Costco – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 30 Sep 2022 04:45:26 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Tops CLUB ความท้าทายของ CRC กับการดันค้าปลีกโมเดล “สมาชิก” ให้แจ้งเกิด https://positioningmag.com/1402568 Fri, 30 Sep 2022 03:57:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1402568 Hightlight
  • Tops CLUB ห้างค้าปลีกโมเดลระบบสมาชิกเปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัล พระราม 2 เน้นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ขายปลีก
  • ที่นี่จะต้องเป็นสมาชิกถึงจะซื้อสินค้าได้ มีสมาชิกแบบทั่วไป และสมาชิกแบบพรีเมียม มีค่าสมัครที่ 799 บาท/ปี

รู้จัก Membership Store

เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบแล้วสำหรับ Tops CLUB ห้างค้าปลีกรูปแบบใหม่ในเครือ CRC เป็นรูปแบบ “เมมเบอร์ชิปสโตร์” หรือระบบสมาชิก หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันจะแตกต่างจากห้างอื่นๆ อย่างไร

ใครที่เคยไปต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาอาจจะคุ้นเคยกับ Costco กันมาบ้าง เป็นห้างค้าส่งรายใหญ่ของสหรัฐฯ คนไทยหลายคนจะเรียกกันว่า “แมคโครของชาวอเมริกัน” จุดเด่นก็คือ ขายสินค้าราคาถูก และต้องเป็นสมาชิกเท่านั้นถึงจะซื้อของได้

แต่ก่อนแมคโครในบ้านเราก็เคยใช้ระบบนี้ ต้องสมัครสมาชิก่อนถึงจะซื้อของได้ อีกทั้งยังจ่ายได้แต่เงินสด แต่ว่าตอนนี้ได้ยกเลิกระบบสมาชิกไปแล้ว ใช้เป็นในเรื่องสิทธิพิเศษอื่นๆ แทน คนทั่วไปสามารถซื้อของได้ เปิดโอกาสให้ลูกค้าขาจรซื้อของได้มากขึ้นนั่นเอง

ห้างค้าปลีกแบบ Membership Store ได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐอเมริกา ในเอเชียเริ่มมีการเติบโตที่ประเทศจีน และเกาหลีมากขึ้น เริ่มมีผู้เล่นหลายราย หนึ่งในความน่าสนใจของค้าปลีกกลุ่มนี้ก็คือ แม้ในช่วงวิกฤต COVID-19 ก็ไม่สะเทือนร้านค้ากลุ่มนี้ นั่นเพราะว่าจุดยืนด้วยราคาสินค้า รวมไปถึงสินค้าแตกต่างจากที่อื่น ส่วนตัวห้างเองก็การันตีได้ด้วยลอยัลตี้ของลูกค้าที่สมัครสมาชิก

tops club

ดัน Tops CLUB เมมเบอร์ชิปสโตร์สัญชาติไทย

หลังจากที่มีกระแสการเปิดตัวของ Tops CLUB ในไทย พร้อมกับคอนเซ็ปต์ด้วยการเน้นสินค้านำเข้า ดูเหมือนขาช้อปชาวไทยก็ให้ความสนใจไม่น้อย ผู้พัฒนาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดค้าปลีกอย่าง “เซ็นทรัล รีเทล คอร์เปอเรชั่น” หรือ CRC

งานนี้ CRC ไม่ได้นำเข้าแบรนด์อื่นเข้ามา แต่เปิดแบรนด์ใหม่เองในชื่อ Tops CLUB อยู่ในตระกูลท็อปส์ เน้นในส่วนของความเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต สินค้าอุปโภคบริโภค สาขาแรกตั้งอยู่ด้านหลังเซ็นทรัลพระราม 2 บนพื้นที่กว่า 15,000 ตารางเมตร

CRC ใช้เวลาในการพัฒนาโมเดลนี้ 2 ปี เพื่อศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค และดูว่าผู้บริโภคมีความพร้อม ความเข้าใจกับโมเดล Membership หรือไม่ ก่อนหน้านี้ได้เปิด Pop-up Store แบบชั่วคราวก่อน 4 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัล พระราม 2, เซ็นทรัล เอ็มบาสซี, เมกา บางนา และ เซ็นทรัล เวิลด์

จนได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ภายในสโตร์มีสินค้ากว่า 3,500 รายการ ในหลายหมวดหมู่ ได้แก่ อาหารสด, อาหารแห้ง, ขนม-เบเกอรี่, สินค้าเครื่องครัว, ของใช้ภายในบ้าน, เครื่องใช้ไฟฟ้า, อุปกรณ์กลางแจ้ง, ของเล่น, อุปกรณ์กีฬา, อุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง, เครื่องดื่ม และ ไวน์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เหตุผลที่ทาง CRC เลือกปักหมุดที่ย่านพระราม 2 เป็นสาขาแรก เหตุผลแรกปฏิเสธไม่ได้ว่าสโตร์ต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่ จึงต้องอยู่ทำเลชานเมือง อีกทั้งทาง CRC เองก็มีดาต้าของผู้บริโภคในโซนพระราม 2 ว่ามีกำลังซื้อสูง เนื่องจากเมืองขยายมากขึ้น มีหมู่บ้านใหม่ๆ เกิดขึ้นเยอะ

Tops CLUB ออกแบบในคอนเซ็ปต์ Warehouse Style หรือแนวโกดังสินค้า จริงๆ แล้วคนไทยอาจจะถูกจริตกับสไตล์นี้ก็ได้ เห็นได้จากการถ่ายรูปที่ IKEA ที่นี่แบ่งเป็น 3 โซน มีการจัดเรียงแบบใหม่ที่อาจจะไม่เหมือนกับห้างค้าปลีกทั่วไป พร้อมจุดชิมอาหารทั่วสโตร์กว่า 40 จุด

โซนที่ 1 Kid’s Paradise ของเล่นเด็ก มีไฮไลต์อยู่ที่ตุ๊กตาหมีสูงกว่า 3 เมตร ราคา 7,999 บาท, แพยางยูนิคอร์น-ฟลามิงโก้ไซส์ยักษ์ เก้าอี้เกมมิ่งดีไซน์สุดคิ้วท์ ที่สามารถทดลองเล่นเกมส์ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ สินค้าอุปกรณ์กลางแจ้งแบรนด์ยอดฮิตทั้งเต็นท์ เก้าอี้สนามขนาดใหญ่พิเศษ ชุดเตา-อุปกรณ์ย่างบาร์บีคิว จากแบรนด์สินค้าชื่อดังจากจากต่างประเทศ ได้แก่ Ozark Trail, Expert Grill, Lifetime เครื่องครัวคุณภาพ Mainstays แบรนด์ยอดนิยมจากอเมริกา สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง ของใช้ภายในบ้าน และเครื่องครัว อุปกรณ์รถยนต์จากเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ดัง KIRKLAND ที่นิยมในอเมริกา และ BESST รวมถึงยังมีอุปกรณ์กีฬา เครื่องใช้ไฟฟ้าจากแบรนด์ชั้นนำ และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย

โซนที่ 2 โซนอาหารที่เป็นห้องเย็นขนาดใหญ่ มีตู้ Chilled และ Frozen รวมสินค้านำเข้าทั้งผัก-ผลไม้สด ช็อกโกแลต ไอศกรีมแบรนด์ชื่อดังจากนิวซีแลนด์ มีทบอล เนื้อบดเกรดนำเข้า ถั่วรวมหลากชนิด พิสตาชิโอ จัดเต็มกับสินค้ากลุ่มขนม ทั้งมันฝรั่งทอดกรอบ แคปหมูปรุงรส ผัก ผลไม้อบกรอบ จากออสเตรเลีย เครื่องดื่ม ชา-กาแฟ เครื่องปรุง จากยุโรป อเมริกา และเอเชีย อีกทั้งยังมีโซนคอฟฟี่บาร์ ให้บริการจัดชิมชา และกาแฟ

โซนที่ 3 กลุ่มอาหารสด เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ที่นำเข้ามาจากยุโรป และอเมริกา ทั้งเนื้อวัว เนื้อแกะ แซลมอน หอยนางรม หอยเชลล์ ล็อบสเตอร์ โซนสินค้าเครื่องดื่ม และไวน์ ยังมีโซน Cooking Show มีทีมเชฟชื่อดังมาปรุงอาหาร มี CLUB Café คาเฟ่ที่มีเมนูสุดพิเศษ ฮอตดอก, พิซซ่า, พายไก่อบ ฯลฯ พร้อมที่นั่งทานในร้าน หรือจะซื้อกลับบ้าน

สินค้า ราคา ทำให้ลูกค้ายอมจ่าย

ถ้าไม่นับแมคโครที่เคยใช้โมเดล Membership Store ก็ต้องยอมรับว่า Tops CLUB เป็นอีกหนึ่งห้างค้าปลีกโมเดลใหม่ ที่จะใช้ระบบสมาชิก เป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับคนไทยไม่น้อย ในกรณีของแมคโครเป็นการขายส่ง ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นร้านโชห่วย ร้านอาหาร โรงแรมต่างๆ เป็นลูกค้าประจำอยู่แล้ว การเป็นสมาชิกจึงถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา

แต่สำหรับ Tops CLUB เป็นการขายปลีก อีกทั้งตอนนี้ยังมีแค่ 1 สาขา และทำเลยังออกนอกเมืองอีกด้วย จึงเป็นความท้าทายอย่างมากในการที่ทำให้ผู้บริโภคยอมสมัครสมาชิก บวกกับคนไทยที่อินเทรนด์แค่ชั่วคราว การให้ลูกค้ามาซื้อประจำจึงเป็นการบ้านสำคัญ

Tops CLUB มีสมาชิก 2 รูปแบบ ได้แก่ สมาชิกทั่วไป (Basic Member) สมัครได้ฟรี และสมาชิกระดับพรีเมียม (Premium Member) ค่าสมาชิกพิเศษเพียง 799 บาท/ปี เป็นราคาโปรโมชันถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2565 จากราคาปกติ 999 บาท/ปี

สมาชิกระดับพรีเมียมจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น เช่น รับส่วนลด 5% โดยสินค้าในสโตร์จะมี 2 ราคา ราคาสมาชิกทั่วไป และสมาชิกพรีเมียม ถ้าใครอยากได้ราคาที่ถูกลงก็ต้องสมัครแบบพรีเมียม พร้อมกับมีบริการส่งสินค้าฟรีในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไม่มีขั้นต่ำ เมื่อซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Tops CLUB ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566

แต่เชื่อว่าทาง CRC ได้ทำการบ้านมาอย่างดี มองเห็นแล้วว่าคนไทยพร้อมเปิดรับกับโมเดลใหม่นี้ ในประเด็นนี้ จิตรลดา ณ เชียงใหม่ ผู้จัดการทั่วไปของ Tops CLUB ได้เล่าให้ฟังว่า สิ่งที่ทำให้ลูกค้าชื่นชอบ Tops CLUB ก็คือ สินค้า และราคา เป็นสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ มีความแตกต่างจากที่อื่น ไม่ต้องบินไปซื้อเอง และราคาที่จับต้องได้

tops club

สินค้าส่วนใหญ่ 70% เป็นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะนำเข้ามาจากประเทศสหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ญี่ปุ่น, เกาหลี, อิตาลี และ สเปน สินค้าบางตัวจะมีขายแพ็กไซส์ใหญ่ ไม่เคยมีขายที่ไหน

“โมเดลสมาชิกจะเกิดขึ้นได้พื้นฐานสินค้าต้องดี ราคาดี ทำให้เกิดการซื้อซ้ำ ตอนที่ได้ทดลองตลาดด้วย Pop-up Store ก็พบผลตอบรับจากลูกค้าว่ายังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องสมัครสมาชิกถึงจะซื้อของได้ แต่สิ่งที่ทำให้ลูกค้ายอมสมัครก็คือ สินค้า ทำให้เห็นความต่างชัดเจน ส่วนราคาที่นี่ไม่ได้ถึงกับถูกที่สุด แต่มีความคุ้มค่า บางอย่างราคาเท่ากับต่างประเทศ บวกกับปัจจัยอื่นๆ อย่างรูปแบบร้านเป็นแบบโกดังทำให้เดินสนุก สินค้าบางอย่างหมดแล้วหมดเลย ทำให้ลูกค้าอยากมามากขึ้น”

หลังจากที่ทดลองเปิด Pop-up Store ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีลูกค้าที่สมัครสมาชิกแล้วกว่า 12,000 ราย โดยสมาชิกระดับพรีเมียมส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่อายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป

tops club

การเปิด Tops CLUB ถือว่าเป็นอีกหนึ่งหนึ่งโมเดลที่มีเติมพอร์ตให้ท็อปส์สมบูรณ์มากขึ้น เพราะในช่วงหลังมานี้ CRC พยายามดันท็อปส์ให้มีหลากหลายโมเดล ทั้งศูนย์การค้า สแตนด์อโลน รวมไปถึงไซส์ขนาดเล็ก เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม

แม้ Tops CLUB จะเป็นโมเดลที่แปลกใหม่ในไทย แต่ก็เชื่อว่าจะสร้างสีสันในตลาดค้าปลีกได้อย่างดี และเกิดการทดลองใช้ เพื่อนำไปสู่การเป็นลูกค้าประจำได้ ความท้าทายทายใหญ่ก็คือ การขยายสาขา เพราะผู้บริโภคยังคงมองว่าโมเดลสมาชิกจะคุ้มค่าได้ก็ต่อเมื่อสามารถใช้บริการได้หลายสาขา การที่ตอนนี้มีอยู่สาขาเดียว อาจจะไม่ตอบโจทย์ลูกค้าที่อยู่นอกทำเลพระราม 2 เท่าไหร่นัก

tops club

]]>
1402568
ไม่ใช่รีเทลทุกแห่งที่ซบเซา Costco “ยอดขายพุ่ง” หลังประชาชนแห่กักตุนสินค้ารับมือไวรัส https://positioningmag.com/1267565 Mon, 09 Mar 2020 10:12:35 +0000 https://positioningmag.com/?p=1267565 Costco ประกาศยอดขายพุ่งหลายสาขา เนื่องจากลูกค้าแห่ช้อปสินค้ายังชีพด้วยความวิตกต่อสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้ช่วงหนึ่งสัปดาห์ครึ่งที่ผ่านมา ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้มียอดขายที่ดีขึ้นอย่างมาก โดยมีสินค้าขายดี ได้แก่ อาหารแห้ง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด น้ำดื่ม สินค้าประเภทกระดาษ และน้ำยาล้างมือ

ไวรัส COVID-19 อาจจะโจมตีสภาพเศรษฐกิจโลกจนพังยับ แต่บางกลุ่มธุรกิจอย่างซูเปอร์มาร์เก็ตกลับมียอดขายดีขึ้น โดย Richard Galanti ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินของ Costco เปิดเผยกับนักวิเคราะห์ว่า ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัทพบว่าดีมานด์ลูกค้าสูงขึ้น 3% จากปกติ

“ลูกค้าสมาชิกของเราเข้ามาซื้อสินค้าหลากหลายที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมพร้อมรับมือไวรัส เช่น อาหารแห้งที่เก็บไว้ได้นาน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด น้ำยาคลอรีน น้ำยาฟอกขาว น้ำดื่ม สินค้าประเภทกระดาษ น้ำยาล้างมือ ทิชชูเปียก สารฆ่าเชื้อโรค และสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ-ความงาม” Galanti กล่าว

อย่างไรก็ตาม ยอดขายดีแต่ก็มีปัจจัยลบ Galanti กล่าวว่า ความต้องการสินค้าเหล่านี้มากเป็นพิเศษทำให้ระบบโกดังมีปัญหาพอสมควร เพื่อที่จะเติมของให้ทันต่อความต้องการ โดยโกดัง Costco ไม่เพียงแต่จำหน่ายสินค้าตามสาขา แต่ยังต้องรับคำสั่งซื้อเดลิเวอรี่ด้วย สาเหตุที่สินค้าเริ่มจะไม่พอส่วนหนึ่งเป็นเพราะสินค้าหลายชิ้นผลิตจากโรงงานในจีนซึ่งปิดชั่วคราวมาตั้งแต่มีการระบาดเกิดขึ้น

ปัญหาซัพพลายขาดทำให้ Costco ค้าปลีกยักษ์ใหญ่แห่งสหรัฐฯ แคนาดา และมีสาขาในอีกหลายประเทศ กำลังจะออกนโยบายจำกัดจำนวนซื้อสำหรับสินค้าบางชนิดโดยแตกต่างกันไปตามภูมิภาค

นอกจากนี้ จะมีมาตรการรับมือไวรัส เช่น เช็ดทำความสะอาดมือจับรถเข็นสินค้า วางน้ำยาทำความสะอาดกระจายทั่วโกดังสินค้า โดยมีบางสาขาของ Costco ที่มีมาตรการรับมือพิเศษ เช่น สาขาในเกาหลีใต้จะปิดทำการชั่วคราว 2-3 วัน สาขาในเซี่ยงไฮ้จะจำกัดจำนวนคนเข้าซื้อต่อครั้ง

ทั้งนี้ แม้ว่ายอดขายรีเทลจะพุ่ง แต่อีกกลุ่มธุรกิจหนึ่งของบริษัทคือธุรกิจเอเจนซี่ทัวร์ เรือสำราญ ที่พัก และรถเช่า ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว มีดีมานด์ลดลงอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์และบริษัทได้คาดการณ์ไว้แล้ว

“สัปดาห์ครึ่งที่ผ่านมาเราทำยอดขายได้ดีมาก แต่เราจะจับตาดูว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป” Galanti กล่าวปิดท้าย

source

]]>
1267565
ผ่าผลประกอบการ Costco ปรากฏการณ์ห้างแตกในเซี่ยงไฮ้ไม่น่าแปลกใจ https://positioningmag.com/1244427 Thu, 29 Aug 2019 23:07:29 +0000 https://positioningmag.com/?p=1244427 Costco กลายเป็นข่าวดังทั่วโลกเมื่อสามารถสร้างปรากฏการณ์ห้างแตกในเซี่ยงไฮ้จนต้องปิดร้านก่อนกำหนดในวันแรกที่เปิดทำการ เหตุผลหลักคือฝูงชนจำนวนมากที่แออัดเข้ามาซื้อสินค้ามากจนทำให้ Costco ตัดสินใจปิดร้านเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย ความสำเร็จของ Costco ถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจมากในยุคที่ธุรกิจค้าปลีกซบเซาเพราะอีคอมเมิร์ซ แต่แบรนด์เก่าแก่วัย 35 ปีอย่าง Costco กลับแข็งแกร่งขึ้นจนมูลค่าหุ้นพุ่งเกิน 2 เท่าตัวในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

ความแข็งแกร่งนี้เห็นได้ชัดจากผลประกอบการ Costco ตัวเลขจากรายงานผลประกอบการล่าสุดชี้ว่าบริษัทมีมูลค่าตลาด 1.38 แสนล้านเหรียญสหรัฐ พนักงานมากกว่า 245,000 คน มีคลังสินค้า 750 แห่ง ท่ามกลางสมาชิกรวม 94 ล้านคน 

เฉพาะปี 2018 ยอดขายรวมของ Costco ทะลุ 1.38 แสนล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 9.7% เมื่อเทียบกับที่เคยทำได้ 9% โดย Costco ฟันกำไรเบาๆ 3.134 พันล้านเหรียญ อัตราเติบโตสวยงาม 17%

รายได้สมาชิกพุ่งกระฉูด

ภาพถ่ายบรรยากาศร้าน Costco สาขาแรกในจีนสะท้อนว่าลูกค้าแดนมังกรจำนวนมากแห่เข้าคิวสมัครสมาชิก ซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ 42 เหรียญสหรัฐต่อปี (ราว 1,286 บาท) สมาชิกเท่านั้นจึงจะได้ซื้อสินค้าราคาส่งใน Costco ที่ต่ำกว่าท้องตลาด 30 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่สินค้ากลุ่มอาหารมีราคาขายถูกกว่า 10 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ตามรายงานของสำนักข่าว Xinhua ของจีน

สถิติปี 2018 ย้ำว่า Costco มีรายได้จากการสมัครสมาชิกเพิ่มขึ้นราว 10.1% คิดเป็น 3.142 พันล้านเหรียญสหรัฐ แถมสมาชิกส่วนใหญ่เกิน 80% ยังยอมเสียเงินสมัครซ้ำแล้วซ้ำอีกต่อเนื่องหลายปี ซึ่งถือเป็นรายได้หลักที่ทำให้ Costco สามารถกดราคาสินค้าให้ต่ำได้มากกว่าคู่แข่ง 

สินค้ากลุ่มอาหารราคาถูกของ Costco มีตั้งแต่เบเกอร์รี่ ไก่ย่างจนถึงตู้แช่แข็งที่เต็มไปด้วยเนื้อสัตว์ ยังมีสินค้ากลุ่มยา เสื้อผ้า หรือแม้แต่รถยนต์ สินค้าเหล่านี้ถูกขยายและปรับเปลี่ยนตลอดเวลานับตั้งแต่ Costco เปิดทำการครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาช่วงปี 1983 จนมีการทำสถิติว่า Costco สามารถขายพายฟักทองได้มากกว่า 5.3 ล้านชิ้นต่อปี ขณะที่ยอดขายเสื้อผ้าในปี 2018 คิดเป็นมูลค่ารวม 7 พันล้านเหรียญ

วันนี้ Costco เปิดบริการแล้วมากกว่า 768 สาขาทั่วโลก (สถิติธันวาคม 2018) ในจำนวนนี้ราว 533 เป็นสาขาในสหรัฐอเมริกาและเปอโตริโก รองลงมาเป็นแคนาดา 100 สาขา แม็กซีโก 39 สาขา อังกฤษ 28 สาขา ไอซ์แลนด์ 1 สาขา ฝรั่งเศส 1 สาขา สเปน 2 สาขา เกาหลีใต้ 15 สาขา ไต้หวัน 13 สาขา และออสเตรเลีย 10 สาขา 

4% ขายผ่าน e-commerce 

Costco ระบุว่าเปิดทำการ e-commerce ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา แม็กซีโก อังกฤษ เกาหลี และไต้หวัน ปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วน 4% ของยอดขายรวม จำนวนนี้ไม่รวมบริการจัดส่งสินค้าถึงที่ 

ทั้งหมดนี้ Costco ระบุว่าบริษัทจะซื้อโดยตรงกับผู้ผลิตสินค้าแบรนด์เนมหลายแห่งระดับประเทศ แต่จะไม่รับสินค้าเป็นล็อตใหญ่จากผู้จัดหารายใดรายหนึ่ง วิธีนี้ทำให้บริษัทไม่ประสบปัญหา

สินค้าขาดแคลนหรือล้นตลาด บนความเชื่อมั่นว่าการมีซัพพลายเออร์ทางเลือกจำนวนมาก จะทำให้ห่วงโซ่อุปทานของบริษัทไม่มีทางหยุดชะงัก โดย Costco จะซื้อและผลิตสินค้าบนฉลากส่วนตัว เพื่อให้สินค้ามีคุณภาพและตรงกับความต้องการของสมาชิก

หลักการนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ห้าง Costco ที่เป็นแบรนด์สหรัฐฯ ได้รับความสนใจมหาศาลจากชาวเซี่ยงไฮ้ นอกจากสินค้าที่เน้นความถูกและดี Costco ยังเข้าถึงลูกค้าทั่วถึงผ่านการสื่อสารบนสื่อโซเชียลท้องถิ่น เห็นได้ชัดจากกรณีที่ Costco ออกแถลงการณ์ล่าสุดบน WeChat แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ชาวจีนนิยมใช้ โดยแถลงการณ์ประกาศจำกัดจำนวนลูกค้าที่สามารถเยี่ยมชมร้านเป็นรอบ 

บน WeChat ห้าง Costco ประกาศว่าจะเปิดให้ลูกค้าเข้าซื้อสินค้า 2,000 คนต่อรอบ โดยในระยะแรก ผู้ที่เป็นสมาชิก Costco จะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อร้านมีจำนวนลูกค้ามากจนต้องใช้เวลารอคอยนาน ขณะเดียวกัน ตำรวจท้องที่ก็จะช่วยปรับปรุงการจราจรในพื้นที่ เพื่อลดการรบกวนร้านค้าใกล้เคียง ซึ่งทั้งหมดนี้หวังจะแก้ปัญหาที่ลูกค้า Costco ในจีนต้องรอคิวชำระเงินราว 2 ชั่วโมง และวนหาที่จอดรถมากกว่า 3 ชั่วโมงเมื่อวันแรกที่ร้านเปิดทำการ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ Costco ถูกจับตามองคือการอยู่ให้รอดในตลาดมังกร เพราะที่ผ่านมา แบรนด์ชั้นนำระดับโลกหลายแห่งต้องประสบความยากลำบากในการทำธุรกิจที่ประเทศจีน เช่น Carrefour SA ที่ต้องขายหุ้น 80% ในประเทศจีนแบบลดราคาสุดขีดเมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ค้าส่งเยอรมัน Metro AG ยังกำลังหาทางขายทิ้งกิจการ

ศึกนี้ Costco เชื่อว่า Sam’s Club ซึ่งเป็นบริการค้าส่งของ Walmart ที่ร่วมทุนกับนักธุรกิจจีนก่อตั้งในตลาดจีนมานานกว่า 20 ปี 23 สาขา จะช่วยให้ชาวจีนคุ้นเคยกับ Costco มากขึ้น โดย Richard Zhang รองประธานอาวุโสของ Costco ประจำภูมิภาคเอเชียกล่าวกับสำนักข่าว AFP ว่าความคุ้นเคยนี้จะทำให้ผู้บริโภคชาวจีนพร้อมจ่ายค่าสมาชิก เพื่อรับสิทธิพิเศษในการซื้อสินค้า เพราะแนวคิดนี้ไม่ใช่แนวคิดใหม่ในประเทศจีน โดยทิ้งท้ายว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะส่งผลกับ Costco ในเซี่ยงไฮ้เล็กน้อย เพราะสินค้าประมาณ 50% มาจากต่างประเทศและสินค้าที่ผลิตในสหรัฐฯ จะถูกแทนที่ด้วยสินค้าจากออสเตรเลีย.

Source

]]>
1244427