เทพช้อป – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 04 Apr 2022 07:49:34 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘LnwShop’ ขอสลัดภาพแพลตฟอร์มปั้น ‘เว็บขายของ’ สู่บริการ ‘ฟูลฟิลล์เมนท์’ เต็มตัว https://positioningmag.com/1380218 Mon, 04 Apr 2022 07:19:08 +0000 https://positioningmag.com/?p=1380218 อย่างที่รู้กันว่าตลาด ‘อีคอมเมิร์ซ’ นั้นเติบโตมาโดยตลอด และยิ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่การมาของ COVID-19 แต่ปฏิเสธช่องทางหลักในการช้อปปิ้งในทุกวันนี้ก็คือ อีมาร์เก็ตเพลส และโซเชียลมีเดีย ในขณะที่ เว็บไซต์ของตัวเอง อาจไม่ใช่ช่องทางที่ทุกคนต้องมี คำถามคือ ทำไม LnwShop (เทพช้อป) ถึงยังอยู่ได้ ซึ่ง ณัฐวิทย์ ผลวัฒนสุข LnwShop Co-Founder ได้ออกมาเล่าถึงสิ่งที่ทำให้ LnwShop ยังอยู่ในตลาดมาถึง 11 ปี

จากข้อมูลของ ไพรซ์ซ่า พบว่าในปี 2021 ช่องทางอีคอมเมิร์ซที่มีความนิยมสุดของผู้บริโภคไทย ได้แก่

  • อีมาร์เก็ตเพลส (32%)
  • โซเชียลมีเดีย (21%)
  • บริการสั่งอาหารออนไลน์/แอปพลิเคชันครบวงจร (13%)
  • เว็บไซต์แบรนด์ (12%)
  • เว็บไซต์ห้างสรรพสินค้า (12%)
  • ร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็ก (12%)

แน่นอนว่าที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่หันไปเปิดร้านในอีมาร์เก็ตเพลสก็เพราะขายง่าย โดยแต่ละแพลตฟอร์มก็มีโปรโมชันกระตุ้นตลาดตลอด ส่วนโซเชียลมีเดียก็เป็นพื้นที่ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากอยู่แล้ว อีกทั้งยังตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้าไทยที่ชอบ แชท คุยกับร้านเพื่อซื้อของ

อย่างไรก็ตาม ไม่มีแพลตฟอร์มหรือช่องทางไหนจะดีที่สุด อย่างอีมาร์เก็ตเพลสในไทยไม่ได้มีรายเดียว ถ้าขายทุกแพลตฟอร์มก็ต้องบริหารจัดการเยอะ ขณะที่จำนวนร้านค้าที่ขายสินค้าเหมือน ๆ กันก็มีมหาศาล การที่จะให้ลูกค้ามาซื้อซ้ำร้านเดิมหรือจดจำชื่อแบรนด์บนอีมาร์เก็ตเพลสก็ยาก หรือการขายผ่านโซเชียลมีเดียแม้จะง่าย แต่ก็มีการปรับอัลกอริทึมใหม่ จนทำให้โพสต์ของร้านถูกลดการมองเห็นลงอย่างมาก

ส่วนข้อดีของการมี เว็บไซต์ ก็คือ ความน่าเชื่อถือ สามารถ แสดงตัวตนของแบรนด์ได้ชัดเจน สามารถ เก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อใช้ประโยชน์ ได้ง่ายกว่า แถมหน้าเว็บไซต์มีโอกาสคงอยู่ใน Google Search มากกว่าอีกด้วย ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าคนไทยชอบค้นหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า

ไม่ใช่แค่เว็บไซต์ออนไลน์ แต่เป็นบริการฟูลฟิลล์เมนท์

ในช่วงแรก LnwShop เป็นเหมือน Welove Shopping หรือ Talad.Com คือ เป็นแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ออนไลน์ให้ร้านค้าที่ต้องการขายของ แต่ตั้งแต่มีโซเชียลมีเดียมีอีมาร์เก็ตเพลสเข้ามา ทำให้ผู้ที่จะเริ่มต้นขายของก็จะเริ่มกับสิ่งที่คุ้นเคย ขณะที่มองว่าเว็บไซต์เป็นเรื่องยุ่งยาก ทำให้ตอนนี้ เว็บไซต์ไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่จะสร้าง

“ข้อจำกัดที่ทำให้ผู้ประกอบการไม่เปิดเว็บไซต์ของตัวเองก็เพราะหน้าที่ของเว็บยังเป็นแบบ Passive หรือซื้อขายแบบต้อนรับ เช่นเดียวกับอีมาร์เก็ตเพลส แต่เพราะเขามีส่วนลดคนเลยเข้าเรื่อย ๆ ดังนั้น คนที่จะทำเว็บเองต้องมั่นใจว่ามีลูกค้า สามารถขายได้ด้วยตัวเอง”

 

ดังนั้น LnwShop ต้องการปรับภาพไม่ใช่แค่ เว็บไซต์ ที่แต่ต้องเป็นบริการ ฟูลฟิลล์เมนท์ หรือระบบการจัดการร้านค้าออนไลน์ครบวงจร โดยล่าสุด ได้เปิดตัว LnwShop Pro ซึ่ง LnwShop ได้เป็นพันธมิตรกับหลาย ๆ แพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็น Lazada, Shopee, JD Central, Facebook Shop Instagram Shopping และ Google Shopping ในการเชื่อมต่อกับหลังบ้านให้สามารถบริหารจัดการผ่านเว็บไซต์ได้ โดยที่ข้อมูลทุกช่องทางจะเชื่อมถึงกันหมด และอัพเดทถึงกันทุกช่องทางอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นยอดขาย, สต็อกสินค้า, การขนส่ง, การทำบัญชี และการชำระเงิน เป็นต้น

LnwShop Pro จะเหมาะกับร้านระดับองค์กรที่มียอดขายเยอะ มีหลากหลายช่องทาง เพราะนี่จะช่วยให้แบรนด์บริหารจัดการการขายได้ง่ายขึ้น ช่วยอำนวยความสะดวกให้ร้านค้า”

คู่แข่งเยอะ แต่อยู่ได้เพราะฟังเสียงลูกค้า

แน่นอนว่าการที่อีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างมาก เพราะทุกแบรนด์ปรับตัวจากออฟไลน์มาเป็นออนไลน์ และสิ่งที่ตามมาก็คือ คู่แข่งจากต่างประเทศ อาทิ SHOPLINE ผู้ให้บริการแบบ Total Solution ทั้งการทำเว็บไซต์และการจัดการโซเชียลคอมเมิร์ซจากฮ่องกง หรือ GoDaddy ผู้ให้บริการเว็บไซต์จากอเมริกา

ซึ่งความน่ากลัวของคู่แข่งจากต่างประเทศคือ เงินทุน ในการทำตลาด แต่ LnwShop มองว่าจุดแข็งของแพลตฟอร์มคืคือความเป็นโลคอลแบรนด์ทำให้สามารถ เข้าใจความต้องการลูกค้าได้อย่างแท้จริง และสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุด

เพิ่มลูกค้า 10,000 รายใน 3 ปี

ที่ผ่านมา LnwShop เห็นการเปลี่ยนแปลงแทบในตลาดแทบจะทุกไตรมาส โดยเฉพาะ พฤติกรรมผู้บริโภค และ การตลาด ที่เปลี่ยนไป แต่ที่ LnwShop ยังสามารถทำตลาดได้ตลอด 11 ปีเป็นเพราะมีความ ยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของธุรกิจจนปัจจุบันไม่ใช่แค่ผู้ให้บริการเว็บไซต์ แต่เป็น ระบบการจัดการร้านค้าออนไลน์ครบวงจร

“ที่ผ่านมาเราดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด ทำให้เราเห็นปัญหาจริง ๆ ของเขา เราจึงรู้และเข้าใจว่าทิศทางของบริษัทต้องไปทางไหน และออกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรงใจจริง ๆ”

ปัจจุบัน LnwShop มีลูกค้ากว่า 850,000 ร้านค้า จากทุกภูมิภาค โดยภายใน 3 ปีจากนี้ LnwShop ตั้งเป้าที่จะเพิ่มลูกค้าเฉพาะส่วนของ LnwShop Pro ให้ได้ 10,000 ราย

]]>
1380218
ก้าวต่อไปของ LnwShop ปรับตัวครั้งใหญ่ ในยุคที่คนซื้อของผ่านเว็บไซต์น้อยลง https://positioningmag.com/1257766 Thu, 19 Dec 2019 11:32:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1257766 ตลาดอีคอมเมิร์ซในเมืองไทยเเละอาเซียนกำลังเฟื่องฟูสุด มูลค่าพุ่งถึง 3.2 ล้านล้านบาท ยอดผู้ใช้อินเทอร์เน็ตก็โตเกือบ 4 เท่าจาก 10 ปีที่ผ่านมา แพลตฟอร์มใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาตีตลาดนักช้อปออนไลน์ทำให้อีคอมเมิร์ซสัญชาติไทยในตลาดเเทบไม่เหลือ เเต่ “เทพช็อป LnwShop” ยังคงอยู่เเละกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 โดยให้บริการระบบบริหารร้านค้าออนไลน์เเบบครบวงจร

ปรับตัวอย่างไร เมื่อคนไม่นิยมซื้อของในเว็บไซต์เเล้ว…

ณัฐวิทย์ ผลวัฒนสุข กรรมการผู้จัดการบริษัท แอลเอ็นดับเบิ้ลยูช็อป จำกัด ผู้ร่วมก่อตั้ง Lnw Shop (เทพช็อป) กล่าวถึงภาพรวมของธุรกิจในปัจจุบันว่าผู้ประกอบการเริ่มหันไปเปิดร้านใน E-Market Place มากขึ้นเพราะขายง่าย
เเละมีโปรโมชั่นใหญ่ทุกเดือน เเต่ข้อจำกัดที่ยังเป็นจุดเเข็งของเว็บไซต์คือ “ความน่าเชื่อถือ” การมีเว็บไซต์ทำให้คนจดจำเเละเป็นลูกค้าประจำได้

ขณะเดียวกันเมื่อเทคโนโลยีโซเชียลพัฒนาขึ้นมาก คนก็หันไปเปิดร้านในสังคมออนไลน์ซึ่งตอบโจทย์ลูกค้าคนไทยได้เป็นอย่างดี เพราะคนไทยชอบเเชทถามก่อนซื้อ เเละยังขึ้นเเท่นซื้อของผ่านเเชทออนไลน์มากที่สุดในโลกด้วย

“เราต้องก้าวออกมาจากการเป็นเเค่เว็บไซต์ที่คนอาจเข้าน้อยกว่า โดยปรับมุมมองจากเว็บไซต์สำเร็จรูปให้เป็นระบบการจัดการร้านค้าออนไลน์มากขึ้น เชื่อมต่อแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่างกูเกิล เฟซบุ๊ก ลาซาด้า และช้อปปี้ ทำให้ร้านค้าสามารถขายทุกช่องทางเเละมีระบบเพย์เมนต์รองรับ”

ณัฐวิทย์ ผลวัฒนสุข กรรมการผู้จัดการบริษัท แอลเอ็นดับเบิ้ลยูช็อป จำกัด ผู้ร่วมก่อตั้ง Lnw Shop

ข้อมูลล่าสุดมีจำนวนคนที่เข้ามาเปิดร้านกับ Lnwshop แล้วราว 740,000 ร้านเเละเเอคทีฟอยู่ประมาณ 5-6 หมื่นร้าน มียอดผู้ชมต่อวัน 2 ล้านคน โดยมี 3 กลุ่มสินค้าขายดี คือ กลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่น กลุ่มแก็ดเจ็ตอุปกรณ์ไอที
ตามมาด้วยกลุ่มเครื่องสำอางเเละอาหารเสริม

“ยุคนี้ต้องทำควบคู่กันทั้งขายใน E-MarketPlace เเละต้องมีเว็บไซต์เป็นพื้นที่ของตนเอง ไม่ควรทำช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ร้านค้าต้องขายทุกช่องทาง อย่าผูกติดกับแพลตฟอร์มใดเพียงเเพลตฟอร์มเดียว”

บิ๊กโซเชียลชิงตลาดเเชท E-MarketPlace เเข่งส่งเร็ว

Lnwshop เปิดเผยสถิติที่น่าสนใจสำหรับผู้ขายของออนไลน์ว่า ตอนนี้ผู้ซื้อของออนไลน์ที่หน้าเว็บนั้นมาจาก Google 50% จากการโฆษณา 19% การเข้าชมโดยตรง 17% และจาก Facebook 12%

“ในปีหน้าเราจะได้เห็นผู้ให้บริการโซเซียลคอมเมิร์ซ ลงสนามเเข่งพัฒนาระบบเพื่อให้บริการกับลูกค้าของตัวเองกันดุเดือดมาก โดยเฉพาะการขายผ่านช่องทางการเเชท ขณะที่ผู้ให้บริการ E-MarketPlace รายใหญ่จะหันมาพัฒนาความรวดเร็วในการขนส่งสินค้าให้ส่งสินค้าถึงมือลูกค้าได้ในวันเดียว หรือ “Same Day Delivery” ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล เพื่อรองรับพฤติกรรมลูกค้ายุคใหม่ที่ซื้อเเล้วต้องได้ทันที” ณัฐวิทย์กล่าว

สำหรับ Lnwshop ตอนนี้ได้พัฒนาระบบภายในให้ผู้ขายสามารถปรับข้อมูลสินค้าบริการต่างๆ ไปจนถึงระบบการสั่งซื้อ การชำระเงิน ให้สามารถเชื่อมต่อข้อมูลที่อัพเดตหน้าร้านออนไลน์ของตัวเองไปยังแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ ได้พร้อมกันโดยอัตโนมัติ

ทั้งนี้ Lnw มีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้เเก่ LnwShop, LnwPay, LnwMall, LnwPickPack และ LnwDropShip

LnwX.com X Google เจาะร้านค้าหน้าใหม่

ช่วงเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา กูเกิลได้ร่วมมือกับ Lnw เปิดตัวแพลตฟอร์มน้องใหม่ LnwX เครื่องมือโฆษณา Google Shopping Ads ให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ไม่ว่าจะขายผ่านช่องทางไหนจะ Facebook Line หรือ IG ก็สามารถลงโฆษณากับกูเกิลได้ผ่าน LnwX.com

“ตอนนี้ร้านค้าของเราเริ่มหันมาลงโฆษณากับกูเกิลเเล้วราว 1-2% เป็นร้านค้าเจ้าใหญ่ มีผลเพิ่มยอดขายได้สูงสุด 9 เท่า โดยที่ยังน้อยอยู่อาจเป็นเพราะว่าผู้ขายใน Lnwshop ยังชินกับการขายบนเเพลตฟอร์มของเราที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เเต่เชื่อว่าเมื่อผู้ขายเริ่มเห็นว่าการโฆษณามีผลช่วยเพิ่มยอดขายอย่างมาก ก็จะมีผู้ใช้งาน LnwX.com มากขึ้น โดยตั้งเป้าปีหน้าจะเพิ่มเป็น 10% เเละต้องการตีตลาดผู้ขายออนไลน์ที่เป็น SMEs ในไทยราว 4 เเสนราย ”

พ่อค้าเเม่ค้าเตรียมปรับตัว EEC เร่งสินค้าจีนส่งถึงไทยไว

ปฐมพล แสงอุไรพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แอลเอ็นดับเบิ้ลยูช็อป จำกัด ผู้ร่วมก่อตั้ง Lnw Shop กล่าวว่า ความท้าทายในปี 2020 และอาจส่งผลต่อผู้ประกอบการ SMEs ในไทย คือการเข้ามาของศูนย์กระจายสินค้าอัจฉริยะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของอาลีบาบา เพราะอนาคตสินค้าที่ส่งเข้ามาจากจีนจะถึงมือลูกค้าในเมืองไทยเร็วขึ้น จากการที่จุดพักสินค้ารองรับภายในประเทศแล้วและทำให้สินค้าไทยแข่งขันเรื่องราคายากขึ้น

“ผู้ขายที่เน้นรับพรีออเดอร์สินค้าจากจีนจะได้รับผลกระทบส่วนนี้เยอะมาก ดังนั้นควรวางเเผนรีบปรับตัว หรือเสนอขายสินค้าให้โดดเด่นมากขึ้น เจาะตลาด niche market มากขึ้น เเละใช้จุดเเข็งของ SMEs ไทยคือเเชทขายกับลูกค้าที่เเสดงถึงความเอาใจใส่ ความเข้าใจเเละใกล้ชิดลูกค้ามาสู้ รวมถึงเพิ่มบริการหลังการขาย เเละอาจมีการปรับราคาให้เหมาะสม”

ทั้งนี้ ในปี 2561 LnwShop มีการทำธุรกรรมเกิดขึ้นประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยบริษัทมีอัตราการเติบโตธุรกิจไม่ต่ำกว่า 10% ต่อเนื่องในรอบหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่ภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซ มีอัตราเติบโตเฉลี่ย 20-30%

ณัฐวิทย์ ผลวัฒนสุข ณัฐวิทย์ ผลวัฒนสุข กรรมการผู้จัดการบริษัท แอลเอ็นดับเบิ้ลยูช็อป จำกัด (ซ้าย) เเละ
ปฐมพล แสงอุไรพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แอลเอ็นดับเบิ้ลยูช็อป จำกัด (ขวา) สองผู้ร่วมก่อตั้ง LnwShop

LnwShop กับ 1 ทศวรรษที่ผ่านมา

“สิ่งที่ทำให้ Lnw Shop สามารถดำเนินกิจการจนถึงในปัจจุบันได้ ท่ามกลางการเเข่งขันของธุรกิจออนไลน์ โดยเฉพาะการเข้ามาของแพลตฟอร์ม E-MarketPlace รายใหญ่ คือการปรับตัวเสมอ ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไปเร็วเเค่ไหน ผู้ประกอบการรายย่อยก็ต้องปรับตัวเช่นกัน”

ซีอีโอ Lnw ทิ้งท้ายไว้ว่า ท่ามกลางการเเข่งขันที่สูงมากเเละกำลังมีบริษัทใหญ่ๆ เข้ามาทำธุรกิจเดียวกันกับเทพช็อป สิ่งที่เราจะทำต่อไปที่นอกเหนือจากการพัฒนาเเพลตฟอร์มเเละการเชื่อมต่อกับอีคอมเมิร์ซรายอื่นๆ เเล้วก็คือการชูการให้บริการความเอาใจใส่ ความไว้วางใจเเละการจับมือไปด้วยกันกับผู้ประกอบการรายย่อยของไทยให้มีการขยายธุรกิจต่อไปได้

 

]]>
1257766