รัฐบาลสิงคโปร์ ปรับลดคาดการณ์อัตราเติบโตเศรษฐกิจของปี 2020 ลงเป็นครั้งที่ 3 มาอยู่ที่ติดลบ 4-7% หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการเเพร่ระบาดของ COVID-19 นับเป็นการเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สิงคโปร์
วันนี้ (26 พ.ค.) กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ ประเมินว่าเศรษฐกิจปีนี้จะติดลบราว 4-7% โดยเป็นการปรับลดจากเดิมที่เคยคาดไว้ว่าจะติดลบเพียง 1-4% เท่านั้น โดยมีปัจจัยหลักจากผลกระทบจาก
โรคระบาดรุนเเรงกว่าที่คาดไว้ เเนวโน้มอุปสงค์ภายในประเทศลดลง ความไม่เเน่นอนของการค้าเละการท่องเที่ยว ผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ เเละการส่งออกต้องหยุดชะงัก โดยเฉพาะกับประเทศคู่ค้าสำคัญอย่างยุโรป สหรัฐฯ เเละจีน
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสแรกของสิงคโปร์ ลดลง 0.7% เมื่อเทียบปีต่อปี และลดลง 4.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยภาคบริการในไตรมาสเเรกลดลง 13.3% ขณะเดียวกันมีความเสี่ยงว่าในช่วงไตรมาสที่ 2 ผลกระทบทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์จะเพิ่มมากขึ้น
เเม้จะเป็นประเทศเล็ก เเต่เศรษฐกิจของสิงคโปร์มีมูลค่ามากถึง 3.54 เเสนล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 11.3 ล้านล้านบาท) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดเสถียรภาพของเศรษฐกิจในเอเชีย
เมื่อย้อนไปดูประวัติศาสตร์ของเศรษฐกิจของสิงคโปร์ พบว่าเคยหดตัวรุนเเรงในช่วงปี 1998 อยู่ที่ -2.2% จากผลกระทบของวิกฤตต้มยำกุ้ง จากนั้นในปี 2001 ลดลงในอัตรา -1.1% จากผลกระทบของวิกฤต Y2K เเละในปี 1964 ช่วง 1 ปีประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการจากมาเลเซีย มีสถิติลดลง -3.2% ซึ่งหากมองตัวเลขคาดการณ์จีดีพีของสิงคโปร์ในปี 2020 ที่จะอยู่ราว -4 ถึง -7% เเล้วก็นับว่าจะเป็นสถิติการหดตัวมากที่สุดนับตั้งเเต่ก่อตั้งประเทศ
Gabriel Lim ปลัดกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม กล่าวว่า มาตรการการควบคุมการเเพร่ระบาดต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวลง ดังนั้นรัฐบาลจึงเตรียมที่จะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4 ของปีนี้ภายในสัปดาห์หน้า
ปัจจุบันสิงคโปร์อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ประเทศที่รัฐบาลเรียกว่า Circuit breaker มีผลบังคับใช้ตั้งเเต่ต้นเดือนที่ผ่านมาเเละกำลังจะสิ้นสุดในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ หากไม่มีการต่ออายุ ขณะที่มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมยังคงมีอยู่ต่อไป รวมถึงการให้ประชาชน Work from Home ทำงานจากที่บ้าน โดยข้อมูลของกระทรวงเเรงงานสิงคโปร์ระบุว่า ตอนนี้มีพนักงานเพียง 15% จากเเรงงานในระบบราว 2.4 ล้านคน ที่ยังต้องทำงานที่ออฟฟิศ
ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมล่าสุดอยู่ที่ราว 3.1 หมื่นราย มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เเต่มียอดผู้เสียชีวิตต่ำที่ 23 ราย สิงคโปร์เคยเป็นประเทศที่เคยรับมือ COVID-19 ได้ดีในระยะแรก ก่อนจะพบผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์หอพักแรงงานต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันสิงคโปร์มีแรงงานต่างชาติอาศัยอยู่ในประเทศราว 1.4 ล้านราย
ส่วนใหญ่มาจากเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นแรงงานกลุ่มสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศ
- สิงคโปร์” ใช้หุ่นยนต์น้องหมา ช่วยเตือนให้คนเว้นระยะห่างในสวนสาธารณะ
- สิงคโปร์ ห้ามครูใช้ Zoom ในการเรียนการสอน หลังโดนเเฮกเกอร์ป่วน ปล่อยภาพไม่เหมาะสม
ที่มา : bloomberg , CNA , CNBC