ฮอนด้า – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 18 Dec 2024 11:44:34 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Nissan-Honda เล็งควบรวมกิจการ สู้ศึกรถอีวีจากจีนที่ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง https://positioningmag.com/1504033 Wed, 18 Dec 2024 08:51:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1504033 นับเป็นข่าวใหญ่สำหรับแวดวงยานยนต์ โดยเฉพาะในญี่ปุ่น เมื่อมีรายงานข่าวว่า สองยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นอย่าง ‘นิสสัน’ (Nissan) และ ‘ฮอนด้า’ (Honda) มีแผนจะควบรวมกิจการกัน เพื่อให้สามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และต้านทานกระแสรถยนต์อีวีจากจีนที่กำลังมาแรงมากในปัจจุบัน

 

สำนักข่าวบีบีซี ได้รายงานว่า นิสสัน และฮอนด้ากำลังเจรจาความเป็นไปได้ในการควบรวมกิจการ ที่จะดำเนินงานภายใต้รูปแบบ ‘บริษัทโฮลดิ้ง’ ซึ่งจะมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจในเร็วๆ นี้ และยังระบุว่า ทั้งสองบริษัทยังมีวางแผนจะนำ ‘มิตซูบิชิ มอเตอร์’ (Mitsubishi Motors) ที่นิสสันเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด ด้วยสัดส่วนการถือหุ้น 24% เข้ามาอยู่ภายใต้บริษัทโฮลดิ้งนี้ด้วย

 

อย่างไรก็ตามทั้งฮอนด้า และนิสสัน ไม่ได้ ‘ยืนยัน’ หรือ ‘ปฏิเสธ’ ต่อกระแสข่าวดังกล่าว โดยฮอนด้าเผยว่า “เมื่อเดือนมีนาคมของปีนี้ ทั้งสองบริษัทมีการสำรวจความเป็นไปได้ต่าง ๆ สำหรับความร่วมมือในอนาคต โดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของกันและกัน หากมีการอัปเดตใด ๆ จะแจ้งในเวลาที่เหมาะสม”

 

การควบรวมกิจการที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างผู้ผลิตรถยนต์อันดับสองและอันดับสามของญี่ปุ่น อาจมีความซับซ้อนด้วยเหตุผลหลายประการ เนื่องจากข้อตกลงใดๆ ก็ตามที่จะออกมาต้องอยู่ภายใต้การตรวจสอบอย่างเข้มข้นของรัฐบาลญี่ปุ่น เนื่องจากการควบรวมกิจการอาจนำไปสู่การเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก

 

ด้านสำนักข่าวนิกเคอิ รายงานว่า หลังจากข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป ทำให้ราคาหุ้นของนิสสันพุ่งสูงขึ้นกว่า 20% และหุ้นของมิตซูบิชิ มอเตอร์พุ่งขึ้น 13% ขณะที่ที่หุ้นของฮอนด้าปรับตัวลดลงราว 2%

 

นอกจากนี้ยังระบุอีกว่า ในปี 2023 นิสสันและฮอนด้ามียอดขายทั่วโลกรวมกัน 7.4 ล้านคัน โดยทั้งค่ายกำลังสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับรถยนต์อีวีที่มีราคาถูกกว่า โดยเฉพาะจากสัญชาติจีน อาทิ บีวายดี (BYD) ซึ่งมีรายได้ประจำไตรมาสพุ่งสูงแซงหน้า เทสลา (Tesla) เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

 

ก่อนจะมีข่าวการควบรวมกิจการแพร่สะพัดออกมา ทางนิสสันและฮอนด้า ได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU เมื่อเดือนมีนาคม 2024 โดยทั้งสองบริษัทจะเริ่มศึกษาความเป็นไปได้ของความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในด้านของยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และการเคลื่อนที่อัจฉริยะ ซึ่งขอบเขตของการศึกษาความเป็นไปได้ จะประกอบไปด้วย แพลตฟอร์มและ ซอฟต์แวร์ของยานยนต์ ส่วนประกอบหลักที่เกี่ยวข้องกับรถอีวี และผลิตภัณฑ์เสริม อื่นๆ

อ้างอิง

https://www.bbc.com/news/articles/cr56r74214eo

https://asia.nikkei.com/Business/Automobiles/Honda-and-Nissan-to-begin-merger-talks-amid-EV-competition

]]>
1504033
‘Honda’ สั่งหยุดการผลิตรถใน ‘จีน’ หลังยอดขายหดเกือบครึ่ง พร้อมเล็งเลิกจ้างงาน 2,000 ตำแหน่ง https://positioningmag.com/1490162 Sun, 15 Sep 2024 10:56:37 +0000 https://positioningmag.com/?p=1490162 อย่างที่รู้ว่าปัจจุบันการแข่งขันของตลาดรถยนต์ในจีนนั้นรุนแรงมาก เนื่องจากค่ายรถจีนจำนวนมาก โดยเฉพาะ รถอีวี ทำให้ค่ายรถยนต์สันดาปสัญชาติญี่ปุ่นกำลังตกที่นั่งลำบาก รวมไปถึง ฮอนด้า (Honda)

ล่าสุด Honda Motor ได้ หยุดการผลิตชั่วคราว ที่โรงงานทั้ง สามแห่ง ที่ดําเนินงานในกิจการร่วมค้ากับ Dongfeng Motor ในเมืองอู่ฮั่นตอนกลางของจีน เพื่อลดการผลิตท่ามกลางยอดขายรถยนต์ใหม่ที่ลดลง สวนทางกับสินค้าคงคลังสูง เพราะรวมแล้วโรงงานมีกําลังการผลิตปีละ 720,000 คัน

Honda เริ่มเห็นยอดขายที่ลดลงอย่างมากในประเทศจีน ซึ่งถือเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ท่ามกลางสงครามราคาที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มซึ่งยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเกิดจากเงินอุดหนุนจากรัฐบาล โดยในเดือนสิงหาคม ยอดขายของ Honda ในประเทศจีน ลดลง 44.3% และนับเป็นการลดลง 7 เดือนติดต่อกัน 

นอกจากนี้ Dongfeng Honda เริ่มให้คําปรึกษาแก่คนงานที่อาจยินดีที่จะ ลาออกโดยสมัครใจ โดยมีสื่อจีนรายงานว่า บริษัทวางแผนที่จะลดพนักงานประมาณ 2,000 คน

Source

]]>
1490162
มอเตอร์ไซค์ก็ไม่รอด! ‘ฮอนด้า’ ประเมินตลาดปี’67 หดตัว 10% เร่งเข็นรถ 8 รุ่นใหม่กระตุ้นตลาดครึ่งปีหลัง https://positioningmag.com/1483732 Wed, 24 Jul 2024 04:12:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1483732 หากพูดถึงภาพของตลาด รถยนต์ ในไทยครึ่งปีแรก บอกเลยว่า หืดขึ้นคอ เพราะมียอดขายรวมอยู่ที่ 307,995 คัน เท่านั้น โดยปัจจัยลบหลัก ๆ หนีไม่พ้นเรื่องของเศรษฐกิจที่ไม่ดี อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่ตลาดรถยนต์ แต่ตลาด รถจักรยานยนต์ ก็ได้รับผลกระทบ แม้จะไม่หนักเท่า

ครึ่งปีแรกหดตัว 10%

ยูอิจิ ชิมิซุ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า แม้ว่าช่วงครึ่งปีแรกจะมีปัจจัยบวกอย่าง ปัจจัยนักท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้น 35% หรืออยู่ที่ 17.5 ล้านคน และภาคการส่องออกเริ่มฟื้นตัว แต่จากปัจจัยลบทั้ง ภาวะเงินเฟ้อและหนี้ครัวเรือนสูง และ GDP ที่เติบโตเพียง 1.5% รวมไปถึงมาตรการควบคุมสินเชื่อที่จำกัดไม่เกิน 130% และมีอัตราการปล่อยเพียง 70%

ส่งผลให้ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน ปี 2567 มียอดขายอยู่ที่ 9 แสนคัน ลดลง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับ ฮอนด้า (Honda) มียอดขายที่ 7.9 แสนคัน ลดลงประมาณ 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม ถ้านับเฉพาะตลาด A.T. หรือเกียร์อัตโนมัติ ที่มีสัดส่วนมากที่สุด (ราว 52% ของตลาด) ฮอนด้ามียอดขาย 3.4 แสนคัน เติบโตประมาณ 1% ขณะที่ภาพรวมตลาดในกลุ่มนี้ หดตัว 5% รวม 4.6 แสนคัน

“เรามองว่าภาพรวมตลาดทั้งปีจะมียอดอยู่ที่ 1.7-17.5 ล้านคัน หดตัว 10% ส่วนฮอนด้าเองคาดว่าจะมียอดรวมที่ 1.36-1.4 ล้านคัน ลดลง 7% และด้วยความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ มองว่าตลาดยังซึมยาวไปอีก 2-3 ปี”

ครึ่งปีหลังอัดรถเพิ่ม 8 รุ่น หวังกระตุ้นตลาด

เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดช่วงครึ่งปีหลัง ฮอนด้าได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์ 2 รุ่นใหม่ ได้แก่ New Honda Forza 350 และ Honda Scoopy Hello Kitty Limited Edition และมีแผนจะเปิดตัวใหม่อีก 6 รุ่น ไม่รวมกับรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (บิ๊กไบค์) ที่จะได้เห็นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการตลาดมากขึ้น

ในส่วนของ โปรโมชั่นส่งเสริม ยังไม่มี เพราะมองว่าในสถานการณ์แบบนี้ การลดราคาไม่ได้ช่วยอะไร อย่างไรก็ตาม แต่ละดีลเลอร์จะมีโปรโมชั่นส่งเสริมการของตัวเอง ดังนั้น แนวทางจึงเป็นการเพิ่มความหลากหลายของรุ่นเพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า และเสริมในส่วนบริการ

“ตลาดอาจไม่ได้โตเหมือนในอดีต เพราะขึ้นอยู่กับเรื่องของเศรษฐกิจ ซึ่งเราทำอะไรไม่ได้ ดังนั้น เราจึงเน้นที่ความพอใจของลูกค้าเป็นหลัก เราจะทำเต็มที่เพื่อตอบสนองความต้องการผู้ใช้ให้พึงพอใจ ทั้งในแง่ผลิตภัณฑ์ การบริการ”

เชื่อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายังไม่บูม

ในส่วนของ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า อาจไม่ได้เติบโตเร็วเหมือนรถอีวี โดยปีที่ผ่านมามียอดขายที่ 22,600 คัน และปีนี้คาดว่าจะมียอดขายราว 30,000 คัน ขณะที่สัดส่วนของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในตลาดยังอยู่ที่ประมาณ 2% เท่ากับในปี 2021 ดังนั้น จะเห็นว่ามีการเติบโตแต่ไม่ก้าวกระโดด ซึ่งส่วนหนึ่งมองว่าเป็นเพราะเรื่องเทคโนโลยีที่ยังไม่ตอบโจทย์การใช้งาน และรถจักรยานยนต์ในปัจจุบันก็ค่อนข้างประหยัดอยู่แล้ว

“มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าวิ่งได้ 80-100 กม./การชาร์จ แต่รถจักรยานยนต์ทุกวันนี้เติมน้ำมัน 1 ลิตรวิ่งได้ 60 กม. ดังนั้น ค่อนข้างประหยัดอยู่แล้ว”

อย่างไรก็ตาม ฮอนด้าเองก็มีแผนการเพื่อรองรับตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โดยยังคงศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค และการ สวอปแบตเตอรี่ และจะขยายตู้สวอปแบตรุ่นใหม่เป็น 40 ตู้ ภายในปีนี้

ยืนยัน 2 ล้อยังไม่ปรับการผลิต

หลังจากที่มีข่าวว่า ฮอนด้ามีแผนลดกำลังการผลิตรถยนต์ในไทยลงมากกว่า 50% อันเป็นผลมาจากการเข้ามาของผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน แต่ในส่วนของรถจักรยานยนต์ ยังไม่มีการปรับ โดย ยูอิจิ ย้ำว่า แม้ตลาดจะไม่เติบโตก้าวกระโดดเหมือนอดีตแต่ ยังไปได้ โดยปัจจุบัน กำลังการผลิตรถจักรยานยนต์สูงสุดของฮอนด้าอยู่ที่ 1.6-1.7 ล้านคัน/ปี รวมทั้งจำหน่ายในประเทศและส่งออก ปัจจุบัน ผลิตอยู่ที่ประมาณ 85% ของกำลังการผลิตสูงสุด

]]>
1483732
ถึงเวลาสู้ศัตรูคนเดียวกัน! ‘ฮอนด้า’ ผนึก ‘นิสสัน’ พัฒนารถอีวีเพื่อสู้กับ ‘ค่ายจีน’ https://positioningmag.com/1466580 Mon, 18 Mar 2024 03:58:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1466580 หากเป็นรถยนต์สันดาป ผู้ที่ครองตลาดก็จะเป็น ค่ายรถญี่ปุ่น แต่ถ้าเป็นตลาดรถอีวี ค่ายจีน ได้กลายเป็นผู้นำของตลาดไปเรียบร้อยแล้ว แม้แต่แบรนด์สุดแข็งอย่าง Tesla ยังต้องพ่ายแพ้ให้กับค่ายจีน ดังนั้น แบรนด์ญี่ปุ่นจึงต้องเลิกสู้กันเอง หันมาจับมือกันเพื่อสู้ค่ายจีน

ในอดีตค่ายรถยนต์ของญี่ปุ่นอาจจะต้องแข่งกับค่ายรถจากฝั่งยุโรปและแข่งขันกันเอง แต่ตอนนี้ทุกค่ายคงตระหนักได้ว่า คู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดในตลาดก็คือ ค่ายรถอีวีจีน ทำให้ นิสสัน (Nissan) ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจแบบไม่ผูกมัด (Memorandum of Understanding – MoU) กับ ฮอนด้า (Honda) ค่ายรถยนต์คู่แข่ง เพื่อร่วมมือกันในการผลิตส่วนประกอบสำคัญสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและปัญญาประดิษฐ์ในแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ยานยนต์

โดยความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยให้ทั้งสองบริษัทประหยัดต้นทุนในการผลิต เพราะทำให้มี Economy of scale ที่มากขึ้น ซึ่งจะยิ่งช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นสามารถแข่งขันกับค่ายรถอีวีจากจีน โดยเฉพาะ บีวายดี (BYD) จากจีนที่เพิ่งบุกตลาดประเทศญี่ปุ่น รวมถึง เทสลา (Tesla) ด้วย

“ผู้เล่นหน้าใหม่มีความก้าวร้าวมากและกำลังบุกเข้ามาด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง เราไม่สามารถชนะการแข่งขันได้ ตราบใดที่เรายึดมั่นในแนวคิดและแนวทางแบบดั้งเดิม” มาโกโตะ อุชิดะ ซีอีโอของนิสสัน กล่าว

อย่างไรก็ตาม นิสสันและฮอนด้า ยังไม่ได้หารือเกี่ยวกับการลงทุนร่วมกัน แต่ก็เปิดรับความเป็นไปได้ในอนาคต รวมถึงยัง เปิดกว้างในการร่วมมือกับพันธมิตร ที่มีอยู่หากมีโอกาสเกิดขึ้น

“เราถูกจำกัดด้วยเวลา ดังนั้น จำเป็นต้องทำให้เร็ว เพื่อที่ภายในปี 2030 เราจะอยู่ในตำแหน่งที่ดี เราจึงต้องตัดสินใจตั้งแต่ตอนนี้”

ทั้งนี้ ฮอนด้าตั้งเป้าที่จะเพิ่มอัตราส่วนรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงเป็น 100% ของยอดขายทั้งหมดภายในปี 2040 ส่วนนิสสันถือเป็นผู้บุกเบิกด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ด้วยรุ่น Leaf

ที่ผ่านมา ทั้งฮอนด้าและนิสสัน ได้พิจารณาเตรียมลดกำลังการผลิตในประเทศจีน โดยสาเหตุสำคัญคือผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นต้องแข่งขันกับค่ายรถยนต์ไฟฟ้าของจีน โดยนิสสันเตรียมลดกำลังการผลิตในจีนสูงสุดถึง 30% เหลือ 1.6 ล้านคัน/ปี ส่วนฮอนด้านั้นจะลดกำลังการผลิตราว 20% เหลือ 1.2 ล้านคันต่อปี

Source

]]>
1466580
เคาะแล้ว! รถอีวีของ ‘Sony’ และ ‘Honda’ จะวางขายปี 2026 ในสหรัฐฯ เป็นประเทศแรก https://positioningmag.com/1404274 Fri, 14 Oct 2022 06:55:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1404274 หลังจากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทโซนี่ กรุ๊ป คอร์ป (Sony) ได้เปิดตัวต้นแบบรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Vision-S 02 พร้อมเตรียมจัดตั้งบริษัทลูก Sony Mobility Inc. เพื่อพัฒนารถอีวี พร้อมทั้งได้ประกาศความร่วมมือกับ ฮอนด้า (Honda) บริษัทผู้ผลิตรถรายใหญ่ ล่าสุด ทางบริษัทร่วมทุนของทั้งคู่ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมเคาะประเทศแรกที่จะวางขาย

บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่ที่เกิดจากการร่วมทุนของ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่น ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยใช้ชื่อว่า Sony Honda Mobility Inc หลังจากที่ในเดือนมีนาคม ทั้ง 2 บริษัทตกลงที่จะจัดตั้งบริษัทร่วมทุน 50-50 ด้วยแนวคิดที่จะนำความเชี่ยวชาญของ Honda ในด้านยานยนต์ เทคโนโลยีการขับเคลื่อน รวมถึงการขาย บวกเข้ากับความเชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพ เครือข่าย เซ็นเซอร์ และความบันเทิงของ Sony มาพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า

Yasuhide Mizuno ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุว่า รถยนต์รุ่นแรกจะเปิดพรีออเดอร์ภายในปี 20215 และจะส่งมอบให้ สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรก ภายในช่วงต้นปี 2026 ตามด้วยตลาด ญี่ปุ่น ในปีเดียวกัน ต่อจากนั้นจึงเป็นตลาดของประเทศในทวีปยุโรป ขณะที่สายการผลิตรถจะดำเนินการผ่าน หนึ่งในโรงงาน 12 แห่งของฮอนด้าในสหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทยังไม่เปิดเผยถึงรายละเอียดถึงราคา และชนิดของแบตเตอรี่ที่จะใช้ รวมถึงยังไม่ได้ระบุปริมาณการผลิต แต่เปิดเผยเพียงว่า รถรุ่นดังกล่าวเป็น รุ่นพิเศษ และ ไม่ได้มีไว้สำหรับการขายจำนวนมาก

“การร่วมมือครั้งนี้เป็นการรวมตัวกันของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจในขณะเดินทาง ดังนั้น เราจำเป็นต้องใช้แนวทางใหม่โดยสิ้นเชิง”

ด้าน Izumi Kawanishi ผู้บริหารของ Sony ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Sony Mobility กล่าวว่า จะมีการเพิ่มพันธมิตรในโครงการ พร้อมทั้งมองว่า โลกกำลังมีความต้องการรถยนต์ที่ ปลอดมลพิษ เพิ่มขึ้นทั่วโลก เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความยั่งยืน

ปัจจุบัน Honda ได้พัฒนารถยนต์ไฟฟ้าอยู่บ้าง แต่ไม่ได้มีมากมายเท่ากับคู่แข่งบางราย เช่น Ford หรือ Nissan โดยที่ผ่านมา Honda ได้ร่วมมือกับ General Motors เพื่อแชร์แพลตฟอร์มสำหรับพัฒนารถอีวีในเมริกาเหนือ แต่ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยังไม่ได้วางจำหน่าย

Source

]]>
1404274
‘ฮอนด้า’ ทุ่ม 4 หมื่นล้านดอลล์ พัฒนารถยนต์ EV ลุยเปิดตัว 30 รุ่น ภายในปี 2030 https://positioningmag.com/1381387 Tue, 12 Apr 2022 06:39:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1381387 ฮอนด้า’ (Honda) ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ 30 รุ่น ภายในปี 2030 เเละจะมีกำลังการผลิตมากกว่า 2 ล้านคันต่อปี

บริษัทวางเเผนจะทุ่มเงินลงทุน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 5 ล้านล้านเยน) ในการพัฒนาเเละผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งจะรวมไปถึงการสร้างเทคโนโลยีระบบไฟฟ้าและซอฟต์แวร์ของตนเองขึ้นมา พร้อมสำรวจโอกาสใหม่ๆ ในการเติบโตทั้งด้านการสำรวจอวกาศ , eVTOL (แท็กซี่บินได้) , หุ่นยนต์และอื่นๆ

ในช่วงทศวรรษหน้า ฮอนด้ามีการเตรียมเเผนลงทุนทั้งหมดกว่า 6.3 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 8 ล้านล้านเยน) และอีก 80 ล้านดอลลาร์ (ราว 1 หมื่นล้านเยน) ต่อปีในการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ เพื่อนำเสนอโซลูชั่นแบบผสมผสาน แสวงหาความร่วมมือและพันธมิตรระหว่างอุตสาหกรรม เเละใช้นำเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เมื่อเดือนที่ผ่านมา ฮอนด้าได้ร่วมมือกับบริษัทเทคฯ ยักษ์ใหญ่อย่างโซนี่พัฒนาและผลิตรถยนต์ไฟฟ้าร่วมกัน ซึ่งจะเริ่มมีการลงทุนอย่างเป็นทางการในปี 2022 นี้ โดยทางโซนี่จะดูเเลเรื่องของระบบเซนเซอร์เครือข่ายและความบันเทิงภายในรถยนต์ขณะที่ฮอนด้าจะดูแลการจัดการเกี่ยวกับเทคโนโลยีรถยนต์

หากเป็นไปตามเเผนที่วางไว้ คาดว่ารถยนต์รุ่นเเรกภายใต้การผลิตของโซนี่และฮอนด้า จะวางจำหน่ายได้ในปี 2025 เเละฮอนด้ายังจับมือกันกับ General Motors (GM) ร่วมกันผลิตรถ EV ‘ครอสโอเวอร์’ ในราคาต่ำ เพื่อตีตลาดสหรัฐฯ คืนจาก Tesla โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตหลักหลายล้านคันได้ภายในปี 2027

ฮอนด้า ตั้งเป้าที่จะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 30 รุ่นทั่วโลกให้ได้ภายในปี 2030 เเละตั้งเป้าผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้มากกว่า 2 ล้านคันต่อปี

ท่ามกลางเเนวโน้มการแข่งขันที่ดุเดือดทั้งเเบรนด์เล็กเเบรนด์ใหญ่ บริษัทจะเพิ่มสัดส่วนการผลิตรถยนต์ EV และเซลล์เชื้อเพลิงให้ได้ 100% ของยอดขายทั้งหมดภายในปี 2040

 

ที่มา : techcrunch , japantimes

]]>
1381387
เดินหน้าเต็มที่! Sony ประกาศผนึก Honda ก่อตั้งบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มจำหน่ายในปี 2025 https://positioningmag.com/1376612 Mon, 07 Mar 2022 11:14:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1376612 เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทโซนี่ กรุ๊ป คอร์ป (Sony) บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่น ได้เปิดตัวต้นแบบรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Vision-S 02 ภายในงาน Consumer Electronics Show (CES) 2022 หรืองาน CES พร้อมเตรียมจัดตั้งบริษัทลูกใหม่ชื่อว่า ‘Sony Mobility Inc.’ เพื่อพัฒนารถ EV ในอนาคต

ล่าสุด Sony ก็ได้ออกมาประกาศความร่วมมือกับ ฮอนด้า (Honda) บริษัทผู้ผลิตรถรายใหญ่ในการร่วมทุนกันเพื่อผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า โดยทั้ง 2 บริษัทตั้งเป้าที่จะก่อตั้งบริษัทใหม่ในปีนี้ และเริ่มจำหน่ายรถยนต์คันแรกในปี 2025

โดยบริษัทใหม่นี้ Sony จะทำหน้าที่ ออกแบบ พัฒนา และจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะการพัฒนาระบบและบริการต่าง ๆ ยังไม่ชัดเจนว่า ณ จุดนี้จะเป็นอย่างไร แต่ Sony เป็นผู้จัดหาเซ็นเซอร์ภาพสำหรับสมาร์ทโฟนรายใหญ่และกำลังออกแบบชิปเหล่านี้สำหรับรถยนต์มากขึ้น และในส่วนของการผลิตนั้นจะมอบหมายให้ Honda เป็นผู้รับผิดชอบเนื่องจากมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตรถยนต์มานานหลายปี รวมถึงใช้โรงงานของ Honda เองในการผลิต

ย้อนไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา Sony ได้แอบเปิดเผยว่าจะจัดตั้งบริษัทที่ชื่อว่า Sony Mobility เพื่อสำรวจการเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ บริษัทยังได้นำรถเอนกประสงค์ต้นแบบที่เรียกว่า VISION-S 02 ออกมาให้ยลโฉมอีกด้วยในขณะเดียวกัน Honda ก็ได้ก้าวเข้าสู่การเป็นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า โดย Honda ได้ประกาศว่าจะเลิกผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยแก๊สภายในปี 2040 และปัจจุบันก็ได้มีการร่วมทุนกับ เจนเนอรัล มอเตอร์ส เพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่

การร่วมทุนระหว่าง Sony และ Honda ถือเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของ บริษัทเทคโนโลยีที่ก้าวเข้าสู่ภาคยานยนต์และผู้ผลิตรถยนต์ที่ต้องการเพิ่มขีดความสามารถทางเทคโนโลยี โดยก่อนหน้านี้ก็มีบริษัทเทคโนโลยีของจีนอย่าง Baidu และ Xiaomi ต่างก็ก่อตั้งบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า ในขณะที่รายงานเมื่อปีที่แล้วชี้ให้เห็นว่า Apple กำลังเพิ่มความพยายามในยานยนต์ไร้คนขับ

Source

]]>
1376612
‘ฮอนด้า’ ปิดโรงงานแม่ หั่นกำลังผลิตเหลือ 60% เพื่อมุ่งสู่รถอีวีเต็มตัว https://positioningmag.com/1373039 Mon, 07 Feb 2022 06:47:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1373039 ตอนนี้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถอีวี กลายเป็นอนาคตใหม่ของตลาดยานยนต์ไปแล้ว และทาง ฮอนด้า (Honda) หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลกก็ประกาศ ‘ปิดโรงงานแม่’ ในญี่ปุ่น พร้อมปรับลดกำลังการผลิตรถยนต์ในประเทศลงเหลือเพียง 800,000 คัน/ปี หรือลดลงประมาณ 40% เมื่อเทียบกับจำนวนสูงสุดในปี 2545 เพื่อปรับโครงสร้างบริษัทพร้อมมุ่งสู่รถยนต์ไฟฟ้า

ฮอนด้า ได้ปิดโรงงานผลิตรถยนต์ที่มีอายุกว่า 58 ปี ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองซายามะ จังหวัดไซตามะ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโตเกียวเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยโรงงานดังกล่าวถือเป็น 1 ใน 3 โรงงานผลิตรถยนต์ของบริษัทในญี่ปุ่น และถือเป็นโรงงานแม่ที่สามารถผลิตรถได้กว่า 2.5 แสนคัน/ปี นอกจากนี้ฮอนด้ายังได้ประกาศการลดต้นทุนอื่น ๆ ในปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิกการแข่งขันรถยนต์ฟอร์มูล่าวัน เป็นต้น

สาเหตุที่บริษัทต้องปิดโรงงานลงเพราะนโยบายในอนาคตที่จะมุ่งสู่รถยนต์ไฟฟ้า โดยบริษัทได้ประกาศเมื่อช่วงเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาว่า รถยนต์ของฮอนด้าทุกรุ่นจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2583 อย่างไรก็ตาม โรงงานดังกล่าวจะยังไม่ปิดตัวโดยสมบูรณ์ แต่จะทำหน้าที่ผลิตชิ้นส่วนก่อนจะปิดถาวรภายใน 2-3 ปี สำหรับพนักงานที่เหลือจะถูกโอนย้ายไปที่โรงงานอื่น ๆ ของบริษัท

ก่อนหน้าที่ฮอนด้าจะตัดสินใจปิดโรงงานดังกล่าว บริษัทมีกำลังการผลิตรถยนต์ในประเทศประมาณ 1 ล้านคัน/ปี จากโรงงานทั้งหมด 3 แห่งในญี่ปุ่น โดยตั้งอยู่ในเมืองซายามะ, โยริอิ และซูซูกะ

ด้าน ‘โตโยต้า’ (Toyota Motor) ค่ายรถยนต์อันดับ 1 ของโลกยังไม่มีแผนที่จะลดกำลังการผลิตในญี่ปุ่น ในเร็ว ๆ นี้ โดยยังคงตรึงกำลังการผลิตในประเทศที่ 3 ล้านคัน/ปี ส่วนด้าน ‘นิสสัน’ (Nissan Motor) ในญี่ปุ่นยังคงอยู่ที่ 1.34 ล้านคัน/ปี ตามข้อมูลของ Fourin บริษัทวิจัยที่เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมยานยนต์

สาเหตุที่กำลังผลิตรถยนต์ของฮอนด้ามีน้อยกว่าอีก 2 แบรนด์ เป็นเพราะฮอนด้ามีส่วนแบ่งยอดขายภายในประเทศน้อยกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยในปีงบประมาณ 2561 ฮอนด้าขายรถยนต์ได้ 740,000 คันในญี่ปุ่น หรือ 14% ของยอดขายทั่วโลก ขณะที่โตโยต้าขายได้ 2.29 ล้านคัน คิดเป็น 22% ของยอดรวมทั่วโลก

ขณะที่ตลาดต่างประเทศ ฮอนด้าสามารถทำยอดขายได้ดีกว่า อย่างในตลาดสหรัฐฯ ฮอนด้ามียอดขายถึง 1.61 ล้านคัน หรือ 30% ของยอดขายโดยรวม และ 1.46 ล้านคันในจีน หรือ 28% ทำให้ฮอนด้าจึงเน้นไปที่การผลิตในต่างประเทศมากกว่า

ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า กำลังการผลิตของฮอนด้าทั่วโลกสิ้นสุด ณ ปีงบประมาณ (เดือนมีนาคม) จะเหลือ 5.14 ล้านคัน ลดลงจาก 5.59 ล้านคันในปีก่อนหน้า

Source

]]>
1373039
‘ฮอนด้า’ ประกาศจะผลิต ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ 100% ภายในปี 2040 https://positioningmag.com/1329123 Sun, 25 Apr 2021 06:24:08 +0000 https://positioningmag.com/?p=1329123 ในการแถลงข่าวครั้งแรกในฐานะ Toshihiro Mibe ซีอีโอของ ‘ฮอนด้า’ (Honda) ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นได้ประกาศว่าบริษัทจะผลิตเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (ฟิวเซลล์) ภายในปี 2583 โดยฮอนด้าถือเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายล่าสุดที่ให้คำมั่นสัญญาที่จะผลิตแต่รถยนต์ที่ใช้พลังงานสะอาด

ฮอนด้ามองว่า ภายในปี 2573 ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกจะมีสัดส่วนของรถที่ใช้พลังงานสะอาดถึง 40% และมีสัดส่วนเป็น 80% ภายในปี 2578 และเป็น 100% ในปี 2583 ที่ผ่านมา บริษัท ‘เจนเนอรัลมอเตอร์ส’ (GM) ประกาศว่าจะผลิตแต่รถยนต์ที่ใช้พลังงานสะอาดภายในปี 2578 ส่วน ‘ฟอร์ด’ (Ford) ตั้งเป้าที่ปี 2573 เช่นเดียวกับ ‘วอลโว่’ (Volvo)

ผู้ผลิตรถยนต์แทบทุกรายกำลังปรับแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น อย่างในอเมริกา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 50% ภายในปี 2573 และรัฐบาลหลายประเทศได้ประกาศกฎที่จะกำหนดให้มีรถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอินหรือรถยนต์ปลอดการปล่อยมลพิษตามวันที่ต่าง ๆ ในอนาคต นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ขายเฉพาะรถยนต์ที่ไม่มีการปล่อยมลพิษภายในปี 2578

ภาพจาก global.honda

ความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์พัฒนาทางเลือกมากขึ้นในราคาที่ถูกลง นอกจากนี้ยังมีแรงจูงใจทางด้านต่าง ๆ สำหรับผู้ผลิตรถยนต์แบบดั้งเดิมในการเปลี่ยนมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้ายังมีชิ้นส่วนใช้น้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้ก๊าซ ดังนั้นจึงสามารถสร้างได้ถูกกว่าเนื่องจากต้องใช้แรงงานน้อยกว่า

ที่ผ่านมา ในตลาดอเมริกาฮอนด้าร่วมมือกับเจเนอรัลมอเตอร์ส เปิดตัวรถอีวีรุ่นใหม่ซึ่งใช้ e: Architecture ออกสู่ตลาดแล้ว ส่วนตลาดประเทศจีน ฮอนด้าเตรียมเปิดตัวรถอีวี 10 รุ่นภายใน 5 ปี

Source

]]>
1329123
‘ฮอนด้า’ เตรียมปิดโรงงานผลิตที่ ‘อินเดีย’ หลัง COVID-19 ทำให้ยอดขายในเอเชียใต้ลดลง https://positioningmag.com/1311346 Mon, 21 Dec 2020 06:39:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1311346 ‘ฮอนด้ามอเตอร์’ หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลกประกาศว่าจะลดการผลิตรถยนต์สี่ล้อในประเทศอินเดียลง 40% โดยจ่อปิดโรงงานผลิต 1 แห่งลงหลังยอดขายในเอเชียใต้หดลงเพราะ COVID-19

ย้อนไปปี 1997 ‘ฮอนด้ามอเตอร์’ ได้เปิดโรงงานที่เกรทเตอร์นอยดาในรัฐอุตตร กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย โดยโรงงานดังกล่าวมีกำลังผลิตรถยนต์ที่ 100,000 คัน/ปี ซึ่งส่วนใหญ่จะผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก เช่น Honda City และในปี 2014 ฮอนด้าได้เปิดโรงงานผลิตอีกแห่งในอินเดียที่ Tapukara รัฐราชสถาน โดยทั้ง 2 โรงงานมีกำลังการผลิตรวมกันประมาณ 280,000 คัน/ปี

แต่ในปีงบประมาณ 2019 มีจำนวนรถที่ผลิตออกมาเพียง 98,000 คันตามที่สมาคมผู้ผลิตยานยนต์อินเดีย เพราะการระบาดของ COVID-19 ทำให้ยอดขายรนยนต์ฮอนด้าในภูมิภาคเอเชียใต้ลดลง ยิ่งส่งผลให้โรงงานผลิตต้องทำงานน้อยกว่ากำลังการผลิตเต็ม

ดังนั้น เพื่อลดกำลังการผลิตส่วนเกินทั่วโลก และเพิ่มผลกำไรจากการดำเนินงานรถยนต์สี่ล้อ ฮอนด้าตัดสินใจปิดโรงงานที่เกรทเตอร์นอยดา โดยจะควบรวมกับโรงงานแห่งใหม่ของฮอนด้า ทำให้โรงงานผลิตของฮอนด้าในอินเดียเหลือเพียงแห่งเดียว

ปัจจุบัน ส่วนแบ่งการตลาดของฮอนด้าอยู่ที่ 3.7% ตามหลัง ‘Suzuki’ และ ‘Hyundai Motor’ ซึ่งครองส่วนแบ่ง 51.7% และ 17.6% ตามลำดับ และจากการขยายโรงงายผลิตไปทั่วโลก ทำให้ต้นทุนส่งผลกระทบต่อรายได้ของฮอนด้า ซึ่งกำไรของการดำเนินงานรถยนต์สี่ล้อลดลงเหลือเพียง 1.5% ในปีงบประมาณ 2019

Takahiro Hachigo ซีอีโอคนปัจจุบันของฮอนด้า มีภารกิจในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยได้ยุติการผลิตรถยนต์ในประเทศฟิลิปปินส์และอาร์เจนตินา แต่มีการขยายโรงงานใน Sayama ญี่ปุ่น และ Swindon สหราชอาณาจักรที่เป็นตลาดเกิดใหม่

Source

]]>
1311346