากขึ้น 

    renascente

    เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทางเซ็นทรัล รีเทลได้พาสื่อมวลชนจากไทยไปเยือนรีนาเซนเต 3 สาขา ได้แก่ โรม, ฟลอเรนซ์ และมิลาน พร้อมกับแชร์อินไซต์ในการพลิกโฉมเป็น Luxury Retail ตอนนี้ขึ้นแท่นเบอร์ 1 ในอิตาลีไปแล้ว

    ปิแอร์ลุยจิ ค็อคคินี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ในเครือเซ็นทรัล
    รีเทล กล่าวว่า

    “หลังจากที่เซ็นทรัล รีเทล เข้าซื้อกิจการห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ได้มีการลงทุนครั้งใหญ่ โดยปรับโฉมห้างทุกสาขาทั่วอิตาลี ตั้งแต่ช่วงปี 2554 – 2566 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยน Traditional Department Store สู่ Luxury Retail อย่างเต็มรูปแบบ และสำหรับก้าวต่อไปของห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต จะมีการยกระดับห้างไปอีกขั้น โดยชูเอกลักษณ์ของรีนาเชนเตที่เป็นมากกว่าห้างสรรพสินค้า สู่การเป็น Media Company โดยมีการลงทุนพัฒนาห้างอย่างต่อเนื่อง ทั้งการปรับโฉมห้างให้สวยงาม, การปรับพอร์ต Brand Mix ให้ทันสมัย, การยกระดับการให้บริการแบบ VIP เช่น บริการ Personal Shopper และการมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า ผ่านการจัดกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เช่น การจัด Brand Take Over ร่วมกับแบรนด์ระดับโลกต่าง ๆ และการจัด Big Events อีกมากมาย ทำให้ห้างรีนาเชนเตสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และดึงดูดทั้งลูกค้าโลคอล ลูกค้าชาวไทย และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้ตลอดทั้งปี”

    ภาพรวมของรีนาเซนเตทั้งหมด มีพื้นที่รวมทั้งหมดทุกสาขา 74,000 ตารางเมตร ออนไลน์สโตร์ 1 แห่ง มีสินค้าขายรวม 559,000 รายการ 3,600 แบรนด์ มีสมาชิกรีนาเซนเต การ์ด 4 ล้านราย มีทราฟฟิกเยี่ยมชมสโตร์ปีละ 20 ล้านคน โดยที่ 47% ของลูกค้า มีอายุน้อยกว่า 40 ปี

    สำหรับรีนาเซนเต สาขาโรม มีพื้นที่ 17,000 ตารางเมตร มีทั้งหมด 7 ชั้น โดยที่ชั้น 7 ได้รีโนเวตนำร้านอาหารที่มีชื่อเสียงขึ้นมา ยังคงใช้โครงสร้างสไตล์โรม มีช่องให้แสดงแดดเข้า 

    สาขานี้มีทราฟฟิกผู้ใช้บริการเฉลี่ย 5,000 คน สำหรับวันธรรมดา และ 10,000 คนในวันเสาร์-อาทิตย์ สัดส่วนรายได้ 60% มาจากนักท่องเที่ยว ท็อป 5 ที่มาเยือนมากที่สุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, จีน, เกาหลีใต้, บราซิล และกลุ่มตะวันออกกลาง

    renascente

    สัดส่วนสินค้าส่วนใหญ่ 70% เป็นสินค้าลักชัวรี่ คนอิตาเลียนชอบใช้ของแบรนด์เนม และชอบแบรนด์อิตาลีเอง ได้แก่ Dolce&Gabbana, Prada, Gucci, Tod, Valentino และ Bottega Veneta แบรนด์เหล่านี้จะค่อนข้างขายดี 

    สินค้าที่มียอดขายอันดับหนึ่ง ยังคงเป็นสินค้ากลุ่มผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ 50% รองลงมาเป็นสินค้าผู้ชาย เสื้อผ้าต่างๆ 50% 

    ช่องทางออนไลน์ยังเป็นสัดส่วนน้อย เพราะคนอิตาเลียนชอบเดินห้าง ชอบลองสินค้า เพราะฉะนั้นประสบการณ์ในห้างจึงเป็นสิ่งสำคัญ

    อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับเซ็นทรัล รีเทลในการเข้ามาลงทุนห้างหรูในยุโรปก็คือ “คอนเน็กชั่น” ได้มีคอนเน็กชั่นดีๆ กับเหล่าแบรนด์เนมต่างๆ มีพาวเวอร์ที่ดีในการดึงมาลงทุนที่ไทย ช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกันได้ 

    ทุบสถิติกวาดรายได้พันล้านยูโร

    ถึงแม้ว่าสถานการณ์เงินเฟ้อที่ส่งผลกระทบทั่วโลกจะไม่สู้ดีนัก รวมถึงเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วโลก แต่ภาพรวมของอิตาลียังเติบโตมากกว่ามากกว่าประเทศอื่นๆ ในกลุ่ม EU รวมไปถึงสถานการณ์ช่วงหลัง COVID-19 ที่กระทบไปทั่วโลก กำลังซื้อก็แย่ลง แต่การรีนาเซนเตมีการรีโนเวตห้าง ทำให้ยังดึงนักท่องเที่ยวได้อยู่

    ทำให้ในปี 2566 รีนาเซนเตกวาดรายได้ 1,000 ล้านยูโร หรือราว 36,000 ล้านบาท ทุบสถิตินิวไฮเป็นครั้งแรก โดยที่สาขามิลานสร้างรายได้อันดับ 1 ที่ 430 ล้านยูโร

    renascente

    รีนาเซนเตสาขามิลานมีพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของเมืองมิลานก็คือ อยู่ติดกับมหาวิหาร Duomo di Milano จุดที่นักท่องเที่ยวจะต้องมาเยือน ทำให้สาขานี้มีทราฟฟิกคนมาเยือนปีละ 8 ล้านคน สัดส่วนรายได้แบ่งเป็นคนโลคอล 70% และนักท่องเที่ยว 30% กลุ่มที่มาเยือนมากที่สุด ได้แก่ จีน, สหรัฐอเมริกา และกลุ่มตะวันออกกลาง

    ที่นี่ยังคงเน้นสินค้าลักชัวรี่มีสัดส่วน 72% แบรนด์ที่ขายดีที่สุด ได้แก่ Louis Vuitton, Dior และ Gucci กลุ่มสินค้าที่ขายดีที่สุดยังเป็นกลุ่มผู้หญิง กระเป๋า รองเท้า รองลงมาเป็นกลุ่มเสื้อผ้าผู้หญิง และเสื้อผ้าผู้ชาย

    ที่มิลานจะมีการรีโนเวตใหญ่ ใช้งบลงทุน 1,200 ล้านบาท ย้ายโซนบิวตี้ไปที่ตึกใหม่ทั้งหมด บนพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร ซึ่งตึกข้างๆ เป็นโรงภาพยนตร์เก่า แต่ได้ปรับเปลี่ยนเป็นฮอลล์บิวตี้ เปิดให้บริการปี 2570 

    ส่วนที่สาขาฟลอเรนซ์ แม้จะเป็นสาขาเล็กพริกขี้หนู มีพื้นที่ 3,000-4,000 ตารางเมตร แต่ก็ยังตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ใจกลางเมือง สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างดี สร้างรายได้ 40 ล้านยูโรต่อปี สาขานี้คนไทยไปเยือน และมีการใช้จ่ายติด Top 10 

    สำหรับก้าวต่อไปของห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต จะมีการยกระดับห้างไปอีกขั้น โดยชูเอกลักษณ์ของรีนาเชนเตที่เป็นมากกว่าห้างสรรพสินค้า สู่การเป็น Media Company โดยมีการลงทุนพัฒนาห้างอย่างต่อเนื่อง ทั้งการปรับโฉมห้างให้สวยงาม, การปรับพอร์ต Brand Mix ให้ทันสมัย, การยกระดับการให้บริการลูกค้าแบบ VIP เช่น บริการ Personal Shopper ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในด้านต่างๆ และการมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เหนือกว่า ผ่านการจัดกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เช่น การจัด Brand Take Over ร่วมกับแบรนด์ระดับโลกต่าง ๆ และการจัด Big Events อีกมากมาย ทำให้ห้างรีนาเชนเตสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และดึงดูดทั้งลูกค้าโลคอล ลูกค้าชาวไทย และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้ตลอดทั้งปี

    ]]>
    1497320