อ้ายฉีอี้ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 15 Jun 2022 11:36:40 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ลือหึ่ง! Baidu เตรียมขายหุ้นทั้งหมดใน iQIYI สตรีมมิ่งรายใหญ่อันดับ 2 ของจีน https://positioningmag.com/1388822 Wed, 15 Jun 2022 10:28:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1388822 ยักษ์ใหญ่เสิร์ชเอ็นจิ้นของจีน “Baidu” (ไป่ตู้) เตรียมขายหุ้นทั้งหมดใน iQIYI (อ้ายฉีอี้) สตรีมมิ่งแพลตฟอร์มอันดับ 2 ในแดนมังกร เนื่องจากต้องการมุ่งเน้นธุรกิจหลัก เช่น AI, ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ให้มากขึ้น คาดว่าผู้สนใจซื้อจะเป็นบริษัทไพรเวทอิควิตี้ PAG และบริษัทยักษ์โทรคมนาคม China Mobile

แหล่งข่าววงในให้สัมภาษณ์กับ Reuters ว่า บริษัท Baidu กำลังเจรจาขายหุ้นทั้งหมดที่มีใน iQIYI โดยปัจจุบัน Baidu ถือหุ้น 53% ใน iQIYI และมีสิทธิออกเสียงในกลุ่มผู้ถือหุ้นถึง 90%

ระหว่างที่ประเทศจีนต้องล็อกดาวน์เพราะ COVID-19 ตลาดสตรีมมิ่งและวิดีโอออนไลน์กลายเป็นธุรกิจที่เบ่งบานอย่างมาก โดยบริษัทที่ปรึกษา Zhiyan คาดการณ์ว่ารายได้ในตลาดสตรีมมิ่งจีนจะก้าวขึ้นไปแตะ 1.63 แสนล้านหยวน (ประมาณ 8.5 แสนล้านบาท) ในปี 2022 นี้ หรือเท่ากับโตขึ้น 17% จากปีก่อน

ด้าน iQIYI นั้นเป็นสตรีมมิ่งเบอร์ 2 ของจีน รองจาก Tencent Video ของค่าย Tencent Holdings บริษัท iQIYI จดทะเบียนอยู่ใน Nasdaq ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดที่ 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.4 แสนล้านบาท) แต่การขายหุ้นของ Baidu ที่คาดว่าจะตั้งราคาขาย 8.13 เหรียญต่อหุ้น จะทำให้บริษัทถูกตีมูลค่าเพิ่มขึ้นไปแตะ 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.45 แสนล้านบาท)

Apollo Park ศูนย์การพัฒนารถยนต์ไร้คนขับในเขตอี้จวง ชานเมืองปักกิ่ง

แหล่งข่าววงในสองรายกล่าวว่า บริษัท Baidu นั้นต้องการจะขายหุ้น iQIYI ออกจากพอร์ตบริษัท เพราะต้องการมุ่งเน้นกับธุรกิจหลักให้มากขึ้น ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ แผนกยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงมากทั้งคู่

การเปิดขายหุ้น iQIYI ได้รับความสนใจจากหลายบริษัทมาก ตั้งแต่บริษัทด้านการเงินจนถึงบริษัทที่ดำเนินการโดยรัฐบาลจีน โดยมีสองบริษัทที่เป็นตัวเก็ง คือ PAG บริษัทไพรเวทอิควิตี้จากฮ่องกง และเบอร์ 1 ด้านโทรคมนาคมในจีนอย่าง China Mobile ซึ่งเป็นบริษัทที่พัฒนาสตรีมมิ่งของตัวเองอยู่แล้วด้วยในชื่อ Migu Video

ทั้ง Baidu, PAG และ China Mobile ยังไม่มีความคิดเห็นตอบกลับผู้สื่อข่าวในขณะนี้

หากว่า Baidu สามารถปิดราคาขายได้ถึง 8.13 เหรียญต่อหุ้นจริง จะทำให้บริษัทได้กำไรมากกว่า 100% เนื่องจากราคาหุ้นเฉลี่ยในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมาของ iQIYI นั้นอยู่ที่ 3.97 เหรียญต่อหุ้นเท่านั้น โดยราคาหุ้นของ iQIYI เป็นหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากกระแสการเทขายหุ้นเทคจีนในรอบ 12 เดือนก่อน ทำให้ราคาหุ้นตกไปกว่า 70%

ด้านบริษัท iQIYI ตอบกลับ Reuters ผ่านทางอีเมลอย่างสั้นๆ ว่า “นี่เป็นข่าวลือในตลาดหุ้นชัดๆ”

ในตลาดจีนนั้น มี 3 อันดับสตรีมมิ่งและวิดีโอแพลตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุดคือ Tencent Video, iQIYI และ Youku (เป็นของ Alibaba Group) ทั้งหมดต่างนำเสนอคอนเทนต์ประเภทภาพยนตร์ ซีรีส์ และเรียลลิตี้โชว์ มีทั้งการผลิตออริจินอล คอนเทนต์และการซื้อคอนเทนต์จากผู้ผลิตหลายราย

สำหรับ iQIYI มีการผลิตคอนเทนต์สุดฮิตหลายเรื่อง เช่น ซีรีส์ The Long Night (ความจริงที่หลับใหล), The Wind Blows From Longxi (สายลมแห่งหล่งซี) รวมถึงเรียลลิตี้โชว์อย่าง The Rap of China, The Big Band ซึ่งเป็นตัวจุดกระแสร้อนแรงบนโซเชียลมีเดีย หากเป็นในประเทศไทยก็จะมีคอนเทนต์ดังคือรายการ Youth With You ซึ่งมี ‘ลิซ่า Blackpink’ เป็นเมนเทอร์

ในแง่การเงิน บริษัทที่ก่อตั้งมา 12 ปีมีโอกาสทำกำไรน้อยมาก รอบล่าสุดที่ทำกำไรคือเมื่อไตรมาสแรกของปีนี้ แต่ก็เป็นการทำกำไรครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2016 โดยไตรมาสแรกปี 2022 บริษัทมีกำไร 169 ล้านหยวน (ประมาณ 880 ล้านบาท) แต่เมื่อไตรมาสแรกปี 2021 บริษัทเคยขาดทุนถึง 1,300 ล้านหยวน (ประมาณ 6,800 ล้านบาท) นับว่าเป็นธุรกิจที่ยัง ‘เผาเงินทุน’ มากในตลาดที่แข่งขันสูงอย่างสตรีมมิ่ง

Source

]]>
1388822
จับตาสงคราม ‘สตรีมมิ่งจีน’ ของยักษ์ใหญ่ iQIYI กับ WeTV ที่ย้ายสมรภูมิรบมาไทย https://positioningmag.com/1317698 Wed, 03 Feb 2021 13:15:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1317698 หากพูดถึงผู้ให้บริการสตรีมมิ่งในไทยเราอาจจะคุ้นกับแพลตฟอร์มยักษ์จากฝั่งตะวันตกอย่าง ‘Netflix’ เสียมากกว่า แม้ว่าช่วง 2-3 ปีหลังจะมีผู้เล่นมากหน้าหลายตาขึ้นก็ตาม ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ‘WeTV’ (วีทีวี) ที่มี Backup เป็น ‘Tencent’ เทคคอมปานียักษ์ใหญ่ของจีนที่ให้บริการในไทยเมื่อปี 2019

และในปี 2020 ที่ผ่านมา ‘iQIYI’ (อ้ายฉีอี้) สตรีมมิ่งตัว Top ที่ได้ฉายาว่า ‘Netflix เมืองจีน’ ก็เหยียบเท้าเข้ามาในไทยอีกราย โดยสิ่งที่น่าสนใจคือ ทั้งคู่มี Position เดียวกันคือ เน้นคอนเทนต์เอเชียน ดังนั้น นี่จึงเป็นศึกที่น่าจับตาอีกศึกในตลาดสตรีมมิ่งไทย

สงครามเดิมแต่ย้ายสมรภูมิ

สำหรับตลาดวิดีโอสตรีมมิ่งไทยจะมีภาพที่ชัดเจนขึ้นในปี 2020 เพราะการระบาดของ COVID-19 ก็ตาม แต่จริง ๆ ตลาดสตรีมมิ่งไทยมีมานานมากแล้ว เช่นเดียวกับประเทศจีนที่เกิดสงครามสตรีมมิ่งมาแล้วกว่า 10 ปี โดยผู้เล่น 3 เจ้าใหญ่ ได้แก่ Baidu, Alibaba และ Tencent โดย Baidu ก็คือเจ้าของ ‘iQIYI’ ทาง Tencent ก็มี ‘Tencent Video’ ส่วน Alibaba มี ‘Youku’ ที่เสมือน YouTube เมืองจีน โดยเป็นผู้เล่นรายเดียวที่ยังไม่เข้ามาไทย

ทั้ง 3 บริษัทต่างก็ทำสงครามกันมานาน ต่างคนต่างก็ทุ่มให้กับการทำ ‘ออริจินัลคอนเทนต์’ ของตัวเองเพื่อดึงดูดผู้ชมให้ได้มากที่สุด โดย iQIYI เป็นเบอร์ 1 ในตลาดจีน มีผู้ชมต่อเดือนสูงกว่า 600 ล้านคน มีผู้ใช้งานแบบสมาชิกหรือ VIP ทะลุ 100 ล้านคน

ด้าน Tencent Video ก็ตามมาติด ๆ ด้วยผู้ใช้งานแอคทีฟ 550 ล้านรายต่อเดือน และในที่สุดสงครามดังกล่าวก็ลามมาถึงตลาดไทย โดยเริ่มจาก Tencent ที่เปิดตัว ‘WeTV’ ไปเมื่อปี 2019 ภายใต้บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) ซึ่งมีแบรนด์ในเครืออย่างเว็บไซต์ Sanook, JOOX มิวสิกสตรีมมิ่ง, เกม PUBG MOBILE ส่วน iQIYI เพิ่งขยับออกมาลุยตลาดต่างประเทศในปี 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ประเทศไทย

ศึกชิงความแข็งแกร่ง ‘เอเชียนคอนเทนต์’

ด้วยความที่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งมีจำนวนมากทั้งผู้เล่นระดับโลกอย่าง Netflix, HBO Max, Amazon Prime Video ผู้เล่นโลคอล อาทิ AIS Play, True ID, Mono Max, Doonee เป็นต้น ซึ่งแต่ละเจ้าก็พยายามลงทุนทำซีรีส์ด้วยทุนสูงเพื่อดึงดูดผู้ใช้งาน

ส่วนรายเล็กที่ไม่มีเงินทุนก็ต้องมีคอนเทนต์เฉพาะกลุ่มเพื่อสร้างความแตกต่าง เช่นเดียวกันกับ WeTV และ iQIYI ที่บอกตั้งแต่ต้นแล้วว่าคงจะไม่ไปแข่งที่คอนเทนต์ฝั่งตะวันตกที่ไม่ถนัด แต่จะขอโฟกัสไปที่คอนเทนต์เอเชียเป็นหลัก เพื่อขอชิง ‘เวลา’ ของผู้บริโภคให้มาอยู่ที่แพลตฟอร์มของตัวเองบ้าง ดังนั้น ทั้งคู่จึงเป็นคู่แข่งหลักของกันและกันไปโดยปริยาย

โดยเมื่อเทียบกันแล้ว คอนเทนต์หลักของทั้ง WeTV และ iQIYI กว่า 50% จะเป็นคอนเทนต์ ‘จีน’ เหมือนกัน ส่วนอีก 50% ก็จะเป็นซีรีส์เกาหลี, การ์ตูนญี่ปุ่น จุดที่จะชิงชัยคงจะเป็น ‘คอนเทนต์แม่เหล็ก’ ของตัวเอง อย่างฝั่งของ WeTV ก็มี ‘ปรมาจารย์ลัทธิมาร’ ที่โด่งดังเป็นพลุแตกในไทย ส่วน iQIYI ก็มีออริจินัลวาไรตี้ขวัญใจวัยรุ่นทั่วโลกอย่าง Youth With You 3 ซีซั่นล่าสุดที่ได้ ลิซ่า BLACKPINK มารับหน้าที่เมนเทอร์ประจำรายการอีกครั้ง

ผู้ผลิตไทยได้ประโยชน์เต็ม

เพราะทั้งคู่ต่างต้องการเป็นเจ้าแห่งคอนเทนต์เอเชียน ดังนั้น การพยายามดึงคอนเทนต์จากประเทศต่าง ๆ ในเอเชียมาไว้บนแพลตฟอร์มจึงเป็นอีกสงครามนอกจากแค่แย่งลูกค้า ดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาสให้กับผู้ผลิตคอนเทนต์ของไทย โดยที่ผ่านมาจะเริ่มเห็นความร่วมมือในการดึงลิขสิทธิ์ซีรีส์หรือภาพยนตร์ต่าง ๆ มาลงในแต่ละแพลตฟอร์ม รวมถึงประกาศความร่วมมือกันผลิต ‘ออริจินัลคอนเทนต์’

อย่างที่ผ่านมา WeTV ก็จับกระแสซีรีส์วาย เดินหน้าสร้าง ‘ออริจินัล คอนเทนต์วาย’ ด้วยการจับมือกับพันธมิตรผู้ผลิตคอนเทนต์ในประเทศไทย สร้างสรรค์คอนเทนต์ภายใต้โปรเจกต์ “ปฏิบัติการณ์หัวใจ ‘วาย’” และนอกจากซีรีส์วายยังมีออริจินัลซีรีส์ ประเภทอื่น ๆ เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น

ส่วน iQIYI ก็จะเน้นไปที่ ‘ซิทคอม’ โดยดึงเอา ‘เป็นต่อ’ ‘เสือ ชะนี เก้ง’ และ ‘3 หนุ่ม 3 มุม x2’ มาลงในแพลตฟอร์ม พร้อมทั้งเตรียมจะปั้นออริจินัลซีรีส์ไทยในอนาคตด้วย และด้วยความที่แต่ละแพลตฟอร์มนั้นให้บริการในหลายประเทศ นี่ก็ถือเป็นอีกช่องทางการพาคอนเทนต์ไทย Go Inter ในตลาดโลกได้ด้วย

สงครามที่ไม่มีผู้ชนะขาด

ทั้ง 2 แพลตฟอร์มต่างงัดไม้เด็ดกันมาโกยผู้ใช้ ไม่ใช่แค่คอนเทนต์ แต่โมเดลของทั้งคู่ยังเป็นแบบ ‘ฟรีเมียม’ โดยให้ดูฟรีได้ (แต่มีโฆษณา และอาจจะดูช้าหน่อย) โดยค่าบริการ VIP ของ WeTV อยู่ที่ 119 บาทต่อเดือน ราคาเดียวกันกับ iQIYI เลยทีเดียว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่มีใครยอมใครจริง ๆ อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 แพลตฟอร์มระบุว่าไม่ได้โฟกัสว่าจะต้องมีผู้ใช้ VIP มากน้อยแค่ไหน (เพราะสามารถหารายได้จากโฆษณาได้อยู่ดี)

ดังนั้น เมื่อผู้เล่น 2 รายใหญ่พยายามจะขับเคี่ยวกันในตลาด ทั้ง 2 ต่างมีงบลงทุนมหาศาลการจะหาผู้ชนะขาดในตลาดนี้อาจจะเป็นเรื่องยาก เพราะต่างคนต่างก็มีคอนเทนต์เรือธงที่ต่างกัน แถมผู้บริโภคก็สามารถเลือกที่จะดูทั้ง 2 แพลตฟอร์มได้เพราะดูฟรี

ดังนั้น ปัญหาน่าจะเกิดกับผู้เล่นหน้าใหม่หรือผู้เล่นหน้าเก่าที่จะเข้ามาในตลาด โดยเน้นที่เอเชียนคอนเทนต์มากกว่าอาจเผชิญกับความยากลำบากที่จะสอดแทรกสู้ในสงครามนี้

]]>
1317698