เคอรี่ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 02 May 2025 11:35:48 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ย้อนรอย ‘KEX’ ตั้งแต่เข้า IPO จนถึงวันที่ต้อง ‘ถอนตัว’ จากตลาดหุ้นไทย https://positioningmag.com/1520289 Fri, 02 May 2025 10:36:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1520289 ในวันที่ตลาด อีคอมเมิร์ซ เมืองไทยเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ธุรกิจ โลจิสติกส์ ก็โตเป็นเงาตามตัว โดย Kerry Express หรือ KEX ในปัจจุบัน ก็ถือเป็นผู้เล่นเอกชนรายแรก ๆ ที่เข้ามาทำตลาดในไทย และเติบโตจนสามารถ IPO แต่ปัจจุบัน KEX กำลัง ถอนตัวออกจากหุ้นไทย

Kerry Express (เคอรี่ เอ็กซ์เพรส) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2549 โดยบริษัท Kerry Logistics Network (KLN) จาก ฮ่องกง โดยในช่วง 5 ปีก่อนที่บริษัทจะ IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ในไทย Kerry สามารถเติบโต และทำกำไรได้ทุกปี โดย

  • ปี 2558: รายได้ 1,515 ล้านบาท กำไร 134 บาท
  • ปี 2559: รายได้ 3,206 ล้านบาท กำไร 307 บาท
  • ปี 2560: รายได้ 6,577 ล้านบาท กำไร 732 บาท
  • ปี 2561: รายได้ 13,565 ล้านบาท กำไร 1,185 ล้านบาท
  • ปี 2562: รายได้ 19,894 ล้านบาท กำไร 1,328 ล้านบาท

จนกระทั่งวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 Kerry Express ก็ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายใต้ชื่อย่อ KEX และหลังจาก IPO ได้ 1 ปี ในปี 2564 บริษัทก็ยังมีกำไรสุดแกร่งที่ 1,405 ล้านบาท แม้รายได้จะลดลงเล็กน้อยที่ 19,010 ล้านบาท และด้วยผลประกอบการดังกล่าว เคยดันราคาหุ้นไปสู่ระดับสูงสุดที่ 73 บาทต่อหุ้น จากที่เปิดจองซื้อหุ้น IPO ที่ 28 บาทต่อหุ้น

อย่างไรก็ตาม มาปี 2564 ผลประกอบการของ Kerry Express ก็ค่อย ๆ ปรับตัวลดลง จากกำไรระดับ พันล้าน เหลือเพียง 46 ล้านบาท จากรายได้ 18,972 ล้านบาท จนมาปี 2565 บริษัทก็มีรายได้ลดลงเหลือ 17,145 ล้านบาท แถมยัง ขาดทุนถึง 2,829 ล้านบาท และนับจากปี 2565 บริษัทก็ขาดทุนมาโดยตลอด โดยในปี 2566 บริษัทรายได้ 11,470 ล้านบาท ขาดทุน 3,880 ล้านบาท

จนมาวันที่ 6 ก.พ. 2567 Kerry Express ก็ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขายกิจการพร้อมหุ้น 100% ให้ บริษัท เอสเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทย่อยของ S.F. Holding Co. ยักษ์ใหญ่ด้านขนส่งจากจีน ทำให้ผู้ถือหุ้นมีการเปลี่ยนแปลง และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น KEX

แต่แม้ว่าบริษัทจะได้ผู้ร่วมทุนรายใหม่ที่เป็นยักษ์ใหญ่ของจีน แต่รายได้กลับยังลดลงเหลือ 9,449 ล้านบาท และ ขาดทุนถึง 5,911 ล้านบาท จนถึงปัจจุบัน KEX ขาดทุนแล้วถึง 13 ไตรมาสติด ในขณะที่ราคาหุ้นเคยลงไป ต่ำกว่า 1 บาท

ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลประกอบการ Kerry Express หรือ KEX ค่อย ๆ ลดลง หนีไม่พ้นเรื่อง การแข่ง ขัน เพราะในวันที่ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มีจำนวนผู้เล่นในตลาดโลจิสติกส์เพิ่มขึ้นตาม ไม่ว่าจะเป็น Flash Express, J&T Express, BEST Express รวมถึงเบอร์ 1 อย่าง ไปรษณีย์ไทย นอกจากนี้ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซส่วนใหญ่ต่างก็มี ขนส่งของตัวเอง เช่น SPX Express ของ Shopee หรือ Lazada express ของ Lazada

ไม่ใช่แค่การแข่งขันที่สูงจนเกิด สงครามราคา แต่สิ่งที่พุ่งขึ้นสวนทางก็คือ ต้นทุน ไม่ว่าจะเป็นค่าเชื้อเพลิงพลังงาน หรือ ค่าแรง ก็ตาม ยิ่งทำให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรได้น้อยลง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2567 ลดลงอย่างมากจาก -25% กลายมาเป็น -33.4%

จนในที่สุด KEX แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทฯ จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และการกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2568 (ราคา Tender Offer 1.50 บาทต่อหุ้น) ผ่านรายงานมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 4/2568 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568

โดยมีมติให้เสนอต่อที่ประชุมฯ ครั้งที่ 1/68 เพื่อพิจารณาและอนุมัติการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทฯ จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หลังจากฝั่งผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง บริษัท เอสเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ SFTH ที่ถือหุ้น 81.43% เสนอให้เพิกถอนหุ้นออกตลากตลาดหลักทรัพย์โดยสมัครใจ

และแจ้งความประสงค์ที่จะเป็นผู้ทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทที่ไม่ได้ถือโดย SFTH ซึ่งรวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 651,017,806 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 18.57% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท เพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัท จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในราคาเสนอซื้อหุ้นที่ราคา 1.50 บาทต่อหุ้น (คำเสนอซื้อเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์)

]]>
1520289
ผลประกอบการ KERRY ปี 65 ขาดทุนกว่า 2.8 พันล้าน พิษต้นทุนพุ่ง ตลาดแรงงานตึงตัว https://positioningmag.com/1419699 Thu, 16 Feb 2023 14:49:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1419699 KERRY Express เปิดผลประกอบการปี 65 ขาดทุนกว่า 2.8 พันล้านบาท เจอพิษต้นทุนพุ่ง ปัจจัยหลักมาจากราคาน้ำมันดีเซลที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงตลาดแรงงานที่มีสภาวะตึงตัวเพิ่มขึ้นทั่วประเทศทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เผยปีนี้มุ่งปรับปรุงประสิทธิภาพ ลดพึ่งพาแรงงาน

บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เกี่ยวกับรายงานผลดำเนินงานประจำปี 2565 โดยพบว่า บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 2,829.8 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน และมีรายได้รวม 17,003 ล้านบาท ลดลง 9.6% จากปีก่อนหน้า โดยสาเหตุมาจากต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้น ปัจจัยหลักมาจากราคาน้ำมันดีเซลที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงตลาดแรงงานที่มีสภาวะตึงตัวเพิ่มขึ้นทั่วประเทศทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายการขายและการบริหารปรับตัวเพิ่มขึ้น +44.7% อยู่ที่ 1,996.4 ล้านบาท โดยในไตรมาส 4 ปี 2565 KEX ได้ปรับลดค่าใช้จ่ายให้มีความเข้มข้นมากขึ้น ทั้งการลดค่าใช้จ่ายและทรัพยากรส่วนเกินเชิงรุก การปรับโครงสร้างของพนักงานในองค์กร การปิดสาขาจุดให้บริการ และศูนย์กระจายพัสดุที่มีต้นทุนสูง และประสิทธิภาพต่ำ การปรับปรุงการดำเนินงาน ส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวรวม 384.2 ล้านบาท ใน 2565 รวมถึงค่าชดเชยพนักงาน และใช้จ่ายในการปิดสาขา และศูนย์บริการต่างๆ

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีเงินสด และเงินลงทุนในสินทรัพย์สภาพคล่องรวม 2,963.1 ล้านบาท ลดลง 59.4% จากปีก่อน เนื่องจากใช้การดำเนินงาน และจ่ายชำระหนี้สินตามสัญญาเช่า นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถเพิ่มการจัดส่งพัสดุได้เพิ่มขึ้น 18% แต่ทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 เมื่อตลาดกลับเข้าสู่ช่วงภาวะปกติ ตามด้วยการเปิดประเทศ และธุรกิจ E-Commerce เติบโตชะลอตัวลง ทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถลดต้นทุนการจัดส่งต่อหน่วยได้รวดเร็วตามที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ในปี 2566 บริษัทฯ วางแผนปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน การลงทุนปรับปรุงกระบวนการและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อลดการพึ่งพาแรงงานคน และมุ่งเน้นปรับปรุงคุณภาพการให้บริการที่ดี เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดในประเทศไทย

]]>
1419699
‘Kerry-Flash’ สบโอกาส ‘ไปรษณีย์’ ขึ้นราคา จัดโปร ‘ดัมพ์ค่าส่ง’ หวังโกยลูกค้าเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ https://positioningmag.com/1392782 Fri, 15 Jul 2022 09:24:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1392782 หากพูดถึง ‘ราคาน้ำมัน’ แม้จะเริ่มปรับลดลงมาบ้างแล้ว แต่ถ้าเทียบกับปี 2020 ที่เกิดการระบาดของ COVID-19 ราคาน้ำมันในปัจจุบันก็แพงขึ้นกว่าเดิมถึง เท่าตัว แน่นอนว่าหลายคนต้องคิดว่าด้วยต้นทุนที่สูงขึ้น ธุรกิจที่ต้องใช้น้ำมันเยอะ ๆ อย่าง ‘โลจิสติกส์’ ต้องได้รับผลกระทบแน่นอน โดยผู้เล่นรายแรกที่ออกมาปรับขึ้นราคาก็คือ ไปรษณีย์ไทย แต่ที่น่าสนใจคือ คู่แข่งได้ใช้โอกาสนี้ดัมพ์ราคาลงอีก โดยไม่แคร์ถึงต้นทุนที่สูงเลยทีเดียว

ไปรษณีย์ไทยขึ้นราคาในรอบ 18 ปี

ย้อนไปช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบที่จะปรับอัตราค่าบริการ โดยได้อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราไปรษณียากรและค่าธรรมเนียมอื่น พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้ เนื่องจากในช่วง 18 ปีที่ผ่านา บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ไม่ได้ขอปรับอัตราราคาค่าบริการ

โดยเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม คือวันแรกของการบังคับใช้ โดย จดหมายประเภทซอง แม้จะเริ่มต้น 3 บาทเช่นเดิม แต่มีการปรับราคาเพิ่มเติมตามแต่ละน้ำหนัก เช่น จาก 10-20 กรัม 3 บาทก็ปรับเป็น 5 บาท, น้ำหนัก 20-100 กรัม จาก 5 บาทเป็น 10 บาท เป็นต้น ส่วน จดหมายประเภทหีบห่อ น้ำหนักไม่เกิน 500 กรัม ราคาอยู่ที่ 30 บาท และมีอัตราค่าบริการสูงสุด 55 บาท สำหรับพิกัดน้ำหนักเกิน 1,000 กรัม แต่ไม่เกิน 2,000 กรัม

แน่นอนว่าที่สาเหตุของไปรษณีย์ไทยต้องปรับราคาเป็นเพราะ ต้นทุน ที่เพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ ขณะที่กิจการไปรษณีย์ในปัจจุบันมีแนวโน้มประสบปัญหาขาดทุน โดยปีที่ผ่านมาแม้จะมีรายได้ถึง 22,000 ล้านบาท แต่ก็ ขาดทุนถึง 1,600 ล้านบาท ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่บริษัทจำต้องปรับราคาค่าส่ง

KerryFlash สบโอกาสดัมพ์ราคา

คงไม่ต้องบอกว่า ตลาดขนส่งพัสดุไทย (Parcel Delivery) นั้นแข่งขันรุนแรงแค่ไหน เพราะมีคู่แข่งจากต่างชาติตบเท้าเข้ามาจำนวนมาก ที่เห็นจะมี Kerry, Flash, J&T, Best Express, Ninja Van เป็นต้น โดยในช่วงปี 2019-2021 ตลาดสามารถเติบโตได้ถึง 38% โดยในปี 2021 ตลาดมีมูลค่ากว่า 91,000 ล้านบาท

ขณะที่ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินว่า ตลาดปีนี้อาจเติบโตได้ถึง 17% คิดเป็นมูลค่าราว 1.06 แสนล้านบาท และมีปริมาณขนส่งพัสดุเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 7 ล้านชิ้นต่อวัน

ที่น่าสนใจคือ แม้ต้นทุนจะสูงแต่กลับยังไม่เห็นการเคลื่อนไหวของผู้เล่นเจ้าไหนที่จะปรับราคาขึ้น แต่หลังจากไปรษณีย์ไทยปรับราคาขึ้นได้ไม่เท่าไหร่ ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง Kerry และ Flash ทำโปรโมชันลดราคาทันที โดย Kerry เปิดราคาใหม่เริ่มต้นเพียง 15 บาท ต่ำกว่า J&T ที่เริ่มต้น 19 บาทเสียอีก ส่วน Flash ก็ลดราคาลง 10% สำหรับการส่งพัสดุที่มีขนาด 1 กิโลกรัม หรือความยาว x กว้าง x สูง ไม่เกิน 40 เซนติเมตร เรียกได้ว่าลดราคา สวนทางต้นทุนที่พุ่งสูง

คำตอบคือ ที่ผ่านมา ผู้เล่นแต่ละรายจำต้อง บริหารต้นทุนเพื่อตรึงราคาไว้ก่อน เพื่อให้สามารถ แข่งขันกับคู่แข่ง ได้ และเมื่อมีใครปรับราคาขึ้นหรือลง แต่ละแบรนด์ถึงจะเริ่มขยับตาม และในกรณีที่ไปรษณีย์ไทยที่เป็นผู้เล่นที่กินมาร์เก็ตแชร์ถึง 57% จึงถือเป็นโอกาสทองให้ผู้เล่นรายใหญ่รีบ ดัมพ์ราคา เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาด เพราะต้องยอมรับว่าตลาดไม่ได้มีลอยัลตี้ขนาดนั้น รายไหนให้ราคาดีก็ใช้เจ้านั้นเพื่อประหยัดต้นทุน

หารายได้จากเซ็กเมนต์อื่น

เมื่อทุกคนหันมาแข่งราคากันหมด คำถามคือ เอากำไรจากไหน? คำตอบคือ ความ เฉพาะทาง ถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็น พัสดุขนาดใหญ่ อย่างเช่น ต้นไม้, อะไหล่รถ หรืออย่าง สินค้าที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ เช่น การจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ เป็นต้น และจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น (และไม่รู้จะลดลงเมื่อไหร่) การวางแผนควบคุมต้นทุนระยะยาวจึงจำเป็นที่ต้องคำนึงถึง ดังนั้น จึงเริ่มเห็นเทรนด์การนำ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า มาใช้งานเพื่อเป็นการลดต้นทุนระยะยาว

จับตายักษ์ใหญ่ ‘โลจิสติกส์’ แตกเซกเมนต์ใหม่ ‘Bulky’ ส่งของชิ้นใหญ่ฉีกหนี ‘สงครามราคา’

ด้วยตลาดที่ยังเติบโต ผู้เล่นที่มีมากตลาดขนส่งพัสดุจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะแข่งขันกันอย่างดุเดือด แต่ไม่ใช่แค่คำแผนทำโปรโมชันหรือแข่งราคา ผู้เล่นแต่ละรายยังต้องพยายามที่จะบริหารต้นทุนให้ได้ดีที่สุด และมองหาลู่ทางสร้างกำไร เพื่อที่จะยังเป็นผู้อยู่รอดในตลาดต่อไป

]]>
1392782
KERRY ทุบสถิติยอดส่งครึ่งปีแรก 167 ล้านชิ้น เตรียมเปิดขนส่งควบคุมอุณหภูมิไตรมาส 4 https://positioningmag.com/1346370 Wed, 11 Aug 2021 14:40:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1346370 KERRY Express ทุบสถิติยอดส่งนิวไฮ 167 ล้านชิ้นในครึ่งปีแรก เติบโต 10% กำไรสุทธิไตรมาส 2 โต 7.3% ภายในไตรมาส 4 เตรียมเปิดบริการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ และ KERRY Wallet ระบบอีเพย์เมนต์

กำไรพุ่ง รับล็อกดาวน์

เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (KERRY Express) ปิดงบไตรมาส 2/2564 กำไรพุ่ง 336 ล้านบาท ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเติบโตกว่า 7.3% อานิสงส์จากล็อกดาวน์ และ WFH ดันยอดขนส่งพัสดุ “นิวไฮ” ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทะลุ 167 ล้านชิ้นในครึ่งปีแรก เติบโตกว่า 10.8%

อเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2564 มีรายได้ 4,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 412 ล้านบาท หรือ 9.8% จากไตรมาสก่อนหน้า และกำไรสุทธิ 336 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33 ล้านบาท หรือ 10.8% จากไตรมาสก่อนหน้า ที่อัตรากำไรสุทธิ 7.3%

โดยในครึ่งปีแรกของปี 2564 เคอรี่ เอ็กซ์เพรส มีปริมาณการจัดส่งพัสดุที่เติบโตอย่างโดดเด่น โดยมียอดการจัดส่งพัสดุทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (New High Record) กว่า 167 ล้านชิ้นในครึ่งปีแรกของปีนี้ หรือเพิ่มขึ้นถึง 10.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ประกอบกับในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และมาตรการล็อคดาวน์หลายพื้นที่ ซึ่งทำให้มีการทำงานที่บ้านหรือ WFH มากขึ้น กระตุ้นให้มีการใช้จ่ายผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้น

KERRY ได้บริหารจัดการในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีมาตรการเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด และการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งต่อพนักงานและลูกค้า ประกาศแคมเปญ KerryPrompt เพื่อกระตุ้น และตอบแทนพนักงานทุกคนให้เข้ารับวัคซีนอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้ศูนย์คัดแยก และกระจายสินค้าเกิดการหยุดชะงัก และไม่ให้เกิดปัญหาการขนส่งพัสดุกับลูกค้าปลายทาง

เตรียมเปิดบริการใหม่ครึ่งปีหลัง

เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับพัสดุในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทเตรียมเปิดให้บริการใหม่ร่วมกับพันธมิตรหลากหลาย ได้แก่ ธุรกิจเกี่ยวกับ Cold Chain หรือระบบคลังสินค้า และขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ รวมถึงการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่มากกว่า 30 กิโลกรัมขึ้นไป

ล่าสุดได้ต่อยอดสู่ “เคอรี่ วอลเล็ท” พัฒนาระบบวอลเล็ทเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โซเชียลคอมเมิร์ซ ที่เติบโตต่อเนื่อง และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อขายสินค้าออนไลน์มากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ซึ่งจะเข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าขาประจำใช้จ่ายเงิน และร่วมกิจกรรมผ่านวอลเล็ทอย่างต่อเนื่องทั้งระบบ

คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลที่ 0.743 บาทต่อหุ้น แจ้งวันกำหนดสิทธิของผู้ถือหุ้น (Record Date) ที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 25 สิงหาคม 2564 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 กันยายน 2564 ตามลำดับ

]]>
1346370