แหล่งท่องเที่ยว – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 22 Jun 2021 05:30:31 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 AWC จับมือ “อินเตอร์คอนฯ” เปิดโรงแรมหรูใน “เวิ้งนาครเขษม” ที่ดินทำเลทองกลางกรุงเก่า https://positioningmag.com/1338174 Tue, 22 Jun 2021 04:40:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1338174 IHG ประกาศเซ็นสัญญาบริหารโรงแรมใหม่ในไทย 3 แห่งกับ AWC โดย 2 ใน 3 แห่งตั้งอยู่ในโครงการ “เวิ้งนาครเขษม” แบ่งเป็นโรงแรมแบรนด์หรู “อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์” กำหนดเปิดปี 2569 และโรงแรมแบบไลฟ์สไตล์-บูติกอีกแห่งหนึ่ง

การพัฒนาโครงการย่าน “เวิ้งนาครเขษม” มีความคืบหน้าไปอีกขั้น โดยการประกาศจากทาง IHG Hotel& Resorts บรรลุดีลเซ็นสัญญาบริหารโรงแรม 3 แห่งให้กับ Asset World Corporation (AWC) รวมทั้งหมด 629 ห้อง ดังนี้

  • โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์ – ตั้งอยู่ในโครงการมิกซ์ยูสย่านเวิ้งนาครเขษม ใกล้เยาวราช จำนวน 332 ห้อง ภายในมีบาร์ฟิตเนส สระว่ายน้ำ พื้นที่อเนกประสงค์รองรับการจัดอีเวนต์ขนาด 1,400 ตร.ม. และห้องประชุม 8 ห้อง กำหนดเปิดปี 2569
  • โรงแรมไลฟ์สไตล์-บูติก (ยังไม่ระบุแบรนด์) – ตั้งอยู่ในโครงการมิกซ์ยูสย่านเวิ้งนาครเขษม ใกล้เยาวราช จำนวน 63 ห้อง ดัดแปลงมาจากอาคารพาณิชย์ดั้งเดิม สูง 4 ชั้น (ยังไม่กำหนดช่วงเวลาเปิด)
  • โรงแรมไลฟ์สไตล์-บูติก (ยังไม่ระบุแบรนด์) – ตั้งอยู่ในโครงการ “อควอทิค” (Aquatique) เมืองพัทยา ซึ่งเป็นโครงการคอมเพล็กซ์ไลฟ์สไตล์ความบันเทิง มีโรงแรม ห้างร้าน ร้านอาหาร และพื้นที่จัดประชุม ตัวโรงแรมนี้มีจำนวนห้องพัก 234 ห้อง กำหนดเปิดปี 2567

สำหรับโครงการมิกซ์ยูสบนพื้นที่เวิ้งนาครเขษมนั้น ตามแผนการพัฒนาของ AWC จะใช้เงินลงทุนประมาณ 16,600 ล้านบาท สร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ภายในมีโรงแรม 2 แห่งดังกล่าว โครงการที่พักอาศัย ห้างสรรพสินค้า ศูนย์อาหารที่เปิด 24 ชั่วโมง และมีไฮไลต์เป็น “เจดีย์ทองคำ” สูง 8 ชั้น เป็นแลนด์มาร์กสำหรับดึงดูดนักท่องเที่ยว

ภาพเบื้องต้นการพัฒนาโครงการบริเวณเวิ้งนาครเขษม (Photo : IHG)

“นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับร้านค้าปลีกใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ เส้นทางมรดก มรดกทางประวัติศาสตร์ และถนนแห่งความบันเทิง ที่มีพื้นที่สำหรับการเฉลิมฉลองเทศกาล รวมไปถึงการแสดงต่างๆ ทางวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งใหม่อย่างเจดีย์ทองคำ ที่กำลังอยู่ในแผนพัฒนา เช่นเดียวกันกับการก่อสร้างประตูทางเข้า เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวสู่เมืองที่สะท้อนคุณค่าแห่งประวัติศาสตร์” เป็นข้อมูลการพัฒนาที่ระบุในแถลงการณ์จาก IHG

ที่ดินเวิ้งนาครเขษมขนาด 14 ไร่นี้ เครือทีซีซีของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดีเป็นผู้ชนะประมูลด้วยเม็ดเงินเกือบ 5,000 ล้านบาท (รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด) โดยซื้อจากราชสกุลบริพัตร เจ้าของเดิม เมื่อปี 2555 ก่อนส่งต่อให้ AWC ที่เป็นบริษัทในเครือเช่นกันเป็นผู้พัฒนา

ก่อนหน้าการซื้อขายเปลี่ยนมือ เวิ้งนาครเขษมเคยเป็นย่านดังด้านการขายเครื่องดนตรี รวมถึงการค้าของเก่า หนังสือเก่า ปัจจุบันพื้นที่นี้ยิ่งกลายเป็นทำเลทองเมื่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินตัดผ่าน และมีสถานีรถไฟฟ้าสามยอดอยู่ห่างไปเพียง 300 เมตร

“การลงนามสัญญาข้อตกลงกับพาร์ตเนอร์ระดับโลกในครั้งนี้ สอดคล้องกับแผนพัฒนาคุณภาพและวิสัยทัศน์ในการสร้างความยั่งยืนเพื่อการเติบโตในอนาคตของเราด้วยเช่นกัน การร่วมมือในครั้งนี้ยังเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่น ว่าเราพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับการท่องเที่ยวไทย โดยโครงการเหล่านี้ของเรา นำเสนอการออกแบบสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ควบคู่ไปกับประสบการณ์ที่น่าประทับใจ พร้อมทั้งสร้างคุณค่าให้กับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมโดยรอบอีกด้วย” วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) (AWC) กล่าว

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

]]>
1338174
ออสเตรเลีย “สั่งปิดหาดดัง” หลังประชาชนนับพันไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐในการรับมือ COVID-19 https://positioningmag.com/1269238 Sat, 21 Mar 2020 12:27:37 +0000 https://positioningmag.com/?p=1269238 ตำรวจซิดนีย์ปิดหาด Bondi หาดดังแห่งออสเตรเลีย หลังจากประชาชนหลายพันคนยังคงไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐในการเว้นระยะห่างทางสังคม พร้อมเตือนประชาชนว่ารัฐอาจปิดชายหาดอื่นๆ เพิ่มเติมอีกหากยังไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ

ชายหาด Bondi ทางตะวันออกของซิดนีย์ยังคงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มาพักอาบแดด และใช้ชีวิตตามปกติในร้านอาหารรวมถึงบาร์ริมหาด แม้ว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 ในออสเตรเลียจะมีผู้ติดเชื้อสูงถึง 874 ราย มีผู้เสียชีวิต 7 ราย และภาครัฐได้แจ้งเตือนประชาชนให้เว้นระยะห่างจากกันอย่างน้อย 1.5 เมตร พร้อมขอความร่วมมือไม่ชุมนุมชนกลางแจ้งเกินกว่า 500 คนต่อสถานที่ไปแล้ว

พฤติกรรมของประชาชนที่ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐ ทำให้ในที่สุดรัฐนิวเซาธ์เวลส์ต้องปิดชายหาด Bondi เพื่อความปลอดภัย

David Elliott รัฐมนตรีด้านตำรวจและบริการฉุกเฉินของรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า ภาพของกลุ่มครอบครัวที่ยังคงเข้าห้องน้ำสาธารณะร่วมกันตามริมชายหาด เป็นภาพสะท้อนว่าชุมชนนี้ “ปฏิเสธโดยสิ้นเชิง” ต่อสถานการณ์โรคระบาด

ด้าน Brad Hazzard รัฐมนตรีด้านสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าววว่า เขาเกรงว่า “อคติเพราะการคิดบวก” ของคนออสเตรเลีย โดยเฉพาะกลุ่มประชาชนวัยรุ่น-วัยหนุ่มสาว จะทำให้สถานการณ์แย่ลง และเกรงว่าจะทำให้ประเทศไปสู่จุดเดียวกับประเทศอิตาลี ซึ่งขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตแซงหน้าประเทศจีนไปแล้ว

ไม่ใช่แค่ออสเตรเลียที่มีปัญหากับการควบคุมให้ประชาชนเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ก่อนหน้านี้ประเทศอังกฤษไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนของตนในการหลีกเลี่ยงแหล่งชุมชน จนในที่สุด Boris Johnson นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ต้องออกคำสั่งเมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2020 ให้ผับ ร้านอาหาร และแหล่งพักผ่อนหย่อนใจต่างๆ ปิดเป็นการชั่วคราว

ในสหรัฐอเมริกาก็เช่นกัน Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ร้องขอประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นวัยหนุ่มสาวให้ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเป็นพาหะนำเชื้อไปสู่ผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิ (Spring Break) ทำให้นักศึกษามหาวิทยาลัยจำนวนมากยังคงเดินทางท่องเที่ยวและปาร์ตี้ตามปกติ จนรัฐฟลอริดา จุดหมายปลายทางยอดฮิตของกลุ่มนักศึกษา ต้องทยอยออกคำสั่งปิดหาดและผับบาร์เร่งด่วน

Source

]]>
1269238
โบกมือลา 12 ปี “เพลินวาน” บทเรียนแลนด์มาร์กท่องเที่ยว ขาดการเปลี่ยนแปลงจนขาดทุนเรื้อรัง https://positioningmag.com/1258380 Tue, 24 Dec 2019 15:18:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1258380 “กูรูท่องเที่ยว” วิเคราะห์ “เพลินวาน” ที่เที่ยวชื่อดังเมืองหัวหิน ทำไมไปไม่รอด ทั้งที่เป็นเมืองท่องเที่ยว เตรียมโบกมือลา 12 ปี เหลือไว้แค่ความทรงจำ ยื้อไม่ไหว เจอพิษเศรษฐกิจ ขาดทุนสะสมมานาน

โบกมือลา “เพลินวาน” 12 ปี

“ก้าวแรกของเพลินวานเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 12 ปีที่แล้ว จากความคิดที่อยากนำความเชื่อและความชอบมาทำเป็นธุรกิจเพื่อสังคม โดยไม่คาดหวังใดๆ นอกจากมีความสุขที่ได้ทำ สิ่งที่เราได้กลับมาประเมินค่าไม่ได้ มันคือความสุขที่สัมผัสได้จากชุมชนของเรา ทั้งคู่ค้าและลูกค้าที่สนับสนุนเพลินวานมาโดยตลอด”

ก้อย-ภัทรา สหวัฒน์ เจ้าของเพลินวาน ที่นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวย้อนยุคโบราณชื่อดังของหัวหิน โพสต์อำลากิจการผ่านเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “Phattra Sahawat” หลังเจอปัญหาเศรษฐกิจและภาวะขาดทุนสะสมที่มีมานาน

“ตลอดเส้นทางที่ผ่านมา เราทุกคนได้เรียนรู้ ได้สร้างประสบการณ์ร่วมกัน ได้ส่งต่อแรงบันดาลใจ และได้รู้สึกภูมิใจที่ได้คิดงานอยู่บนพื้นฐานความเป็นไทย แต่ทุกอย่างต้องเปลี่ยนแปลง เพลินวานกำลังจะกลายเป็นความทรงจำที่ดีและเป็นโรงเรียนที่เราจะไม่ลืม วันนี้ เราจะขอปิดฉากเวทีนี้ เพื่อเวทีต่อไป ที่ยังจะทำประโยชน์ต่อสังคม จากความเชื่อและความชอบเดิมที่วันนี้มันกลายเป็นความรัก

ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ขอบคุณทุกๆ คนที่รักเพลินวานและสนับสนุนเรามาตลอด เพลินวานกำลังดำเนินการเป็นวันสุดท้ายในวันที่ 31 มกราคม 2020 อยากให้ทุกคนแวะมาเก็บเกี่ยวความทรงจำดีๆ และขอให้ทุกคนคอยให้กำลังใจพวกเราในการเดินทางสู่ความท้าทายข้างหน้า จนกว่าจะพบกันใหม่

ระหว่างนี้ หากคิดถึงกัน พบกันที่เพลินวานพาณิชย์ สาขา ทองหล่อ 13, สาขา เดอะสตรีท รัชดา, สาขา สถาบันประสาทวิทยา, สาขา ล้ง 1919, และสาขา หัวหิน (ที่อยู่ใหม่เร็วๆ นี้) ซึ่งยังคงเปิดให้บริการอยู่เหมือนเดิมทุกสาขา”

ทำให้เหล่านักท่องเที่ยวที่เคยไปเก็บความทรงจำที่เพลินวานรู้สึกใจหายไปตามๆ กัน เข้าไปคอมเมนต์เล่าความทรงจำที่เคยไปเยือน พร้อมทั้งยังเข้าไปให้กำลังใจเจ้าของเพลินวานอีกเพียบ

จริงๆ แล้วถ้าย้อนกลับไป เพลินวานคือสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำได้ดีพอสมควร สามารถปลุกหัวหินให้ดูย้อนยุค และสร้างคำว่า “ชิค” ให้เกิดที่หัวหิน กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญประจำหัวหินไปแล้วเรียบร้อย อีกทั้งโลเคชั่นยังตั้งอยู่ในจุดที่นักท่องเที่ยวกำลังกลับบ้าน เป็นจุดแวะได้เป็นอย่างดี

ไร้การปรับปรุง เลยไม่ดึงดูด

เมื่อสอบถามความคิดเห็นของ ก้อ-วรุตม์ โอนพรัตน์วิบูล เจ้าของแฟนเพจท่องเที่ยวชื่อดัง “เที่ยวเอง” ในฐานะที่เดินทางท่องเที่ยวมาแล้วรอบโลก ให้ช่วยวิเคราะห์ การอำลากิจการของเพลินวานว่าทำไมไปไม่รอด ทั้งที่คนน่าจะเยอะในเมืองท่องเที่ยวแบบหัวหิน

“ช่วงหลังๆ ความน่าสนใจอาจจะมีส่วน ถ้าเกิดว่าคนที่เคยไปแล้วเขาก็อาจจะไปแค่ครั้งเดียว หรืออย่างมากแค่ 2 ครั้ง เคยไปแล้วก็ไม่ไปอีก คิดว่าตรงนี้มันน่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบร้านค้า หรือการตกแต่ง ถ้าเกิดว่ามีการปรับเปลี่ยนอยู่เสมอเพื่อดึงดูดให้คนเข้ามาใหม่ๆ คิดว่าอาจจะอยู่ได้ หรือว่าดีกว่านี้ครับ

ในมุมของตัวเองคิดว่า หัวหินยังไงมันก็ฮิตตลอดกาลอยู่แล้ว คือหัวหินมันก็มีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ เกิดขึ้นมากขึ้น ที่อาจจะตอบโจทย์คนในวัยรุ่นมากขึ้น เพราะว่าเคยไปเพลินวานแค่ 2 ครั้ง ก็เลยไม่รู้ว่ายุคหลังๆ 4-5 ปี หลังเขาได้มีการปรับเปลี่ยนโฉมหรือว่าเขายังเหมือนเดิมหรือเปล่าอันนี้ก็ไม่แน่ใจ

แต่ให้เดาคนก็อาจจะเคยไปแล้วก็อาจจะรู้สึกว่ามันไม่มีอะไรใหม่หรือเปล่า มันเหมือนอยู่กับที่เดิม คนไปแล้วเขาก็อาจจะไม่ไปอีก ทำให้อาจจะได้รายได้น้อยลง เขาอาจจะไม่ได้ปรับเปลี่ยนหรือไม่ได้มีอะไรให้คนไปมากขึ้น และอีกอย่างรอบบริเวณหัวหินอาจจะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้คนไปได้มากกว่าเดิม

หากจะให้เพลินวานอยู่รอดต่อไป เจ้าของเพจท่องเที่ยวชื่อดังยังได้วิเคราะห์อีกว่า ต้องมีการปรับเปลี่ยนดึงปลุกกระแสสถานที่เหล่านี้อยู่อยู่ตลอดเวลา เพื่อจะดึงดูดนักท่องเที่ยวมากกว่าเดิม

ถึงแม้ว่าเพลินวานคนเขาก็เข้าไป คนอาจจะแวะเข้าไปแต่เขาไม่ใช้จ่ายข้างใน มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรต่อธุรกิจ ก็คิดว่าน่าจะต้องมีอะไรปรับเปลี่ยนให้เป็นที่พูดถึง คนก็อาจจะเข้าไปจอดรถแล้วก็เข้าไปถ่ายรูป ไม่ได้ใช้จ่ายอะไรแล้วก็ออกมา อีกอย่างมันไม่ได้มีกระแสตลอดเวลา

“คิดว่าน่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนลูกเล่นกิมมิกอะไรต่างๆ อยู่เสมอ หรือมีโปรโมชั่น ดึงคนเข้ามาด้วยโปรโมชั่น เพื่อดึงคนเข้ามาให้แข่งกับคู่แข่งหรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่อยู่รอบบริเวณได้ ไม่ใช่แค่ในหัวหิน อาจจะในรอบจังหวัดหรือในรอบภูมิภาค เพราะว่าเดี๋ยวนี้สถานที่ท่องเที่ยวก็เกิดขึ้นใหม่เยอะมาก แค่ในประเทศไทยก็คือเกิดขึ้นเยอะมากอยู่แล้ว

อีกอย่างคิดว่าต้องมีความน่าสนใจ เพราะคนไปหัวหินก็จริง แต่ว่ามันก็มีช้อยให้เลือกให้คนไปเยอะมาก อย่างบางคนเขาไปหัวหิน ถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้อยากไปที่ไหนเขาก็นอนอยู่แต่โรงแรมก็มี หรือว่าเขาอยากจะไปเที่ยวไหน ก็ยังมีตัวเลือกอีกเพียบเลยเกิน 10 ที่ ทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร ไนต์มาร์เก็ต สถานที่อื่นๆ มีให้เที่ยวเยอะมากกว่า”

เทรนด์ท่องเที่ยวย้อนยุคยังอยู่

“เรื่องเทรนด์ท่องเที่ยวการย้อนยุคคิดว่าคนก็ยังสนใจ ในเรื่องเทรนด์กันแบบว่าไปถ่ายรูปบรรยากาศที่ตกแต่งให้ดูเก่าให้ดูย้อนยุค คิดว่าก็ยังขายได้ แต่คิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องของดีเทลข้างในมากกว่า เช่น เข้าไปนอกจากถ่ายรูปคนก็ไม่รู้จะทำอะไร จะกินร้านอาหารหรืออะไร มันก็อาจจะยังไม่ได้ตอบโจทย์คนตรงนั้น อาจจะมีคนเข้าไป แต่มันอาจจะไม่ได้มีการใช้จ่ายข้างใน คนก็เข้าไปถ่ายรูป ก็โอเคจบ”

เจ้าของเพจท่องเที่ยวชื่อดัง วิเคราะห์เติ่มเติมถึงเทรนด์สถานที่ท่องเที่ยวแบบจำลองในไทยว่า คนก็ยังให้ความสนใจเกี่ยวกับเทรนด์เหล่านี้อยู่ แต่ต้องทำให้สถานที่เหล่านั้นมีกระแสดึงดูดคนอยู่ตลอดเวลาถึงจะอยู่รอดได้

“ยิ่งคนที่เที่ยวในประเทศก็คือเที่ยวตามกระแส ถ้าเกิดว่ามันไม่มีกระแสขึ้นมาคนเขาก็ไม่ไป หรือเขาอาจจะลืม หรือว่าไม่ได้สนใจ มองข้ามไป บางคนจำได้รู้จักอย่างผมก็จำได้และรู้จักแต่ว่าบางทีเราก็ลืมก็มองข้ามไปเพราะไม่ได้มีกระแสอะไรขึ้นมา”

ย้อนกลับไปในอดีตเพลินวานเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นๆ ของ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจัดขึ้นในธีมย้อนยุคในอดีตของเมืองไทย จำลองบรรยากาศย้อนยุค ทั้งร้านกาแฟ ร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร ร้านเหล้า มาให้เพลิดเพลินกัน

แต่เมื่อยุคสมัยที่เปลี่ยนไป รวมไปถึงรูปแบบการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป และเพลินวานนับว่าเป็นสถานที่คนนิยมไปเที่ยวถ่ายรูป โดยส่วนใหญ่จะไปแค่ครั้งเดิม ไม่นิยมไปซ้ำ ทำให้ช่วงหลังเพลินวานได้ลดความนิยมลง

จากการตรวจสอบพบว่าผลประกอบการของ บริษัท เพลินวาน จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจเพลินวาน หัวหิน และ ร้านเพลินวานพาณิชย์ ถือหุ้นและบริหารงานโดย “ภัทรา สหวัฒน์” พบว่า ผลประกอบการย้อนหลังจากปี 2558-2560 ขาดทุนต่อเนื่อง โดยในปี 2558 มีรายได้ราว 36.75 ล้านบาท ขาดทุน 6.36 ล้านบาท

และในปี 2559 มีรายได้ 38.96 ล้านบาท ขาดทุน 21.57 ล้านบาท โดยปี 2560 ล่าสุดพบว่า มีรายได้สูงขึ้นเป็น 44.66 ล้านบาท แต่ก็ขาดทุนเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยขาดทุนหนักถึง 36.11 ล้านบาท

เพลินวาน ถือเป็นอีกหนึ่งตำนานความทรงจำคู่เมืองหัวหิน ที่นักท่องเที่ยวหลาย ๆ คน ต่างคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างดี

Source

]]>
1258380