สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 2 ขยายตัวเพียง 0.36% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่เเล้วที่ขยายตัวถึง 6.73% โดยถือว่าเป็นการเติบโตที่ต่ำที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ นับตั้งเเต่มีการเริ่มเผยแพร่ตัวเลข GDP ในปี 1991

ดูเหมือนว่าเป้าหมายของนายกรัฐมนตรี Nguyen Xuan Phuc ที่พยายามจะผลักดันการเติบโตให้เกิน 5% ในปีนี้จะเป็นเรื่องยากเเละเป็นไปไม้ได้ เพราะ COVID-19 ยังคงระบาดและห่วงโซ่อุปทานโลกได้รับผลกระทบต่อเนื่อง

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์เมื่อเดือนเมษายนว่า GDP ของเวียดนามจะขยายตัวมากที่สุดในเอเชีย ราวร้อยละ 2.7 ในปีนี้ 

• เศรษฐกิจ “สิงคโปร์” ทรุด ปรับคาดการณ์ GDP ปีนี้ติดลบถึง 7% ต่ำสุดนับตั้งเเต่ก่อตั้งประเทศ

การแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจของเวียดนาม เเม้จะไม่ได้รับผลกระทบมากเท่าประเทศอื่น เนื่องจากมาตรการการควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพ โดยพบผู้ติดเชื้อในประเทศเพียง 355 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสดังกล่าว นอกจากนี้เวียดนามยังไม่พบการติดเชื้อในชุมชนมาเป็นเวลานานกว่า 2 เดือนเเล้ว

อย่างไรก็ตาม เวียดนามยังคงเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออกอย่างมาก จากรายงานของ GSO ระบุว่า ยอดส่งออกในช่วงครึ่งปีแรก ปรับตัวลง 1.1% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แตะที่ระดับ 1.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 3% แตะที่ 1.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้เวียดนามมียอดเกินดุลการค้าอยู่ที่ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ด้านภาคบริการหดตัวลง 1.76% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เเต่ภาคอุตสาหกรรมยังขยายตัวที่ 1.38% และภาคการเกษตรขยายตัว 1.72%

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้ประโยชน์จาก “สงครามการค้า” ระหว่างสหรัฐฯ และจีน มีการใช้มาตรการภาษีตอบโต้กัน ทำให้บรรดาธุรกิจเอกชน หันมาย้ายฐานการผลิตออกจากจีน มายังเวียดนามที่ดูปลอดภัยและมีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า มีเเรงงานวัยหนุ่มสาวจำนวนมากเเละยังค่าเเรงต่ำ

• “ซัมซุง” เตรียมย้ายสายการผลิตหน้าจอจากจีนมาโรงงาน “เวียดนาม” ในปีนี้
• Panasonic เตรียมปิดโรงงานเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ในไทย ย้ายฐานการผลิตไปเวียดนาม

ที่มา : Reuters , Bloomberg