ล็อคดาวน์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sat, 02 May 2020 22:25:40 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 WHO เตือนทั่วโลกอย่ารีบร้อนเปิดเมือง เตรียม “ล็อกดาวน์” อีกรอบ หากไวรัสระบาดซ้ำ https://positioningmag.com/1276577 Sat, 02 May 2020 14:33:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1276577 องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนให้รัฐบาลทุกประเทศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์แบบค่อยเป็นค่อยไป ขณะเดียวกันก็ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และพร้อมนำข้อจำกัดต่างๆ กลับมาใช้ทันทีหากไวรัส COCID-19 แพร่ระบาดซ้ำ

ดร. ไมค์ ไรอัน ผู้เชี่ยวชาญด้านสถานการณ์ฉุกเฉินทางสาธารณสุขของ WHO ระบุว่า

ประชากรกลุ่มเสี่ยงในสถานพยาบาล, เรือนจำ หรือหอพักแรงงานต่างด้าว จำเป็นต้องได้รับการปกป้อง และต่อให้ควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสได้แล้ว แต่ชุมชนก็ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม รักษาสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด และมีการตรวจหาผู้ติดเชื้อต่อไป

“เป็นเรื่องสำคัญมากที่ทุกๆ ประเทศซึ่งตัดสินใจคลายมาตรการล็อกดาวน์จะต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแพร่เชื้อในสถานที่พิเศษต่างๆ” ไรอัน ระบุ พร้อมอ้างถึงการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในตามสถานสงเคราะห์คนชราในยุโรปและอเมริกาเหนือ รวมถึงในกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่สิงคโปร์

“เพียงการชุดชนวนเล็กๆ ในสถานที่เหล่านี้ก็อาจทำให้เชื้อแพร่กระจายเป็นวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว”

ไรอัน ชี้ว่า WHO ตระหนักดีถึงปัญหาที่รัฐบาลทั่วโลกต้องเผชิญในการคงคำสั่งปิดเมือง “ด้วยเหตุผลทางด้านสังคม จิตวิทยา และเศรษฐกิจ”

(Photo by John Moore/Getty Images)

“เราจึงพยายามคิดหาหนทางที่จะควบคุมโรคระบาดด้วยมาตรการที่เบาลง แต่ในขณะเดียวกันเราก็จำเป็นต้องระวังว่า การผ่อนคลายที่เร็วและง่ายเกินไปอาจทำให้ไวรัสกลับมาระบาดซ้ำอย่างรุนแรง และเมื่อนั้นเราจะต้องเริ่มทุกอย่างใหม่หมด”

สำหรับประเด็นเรื่องต้นตอของเชื้อ COVID-19 ซึ่งเริ่มระบาดที่เมืองอู่ฮั่นของจีนเมื่อกลางเดือน ธ.ค. ไรอัน ย้ำว่า นักวิทยาศาสตร์ที่ได้ตรวจสอบลำดับพันธุกรรมของไวรัสตัวนี้ยืนยันกับ WHO ว่ามันมีต้นกำเนิด “ในธรรมชาติ”

ด้าน เทดรอส อาดานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO ยืนยันว่า การประกาศให้ COVID-19 เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลกในวันที่ 30 ม.ค. นั้นไม่ได้ช้าเกินไป และรัฐบาลทั่วโลกมีเวลามากพอที่จะเตรียมการรับมือ เนื่องจากตอนนั้นยอดผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีนยังอยู่แค่ 82 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตเลย

เมื่อถูกถามเรื่องความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ชาติผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดซึ่งได้ประกาศตัดเงินช่วยเหลือ WHO ไปแล้วเนื่องจากไม่พอใจวิธีจัดการโรคระบาด เทดรอส ก็ตอบว่า “เรายังคงติดต่อกันและทำงานร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ” แต่ก็ไม่ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

Source

]]>
1276577
“อินเดีย” ขยายล็อกดาวน์อีก 2 สัปดาห์ ให้ลูกจ้างรัฐ-เอกชนโหลดแอปติดตาม COVID-19 https://positioningmag.com/1276614 Sat, 02 May 2020 14:29:12 +0000 https://positioningmag.com/?p=1276614 รัฐบาลอินเดียขยายเวลาล็อกดาวน์ทั่วประเทศต่ออีก 2 สัปดาห์ โดยจะมีการผ่อนปรนในบางพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ลดลง ขณะเดียวกันก็กำหนดให้ลูกจ้างของรัฐ และเอกชนทุกคนต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันติดตามสัญญาณบลูทูธเพื่อสนับสนุนมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม

รัฐบาลนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แถลงว่า อินเดียซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรถูกล็อคดาวน์มากที่สุดในโลกจะขยายมาตรการจำกัดการเดินทางต่อไปอีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ นับจากวันที่ 4 พ.ค. ทว่าจะเริ่มผ่อนผันให้กับบางพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำ

เดือนที่แล้ว ทางการอินเดียได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน Aarogya Setu (แปลว่า “สะพานสุขภาพ”) ซึ่งเป็นระบบติดตาม GPS และบลูทูธที่พัฒนาโดยศูนย์สารสนเทศแห่งชาติ (National Informatics Centre) โดยแอปตัวนี้จะส่งข้อความเตือนผู้ใช้ เมื่อบุคคลที่เคยติดต่อใกล้ชิดถูกตรวจพบว่าติดเชื้อ COVID-19 หรืออยู่ในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง

“ลูกจ้างทุกคนจะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Aarogya Setu ไม่ว่าจะเป็นคนของภาครัฐหรือเอกชน” โดยกำหนดให้เป็นความรับผิดชอบของเจ้าของบริษัทหรือหัวหน้าหน่วยงานต่างๆ ที่จะต้องควบคุมให้พนักงานของตน ใช้แอปตัวนี้ 100%

เจ้าหน้าที่กระทรวงเทคโนโลยีของอินเดียระบุว่า จะต้องมีประชากรอย่างน้อย 200 ล้านคนจากทั้งหมด 1,300 ล้านคนในอินเดียดาวน์โหลดแอปนี้ไปใช้ จึงจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ข้อมูลใน Google Play Store พบว่ามีผู้ใช้ระบบ Android เข้าไปดาวน์โหลด Aarogya Setu แล้วประมาณ 50 ล้านครั้ง

อย่างไรก็ตาม การบังคับให้พลเมืองโหลดแอปพลิเคชันติดตามตัวเช่นนี้สร้างความไม่สบายใจต่อใครหลายคน เนื่องจากไม่ทราบว่ารัฐบาลจะนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ทำอะไรบ้าง อีกทั้งอินเดียก็ยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

รัฐบาลเดลียืนยันว่า แอปนี้ไม่ได้ละเมิดความเป็นส่วนตัว เนื่องจากข้อมูลทั้งหมดจะถูกรวบรวมแบบไม่ระบุตัวตน (anonymous) แต่จะช่วยให้ทางการสามารถประเมินได้ว่าพื้นที่ไหนเป็น ‘ฮอตสปอต’ ของไวรัส และมีมาตรการตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น

จากฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ในวันที่ 2 พ.ค. อินเดียมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสม 37,336 คน เสียชีวิตแล้ว 1,223 คน

Source

]]>
1276614
นักวิชาการแนะ ‘4 มาตรการ’ คุมสุขลักษณะ ‘Street Food’ ให้ปลอดภัยในช่วงผ่อนล็อกดาวน์ https://positioningmag.com/1276516 Fri, 01 May 2020 10:00:17 +0000 https://positioningmag.com/?p=1276516 แม้คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรออกไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 พฤษภาคม 2563 แต่ก็ได้ผ่อนคลายมาตรการบางอย่างเพื่อให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติขึ้น ด้วยเหตุนี้ ผศ.ดร.นภัสรพี เหลืองสกุล หัวหน้าศูนย์ Food Innopolis @KMITL จึงได้แนะนำ 4 มาตรการ ควบคุมสุขลักษณะร้านอาหารริมทาง (Street Food) ที่เป็นหนึ่งในทางเลือกของประชาชน ซึ่งมีความจำเป็นต้องจัดการมาตรฐานด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด

ระยะห่างยังสำคัญ

ร้านค้าต้องจัดระบบการเข้าคิวสั่ง – รอรับอาหาร โดยใช้หลักการรักษาระยะห่างทั้งระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย และระหว่างผู้ซื้อด้วยกัน อาทิ การมาร์คจุดเข้าคิว การจัดที่นั่งรอโดยเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคระหว่างบุคคล

หมั่นล้างมือและสวมหน้ากากทั้งผู้ซื้อ-ผู้ขาย

ผู้ขายต้องหมั่นดูแลสุขลักษณะส่วนตัว โดยการหมั่นล้างมืออย่างถูกวิธี สวมใส่หน้ากากอนามัย ไม่พูดคุยเล่นขณะปรุงอาหาร เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค รวมถึงหมั่นเปลี่ยนหน้ากากอนามัย และผ้ากันเปื้อนเพื่อป้องกันการหมักหมมของสิ่งสกปรก ส่วนผู้ซื้อต้องใส่แมสก์ และล้างมือเสมอ ร้านค้าต้องให้บริการเจลแอลกอฮอล์แก่ผู้ซื้อ รวมถึงขอความร่วมมือให้ผู้ซื้อสวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค

รักษาความสะอาดของอุปกรณ์

จัดวางอุปกรณ์ให้ไกลเชื้อโรค พื้นผิวสัมผัสทุกจุดที่ต้องมีการวางวัตถุดิบในการปรุงอาหาร อาทิ ชั้นวางวัตถุดิบ พื้นผิววัสดุสำหรับเตรียมประกอบอาหาร หม้อ กระทะ รวมถึงภาชนะใส่อาหาร จะต้องผ่านการล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาด และเช็ดให้แห้ง รวมถึงต้องจัดวางอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น หม้อ กระทะ ให้อยู่สูงจากพื้น 60 ซม. เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของสิ่งสกปรก

สังคมไร้เงินสด

ร้านค้าควรปรับรูปแบบการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดการสัมผัสระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยอาจมีวิธีการชำระเงินที่หลากหลายให้ผู้ซื้อได้เลือกชำระเงินตามความสะดวก

ทั้งนี้ มาตรการควบคุมสุขลักษณะร้านอาหารควรนำมาปรับใช้ในระยะยาว แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลายลง เพื่อให้สอดรับกับ New Normal ของผู้บริโภคที่เลือกสินค้าที่มีคุณภาพ สะอาด และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งการนำเทคโนโลยีอันชาญฉลาดมาปรับใช้ในรถเข็นขายอาหารริมทาง เป็นทางเลือกที่สำคัญในการควบคุมสุขลักษณะ

“ระยะเวลาผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ถือเป็นช่วงเวลาพิสูจน์ความสามารถของผู้ประกอบการร้านอาหารริมทาง และสถานประกอบการขนาดเล็กที่ได้รับอนุญาตให้เปิดกิจการก่อน หากผู้ประกอบการเหล่านี้สามารถบริหารจัดการได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ก็จะส่งผลดีต่อธุรกิจอื่น ๆ ให้เรียนรู้แนวทางการจัดการที่ดี และมีโอกาสได้รับการผ่อนปรนในเร็ววัน เป็นการฟื้นฟูวิถีชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมให้ดีขึ้นตามลำดับ” ผศ.ดร.นภัสรพี กล่าวทิ้งท้าย

ผศ.ดร.นภัสรพี เหลืองสกุล หัวหน้าศูนย์ Food Innopolis @KMITL
]]>
1276516
“มาเลเซีย” เตรียมคลายล็อกดาวน์ ให้ภาคธุรกิจส่วนใหญ่เปิด 4 พ.ค. โรงหนัง/โรงเรียนยังปิดต่อ https://positioningmag.com/1276492 Fri, 01 May 2020 07:37:16 +0000 https://positioningmag.com/?p=1276492 มูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แถลงถึงมาตรการเตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ควบคุม COVID-19 โดยจะอนุญาตให้ภาคธุรกิจส่วนใหญ่เปิดทำการได้ตามปกติในวันที่ 4 พ.ค.

นายกฯ เสือเหลืองแถลงผ่านสื่อโทรทัศน์ว่า มาเลเซียพร้อมที่จะเริ่มฟื้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจแบบควบคุมและระมัดระวัง แต่จะยังไม่อนุญาตให้เปิดธุรกิจที่มีการรวมคนหมู่มาก เช่น โรงภาพยนตร์ และตลาดขายอาหารในเดือนรอมฎอน เป็นต้น ส่วนโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่างๆ ยังต้องปิดต่อไปอีกระยะหนึ่ง

มาเลเซียสั่งปิดธุรกิจที่ไม่มีความจำเป็นและสถานศึกษา รวมถึงสั่งห้ามประชาชนรวมตัวในที่สาธารณะและจำกัดการเดินทางตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา หลังยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่พุ่งสูงขึ้นจนเป็นที่น่ากังวล

จากฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์บ่ายวันนี้ ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในมาเลเซียอยู่ที่ 6,002 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันได้ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

“ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนฐานข้อมูลที่รวบรวมได้ และมาตรการควบคุมโรคที่ดีที่สุดตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) รัฐบาลมาเลเซียจึงตัดสินใจที่จะเปิดเศรษฐกิจอย่างระมัดระวัง โดยจะยังคงบังคับใช้มาตรการที่คำนึงถึงมาตรฐานสุขภาพอย่างเข้มงวด เช่น การสวมหน้ากากอนามัย, การเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) และการส่งเสริมให้ประชาชนรักษาสุขอนามัยส่วนตัวในระดับสูง”

กิจกรรมกีฬาที่มีผู้เข้าร่วมต่ำกว่า 10 คน เช่น การวิ่ง, แบดมินตัน และการปั่นจักรยาน จะได้รับอนุญาตให้กระทำได้ ส่วนร้านอาหารก็จะสามารถเปิดให้บริการตามปกติ โดยต้องมีการเว้นระยะห่างอย่างเข้มงวด

มาเลเซียยังไม่มีการเปิดพรมแดน และยังไม่อนุญาตให้ประชาชนเดินทางข้ามรัฐ

นายกฯ มาเลเซียยอมรับว่า มาตรการจำกัดการเดินทางที่บังคับใช้มานานกว่า 6 สัปดาห์ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ไปมากถึง 63,000 ล้านริงกิต และคาดว่าจะสูญเสียอีก 35,000 ล้านริงกิตหากขยายเวลาล็อกดาวน์ต่อไปอีก 1 เดือน

ธนาคารกลางมาเลเซียประเมินเมื่อเดือน มี.ค. ว่า เศรษฐกิจแดนเสือเหลืองปีนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่างการหดตัว 2% กับเติบโต 0.5% สืบเนื่องจากผลกระทบของ COVID-19 ซึ่งถือเป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุดสำหรับมาเลเซียในรอบกว่าทศวรรษ

รัฐบาลกัวลาลัมเปอร์ได้ออกแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 250,000 ล้านริงกิต ซึ่งรวมถึงการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 25,000 ล้านริงกิต เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจให้อยู่รอดจากพิษของโรคระบาดใหญ่ (pandemic)

ปัจจุบันมาเลเซียมียอดผู้ติดเชื้อสะสมที่ 6,002 ราย รักษาหายแล้ว 4,171 ราย เสียชีวิต 102 ราย โดยที่วันก่อนมีผู้ป่วยใหม่ 57 ราย มาเลเซียเคยมียอดผู้ติดเชื่อรายใหม่สูงสุดที่ 235 ราย ในวันที่ 26 มีนาคม 2563

Source

]]>
1276492
สรุปมาตรการเปิดร้านค้าในศูนย์การค้าของ CPN ร้านอาหารต้องงดไลน์ “บุฟเฟต์” ก่อน https://positioningmag.com/1275885 Tue, 28 Apr 2020 17:10:52 +0000 https://positioningmag.com/?p=1275885 CPN หรือเซ็นทรัลพัฒนา เปิดมาตรการควบคุมความสะอาด และเตรียมพร้อมเปิดศูนย์การค้าจากการคลายล็อกดาวน์ แต่รอฟังประกาศจากทางรัฐบาลทุกเมื่อ

CPN ได้แถลงข่าวถึงความพร้อมในการเปิดศูนย์การค้า เมื่อทางรัฐบาลประกาศคลายล็อกดาวน์ โดยได้พาสื่อมวลชนจำลองสถานการณ์จริงภายในศูนย์การค้า มีมาตรการรัดกุมเพื่อควบคุมความสะอาด

ไฮไลต์ 75 มาตรการเสริมของร้านค้าแต่ละประเภท ภายในศูนย์การค้าของ CPN สำหรับการเปิดให้บริการเมื่อประกาศคลายล็อกดาวน์ แบ่งเป็น 8 กลุ่มด้วยกัน

ร้านอาหาร

  • จัดโต๊ะให้นั่งเยื้องกัน และห่างไม่ต่ำกว่า 1 เมตร และทำสัญลักษณ์การนั่งให้ชัดเจน
  • ทำ Table Shield ฉากกั้นบนโต๊ะอาหาร
  • หม้อต้ม หรือปิ้งย่าง และอุปกรณ์ทาน ต้องใช้ 1 ชุด/คน พร้อมช้อนกลางแต่ละบุคคล
  • ยกเลิกการให้บริการบุฟเฟต์ หรือสลัดบาร์ เปลี่ยนเป็นสั่งจากพนักงานเท่านั้น
  • ให้ร้านค้าจัดพนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี่จากร้านไปจุด Pick up ที่ทางศูนย์เตรียมไว้เท่านั้น
  • ห้างวางอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารไว้ล่วงหน้า หรือหากวางต้องมีวัสดุหุ้มให้ถูกสุขอนามัย
  • การวางโชว์สินค้าอาหาร ควรจัดวางไว้ในตู้ปิด
  • เข้มงวดในการจัดเก็บอาหาร และอุปกรณ์ทำอาหารให้ถูกสุขอนามัย
  • สำหรับอาหาร Take away ทุกกล่อง ต้องระบุชื่อร้าน และสาขา ชื่อ และอุณหภูมิของผู้ทำอาหารติดบนกล่องอาหาร
  • สำหรับโซน Groove ให้ใช้มาตรการเดียวกับร้านอาหาร
  • ส่งเสริมการจองร้านอาหารล่วงหน้า

ร้านแฟชั่น

  • มีมาตรการที่ชัดเจนในการลองเสื้อผ้า ได้แก่ ผ้าคลุมศีรษะขณะลอง หรือแยกเสื้อผ้าที่ลองแล้ว เพื่อนำไปฆ่าเชื้อด้วยแสง UV
  • การลองรองเท้า ทางร้านจะต้องมีถุงเท้าเพื่อให้ลูกค้าใส่ก่อนลอง และเปลี่ยนใหม่ทุกครั้ง
  • ทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่ห้องลองเสื้อผ้าก่อนและหลัง
  • ทำความสะอาดสินค้า ก่อนและหลังลองทุกครั้ง เช่น แว่นตา
  • จัดระเบียบการเข้าคิวแคชเชียร์ และจุดบริการต่างๆ กำหนดระยะห่าง 1-2 เมตร
  • ทำ Cashier Shield ที่โต๊ะแคชเชียร์ พร้อมบริการเจลแอลกอฮอล์
  • จัดระยะห่างให้ลูกค้าขณะเลือกสินค้า โดยตีตารางที่พื้น เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร

ร้านเสริมความงามต่างๆ

  • ลูกค้าต้องกรอกแบบสอบถามการประเมินความเสี่ยงของโรค COVID-19 ก่อนเข้ารับบริการเท่านั้น
  • นัดหมายล่วงหน้า เพื่อควบคุมปริมาณที่ลูกค้าเข้ารับบริการ หรือจัดคิวการให้บริการ เพื่อควบคุมปริมาณลูกค้า
  • จัดที่นั่งรอ เว้นระยะ 1-2 เมตร
  • จัดเก้าอี้ทำผม สระผม ทำเล็บ เก้าอี้นวดให้ห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ทำสัญลักษณ์ที่เก้าอี้ให้ชัดเจน
  • ให้บริการใช้เวลาไม่เกิด 2 ชั่วโมง เช่น สระผม ตัดผม เท่านั้น
  • งดบริการนวด และหัตถการบางอย่างที่ใกล้ชิดลูกค้ามากเกินไป
  • งดการสนทนาขณะให้บริการ
  • ทำความสะอาดฆ่าเชื้อห้องให้บริการ และอุปกรณ์ก่อน และหลังใช้งานทุกครั้ง
  • งดเว้นบริการที่ต้องใช้อุปกรณ์ร่วมกัน ที่ไม่สามารถทำความสะอาดได้ เช่น อุปกรณ์แต่งหน้า
  • ถุงมือเจ้าหน้าที่ใช้กับลูกค้า 1 คน/ 1 ครั้ง และใช้แล้วทิ้งเท่านั้น
  • อุปกรณ์ที่ใช้ให้บริการ ต้องทิ้งในขยะติดเชื้อเท่านั้น

ร้าน Specialty / Technology / Financial Service

  • กำหนดเส้นทางเดินของลูกค้าในร้านค้า เช่น ร้านมือถือ
  • จัดระเบียบการเข้าคิวแคชเชียร์ และจุดบริการต่างๆ กำหนดระยะห่าง 1-2 เมตร
  • สำหรับอุปกรณ์ Demo ต้องเช็ดน้ำยาฆ่าเชื้อหลังจากลูกค้าสัมผัสทันที

ร้านตู้มือถือ / ซุ้มร้านค้า

  • กำหนดการจัดคิว และมีสัญลักษณ์เว้นระยะอยู่ข้างหน้าตู้ห่าง 1-2 เมตร
  • ถ้าหน้าร้านไม่มีพื้นที่ ให้ทางร้านแจกบัตรคิว พร้อมเบอร์โทรลูกค้า แล้วให้ลูกค้านั่งรอที่ Rest Area ที่ทางศูนย์จัดให้
  • อุปกรณ์ Demo ต้องเช็ดน้ำยาฆ่าเชื้อหลังจากที่ลูกค้าสัมผัสทันที

โรงภาพยนตร์

  • ลูกค้าต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และนั่งแถวเว้นแถว นั่งเว้นห่างทุก 2 ที่นั่ง จำกัดที่นั่งไม่เกิน 50 ที่นั่ง/โรง
  • ทำความสะอาดบริเวณเบาะ และจุดสัมผัสต่างๆ หลังจบทุกรอบฉาย
  • ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคภายในโรงด้วยนำยาฆ่าเชื้อ หรือเปิดเครื่องทำ Ozone ฆ่าเชื้อทุกวัน หลังปิดรอบฉายในช่วงกลางคืนวันละ 1 ครั้ง
  • พนักงานต้องใส่ถุงมือ หากใกล้ชิด หรือสัมผัสกับมือลูกค้า และขนมขบเคี้ยว

สถาบันกวดวิชา

  • ติดตั้งป้ายหน้าร้าน แจ้งการจำกัดจำนวนคนเข้าใชบริการ 1 คน/5 ตารางเมตร
  • จำกัดจำนวนนักเรียนในแต่ละคลาสเรียน
  • แนะนำให้สอนผ่านช่องทางออนไลน์
  • เสนอให้ผู้ปกครองเข้ามาที่ร้านค้าแค่ส่ง และรับเท่านั้น ไม่ควรนั่งคอย
  • พิจารณางดคลาสที่มีการสัมผัสใกล้ชิด
  • รักษาระยะห่างระหว่างการเรียนการสอนตลอดเวลา 1-2 เมตร
  • ทำความสะอาดห้องเรียน และอุปกรณ์การเรียน ก่อน และหลังคลาสทุกครั้ง

ศูนย์อาหาร

  • จัดระยะห่าง 1.5 เมตร ให้ลูกค้ายืนรอคิว ด้านหน้าแคชเชียร์ และบาร์น้ำ
  • จัดโต๊ะแยกแบบ 1 ที่นั่ง และเว้นระยะห่าง พร้อมทำสัญลักษณ์ที่โต๊ะ
  • จัดที่พักพนักงานแบบเว้นระยะห่างตามมาตรการ Social Distancing
  • ทำ Table Shield ฉากกั้นบนโต๊ะ สำหรับโต๊ะขนาดใหญ่ และที่นั่งแบบเคาน์เตอร์บาร์
  • จัดทำแผงกั้นระหว่างพนักงานแต่ละร้านที่มีช่วงร้านต่ำกว่า 2 เมตร
  • หน้ากากผ้า และ Face Shield ต้องมีการทำความสะอาดทุกวัน
  • เช็ดฆ่าเชื้อที่โต๊ะ เก้าอี้ และ Table Shield ทุกครั้ง ก่อน และหลังให้บริการ
  • เช็ดฆ่าเชื้อที่เคาน์เตอร์ร้านค้า บาร์น้ำ และแคชเชียร์ทุก 1 ชั่วโมง
  • เช็ดฆ่าเชื้อบัตรศูนย์อาหารทุกครั้ง ก่อน และหลังใช้บริการ และมีน้ำยาฆ่าเชื้อให้บริการที่จุดแลกบัตร
  • ภาชนะ ช้อนส้อม ต้องผ่านการล้างทำความสะอาด และอบฆ่าเชื้อด้วยความร้อนมากกว่า 90 องศาเซลเซียส
  • งดการวางช้อนส้อมในจุดให้บริการส่วนกลาง โดยให้พนักงานร้านค้าส่งช้อนส้อมให้ลูกค้าพร้อมอาหาร
  • งดวางเครื่องปรุง และเครื่องเคียงหน้าร้าน เปลี่ยนไปใช้บรรจุซองสำเร็จ หรือให้พนักงานร้านค้าตักให้
  • ขอความร่วมมือลูกค้านำภาชนะเก็บที่จุดคืนภาชนะด้วยตนเอง เพื่อลดการสัมผัส

]]>
1275885
ล็อกดาวน์เป็นเหตุ! ร้าน “เซ็กส์ช็อป” ในโคลัมเบียยอดขายพุ่งกระฉูด หลังคนกักตัวอยู่บ้าน https://positioningmag.com/1273560 Sat, 18 Apr 2020 15:16:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1273560 เกอร์สัน มอนเจ หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโชว์ภาพร้านเซ็กส์ช็อปออนไลน์ของเขาด้วยความภาคภูมิใจ โดยในภาพดังกล่าวพบเป็นป้ายข้อความ “ขายหมดแล้ว” แปะอยู่ตามสินค้าต่างๆ กว่าครึ่งจากสินค้าทั้งหมดของทางร้าน เป็นเครื่องยืนยันว่าอุปกรณ์สร้างความหรรษาทางเพศกำลังได้รับความนิยมล้นหลาม ท่ามกลางภาวะที่ผู้คนต้องติดแหง็กอยู่ในบ้านพักจากมาตรการล็อกดาวน์สู้วิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

ขณะที่ธุรกิจเกือบทั้งหมดในโคลอมเบียกำลังได้รับความทุกข์ทรมานระหว่างมาตรการล็อกดาวน์ประเทศที่ยืดเยื้อมานานกว่า 5 สัปดาห์ ในความพยายามป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 มีหนึ่งในอุตสาหกรรมอออนไลน์ที่มียอดขายพุ่งกระฉุดราวกับภูเขาไฟระเบิด ทั้งที่ปกติแล้วดินแดนแห่งนี้เป็นประเทศที่ค่อนข้างมีความอนุรักษนิยมพอสมควร นั่นก็คือธุรกิจ “เซ็กส์ทอยส์” ที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

“ยอดขายเริ่มเพิ่มขึ้นในวันที่ 4 ของมาตรการกักกันโรค เราพบเห็นยอดขายเพิ่มขึ้น 50% ผู้คนอยู่แต่ในบ้าน มือก็อยู่ว่างๆ พวกเขาอยู่กับคนรักหรือไม่ก็อยู่เพียงลำพัง พวกเขาต้องการหาความสนุกกับกิจกรรมประจำวันยามที่ถูกกักขังเช่นนี้”

รอยเตอร์ได้พูดคุยกับร้านเซ็กซ์ช็อปออนไลน์ 6 แห่งในโคลอมเบีย ซึ่งทั้งหมดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่มาตรการกักกันโรคเริ่มต้นขึ้น ทั้งนี้ชาวโคลัมเบียต้องอยู่แต่ในที่พักอาศัยไปจนถึงวันที่ 27 เมษายน ยกเว้นแต่ออกไปซื้ออาหาร ยา หรือเดินทางไปธนาคาร

ประเทศอื่นๆ ก็ต่างพบเห็นปรากฏการณ์แบบเดียวกัน ด้วยยอดขายเซ็กส์ทอยส์ใน “เดนมาร์ก” เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ส่วน แอน์ ซัมเมอร์ส บริษัทค้าปลีกข้ามชาติของสหราชอาณาจักร บอกว่ามียอดขายเซ็กส์ทอยส์เพิ่มขึ้น 27% ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม

ภายในร้านเซ็กส์ช็อป “เซ็กส์เซนส์” ในโบโกตา ผู้จัดการร้านให้สัมภาษณ์ไปพร้อมๆ กับฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคใส่กล่องสินค้าภายในร้าน โดยเธอบอกว่ายอดขายทางออนไลน์นั้นล้นทะลักเสียจนเธอต้องปิดหน้าร้าน แม้ธุรกิจนี้มีการแข่งขันค่อนข้างสูง เฉพาะในย่านที่เธออยู่นั้นมีร้านเซ็กส์ช็อปอื่นๆ อยู่อีกกว่า 30 ร้าน

ด้าน แคทที กอนวาเลซ ผู้จัดการด้านการตลาดของร้านบาลี เซ็กส์ สโตร์ ในเมเดลลิน เปิดเผยว่ายอดขายของร้านเพิ่มขึ้นถึง 140% และสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างสูงก็คือผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมกับแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากมันช่วยให้คู่รักสามารถควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล

“ก่อนหน้านี้ผู้คนไม่ค่อยมีเวลา เพราะมีสิ่งต่างๆ มากมายในชีวิตประจำวัน และฉันคิดว่าเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ มันจึงเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ทำในสิ่งที่ต่างออกไป”

Source

]]>
1273560