Delta – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 30 Dec 2021 03:29:43 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ผลวิจัยใหม่พบ ผู้ติดเชื้อ ‘โอมิครอน’ อาจมีภูมิคุ้มกันสายพันธุ์ ‘เดลตา’ https://positioningmag.com/1369067 Wed, 29 Dec 2021 02:26:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1369067 เหมือนจะเป็นข่าวดีในข่าวร้าย เมื่อมีการวิจัยพบว่า ผู้ที่ติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) จะมีภูมิคุ้มกันสายพันธุ์เดลตา (Delta) ด้วย

จากผลการศึกษาที่ตีพิมพ์โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวแอฟริกาใต้พบว่า ผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน อาจมีภูมิคุ้มกันสายพันธุ์เดลตาด้วย โดยการค้นพบอาจมีนัยสำคัญต่อประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ที่การติดเชื้อโอมิครอนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างของสายพันธุ์โอมิครอนกับเดลตาคือ อาการป่วยรุนแรงน้อยกว่า

“การติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันชนิดลบล้างฤทธิ์ (Neutralizing Antibody) ที่สามารถต้านไวรัสสายพันธุ์เดลตา เนื่องจากโอมิครอนสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทำให้การติดเชื้อซ้ำกับเดลตามีโอกาสน้อยลง” ทีมนักวิทยาศาสตร์นำโดย Khadija Khan จากสถาบันวิจัยสุขภาพแอฟริกาเขียนไว้ในผลการวิจัยของพวกเขา

ในการวิจัยเกิดจากการติดตามผู้ติดเชื้อจำนวน 13 คน โดย 11 คนในนั้นติดเชื้อด้วยตัวแปรโอมิครอน โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวน 7 รายที่ได้รับการฉีดวัคซีน โดยได้ทั้งวัคซีนของ Pfizer, BioNTech และ johnson & johnson

โดยการตอบสนองของแอนติบอดีของผู้ที่ติดเชื้อโอมิครอนดูเหมือนจะเพิ่มการป้องกันตัวแปรเดลตาได้มากกว่า 4 เท่าในสองสัปดาห์หลังจากที่ผู้เข้าร่วมลงทะเบียนในการศึกษา โดยผู้เข้าร่วมยังแสดงให้เห็นว่าความสามารถของแอนติบอดีในการสกัดกั้นการติดเชื้อโอมิครอนได้เพิ่มขึ้น 14 เท่า

ดังนั้น หากสายพันธุ์โอมิครอนแทนที่เดลตาและไม่รุนแรงกว่าสายพันธุ์ในอดีต ความร้ายแรงของ COVID-19 จะลดลงและการติดเชื้ออาจเปลี่ยนไปรบกวนบุคคลและสังคมน้อยลง อย่างไรก็ตาม การศึกษายังไม่ได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ๆ ในสาขานี้ และยังไม่ชัดเจนว่าการป้องกันที่เพิ่มขึ้นนั้นเกิดจากแอนติบอดีที่มาจากโอมิครอน, การฉีดวัคซีน หรือภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อครั้งก่อนหรือไม่ แต่บุคคลที่ได้รับการฉีดวัคซีนแสดงให้เห็นถึงการป้องกันที่แข็งแกร่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาจากแอฟริกาใต้และสหราชอาณาจักรพบว่า ผู้ที่ติดเชื้อโอมิครอนจะมีอาการป่วยที่ไม่รุนแรง โดยผู้ติดเชื้อโอมิครอนมีโอกาสเกิดโรคร้ายแรงน้อยกว่า 70% เมื่อเทียบกับเดลตา แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่า “เป็นข้อมูลเบื้องต้นและมีความไม่แน่นอนสูง” เนื่องจากโอไมครอนยังไม่แพร่กระจายอย่างกว้างขวางในกลุ่มอายุสูงอายุและกลุ่มอายุที่มีความเสี่ยงมากขึ้น

แต่นักระบาดวิทยาเตือนว่า แม้โอมิครอนจะรุนแรงน้อยกว่าเดลตา แต่ก็ยังสามารถสร้างภาระให้โรงพยาบาลได้ง่าย ๆ ด้วยการแพร่กระจายเร็วกว่าเดลตามาก โดยองค์การอนามัยโลก กล่าวว่า โอมิครอนกำลังแพร่กระจายเร็วกว่าเชื้อโควิดรุ่นก่อน ๆ การศึกษาจากฮ่องกงพบว่าโอมิครอนแพร่กระจายได้เร็วกว่า 70 เท่าในทางเดินหายใจของมนุษย์ แต่การติดเชื้อในปอดนั้นรุนแรงน้อยกว่า

Source

]]>
1369067
มองตลาด ‘ปั๊มลม’ เมืองไทยกับก้าวใหม่ของ ‘เดลต้า’ ปั๊มลมยุคดิจิทัล เทคโนโลยี DSV ออนไลน์ทุกที่ทุกเวลา https://positioningmag.com/1318261 Wed, 10 Feb 2021 07:00:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1318261

ตลาด ‘ปั้มลม’ เมืองไทย เเข่งดุเเละโตต่อเนื่อง ‘DELTA เดลต้า’ เเบรนด์ดังจากอิตาลี งัดทีเด็ดสร้างความเเตกต่าง พัฒนาระบบ ‘DSV’ ปั๊มลมสุดล้ำรับยุคดิจิทัล ตรวจสอบการทำงานเเบบเรียลไทม์ ผ่านออนไลน์ทุกที่ทุกเวลา เก็บข้อมูลไว้บน ‘คลาวด์’ วิเคราะห์ได้ พร้อมเผยกลยุทธ์หาลูกค้าในตลาด Niche Market

‘ปั๊มลม’ เป็นสินค้าจำเป็นในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม เพราะเป็น 1 ใน 3 พลังงานในโรงงานที่เครื่องจักรต้องใช้ ทั้ง ‘ไฟฟ้า-น้ำ-ลม’ ถ้าหากอย่างใดอย่างหนึ่งหยุดทำงานไป ก็จะทำให้กระบวนการผลิตได้รับผลกระทบได้ ดังนั้นการเลือกใช้ปั๊มลมที่มีคุณภาพ เหมาะกับการใช้งาน ช่วยลดต้นทุนเเละมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย จึงเป็นการ ‘ลงทุน’ ที่คุ้มค่า

ตลาดปั๊มลมในเมืองไทย มีการเติบโตต่อเนื่อง โดยอิงกับการเติบโตภาค ‘อุตสาหกรรม’ ปัจจุบันมีผู้ใช้เเบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ได้เเก่ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่มองว่าปั๊มลมเป็นทรัพยากรสำคัญ ราว 70% ส่วนอีกกลุ่มเป็นรายย่อยที่ใช้พลังงานลมทั่วไปราว 30% 

พัชร์พล พชรวรณวิชญ์  กรรมการบริหาร บริษัท เดลต้า คอมเพรสเซอร์ (เอเซีย) จำกัด เล่าให้ฟังว่า ย้อนกลับไปราว 5 ปีที่ผ่านมา มีจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการปั๊มลม เมื่อเทรนด์ ‘พลังงานสะอาด’ เข้ามา เเม้ตลาดในประเทศไทยยังไม่ได้เห็นภาพเปลี่ยนไปเร็วมากนัก เเต่ก็เห็นว่าลูกค้าที่มีการใช้ปั๊มลมอยู่เเล้ว มีการ ‘อัพเกรด’ หรือเปลี่ยนรุ่นใหม่ เพื่อให้ประหยัดพลังงานเเละเป็นมิตรกับสิ่งเเวดล้อมมากขึ้น

สำหรับเเบรนด์ ‘เดลต้า’ (DELTA) ผู้นำด้านเทคโนโลยีปั๊มลมและแก๊สชนิดต่างๆ สำหรับใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมทุกประเภท จากประเทศอิตาลีที่มีอายุยาวนานนับร้อยปี เริ่มเข้ามาทำตลาดในไทยตั้งเเต่เมื่อ 30 ปีก่อน

โดยมีกลุ่มลูกค้ากระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ ทั้งโรงงานขนาดใหญ่เเละกลาง ซึ่งหลักจะอยู่ที่
‘ภาคตะวันออก’ เนื่องจากมีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพเเละปริมณฑล รวมไปถึงตามปั๊มน้ำมันด้วย 

ในปัจจุบันบริษัทมีการพัฒนาธุรกิจให้เป็นมากกว่า ‘ปั๊มลม’ ยกตัวอย่างเช่น บริษัทเเม่ที่อิตาลีจะขยายไปสู่งาน ‘สั่งทำ เเบบพิเศษโดยเฉพาะ ทำปั๊มลมกันระเบิด ปั๊มลมที่ใช้ในเเท่นขุดเจาะน้ำมัน เเละเข้าถึงธุรกิจก๊าซธรรมชาติเเละใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำมากขึ้น

-พัชร์พล พชรวรณวิชญ์  กรรมการบริหาร บริษัท เดลต้า คอมเพรสเซอร์ (เอเซีย)

@เเบรนด์ตะวันตก ชิงตลาดปั๊มลมไทย 

เมื่อมองการเเข่งขันของธุรกิจปั๊มลมในไทย พบว่า ส่วนใหญ่จะเป็นการต่อสู้กันของ ‘เเบรนด์ตะวันตก’ ทั้งอิตาลี เยอรมัน สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ตามมาด้วยญี่ปุ่นเเละออสเตรเลีย

โดยลูกค้าคนไทย มักจะเลือกซื้อปั๊มลมจากเเบรนด์ยุโรป เพราะมีชื่อเสียงในวงการนี้มานาน เเต่อย่างไรก็ดี การตัดสินใจของลูกค้าก็เเตกต่างกันไป เช่น กลุ่มลูกค้าที่ตั้งธงว่าจะใช้เพียงเเบรนด์ใดเเบรนด์หนึ่ง หรือโรงงานของชาวญี่ปุ่นก็จะเลือกใช้สินค้าของเเบรนด์ญี่ปุ่น เเต่ทุกวันนี้ลูกค้าก็มีการเปิดใจรับในเรื่องเทคโนโลยีมากขึ้น

@เหตุผลในการเลือกซื้อ ‘ปั๊มลม’ คืออะไร ?

ธวัชชัย อัฐปัน กรรมการบริหาร บริษัท เดลต้า คอมเพรสเซอร์ (เอเซีย) จำกัด บอกว่า เรื่องเเรกที่ลูกค้าให้ความสำคัญในการเลือกซื้อ ‘ปั๊มลม’ มากที่สุดคือ ‘คุณภาพ’ เเม้จะฟังดูวัดผลยาก เเต่ลูกค้าทุกคนต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสูง

รองลงมาคือเรื่อง ‘การบริการหลังการขาย’ ต้องมีอะไหล่ที่หาง่าย ทีมช่างที่มีทักษะเเละ Know – How ขององค์กร จากนั้นจึงมาดูที่เรื่อง ‘ราคา’ ที่มีทั้งราคาถูกเเละเเพงเเตกต่างกันไป ตามขนาดเเละการใช้งาน

อีกเรื่องที่สำคัญที่หลายคนอาจมองข้ามไป หรืออาจจะเพิ่งเริ่มลงทุน มีงบน้อยอยากผลิตให้ได้ก่อน จึงไม่ได้คำนึงถึงการลดต้นทุนมาก คือ ‘ประสิทธิภาพทางไฟฟ้า’ ซึ่งหากเลือกลงทุนซื้อใช้ปั๊มลมที่มาช่วยในส่วนนี้ ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้มาก

‘ปั๊มลมเดลต้า มีราคาในเรทกลางๆ เรทราคาคอนข้างกว้างเพราะมีหลายสเปก ตามขนาดการใช้งาน ตั้งเเต่หลักเเสน-หลายล้านบาท’ 

-ธวัชชัย อัฐปัน กรรมการบริหาร บริษัท เดลต้า คอมเพรสเซอร์ (เอเซีย) จำกัด

สำหรับบริการหลังการขายของปั๊มลมเดลต้า จะมีเจ้าหน้าที่ส่วนกลางที่ผ่านการอบรมทักษะตามมาตรฐานสากล มีการจัดเทรนนิ่งระดับลึก เพื่อดูเเลลูกค้าทั่วประเทศ ปัจจุบันมีอยู่มากกว่า 10 ทีม นอกจากนี้ ยังมีทีมเซอร์วิสที่เป็นเครือข่ายพันธมิตรกระจายอยู่ทั่วภูมิภาค

มีฐานข้อมูลเเละระบบเชื่อมโยงให้เครือข่ายมีมาตรฐานเดียวกัน ทำให้สามารถดูเเลลูกค้าได้รวดเร็ว ยกตัวอย่าง ลูกค้ารายใหญ่อย่าง ‘ปตท.’ ที่มีปั๊มน้ำมันอยู่ทั่วประเทศ โดยไทยถือว่าเป็น Service Center ของเดลต้าในภูมิภาคอาเซียน จากทั้งหมดที่มีศูนย์กระจายอยู่ทั่วโลกเเละมีตลาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย

@รู้จักเทคโนโลยี DSV ปั๊มลมยุคดิจิทัล 

เมื่อมีการเเข่งขันสูง การพัฒนาสินค้าให้ ‘เเตกต่าง’ เเละ ‘ก้าวล้ำ’ จึงเป็นทิศทางของธุรกิจนี้ พัชร์พล อธิบายถึงจุดเด่นของ ‘ปั๊มลมเดลต้า’ ว่าเป็นเครื่องจักรที่มีคุณภาพสูงและทนทานเป็นพิเศษ ถูกออกแบบให้สามารถผลิตลมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงานมากกว่าปั๊มลมทั่วไป ช่วยลดต้นทุนการผลิต ควบคุมการทำงานได้ทั้งระบบขับหลักและระบบระบายความร้อน

โดยความโดดเด่นที่เป็นจุดขายล่าสุดที่ทำให้ปั๊มลมเดลต้า เเตกต่างจากยี่ห้ออื่นในตลาด คือ การเป็น Smart Air Compressor ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยี IoT ของตังเองขึ้นมาที่มีชื่อว่าเทคโนโลยี DSV หรือ Delta Smart Visions 

มีระบบสังเกตการณ์ผ่าน Internet 100% โดยเดลต้าเป็นแบรนด์แรกของประเทศไทยที่สามารถดูการทำงานของปั๊มลมได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านเบราว์เซอร์ของคอมพิวเตอร์ หรือ สมาร์ทโฟน” เริ่มติดตั้งให้กับปั๊มลมเดลต้า ‘ทุกเครื่อง-ทุกรุ่น-ทั่วโลก’ มาตั้งเเต่ช่วงปลายปี 2020 ซึ่งลูกค้าที่ใช้รุ่นเก่าอยู่มีการอัพเดทให้ทันที

โดยมีการทำงานที่น่าสนใจมาก คือ เมื่อปั๊มลมมีอาการผิดปกติหรือส่งสัญญาณแจ้งเตือน ระบบ DSV จะสามารถวิเคราะห์ถึงอาการที่ผิดปกติของปั๊มลมให้ผู้ที่ใช้งานทราบผ่านเเอปพลิเคชั่น Line ได้เเบบเรียลไทม์

“มีกราฟวิเคราะห์ อุณหภูมิ การทำงานของเครื่อง ระบุถึงความดันต่างๆ ระยะเวลาทำงานอีกทั้งยังบอกได้ว่าอุปกรณ์ชิ้นไหนต้องถึงเวลาซ่อมบำรุง จึงทำให้พนักงานจะทำงานได้เเม่นยำเเละสะดวกขึ้นมาก” 

นอกจากนี้ ระบบ DSV ยังมีการเก็บข้อมูลการใช้งานไว้ทั้งหมดไว้บน ‘คลาวด์’ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบและวิเคราะห์การทำงานของเครื่องจักรได้ตลอดการผลิต ตั้งแต่เปิดใช้งานวันแรก โดยนำข้อมูลที่บันทึกได้ สามารถนำมาช่วยโรงงานทั้งการวางเเผนตั้งงบพลังงาน วางเเผนการซ่อมบำรุงเเละเพิ่มกำลังผลิต รวมไปถึงขยายไลน์การผลิต

“ปัจจุบันโลกเทคโนโลยี 4.0 คนจะกลายมาเป็นผู้ดูเเลการทำงานของเครื่องจักรเเทน ตอนนี้คนที่คุมโรงงานจะไม่ต้องนั่งเฝ้าหรือเดินดูเพื่อจดตัวเลขเเล้ว พวกเขาจะอยู่คอนโทรลรูม เเล้วเห็นการทำงานของเครื่องจักรได้ทุกอย่างเเบบเรียลไทม์” 

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของปั๊มลม DELTA ได้แก่ โรงงานอุตสาหกรรมที่มีการผลิตอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ ที่ต้องการใช้ปั๊มลมที่ทันสมัยและประหยัดพลังงาน เช่น โรงงานผลิตรถยนต์และชิ้นส่วน โรงงานพลาสติก โรงงานปาร์มน้ำมัน โรงสีข้าว โรงกลั่นน้ำมัน เป็นต้น

ปัจจุบัน DELTA มีสินค้าพร้อมจำหน่ายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น สินค้าในกลุ่มพลังงานทดแทน, กลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานแก๊ส, ปั๊มลมแบบลูกสูบ, ปั๊มลมแบบสกรู และเครื่องทำอากาศแห้ง โดยสินค้าทั้งหมดถูกออกแบบและผลิตมาให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการและความแตกต่างของทุกโรงงานได้อย่างครบวงจร โดยเฉพาะในด้านระบบอัดแก๊สต่าง ๆ

“DELTA มีเครื่องอัดลมคุณภาพสูงที่ผลิตขึ้นเพื่อเสริมแรงขับเคลื่อนให้แก่อุตสาหกรรมทุกประเภท ช่วยให้เครื่องจักรสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ปั๊มลมเดลต้าพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการโรงงานในประเทศไทย ก้าวเข้าสู่ Smart Factory 4.0 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ” 

กลยุทธ์หา “ลูกค้าปั๊มลม” อย่างไร ในตลาด Niche Market

ผู้บริหารเดลต้า เปิดเผยว่า บริษัทมีทีมฝ่ายขายที่มีการเข้าหาลูกค้าโดยตรง ซึ่งต้องเป็น‘วิศวกร’ ผู้ผ่านการเทรนนิ่งมาโดยเฉพาะ มีการสอบวัดผลทุกเดือน โดยจะไม่ได้เข้าไปเพื่อขายสินค้าโดยตรง เเต่จะเน้นไปที่การ ‘Consulting’ ให้คำปรึกษาตามหลักวิศวกรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าบอกกลับมาว่า ‘ชอบมาก’ ส่วนอื่นๆ จะเน้นการทำมาร์เก็ตติ้ง ออนไลน์-ออฟไลน์ สื่อสารไปให้ถึงกลุ่มเป้าหมายในอย่าง กลุ่มวิศวกร เจ้าของโรงงาน เจ้าของกิจการเป็นหลัก นอกจากนี้ ยังเข้าถึงกลุ่มคนทั่วไปโดยการออกบูธตามงานนิทรรศการต่างๆ

ในส่วนออนไลน์ จะเน้นไปที่การให้ ‘คอนเทนต์ความรู้’ มากกว่าการโฆษณาสินค้า เพราะจุดเเข็งของ DELTA คือคลังความรู้เฉพาะ Know-how ของบริษัทที่น่าเชื่อถือเเละมีมายาวนานนับร้อยปี พร้อมอธิบายให้ผู้อ่านได้เข้าใจเเบบ ‘ง่ายๆ’ 

ช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา DELTA ก็ได้รับผลกระทบเหมือนกันกับทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก เมื่อการจับจ่ายใช้สอยน้อยลง โรงงานก็มียอดการผลิตน้อยลงไปด้วย นโยบายขยายการผลิตก็ลดลงไปด้วย ซึ่งกระทบต่อยอดขายปั๊มลมเช่นกัน

“เเต่ในอีกมุมหนึ่งของวิกฤต COVID-19 เราจะเห็นได้ว่ามีธุรกิจที่เติบโตขึ้น จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้ต้องเพิ่มการผลิต เช่น อุตสาหกรรมถุงมือยาง หน้ากากอนามัย เเละธุรกิจเเพ็กเกจจิ้งที่เฟื่องฟูจากกระเเสเดลิเวอรี่ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เหล่านี้ล้วนเป็นอุตสาหกรรมที่หันมาใช้ปั๊มลมมากขึ้น” 

สำหรับปีนี้ เดลต้า มองทิศทางอุตสาหกรรมไทยว่าเป็น ‘ปีที่ยาก’ เพราะการระบาดยังไม่หายไปง่ายๆ เศรษฐกิจไทยยังอิงกับการค้าโลกค่อนข้างเยอะ ทั้งอุตสาหกรรมต้องเเข่งขันกันมากขึ้น ดังนั้นจึงเป็นความท้าทายที่จะต้องพัฒนาสินค้าให้มี ‘จุดเด่น’ ที่เเตกต่างจากตลาดจริงๆ เเล้วทำการสื่อสารไปยังลูกค้าให้ตรงจุด สร้างความเข้าใจเเละพบเห็นเราให้มากที่สุด

ผุดไอเดียใหม่ ‘ขายลม’ 

ผู้บริหารเดลต้า กล่าวถึงความท้าทายของธุรกิจปั๊มลมว่า คือการก้าวผ่านขีดจำกัดของเทคโนโลยีเครื่องจักร โดยการเอาระบบไอทีเข้ามารวมกับเรื่อง ‘Mechanics’ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้เเตกต่าง ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ต่างอะไรกับปั๊มลมยี่ห้ออื่น ดังนั้นจึงต้องพัฒนา ‘หาสิ่งใหม่’ ให้ก้าวหน้าขึ้นไปตลอดเวลา

“เดลต้า กำลังมีโปรเจ็กต์ที่น่าสนใจมาก คาดว่าจะเริ่มได้ประมาณปลายเดือน ก.พ.นี้ คือการ
‘ขายลม’ คิดง่ายๆ อย่างทุกวันนี้เราซื้อน้ำจากการประปา ซื้อไฟกับการไฟฟ้า เเละถ้าอยากได้พลังงานลมก็ให้มาซื้อกับเดลต้าได้ ตั้งใจเจาะกลุ่มโรงงานที่ต้องการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย เเปลงจาก fixed cost เป็น variable cost…

โดยกระบวนการคร่าวๆ คือการเอาปั๊มลมของเราไปติดตั้ง วัดการทำงานจากระบบ DSV เเล้วลูกค้าจ่ายเป็นค่าลม ถ้าใช้เยอะก็จ่ายเยอะ ใช้น้อยก็จ่ายน้อย ซึ่งต่างจากการเช่าเครื่องปั๊มลมทั่วไป เพราะเช่าเครื่องเเต่ไม่ได้ใช้ก็ต้องจ่ายเป็นรายวัน/รายเดือน เเต่โปรเจ็กต์นี้จะนับเป็นบปริมาณที่ใช้ลมไปจริงๆ ลูกค้าจึงไม่ต้องกังวลเรื่องซ่อมบำรุงหรือหาอะไหล่ ไม่ต้องซื้อเครื่องก็ไม่ต้องจ้างทีมช่างเอง”

นับเป็นโปรเจ็กต์ล้ำๆ กับเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจแห่งวงการ ‘ปั๊มลม’ เมืองไทยเลยทีเดียว…
‘เดลต้า’ จะเปิดตัวอะไรใหม่ๆ มาเอาใจลูกค้ายุคดิจิทัลกันอีก…ต้องติดตาม

]]>
1318261
ปรากฏการณ์ DELTA หุ้นเด้งเเห่งปี 2020 พุ่งทะยาน…เหนือคำทำนาย https://positioningmag.com/1312243 Sun, 27 Dec 2020 18:41:53 +0000 https://positioningmag.com/?p=1312243 DELTA ขึ้นเเท่นสุดยอดหุ้นเด็ดของปีนี้ไปอย่างไร้ข้อกังขา พุ่งทะยานขึ้นมาด้วยราคาที่เกินไขว่คว้า ทำ All Time High ดันมูลค่าบริษัทเกิน 8.5 เเสนล้านบาท ติดระดับท็อป 3 ตอนนี้เป็นรองเเค่บิ๊กน้ำมันอย่าง PTT เเละเจ้าท่าอากาศยานไทยอย่าง AOT เท่านั้น (จ่อเเซงในเร็วๆ นี้)

นับว่าเป็นปรากฏการณ์ใหญ่ของตลาดหุ้นไทยในรอบหลายปี เพราะ DELTA เป็นหุ้นเด้งเหนือความคาดหมาย’ ราคาเพิ่มขึ้นถึง 2,600% จากจุดต่ำสุดในเดือนมีนาคม เด้งขึ้นมาเเล้วกว่า 24 เด้ง ภายในเวลาเดือน ทะลุ 684 บาท (ณ วันที่ 25 .. 2020) 

ย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2019 หุ้นของ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ปิดที่ราคาเเค่ 53.50 บาท ไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากนัก เพราะผลกระกอบการในปีนั้นที่ชะลอตัวลง โดยมีกำไรสุทธิ 2,960 ล้านบาท ลดฮวบไปกว่าครึ่งจากปี 2018 ที่มีกำไรสุทธิ 5,137 ล้านบาท

ในช่วงต้นปี หุ้นของ DELTA ก็ได้รับผลกระทบจากวิกฤต COVID-19 ไม่น้อย โดยเดือนมีนาคม ราคาหุ้นตกต่ำสุดถึงระดับ 27 บาท หลังถูกเทขายเช่นเดียวกับหุ้นตัวอื่นในตลาด ก่อนจะขยับขึ้นมาอยู่ในระดับ 50-200 กว่าบาท อยู่สักระยะ หลายคนไม่อาจคาดคิดว่าเมื่อถึงวันใกล้สิ้นปีนี้ ราคาจะพุ่งขึ้นมาเกิน 600 บาทได้

ณ วันที่ 25 .. 2020 มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของ DELTA ขยับมาอยู่ที่ 853,209.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 786,474.10 ล้านบาท จากสิ้นปี 2562 อยู่ที่ 66,734.92 ล้านบาท ขึ้นเเท่นอันดับที่ 3 จากเคยอันดับที่ 54 เมื่อสิ้นปี 2019

วันที่ 28 ธันวาคม 2020 เวลาประมาณ 10.45 น. DELTA มีมูลค่าบริษัททะลุ 1 ล้านล้านบาทแล้ว จากราคาหุ้นละ 810 บาท ส่งผลให้มูลค่าบริษัทของ DELTA แซงหน้า AOT ขึ้นเป็นบริษัทมูลค่าสูงสุดอันดับ 2 ของประเทศ เตรียมจ่อเเซงเบอร์ 1 อย่าง ปตท.
เเม้ตอนนี้มาร์เก็ตเเคปจะใกล้เคียงกันมาก เเต่เมื่อดูกำไรจากผลประกอบการของ ปตท. กับ DELTA นั้น “ห่างกันมาก” โดยในปี 2019 ปตท. มีกำไรสุทธิราว 9.2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ DELTA มีกำไรสุทธิเเค่ 2,960 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เป็นไปตามที่หลายคนคาด หลังดีดไปจนสุดเพดาน ในวันที่ 29 ธันวาคม 2020 หุ้น DELTA เริ่ม “ผันผวนหนัก” เปิดตลาดเช้าติดลบที่ -11% ลงไปจุดต่ำสุดอยู่ที่ 428 บาทต่อหุ้นเเล้ว มูลค่าบริษัทหายไปหลายเเสนล้านบาท

Photo : deltathailand

DELTA ทำธุรกิจอะไรบ้าง ?

DELTA เป็นบริษัทลูกของ DELTA Electronics (Taiwan) ประเทศไต้หวัน ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์เพาเวอร์ซัพพลายและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ถูกนำใช้เป็นส่วนประกอบในหลายอุตสาหกรรม เช่น วงการพลังงาน อุปกรณ์สำนักงาน เครื่องมือแพทย์ รถยนต์และโทรคมนาคม ฯลฯ

จุดดึงดูดของ DELTA คือการเป็นผู้ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สําหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ยานยนต์เเห่งอนาคตที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐทั่วโลกเเละบริษัทเอกชนก็ทุ่มลงทุนในด้านนี้กันมหาศาล

การมาของเทรนด์โลกพลังงานสีเขียวก็เข้าทาง DELTA ไปเต็มๆ เพราะมีส่วนธุรกิจทั้งการผลิตสถานีชาร์จประจุไฟฟ้ารถยนต์ไฟฟ้า ระบบกักเก็บพลังงาน พลังงานหมุนเวียน และมอเตอร์ไดรฟ์พลังงานสูง

รายได้ของ DELTA  เเบ่งตามผลิตภัณฑ์ ได้เป็น 4 ส่วน โดยอิงจากรายได้รวมของบริษัท เปี 2019 ที่ 51,896 ล้านบาท ดังนี้ 

  • กลุ่มผลิตภัณฑ์เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ 

ผลิตและการบริการแบบครบวงจรด้านการจัดการพลังงาน และการจัดการความร้อน มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 63.1% หรือราว 32,746 ล้านบาท 

  • กลุ่มผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐาน

สำหรับเทคโนโลยีสื่อสารข้อมูล โซลูชันเครือข่าย ระบบพลังงานสำหรับพลังงานทดแทน และเครื่องชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 32.4% หรือราว 16,814 ล้านบาท

  • กลุ่มผลิตภัณฑ์อัตโนมัติ

อุปกรณ์อัตโนมัติสำหรับภาคอุตสาหกรรม ระบบโรงงานอัจฉริยะ รวมถึงระบบแสงสว่าง และระบบเฝ้าระวังอัตโนมัติสำหรับอาคาร มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 4.2% หรือราว 2,179 ล้านบาท

  • อื่นๆ 0.3%
Photo : deltathailand.com

DELTA มีฐานการผลิตอยู่ในภูมิภาคต่างๆ เเละมีลูกค้ารายใหญ่ทั่วโลกเเบ่งรายได้จากแหล่งต่างๆ ได้เเก่ เอเชีย 36% สหรัฐอเมริกา 34% ยุโรป 28% และอื่นๆ อีก 2%

ด้านผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปีของ DELTA นั้น ได้เเก่
ปี 2017 รายได้ 50,330 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4,931 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 53,937 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5,137 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 51,897 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,960 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่าก่อนวิกฤต COVID-19 รายได้ของ DELTA ค่อนข้างทรงตัวเเละ “ไม่หวือหวามากนัก” จนกระทั่งถึงปีนี้รายได้ของบริษัทกลับมาก้าวกระโดดอานิสงส์ในช่วงล็อกดาวน์ที่ทำให้ธุรกิจด้าน Cloud , Data Center และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้ผลประกอบการของบริษัทหลักทรัพย์กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เติบโต

ในผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2020 บริษัทได้สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการฟื้นตัวแรงเกินคาด ทำกำไรสุทธิ 2,021 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 136% จากไตรมาสก่อน

ทำไมราคาหุ้น DELTA พุ่งแรงขนาดนี้ ?

ช่วงครึ่งปีหลัง หุ้น DELTA เริ่มคักคัก ดันราคาขยับขึ้นต่อเนื่อง มีนักลงทุนบางกลุ่มเข้ามาทยอยเก็บหุ้นกักตุนล่วงหน้า

ราคาหุ้นของ DELTA ขยับขึ้นมาปรับขึ้นมาเทรดเหนือ 100 บาท เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม เเละรายได้ผลประกอบการในไตรมาส 3 ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง กำไรสุทธิเพิ่มเป็น 2,642 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 327.25% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 618.38 ล้านบาท เติบโตในทุกธุรกิจ ผลักดันให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ

ประกอบกับการได้เข้าคำนวณใน MSCI เเละกำลังเตรียมเข้าไปคำนวนในดัชนี ‘SET50’ ซึ่งจะมีผลในต้นปี 2021 ทันที ก็ทำให้ได้รับแรงส่งจากเหล่ากองทุนต่างๆ ซึ่งการที่หุ้น DELTA มีมาร์เก็ตแคปใหญ่เป็นอันดับ 3 ตามราคาหุ้นปัจจุบัน จะมีนำ้หนักต่อ SET ประมาณ 5% เลยทีเดียว

สำหรับ 5 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ณ วันที่ 25 ธันวาคม ได้เเก่

1.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) PTT มูลค่าบริษัท 1.1 ล้านล้านบาท
2.บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) AOT มูลค่าบริษัท 8.9 แสนล้านบาท
3.บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มูลค่าบริษัท 8.5 แสนล้านบาท
4.บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) มูลค่าบริษัท 5.3 แสนล้านบาท
5.บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) มูลค่าบริษัท 5.3 แสนล้านบาท

ในช่วงต้นเดือนธันวาคม ราคาหุ้น DELTA พุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดที่ระดับ 400 บาทเเม้จะเป็นหุ้นพื้นฐานดี มีปัจจัยการเติบโตที่เกื้อหนุน เเละตอนนี้ทางบริษัทยังมุ่งหน้าขยายธุรกิจที่เกี่ยวกับ 5G ทั้งในส่วนของ Power Supply และ Server ด้วย เเต่หลังจากราคาเกิน 400 บาท นักวิเคราะห์ก็เริ่มจับทิศทางไม่ได้เเล้ว

เเม้บริษัทแม่ที่ไต้หวัน ราคาหุ้นก็ยังไม่พุ่งสูงขึ้นขนาดเท่าบริษัทลูกในไทย

DELTA ชี้แจงผ่านตลาดหลักทรัพย์ เรื่องสถานการณ์ซื้อขายหลักทรัพย์มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญว่า ตามที่บริษัทไม่มีพัฒนาการที่สําคัญใดๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณและราคาการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท

ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยกับอีไฟแนนซ์ไทยว่าตลท.ยังไม่พบความผิดปกติในการซื้อขายหุ้นของ DELTA

เเต่การที่ราคาหุ้น DELTA สูงกว่าปัจจัยพื้นฐานไปไกลมากๆเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังนักลงทุนต้องถามใจตัวเองให้ดี

สิ่งที่ต้องจับตามองอย่างยิ่ง คือเรื่อง “Free Float ต่ำเพราะปัจจุบัน DELTA มีสัดส่วนของผู้ถือหุ้นรายย่อยเพียง 22.35% ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับมูลค่าบริษัท การที่หุ้นส่วนมากถือครองโดยรายใหญ่ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนเเปลงของราคาได้ง่าย หากมีการทุ่มซื้อหรือเทขาย ดังนั้นผู้ลงทุนต้องพิจารณาให้รอบด้านเเละตัดสินใจให้รอบคอบ

ปีหน้าคงต้องใจจดใจจ่อ ดูว่าหุ้นตัวเเรงทะลุอวกาศอย่าง DELTA จะเป็นไปในทิศทางใดกันเเน่…

 

—ล่าสุด ณ วันที่ 30 ธันวาคม ตลท. เตือนนักลงทุนระวังซื้อขายหุ้น ‘DELTA’ มีความผันผวนสูง โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาเหวี่ยงจาก 378 บาท ไปเเตะสูงสุด 838 บาท ปิดที่ 474 บาท มูลค่าซื้อขายกว่า 8,000 ล้าน/วัน กำลังอยู่ระหว่างติดตาม-ตรวจสอบสภาพการซื้อขายอย่างใกล้ชิด

 

 

ที่มา : SET , ข้อมูลประจำปี DELTA , MGR Online (1), (2)

]]>
1312243
ดูไม่ดี-ส่งเสริมการล่วงละเมิด! สายการบิน Delta ขอโทษลูกค้า แจกทิชชูพิมพ์ลาย Diet Coke ให้ผู้โดยสารจีบกันบนเครื่อง https://positioningmag.com/1214278 Fri, 15 Feb 2019 06:15:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1214278 จำไปอีกนานสำหรับสายการบิน Delta ที่ลูกค้าออกมาต่อต้านแคมเปญล่าสุด ซึ่ง Delta ใช้วิธีแจกทิชชูพิมพ์ลาย Diet Coke ให้ผู้โดยสารมีโอกาสจีบกันบนเครื่องผ่านการแลกชื่อและเบอร์โทรศัพท์ด้วยการเขียนบนทิชชูแบบสมัยเก่า แทนที่จะชื่นชม ผู้โดยสารต่อต้านแคมเปญนี้ว่าดูไม่ดีแถมยังส่งเสริมการล่วงละเมิดบนเครื่องบินอีกต่างหาก 

ล่าสุด ทั้ง Delta และ Coke พร้อมใจออกมาขอโทษหลังจากแจกทิชชูเช็ดปากไปตั้งแต่ปลายมกราคมที่ผ่านมา โดยบอกว่าได้เก็บทิชชูไม่เข้าท่าออกจากเครื่องแล้วในเดือนเดียวกัน ซึ่งเป็นการตัดสินใจทันทีหลังจากผู้โดยสารหลายรายออกมาวิจารณ์ผ่าน Twitter ชนิดเสียหายหลายแสน

ครีเอทีฟเกินงาม

การออกมาขออภัยของ Diet Coke และ Delta Air Lines แสดงให้เห็นถึงโทษของแคมเปญที่เน้นแต่ความสนุกสนานจนลืมนึกถึงความเหมาะสม ในกรณีนี้ ทั้งคู่ออกมาขอโทษที่ผลิตและแจกทิชชูเช็ดปากซึ่งแจกให้กับผู้โดยสารบนเครื่องบิน โดยบนทิชชูมีข้อความที่กระตุ้นให้นักเดินทางมองไปรอบตัวเพื่อหาคนน่ารักน่าจีบ” บนเครื่อง

ผู้โดยสารหลายคนวิจารณ์ว่าทิชชูนี้น่าขนลุก” โดยมองว่ากระดาษเช็ดปากเหล่านี้ส่งเสริมการล่วงละเมิด เนื่องจากข้อความบนกระดาษที่ระบุให้ผู้โดยสารลองเขียนหมายเลขโทรศัพท์แล้วมอบให้กับคนน่ารักน่าจีบบนเครื่อง พร้อมกับทิ้งท้ายว่าไม่แน่นะ …” ซึ่งเป็นคำ 2 แง่ 2 ง่ามที่ผู้โดยสารหญิงไม่ปลื้ม

อย่างไรก็ตาม Delta ให้ความเห็นกับสำนักข่าว INSIDER ว่ากรณีที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ผิดไปจากเจตนาที่วางไว้ พร้อมกับยืนยันว่าทิชชูเช็ดปากนี้ถูกยกเลิกออกจากเครื่องบินแล้ว และมีการนำทิชชูลายใหม่มาใช้แทน

ดราม่าชามโตบน Twitter

นักเดินทางผู้โดยสารเที่ยวบินของ Delta หลายรายได้แชร์รูปภาพของทิชชูซึ่งมีข้อความหลายเวอร์ชันที่ชักชวนให้ผู้โดยสารหันมาเจ้าชู้ใส่เพื่อนผู้ร่วมเดินทาง โดยข้อความบนทิชชูถูกวิจารณ์อย่างหนักในเครือข่ายสังคม Twitter ส่วนใหญ่ต่อต้านทั้ง Diet Coke และ Delta จนทำให้ภาพลักษณ์แบรนด์น่าเป็นห่วง

ผู้ใช้บางรายระบุว่าไม่มีใครอยากได้หมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่พึงประสงค์ผ่านการจีบกันสไตล์ย้อนยุคอย่างที่ข้อความบนทิชชูระบุ แถมยังมีผู้โดยสารจำนวนหนึ่งเดือดร้อนเพราะถูกจ้องมองบนเครื่องบินเป็นเวลาหลายชั่วโมง

ในมุมของทั้ง 2 แบรนด์ ทั้ง Delta และ Coca-Cola ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาไม่ดี และขอโทษอย่างสูงกับทุกคนที่อาจรู้สึกขุ่นเคืองจากการร่วมมือกันของทั้ง 2 บริษัท ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นกรณีศึกษาที่แบรนด์ทั่วโลกยึดเป็นบทเรียนล่าสุด

ที่มาhttps://www.thisisinsider.com/delta-apologises-for-creepy-diet-coke-napkins-which-told-passengers-to-flirt-2019-2?utm_content=buffer6f615&utm_medium=social&utm_source=facebook.com&utm_campaign=buffer-dessert&fbclid=IwAR0sXTjS0XlTq1LVVWQtspjiewizUJ9W-zlq0-cHinz9bDhY_hlHh4M9640

]]>
1214278