CP – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 09 Dec 2024 11:16:04 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 โฟตอน เบอร์ 1 รถเพื่อการพาณิชย์จีน ร่วมทุน CP ลงทุน 1 พันล้าน ตั้งฐานผลิตรถบรรทุกในไทย https://positioningmag.com/1502475 Mon, 09 Dec 2024 10:42:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1502475 โฟตอน (Foton) ค่ายรถเพื่อการพาณิชย์อันดับ 1 ในจีน ประกาศร่วมทุน (JV) แห่งที่ 2 กับเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ใช้งบลงทุน 1,000 ล้านบาท เปิดโรงงานผลิตรถบรรทุกในไทย ย่านบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

โดยใช้ชื่อว่า “โฟตอน ซีพี มอเตอร์“ ซึ่งวางโพซิชั่นเป็นฐานผลิตรถบรรทุกพวงมาลัยขวา สำหรับขายในประเทศ 80% และส่งออก 20%

เบื้องต้น มีกำลังผลิตราว ๆ 1,800 คัน/ปี ประเมินว่าอีก 3 ปี จะผลิตรถป้อนตลาดไม่ต่ำกว่า 7,200 คัน

ทั้งนี้ การลงทุนในประเทศไทย จากการเป็นตลาดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์โลก

นอกจากนี้ ทางโฟตอนเตรียมขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับกลุ่มพาร์ตเนอร์ชิ้นส่วน อาทิ Foton Cummins, Yuchai, Fangsheng และ Fast ให้มาลงทุนในไทยมากขึ้น เพื่อเสริมศักยภาพด้านการผลิต

]]>
1502475
ซีพีเอฟเตรียม IPO ธุรกิจอาหารภายใต้ชื่อ CPFGS หลังยื่นไฟลิ่งเข้าตลาดฯ เรียบร้อย https://positioningmag.com/1427270 Wed, 12 Apr 2023 04:36:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1427270 บมจ. ซีพีเอฟ โกลบอลฟู้ด โซลูชั่น หรือ CPFGS บริษัทย่อยของกลุ่มบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อ IPO โดยจะนำหุ้นสัดส่วนไม่เกิน 30% ออกจำหน่ายให้กับนักลงทุนที่สนใจ

บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร ได้แจ้งกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทย่อย บมจ. ซีพีเอฟ โกลบอลฟู้ด โซลูชั่น ได้ยื่นไฟลิ่งกับ ก.ล.ต. เพื่อที่จะนำ ซีพีเอฟ โกลบอลฟู้ด โซลูชั่น เข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะนำหุ้นสัดส่วนไม่เกิน 30% ออกจำหน่ายให้กับประชาชนครั้งแรก

สำหรับธุรกิจของ CPFGS นั้นเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปของ CPF ภายในประเทศไทยและจำหน่ายไปยังต่างประเทศแต่เพียงผู้เดียว (Exclusive Distributor And Exporter) สำหรับผลิตภัณฑ์จากฐานการผลิตของ CPF ในประเทศไทย และบริษัทยังมีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารที่จัดหาจากภายนอกให้กับผู้บริโภคทั่วไป รวมถึงลูกค้าเชิงพาณิชย์ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง (HoReCa) 

แบรนด์สินค้าที่ CPFGS จัดจำหน่ายอยู่ เช่น CP Butcher BKP Super Chef  Meat Zero เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทยังมีธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยภายใต้กิจการห้าดาวและกิจการร้านอาหารเชสเตอร์ ศูนย์อาหารฟู้ดเวิลด์ รวมถึงธุรกิจขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงภายใต้แบรนด์ Jerhigh และ Jinny

สำหรับผลประกอบการในปี 2022 ที่ผ่านมา CPFGS มีรายได้รวมทั้งสิ้น 170,830 ล้านบาท และมีกำไรสำหรับปีจำนวน 6,173 ล้านบาท

]]>
1427270
Bloomberg รายงาน CP Group อาจ IPO ธุรกิจอาหารสัตว์และเมล็ดพันธุ์พืชในช่วงปีหน้า https://positioningmag.com/1423661 Thu, 16 Mar 2023 17:00:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1423661 เครือเจริญโภคภัณฑ์ เตรียมที่จะนำธุรกิจอาหารสัตว์ รวมถึงธุรกิจเมล็ดพันธุ์พืช มา IPO ในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงปีหน้า โดยคาดว่าจะระดมทุนได้สูงสุดถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากที่ทางกลุ่มกำลังปรับโครงสร้างธุรกิจที่เกี่ยวข้อง 

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่าเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) พิจารณาที่จะนำธุรกิจอาหารสัตว์ รวมถึงธุรกิจเมล็ดพันธุ์พืช มา IPO ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังจากที่ทางกลุ่มนั้นกำลังปรับโครงสร้างทางธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

แหล่งข่าวของสำนักข่าวรายดังกล่าวยังกล่าวว่า CP Group เริ่มมีการพูดคุยกับทางที่ปรึกษาทางการเงินเกี่ยวกับแผนการดังกล่าวบ้างแล้ว

การนำ 2 ธุรกิจดังกล่าวออกมา IPO คาดว่าอาจระดมทุนได้สูงสุดถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 34,443 ล้านบาท อย่างไรก็ดีเม็ดเงินที่จะระดมทุนได้นั้นแหล่งข่าวของสื่อธุรกิจรายดังกล่าวชี้ว่าขึ้นกับสภาพของตลาดหุ้นในช่วงเวลานั้น

แหล่งข่าวของสื่อรายดังกล่าวคาดว่าธุรกิจดังกล่าวจะสามารถ IPO ได้ในช่วงปีหน้า อย่างไรก็ดีทางตัวแทนของ CPF ได้ออกมาปฏิเสธกับ Bloomberg ว่าไม่มีการนำธุรกิจดังกล่าวมา IPO แต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนของ CP Group ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าว

]]>
1423661
CP LAND รีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี กับแนวคิด “Accessible Communities for Life คุณภาพเพื่อทุกชีวิต” พร้อมเปิดตัวโฆษณาชิ้นแรก https://positioningmag.com/1413371 Sat, 24 Dec 2022 04:00:09 +0000 https://positioningmag.com/?p=1413371

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากหลายปัจจัยทั้งการขยายของเมือง การขยายตัวของประชากร ครอบครัวขยายมากขึ้น ทำให้โครงการอสังหาริมทรัพย์ยังคงได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค ส่งผลให้หลายแบรนด์จัดเต็มในการทำการตลาด และสร้างแบรนด์มากขึ้น เพื่อให้เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคให้ได้

หลายคนอาจจะรู้จักชื่อ CP หรือเครือเจริญโภคภัณฑ์ กันเป็นอย่างดี ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมอาหาร แต่ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ยังมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกเช่นกัน นั่นก็คือ CP LAND หรือบริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย

ที่ผ่านมา CP LAND ได้พัฒนาโครงการมากมาย ทั้งที่อยู่อาศัย สำนักงาน และพื้นที่พาณิชยกรรม ในปีนี้ CP LAND ได้ทำการบุกตลาดมากขึ้น ด้วยการประกาศรีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี เพื่อปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัยขึ้น ในการสื่อสาร และพูดคุยกับคนรุ่นใหม่มากขึ้น พร้อมกับได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาเป็นครั้งแรกอีกด้วย!

นายกีรติ ศตะสุข ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า

“การรีเฟรชแบรนด์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี มีเป้าหมายเพื่อสร้างการรับรู้ ภาพลักษณ์ที่ทันสมัยเป็นสากล ขยายฐานลูกค้า เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ช่วยติดปีกธุรกิจเติบโตได้ก้าวไกลและเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งอยู่ภายใต้แนวคิด Accessible Communities for Life หรือคุณภาพเพื่อทุกชีวิต สะท้อนการพัฒนาโครงการของ CP LAND มุ่งมั่นสนับสนุนความสะดวกสบายที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ให้กับกลุ่มลูกค้าและชุมชน (Communities) อีกทั้งยังมุ่งเน้น 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืน ทั้งต่อประเทศชาติ ประชาชน และองค์กร”

“CP LAND มุ่งสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับองค์กรโดยเรายึดมั่นหนักแน่นว่าลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) เอาความต้องการของลูกค้าเป็นตัวตั้ง รวมทั้งยังนำหลักการแข่งขันด้านการตลาดที่ไม่ได้แข่งขันกันด้วยผลกำไรอย่างเดียว หรือ White Ocean Strategy มาบริหารธุรกิจโดยหลักการนี้ไม่ใช่เพียงแค่พัฒนาสินค้าเพื่อตอบสนองลูกค้าเท่านั้นแต่หมายถึงทุกธุรกิจต้องสร้างฐานลูกค้าขึ้นมา การบริหารภายใต้แนวคิดใหม่ขององค์กรก็เช่นกันเราไม่ได้ให้ความสำคัญเพียงแค่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แต่ CP LAND ยังมีแนวคิดสนับสนุนชุมชน และพัฒนาอีโคซิสเต็มเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้า โดยจะเข้าไปมุ่งเน้นพัฒนาที่อยู่อาศัย สำนักงาน แหล่งงานหรือพื้นที่พาณิชยกรรม ที่เหมาะสมโดยสอดประสานให้เข้ากับชุมชน”

 

สำหรับกลยุทธ์ในการรีเฟรชแบรนด์ในครั้งนี้ มีทั้งการปรับโลโก้ใหม่ เพื่อในการสื่อสารที่ทันสมัยมากขึ้น

โดยที่ นางศศินันท์ ออลแมนด์ กรรมการยุทธศาสตร์ฝ่ายการตลาดและการสื่อสารองค์กร บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน) ได้เล่าว่า

“สำหรับการรีเฟรชแบรนด์โลโก้CP LAND มุ่งเน้นการออกแบบมาจากตัวอักษร C และP ให้มีความต่อเนื่อง และมีมิติมากขึ้นเปรียบเสมือนการเชื่อมต่อชุมชน และสังคมให้เกิดการพัฒนาที่ทั่วถึงโดยเพิ่มอัตลักษณ์พิเศษที่อักษร A เป็นลูกศรพุ่งขึ้นเพื่อสื่อสารถึงความตั้งใจของ CP LAND หนึ่งในกลไกส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่ และอสังหาริมทรัพย์ให้มีไลฟ์สไตล์ และคุณภาพชีวิตที่ดีทั่วถึงไปพร้อมกัน รวมทั้งใช้สีเขียวบอกเล่าปรัชญาขององค์กรที่จะสร้างความยั่งยืนที่จะก่อให้เกิดความใส่ใจในคอมมูนิตี้เพื่อสร้างความสมดุล และการเติบโต ตัวอักษร CP LAND เลือกใช้ตัวอักษรแบบร่วมสมัยเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดที่แสดงถึงความมั่นคงแต่ยังคงดูเป็นมิตร และเข้าถึงง่าย”

นอกจากนี้ CP LAND ยังได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา “ความสุขเกิดขึ้นได้ทุกที่รอบตัวคุณ” ถือเป็นภาพยนตร์โฆษณาชิ้นแรกของ CP LAND โดยแนวคิดของโฆษณาสื่อถึงแกนของปรัชญาพื้นฐานขององค์กร “คุณภาพเพื่อทุกชีวิต” ผ่านการเรียงร้อยเรื่องราวภายใต้แนวคิด “ความสุขเกิดขึ้นได้ทุกที่รอบตัวคุณ” ได้ “สิงโต นำโชค” นักร้องชื่อดัง มาเป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวนี้ เนื่องจากสิงโตเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียง มีคนรู้จักทั้งประเทศ และยังมีคาแร็คเตอร์ที่สดใส สนุกสนาน ร่าเริง มีอารมณ์ขัน มีความเป็นกันเอง และรักครอบครัว สะท้อนการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ในครั้งนี้ของ CP LAND ที่มีความตั้งใจจริง ที่จะสะท้อนแนวคิดของธุรกิจที่มุ่งมั่นเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง

สามารถติดตามรับชมภาพยนตร์โฆษณา “ความสุขเกิดขึ้นได้ทุกที่รอบตัวคุณ” ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขครั้งแรกได้พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้ผ่านช่องทาง YouTube, Facebook, Instagram, Tiktok และ Twitter ของ CP LAND

 

YouTube : https://www.youtube.com/watch?v=8LcUP-HqA_o

Facebook : https://www.facebook.com/CPLAND.Offcial?mibextid=LQQJ4d

Instagram : https://bit.ly/3jf0W5S

Tiktok : https://bit.ly/3hGuFEF

Twitter : https://bit.ly/3Vgrnp7

]]>
1413371
CP Group ถอนตัวออกจากการประมูลห้าง Metro ในอินเดียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว https://positioningmag.com/1404255 Fri, 14 Oct 2022 07:44:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1404255 CP Group ได้เลิกเจรจาและถอนตัวจากการประมูลห้างค้าส่ง Metro ในประเทศอินเดียแล้ว ซึ่งจะทำให้คู่แข่งซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในประเทศอินเดียอย่าง Reliance Retail ซึ่งเป็นกิจการของ Mukesh Ambani มหาเศรษฐีชาวอินเดีย กำลังจะกลายเป็นผู้ชนะในเกมนี้

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า CP Group ได้เลิกเจรจาและถอนตัวจากการประมูลห้างค้าส่ง Metro ในประเทศอินเดียแล้ว และจะทำให้คู่แข่งรายสำคัญอย่าง Reliance Retail กำลังจะกลายเป็นผู้ชนะในศึกประมูลดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา CP Group ได้ยื่นข้อเสนอแบบไม่ผูกผันกับ Metro เพื่อซื้อกิจการห้างค้าส่งโดยให้มูลค่ามากถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ Reliance Retail ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกของ Mukesh Ambani มหาเศรษฐีชาวอินเดียที่ได้ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการเช่นกัน โดยฝั่งของมหาเศรษฐีชาวอินเดียได้ยื่นข้อเสนอมูลค่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐ

คาดว่าดีลห้างค้าส่งของอินเดียจะอยู่ที่ราวๆ 1,000 ถึง 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะรวมหนี้สินของกิจการด้วย ซึ่งล่าสุดนั้น Reliance ได้กำลังเจรจากับ Metro ถึงมูลค่ากิจการในประเทศอินเดียอยู่ในตอนนี้

ในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นในกลุ่ม CP โดยเฉพาะอย่างยิ่ง MAKRO ได้โดนแรงกดดันจากเรื่องดังกล่าว ซึ่งส่งผลทำให้ราคาหุ้นลดลงจากประเด็นดังกล่าว ก่อนที่ราคาจะเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่ MAKRO ได้กล่าวว่าจะไม่เข้าร่วมประมูลห้างค้าส่งรายดังกล่าวในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา

Note: อัพเดตล่าสุด วันที่ 22 ธันวาคม สำนักข่าว Reuters รายงานว่ากลุ่ม Reliance ได้ชนะการประมูลซื้อ Metro ในราคาแค่ 344 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น

]]>
1404255
ส่องไอเดียรังสรรค์ ‘หมูดำซีพี-คูโรบูตะ’ ผ่าน 10 เมนูคาว-หวาน จากงาน ‘CP x Wongnai Savour Sensation Hunting’ ที่พิสูจน์แล้วว่ายกระดับความอร่อยเต็มสิบ! https://positioningmag.com/1400697 Mon, 19 Sep 2022 11:00:17 +0000 https://positioningmag.com/?p=1400697

จากการผสมข้ามสายพันธุ์ของหมูพันธุ์เบอร์คเชียร์, หมูสยาม และหมูจีน ที่ราชวงศ์อังกฤษเลี้ยงในพระราชวังวินเซอร์ และส่งมอบให้เป็นของขวัญแก่ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 และผ่านการปรับปรุงสายพันธุ์มาจนกลายเป็น หมูดำ คูโรบูตะ เนื้อหมูคุณภาพดีมีความนุ่มชุ่มฉ่ำที่สุดในปัจจุบัน และสายพันธุ์ชั้นดีก็ถูกปรับปรุงอีกทอดโดย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ


หมูดำซีพี-คูโรบูตะ เชฟการันตีว่าดีจริง

นางสาวอนรรฆวี ชูรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านการตลาดกลาง ซีพีเอฟ ได้อธิบายถึงความพรีเมียมของ หมูดำซีพี-คูโรบูตะ ว่าได้ถูกการันตีจากจากงานวิจัยกับเชฟมืออาชีพ 100 คน แล้วว่า อร่อยกว่าหมูทั่วไป เนื่องจากมีคุณลักษณะเด่นเฉพาะตัว ทั้งเนื้อสีเข้มสวย มีความฉ่ำวาว เนื้อนุ่มกว่าหมูทั่วไปจากเส้นใยกล้ามเนื้อที่ละเอียด ความชุ่มฉ่ำสูง และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เนื่องจากถูกเลี้ยงดูอย่างพิถีพิถันภายในฟาร์มระบบปิดมาตรฐานระดับโลก

มีการควบคุมอุณหภูมิและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เพื่อให้หมูสุขภาพดี แข็งแรง ปราศจากโรค ปลอดสารเร่งเนื้อแดง ปลอดภัยต่อการบริโภค พร้อมทั้งให้อาหารสูตรพิเศษที่เป็นธัญพืช 100% ไม่มีโปรตีนจากสัตว์ทำให้รสชาติอร่อยกลมกล่อม หอม นุ่ม ฉ่ำ จนเป็นเอกลักษณ์ ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ร้านอาหารและเชฟจะมั่นใจในการเลือกใช้หมูดำซีพี-คูโรบูตะเป็นวัตถุดิบ และสำหรับคนที่อยากอร่อย หอม นุ่ม ฉ่ำกับหมูดำง่ายๆ ที่บ้าน CP แนะนำเมนูใหม่ ! หมูดำ ซีพี-คูโรบูตะ หมักซอสบูลโกกิ พร้อมปรุง ที่แค่แกะซองก็อร่อยง่ายได้เลย แถมยังมีอีก 4 เมนูไม่ว่าจะเป็น หมูดำ ซีพี-คูโรบูตะ หมูน้ำมันงา , หมูดำ ซีพี-คูโรบูตะ ตับหมูน้ำมันงา , หมูดำ ซีพี-คูโรบูตะ สันนอกหมูซอสซีอิ๊วญี่ปุ่น และ หมูดำ ซีพี-คูโรบูตะ สันนอกหมูโคชูจัง


ฉลอง 10 ปี CP Kurobuta  Festival ด้วย 10 เมนูจาก ‘เชฟนิค’

นับตั้งแต่วางจำหน่ายตั้งแต่ต้นปี 2553 ปัจจุบัน หมูดำซีพี-คูโรบูตะก็อยู่คู่ไทยมาเป็นเวลากว่า 10 ปี และภายในงานฉลองครบรอบปีที่ 10 CP Kurobuta Festival (ซีพี-คูโรบูตะ เฟสติวัล) ทางซีพีเอฟก็ได้จับมือกับ LINE MAN Wongnai ร่วมกันรังสรรค์งาน CP x Wongnai Savour Sensation Hunting พร้อมกับเปิด ลายแทงสุดยอดเมนูหมูดำ

และภายในอีเวนท์ดังกล่าวยังได้ ‘เชฟนิค-ณัฏฐพล ภวไพบูลย์’ Executive Chef และ Co-Founder แห่ง Wanghinghoi Food Group หรือ ร้านอาหารวังหิ่งห้อย มารังสรรค์ 10 เมนูหมูดำ เพื่อสะท้อนถึงความ พรีเมียม ของวัตถุดิบ พร้อมปลุก ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง และ เนื้อสัมผัสของหมูดำซีพี-คูโรบูตะ

ด้วยบรรยากาศร้านวังหิ่งห้อยที่มีคอนเซปต์เสมือน ยกป่าและธรรมชาติ มาไว้กลางเมือง พร้อมกับมี หิ่งห้อย จริง ๆ ให้ได้สัมผัสระหว่างรับประทานอาหาร ดังนั้น บรรยากาศภายในห้องทานอาหารจึงมีเพียงแสงไฟสลัว ๆ ทำให้ได้ดื่มด่ำกับรสชาติของอาหารพร้อมปลุกประสาทสัมผัสทั้ง 5 แบบเต็ม ๆ


ส่อง 10 ไอเดียเมนูคาว-หวาน

สำหรับ 10 เมนู Chef’s Table ของเชฟนิคนั้นมีคอนเซปต์จากการนำอาหารขึ้นชื่อของแต่ละเชื้อชาติมาสร้างสรรค์ความอร่อยที่แตกต่างเริ่มต้นด้วย 3 เมนูแรก เชฟนิคเลือกเสิร์ฟเพื่อเปิดประสาทสัมผัสกลิ่นและความนุ่มของเนื้อหมูดำ ได้แก่

เมนู ชาชู ซันเดย์ ที่เลือกใช้ชิ้นส่วนสามชั้นมาปรุงแบบไร้มัน ราดกับน้ำซุปที่เคียวจากกระดูก Back Bone กินคู่กับหมี่เย็นโฮมเมด ตามด้วยเมนู พูลพอร์คทาโก้ เอาไขมันจากสามชั้นของหมูดำ ซีพี-คูโรบูตะ มาผัดกับเนื้อหมูส่วนสะโพกที่ปรุงแบบ Slow Cook แล้วนำมา shred ให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มและฉ่ำ ใส่ในแผ่น Taco เสิร์ฟแบบ slam on บนลูกเดือยกรุบกรอบ ปิดด้วย ซีพี-คูโรบูตะ มาเหนือ ที่เชฟนิคเลือกใช้ ไหล่หมู เป็นวัตถุดิบ พร้อมหมักกับเครื่องเทศไทย นำไปอบ แล้วย่าง จากนั้นนำมาซูวี (Sous Vide) แล้วนำมาปรุงด้วยรูปแบบ deconstructed ที่ดึงเอาเสน่ห์รสชาติแบบลาบเหนือดั้งเดิม มา Twist ในรูปแบบ Modern เสิร์ฟแบบ FineDining เพื่อเปิดสัมผัสด้านกลิ่น

ส่วน Main Course จะประกอบด้วยเมนู สะเต๊ะซี่โครงหมูดำ ซีพี-คูโรบูตะ โดยนำซี่โครงมาซูวีแล้วค่อยนำไปย่างบนหินชาโคล และราดด้วยน้ำสะเต๊ะที่ทำจากมันหมูดำ ทานคู่กับอาจาดเยลลี่ซ่อนพริก ต่อด้วย ราวิโอลี่ทรัฟเฟิล ซีพี-คูโรบูตะ ที่ใช้เนื้อสันนอก Dice เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเต๋าเล็ก ๆ ปรุงรสเผ็ดเบา ๆ พร้อมเคี่ยวกับน้ำมะเขือเทศ และ Italian Herbs ห่อด้วยแป้งพาสต้า Ravioli โฮมเมดที่ทำจากฟักทอง โรยด้วยทรัฟเฟิล ต่อมาเป็นเมนู หมูดำ ซีพี-คูโรบูตะบูลโกกิ ที่ใช้เนื้อหมูดำส่วนสันในนำมาสไลซ์บาง 2 มม. นำมาผัดกับซอสบูลโกกิ ที่ทำจากน้ำต้มกระดูกหมูดำ เสิร์ฟพร้อมข้าวเกาหลี กิมจิ และหอมหัวใหญ่ร่อนไฟ

ตามด้วยเมนู หมูฮ้อง เมนูท้องถิ่นของภูเก็ต โดยเชฟนิคใช้ชิ้นส่วน เนื้อหมูสามชั้นติดหนัง (Skin on) ที่ตุ๋นกับเครื่องเทศไทยที่ปั่นรวมกัน ต้มแบบขลุกขลิกจนน้ำมันของหมูออกมา แล้วตุ๋นต่อด้วยน้ำมันของหมู เปิดสัมผัสความนุ่มแบบละลายในปาก เสิร์ฟพร้อมต้นผักชีเทมปุระ ครีมชีส และมันบด อีกเมนูคือ ต้มแซ่บคูโรบูตะสองใจ โดยใช้ส่วนสันนอกผสมกับไขกระดูก นำมาปรุงให้ได้รสชาตินุ่มฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปใสที่เคี่ยวจากกระดูก Back Bone นานเกือบ 3 วัน

อีกเมนูไฮไลท์ คือ หมูดำ ซีพี-คูโรบูตะกระเพราไข่ดาว กับการรังสรรค์เมนูสามัญของคนไทยให้พิเศษยิ่งขึ้นพร้อมปลุกประสาทสัมผัสทั้ง 5 ด้วยการ เขย่าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ซึ่งจะได้ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัสอย่างแท้จริง และปิดท้ายด้วย เมนูของหวาน โดยเชฟเลือกรังสรรค์ ไอติมกะทิมันหมู เบคอน โดยไอติมกะทิเคลือบด้านบนด้วยมันหมูแทนซอสรสชาติต่าง ๆ ชูความหอมแบบ Delicious Aroma ของมันหมูดำ ซีพี-คูโรบูตะ บวกกับเบคอนรีดน้ำมันกรุบกรอบ ส่งให้ความหวานหอมละมุนของไอติมกะทิ

“หมูดำ ซีพี-คูโรบูตะ เป็นวัตถุดิบที่สามารถใช้ได้ทั้งหมดโดยไม่เสียเปล่า อีกทั้งยังเปิดประสาทสัมผัสต่าง ๆ ของเรา ตั้งแต่การมองเห็นผ่านเนื้อสีเข้มฉ่ำวาว เมื่อนำมาปรุง เนื้อหมูสามารถดูดซับเครื่องปรุงได้ดี ใช้เวลาหมักน้อย ตอนที่รับประทาน สัมผัสแรกคือ ความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ตามด้วยความนุ่มและชุ่มฉ่ำที่แตกต่างจากหมูทั่วไป เหมาะแก่การทำอาหารทั้งคาวและหวาน ไม่ว่าจะเลือกชิ้นส่วนไหน” เชฟนิค-ณัฏฐพล ภวไพบูลย์ ทิ้งท้าย

เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี บริษัทฯ จัดกิจกรรมให้ลูกค้าได้ร่วมสนุกผ่านร้านอาหารลุ้นรับโปรโมชั่นพิเศษและของที่ระลึกสุดพรีเมียม รวมทั้งผู้ที่จับจ่ายสินค้าในห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ อาทิ Lotus’s, Makro, The mall, Foodhall, Villa, Foodland, Big C, ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีก และช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ โดยร่วมจับสลากผ่านช่องทางออนไลน์ เพียงซื้อหมูดำ ซีพี-คูโรบูตะครบ 350 บาท รับ 1 สิทธิ์ ลุ้นรับ credit voucher LINE MAN จำนวน 100 รางวัล สูงสุดมูลค่า 50,000 บาท สำหรับสั่ง delivery บน LINE MAN จากร้านค้าที่มีเมนูหมูดำจำหน่าย ตั้งแต่วันที่ 6-31 ตุลาคม 2565 และประกาศผลในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2565

]]>
1400697
CP ยื่นข้อเสนอซื้อห้างค้าส่ง Metro ในอินเดีย 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มากกว่าคู่แข่ง https://positioningmag.com/1398432 Wed, 31 Aug 2022 08:32:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1398432 สื่อในประเทศอินเดียรายงานว่า CP Group ได้ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการห้างค้าส่ง Metro มูลค่าถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่าคู่แข่งอย่าง Reliance Retail ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของ Mukesh Ambani มหาเศรษฐีชาวอินเดียที่ยื่นข้อเสนอซื้อที่ราคา 700 ล้านเหรียญสหรัฐ

The Economic Times สื่อในประเทศอินเดียรายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ระบุว่า CP Group ได้ยื่นข้อเสนอแบบไม่มีภาระผูกพันในการซื้อกิจการของห้างค้าส่ง Metro ในประเทศอินเดียด้วยมูลค่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากที่ CP Group ได้แสดงความสนใจในการซื้อกิจการในช่วงที่ผ่านมา

การยื่นเสนอซื้อกิจการของ Metro เกิดขึ้นหลังจากที่ทีมงานของ Metro ได้นำเสนอข้อมูลธุรกิจของกิจการให้กับ CP Group รวมถึง Reliance Retail ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกของ Mukesh Ambani มหาเศรษฐีชาวอินเดียที่ได้ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการเช่นกัน โดยฝั่งของมหาเศรษฐีชาวอินเดียได้ยื่นข้อเสนอมูลค่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐ

กลุ่ม CP ได้ขยายธุรกิจเข้าสู่ประเทศอินเดียโดยใช้ชื่อว่า Lots ซึ่งปัจจุบันมีสาขาอยู่ด้วยกัน 3 สาขา และถ้าหากชนะการประมูลห้างค้าส่งรายนี้ได้ก็จะทำให้รายได้จากประเทศอินเดียนั้นสูงขึ้นทันที

อย่างไรก็ดี The Economic Times ได้รายงานว่าการซื้อกิจการของ CP Group นั้นมีความเสี่ยงที่อาจได้รับการต่อต้าน เนื่องจากเป็นธุรกิจของชาวต่างชาติ โดยสื่อของประเทศอินเดียรายนี้ได้ยกกรณีของ Metro ที่ได้เข้ามาทำธุรกิจในประเทศอินเดีย และได้รับการต่อต้านจากกลุ่มการเมือง รวมถึงการล็อบบี้จากกลุ่มชาวอินเดียที่ไม่เห็นด้วยในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับมูลค่ากิจการของ Metro ในประเทศอินเดีย ทาง JPMorgan และ Goldman Sachs ได้ประเมินมูลค่ากิจการของกิจการค้าปลีกรายนี้อยู่ที่ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

ห้างค้าส่งรายดังกล่าวนี้ได้รุกเข้าสู่ประเทศอินเดียในปี 2003 ปัจจุบัน Metro มีห้างค้าส่งทั่วประเทศอินเดีย 31 สาขา โดยลูกค้าของกิจการค้าส่งรายนี้มีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร หรือแม้แต่ร้านค้าปลีกเล็กๆ ทั่วอินเดีย

คาดว่าการเสนอราคาครั้งสุดท้ายนั้นจะอยู่ในระยะเวลา 1 เดือนหลังจากนี้

การขายกิจการของ Metro ในประเทศอินเดียนั้นมีสาเหตุมาจากการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสู้กันระหว่าง Reliance Retail รวมถึง Amazon ที่ขับเคี่ยวกันอย่างมาก ส่งผลทำให้ผู้เล่นรายอื่นๆ ได้รับผลกระทบซึ่งรวมถึงห้างค้าส่งจากยุโรปรายนี้

]]>
1398432
กลุ่ม CP เตรียมประมูลห้างค้าส่ง Metro ในประเทศอินเดีย แต่อาจเจอคู่แข่งรายใหญ่สู้ราคา https://positioningmag.com/1392256 Tue, 12 Jul 2022 05:19:52 +0000 https://positioningmag.com/?p=1392256 กลุ่ม CP สนใจที่จะเข้าซื้อกิจการของห้างค้าส่ง Metro ซึ่งทางกลุ่มได้ยื่นข้อเสนอเพื่อประมูลกิจการแล้ว อย่างไรก็ดี ในศึกการประมูลห้างค้าปลีกรายนี้ กลุ่ม CP เองอาจต้องเจอคู่แข่งรายใหญ่ระดับโลก รวมถึงคู่แข่งที่เป็นมหาเศรษฐีชาวอินเดียอีกด้วย

สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวอ้างอิงจากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า กลุ่ม CP นั้นได้ยื่นข้อเสนอราคาแบบไม่มีพันธผูกพันในการซื้อกิจการ Metro ห้างค้าปลีกในประเทศอินเดีย คาดว่ามูลค่ากิจการจะอยู่ที่ราวๆ 1,000-1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ดี ในการประมูลครั้งนี้กลุ่ม CP จะพบกับคู่แข่งรายใหญ่สำคัญนั่นก็คือ Reliance ซึ่งเป็นเครือข่ายธุรกิจของ Mukesh Ambani มหาเศรษฐีชาวอินเดีย นอกจากนี้ยังมีคู่แข่งอีกรายที่สนใจซื้อกิจการห้างค้าปลีกนี้นั่นก็คือ Amazon ที่สนใจบุกตลาดค้าปลีกอินเดียเช่นกัน

โดยห้างค้าส่ง Metro นั้นเข้าสู่อินเดียในปี 2003 ปัจจุบันมีห้างค้าส่งทั่วประเทศอินเดีย 31 สาขา โดยลูกค้าของกิจการค้าส่งรายนี้มีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร หรือแม้แต่ร้านค้าปลีกเล็กๆ ทั่วอินเดีย

สำหรับ Metro นั้นถือว่ามีความสัมพันธ์กับ Makro ไม่น้อย เนื่องจาก Metro ได้จับมือร่วมกับ SHV ในการเปิดกิจการ Makro ในเนเธอร์แลนด์ในปี 1968 ก่อนที่จะขายกิจการ Makro ในทวีปยุโรปให้กลุ่ม Metro ในปี 1998

นอกจากนี้กลุ่ม SHV เองก็เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Makro ในประเทศไทยก่อนที่จะขายกิจการในประเทศไทยให้กับกลุ่ม CP ด้วยมูลค่า 188,880 ล้านบาทในปี 2013

สำหรับกลุ่ม CP ได้ขยายธุรกิจเข้าสู่ประเทศอินเดียโดยใช้ชื่อว่า Lots ซึ่งปัจจุบันมีสาขาอยู่ด้วยกัน 3 สาขา ซึ่งถ้าหากทางกลุ่มสามารถประมูลธุรกิจของ Metro ในอินเดียได้ ก็มีโอกาสที่จะสามารถใช้ชื่อแบรนด์ Makro และยังได้สาขาของ Metro ที่มีอยู่แล้วด้วย

ที่มา – Bloomberg

]]>
1392256
จับตา! ‘เทเลนอร์’ จับมือ ‘ซีพี’ ควบรวม ‘ดีแทค-ทรู’ https://positioningmag.com/1363008 Fri, 19 Nov 2021 10:06:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1363008 เทเลนอร์ (Telenor) ร่อนจดหมายแจงกำลังพิจารณาควบรวมกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทย ผู้โชคดีคือเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย นักสังเกตการณ์จับตาการเจรจาจะนำไปสู่การควบรวมกิจการมือถือระหว่างดีแทค (Dtac) และทรู (True) ในอนาคต

ดีแทคนั้นเป็นบริษัทลูกของเทเลนอร์ในประเทศไทย ขณะที่ทรูเป็นธุรกิจด้านสื่อและโทรคมนาคมของกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ ล่าสุด รายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ และ E24 ระบุว่า เทเลนอร์ได้ส่งเอกสารชี้แจงหลักทรัพย์ (​​stock exchange release) ว่าบริษัทกำลังพิจารณาการควบรวมกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในประเทศไทย โดยจะร่วมเจรจากับเครือเจริญโภคภัณฑ์เพื่อก่อตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมา

แถลงการณ์ของเทเลนอร์ไม่เพียงชี้ว่า การควบรวมกิจการจะมีจุดมุ่งหมายเพื่อก่อตั้งบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำในประเทศ แต่ระบุว่า ยังคงต้องตกลงกันในประเด็นสำคัญ และไม่แน่ใจว่าการเจรจาจะนำไปสู่ข้อตกลงขั้นสุดท้าย รวมถึงกรอบเวลาในเบื้องต้นที่ยังไม่มีการเปิดเผย ดังนั้น ยังไม่มีความแน่นอนว่าการเจรจาครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ โดยจะมีการแถลงความชัดเจนในวันที่ 22 พ.ย.นี้ อีกที

Photo : Shutterstock

ข่าวนี้ทำให้โลกเทความสนใจไปที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือที่เรียกกันในนามซีพี กรุ้ป (CP Group) ซึ่งมีธุรกิจหลากหลายด้านทั้งเกษตรกรรม การค้าปลีก โทรคมนาคม อสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมยานยนต์ เภสัชกรรม และการเงิน จากข้อมูลของบลูมเบิร์ก (Bloomberg) เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าของเครือซีพีนั้นมีตำแหน่งเป็นมหาเศรษฐีระดับโลกที่มีทรัพย์สินมากกว่า 4,800 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ซีพี กรุ๊ปถูกจัดเป็นบริษัทเอกชนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ปัจจุบัน ดีแทคมีฐานลูกค้ารวม 19.3 ล้านราย แบ่งเป็นลูกค้ารายเดือนราว 6.2 ล้านราย และลูกค้าในระบบเติมเงิน 13.1 ล้านราย ในขณะที่กลุ่มทรู มีฐานลูกค้าของทรูมูฟ เอช ราว 32 ล้านราย แบ่งเป็นรายเดือน 10.8 ล้านราย และเติมเงิน 21.2 ล้านราย

ดังนั้น ในกรณีที่เกิดการควบรวมกิจการกันจะทำให้มีฐานลูกค้ารวมมากกว่า 51 ล้านราย และขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจโทรคมนาคมในประเทศไทยทันที เนื่องจากปัจจุบันเอไอเอสมีฐานลูกค้ารวมอยู่ที่ 43.7 ล้านราย

โดยหลังจากที่มีความคืบหน้าจากสื่อต่างประเทศออกมา ทั้งทรู และดีแทคต่างส่งจดหมายแจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า หากมีข้อชี้แจงใดที่บริษัทมีหน้าที่ต้องแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทางบริษัทฯ จะแจ้งข้อมูลให้ตลาดหลักทรัพย์ต่อไป

Source

]]>
1363008
“SMART Shopping” กับยุคเปลี่ยนไป Lotus’s ทำไมต้องเปลี่ยน..?? https://positioningmag.com/1333441 Sun, 23 May 2021 14:18:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1333441
Re-Branding เปลี่ยนบุคลิก หรือโอกาสทางธุกิจ ใช้วิกฤติสร้างความฉลาดใช้โอกาสเพื่อช่วงชิง ใช่หรือไม่
  • ทำไมต้อง Re-Branding
  • ทำไมต้องเปลี่ยนสี
  • ทำไมต้องเปลี่ยนโลโก้

คำถามเหล่านี้หลายคนคงเคยตั้งคำถามว่า “ทำไปทำไม ก็มันขายได้อยู่แล้ว” เพื่อคลายความสงสัยว่า ทำไม ทำไม และทำไมต้อง Re-Brand”

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ที่เปลี่ยนรูปแบบ Brand นั้น ทำเพื่ออะไร วิเคราะห์ตรงนี้ก่อน ดูเจตนามี Point เพื่ออะไร?

ลองตั้งข้อสงสัยว่า ถ้าขายได้แล้ว เป็น Leader แล้ว ธุรกิจมี Market Share แถมเป็น Brand Leader ด้วย แล้วจะ Re-Brand ไปทำไม

เราลองมาวิเคราะห์ดูกัน การ Re-Branding นั้น ถ้าเรามองแล้วจะพบกับธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จ หรือ Leader ธุรกิจที่ต้องการปรับตัวเองเพื่อความอยู่รอด หรือ Survivor ซึ่งธุรกิจที่เป็น Brand Leader นั้น คุณต้องใช้กลยุทธ์ป้องกัน Brand ของคุณ โดยป้องกันมิให้ถูกช่วงชิงตำแหน่ง

ซึ่งกลยุทธ์การตลาดต้องให้ความสำคัญกับคำว่า “Defensive Strategy” หรือ “กลยุทธ์การป้องกันอย่างดี” เพราะมีหลายองค์กรหรือหลายธุรกิจเมื่อเป็น Brand Leader แล้วมุ่งแต่จะโจมตีอย่างเดียว หรือ Offensive Strategy 

“กลยุทธ์รุกราน” หรือ Attack Strategy จนลืมที่จะหันมาโฟกัสในตัวองค์กรของตนเอง ลืมโฟกัสในส่วนที่เป็น Defensive Strategy เพื่อป้องกัน Positioning, Market Share และ Market Territory ของตนเอง

การใช้กลยุทธ์ Defensive Strategy นั้นเป็นกลยุทธ์ที่ผู้นำทางการตลาดกำลังจะสร้าง Brand Commitment กับลูกค้าตนเองว่า ผลิตภัณฑ์ของเรามี Brand Image และอยู่ในใจเพื่อสร้าง Brand Loyalty

Lotus’s ใช้วิกฤติสร้างความฉลาด ใช้โอกาสเพื่อช่วงชิง

หลายคนคงจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Lotus’s หรือเป็น Brand อยู่ในใจ

“Top of mind Brand เมื่อมีโอกาสต้องช่วงชิง”

ครั้งนี้ Lotus’s ไม่ใช่ Re-Brand เพื่อสร้างยอดขายอย่างเดียว แต่เป็นการดึงศรัทธาในแบรนด์หรือ Brand Loyalty 

Lotus’s ชูประสบการณ์ให้ดูทันสมัยเหมาะกับยุคสมัยใหม่ New Normal โดย Lotus’s ใช้สัญลักษณ์ s แทน Smart เหมาะกับ GEN คนรุ่นใหม่  

เมื่อ Lotus’s เปลี่ยนมือมาอยู่ในเครือ CP จึงเป็นโอกาสที่ผู้นำการตลาดจะปรับปรุงบุคลิกแบรนด์

แบรนด์ Lotus’s สะท้อนให้เห็นประสบการณ์ ออกแบบเป็นรูปปักหมุด ตอบโจทย์ความต้องการที่สะดวกครบ Lotus’s go fresh ที่เน้นมอบสินค้าอาหารครบครันพร้อม สินค้าจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ตอบโจทย์ ผู้บริโภคยุค New Normal ที่ปรับเปลี่ยนตามพฤติกรรมที่ซื้ออาหารใกล้บ้านมากกว่าเดิม เพื่อลดความเสี่ยงโรคระบาด

เป็นการปรับแบบ “S-M-A-R-T  Shopping” 

S=Simple, M=Motivation, A=Agile, R=Responsible, T=Transformative 

สิ่งที่ต้องจับตาดูโลตัสภายใต้ CP จะมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางไหน แต่สิ่งอื่นสิ่งใด เมื่อเป็นผู้นำการตลาด ต้องมีการพัฒนา Brand Development อย่างสม่ำเสมอ

]]>
1333441