Expedia – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 27 Feb 2024 07:01:12 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Expedia ปรับองค์กรชุดใหญ่ ปลดพนักงาน 1,500 ราย เตรียมตั้ง CEO คนใหม่ ชี้บริษัทเปลี่ยนไปอย่างมากหลังโควิด https://positioningmag.com/1463951 Tue, 27 Feb 2024 06:16:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1463951 Expedia แพลตฟอร์มออนไลน์ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ได้ประกาศปรับองค์กรชุดใหญ่ โดยมีการปลดพนักงาน 1,500 ราย คิดเป็น 9% ของพนักงานทั้งหมด ขณะเดียวกันบริษัทก็เตรียมตั้ง CEO คนใหม่ขึ้นมารับตำแหน่งด้วย

Expedia ได้ยื่นเอกสารต่อ ก.ล.ต. ของสหรัฐอเมริกา ว่า บริษัทได้ปรับโครงสร้างองค์กร โดยจะมีการปลดพนักงานมากถึง 1,500 ราย โดย CEO ของบริษัทได้ชี้ว่าเพื่อที่จะลงทุนในส่วนของธุรกิจหลัก ขณะเดียวกันบริษัทเองเตรียมที่จะแต่งตั้ง CEO คนใหม่ในเร็วๆ นี้ด้วย

การปลดพนักงาน 1,500 คนนี้ คิดเป็นสัดส่วนพนักงานราวๆ 9% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด 17,100 ราย โดยโฆษกของ Expedia ได้กล่าวว่า การปลดพนักงานเพื่อที่จะจัดสรรทรัพยากรที่เหมาะสม เพื่อให้แน่ใจว่างานสำคัญที่สุดยังคงได้รับการจัดลำดับความสำคัญอยู่

Peter Kern ซึ่งเป็น CEO ของ Expedia ได้กล่าวว่าในจดหมายถึงพนักงานว่า “ด้วยความสำเร็จทางเทคนิคมากมายในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ตอนนี้เราจำเป็นต้องพิจารณาบทบาท ทักษะ ทีม หรือแม้แต่สถานที่อย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าทรัพยากรของเรามุ่งเน้นไปที่พื้นที่ที่เหมาะสม”

การปลดพนักงานจำนวนดังกล่าวทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างใหม่ คาดว่าจะอยู่ที่ 80 ถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นค่าชดเชยพนักงานและค่าชดเชย และค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะบันทึงในผลประกอบการในปีนี้

ก่อนหน้านี้ในปี 2020 บริษัทเคยปลดพนักงานมาแล้ว 3,000 ตำแหน่ง เนื่องจากผลประกอบการที่น่าผิดหวัง และไม่เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิดที่กระทบต่อภาคการท่องเที่ยวแต่อย่างใด

นอกจากนี้ Expedia เองยังเตรียมที่จะเปลี่ยน CEO รายใหม่จาก Peter Kern เป็น Ariane Gorin ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจ โดยแผนกของเธอนั้นเน้นไปยังการทำธุรกิจกับภาคธุรกิจอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นพันธมิตรกับบริษัทต่างๆ การหารายได้จากภาคธุรกิจด้วยกัน (B2B) หรือแม้แต่การหารายได้โฆษณาจากธุรกิจท่องเที่ยว

ปี 2023 ที่ผ่านมา รายได้ในส่วน B2B ของบริษัทนั้นเพิ่มมากขึ้น 33% จากผลงานที่เธอบริหาร ซึ่งเธอได้เข้าร่วมงานที่ Expedia ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา

ปัจจุบันแบรนด์ภายใต้เครือ Expedia นั้นมีทั้ง Expedia หรือแบรนด์ลูกอย่าง Vrbo Hotels.com Orbitz หรือแม้แต่ trivago

ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ CEO ของ Expedia ได้กล่าวว่า “ปัจจุบันบริษัทแตกต่างไปจากเมื่อ 4 ปีที่แล้วมาก” และหลังจากนี้ Peter Kern จะขยับขึ้นเป็นรองประธานบริษัท และ Ariane Gorin จะเริ่มตำแหน่งหัวเรือใหญ่ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคมเป็นต้นไป

ที่มา – Seattle Times, Reuters

]]>
1463951
คนไทยจ่อรอเที่ยว! “ภูเก็ต” แชมป์ปลายทางเตรียมเช็กอินมากสุดในปีนี้ “ญี่ปุ่น” รอปีหน้า https://positioningmag.com/1280815 Wed, 27 May 2020 10:06:26 +0000 https://positioningmag.com/?p=1280815 คนไทยทนไม่ไหว เตรียมวางแผนเดินทางหลังคลายล็อกดาวน์ มีการค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว จุดหมายปลายทางในการพักผ่อนหย่อนใจ โดยพบว่าในปีนี้เลือกเที่ยวในประเทศก่อน ส่วนปีหน้าวางแผนไปญี่ปุ่น เกาหลีใต้

วางแผนเที่ยวระยะสั้นก่อน

สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ส่งผลให้การเดินทางทั่วโลกชะงักลงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แผนการเดินทางถูกยกเลิก สายการบินต่างๆ หยุดให้บริการ โรงแรมต่างๆ ปิดดำเนินการชั่วคราว และเมืองต่างๆ ถูกปิดไม่ให้มีการเข้าออก อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการเป็นธุรกิจแรกที่ได้รับผลกระทบอย่างมากตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ในระยะเริ่มแรก

จากข้อมูลสถิติด้านการท่องเที่ยวของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2563 ลดลงจากปี 2562 ถึง 42.78% และลดลงอย่างมีนัยสำคัญถึง 76.41% ในเดือนมีนาคม 2563

และจากการเปิดเผยผลการรวบรวมข้อมูลในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 ของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยซึ่งสอดคล้องกับกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา ข้อมูลสถิติของนักท่องเที่ยวขาเข้าจาก 15 ประเทศชั้นนำมีจำนวนลดลง โดยนักเดินทางชาวจีนลดลงมากที่สุดถึง 59.4% ฮ่องกง 49.8% เกาหลีใต้  44% มาเลเซีย 38.3% สิงคโปร์ 37% อินเดีย 33.6% ไต้หวัน 32.5% อินโดนีเซีย 29.3% ญี่ปุ่น 28% เวียดนาม 26.5% พม่า 26.3% กัมพูชา 23% สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) 20.1% กาตาร์ 5% และ รัสเซีย 0.6%

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การเดินทางยังคงเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอนสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย อีกทั้งประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยที่ขยายเวลาการห้ามอากาศยานทำการบินระหว่างประเทศไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ซึ่งหมายความว่าแผนการการเดินทางระยะไกลต่างประเทศคงยังไม่เกิดขึ้นได้ ขณะที่การวางแผนเดินทางท่องเที่ยวระยะสั้นในประเทศมีแนวโน้มมากขึ้น ยืนยันได้จากข้อมูลการค้นหาทางเว็บไซต์ของเอ็กซ์พีเดีย (Expedia.co.th

จากการศึกษาข้อมูลการค้นหาผ่านทางเว็บไซต์ของเอ็กซ์พีเดีย (Expedia.co.th) ตลอดทั้งเดือนเมษายน 2563 พบว่ามีการค้นหาข้อมูลมากกว่า 5,000 ครั้ง โดยผู้เข้าชมที่ต้องการเดินทางตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 เป็นต้นไป ผลการวิจัยยังพบอีกว่าความสนใจในการเดินทางกลับมาเพิ่มมากขึ้น และคนไทยไม่เพียงแค่เข้าไปคลิกดูเท่านั้น แต่ทำการค้นหา และวางแผนการเดินทางเป็นอย่างดีด้วย

วันที่ที่ถูกเลือกสำหรับการเช็กอินแสดงถึงความมั่นใจที่มีมากขึ้นก่อนทำการจอง ซึ่งนั่นชี้ให้เห็นความจริงที่ว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์มีแนวโน้มที่ต้องการเดินทางอย่างแท้จริง และมีแผนการเดินทางอยู่ในใจเรียบร้อยแล้ว 

ข้อมูลการค้นหาพบว่า ประเทศไทยติด 7 ใน 10 อันดับแรกของจุดหมายปลายทางที่มีการค้นหามากที่สุด เพื่อทำการเช็กอินในช่วง ระหว่างเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2563 มีดังนี้ 

  1. ภูเก็ต ประเทศไทย 12.82%
  2. กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย 11.54%
  3. เชียงใหม่ ประเทศไทย 4.88%
  4. พัทยา ประเทศไทย 4.84% 
  5. โตเกียว ญี่ปุ่น 4.42% 
  6. กระบี่ ประเทศไทย 3.98%
  7. เกาะสมุย ประเทศไทย 3.5%
  8. โอซาก้า ญี่ปุ่น 2.88%
  9. ตราด ประเทศไทย 2.8%
  10. โซล เกาหลีใต้ 2.58%

ปีหน้าค่อยว่ากัน

แต่เมื่อมองไปถึงปี 2564 จุดหมายปลายทางยอดนิยม 10 แห่งที่มีการค้นหาเพื่อทำการการเช็คอินในช่วงเดือนช่วงเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ 2564 ส่วนใหญ่แล้วเป็นการเดินทางภายในประเทศเช่นกัน มีดังนี้

Photo : Shutterstock
  1. โตเกียว ญี่ปุ่น 1.92%
  2. ภูเก็ต ประเทศไทย 1.86%
  3. กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย 1.32%
  4. ซัปโปโร ญี่ปุ่น 0.78%
  5. โซล เกาหลีใต้ 0.76%
  6. กระบี่ ประเทศไทย 0.68%
  7. พัทยา ประเทศไทย 0.62%
  8. เชียงใหม่ ประเทศไทย 0.60%
  9. เกาะสมุย ประเทศไทย 0.40%
  10. พังงา ประเทศไทย 0.38%
]]>
1280815
Expedia เตรียมปลดพนักงาน 3,000 คนทั่วโลก เพราะผลการดำเนินงาน “น่าผิดหวัง” https://positioningmag.com/1265824 Tue, 25 Feb 2020 09:58:31 +0000 https://positioningmag.com/?p=1265824 Expedia ผู้ให้บริการด้านท่องเที่ยวทางออนไลน์ชื่อดัง เตรียมปลดพนักงานกว่า 3,000 คนทั่วโลก คิดเป็น 12% ของทั้งบริษัท เพราะการดำเนินงานที่ “น่าผิดหวัง”

จากข้อความในอีเมลที่ส่งผ่านให้พนักงานทุกคนของ Expedia ระบุว่า จากผลการดำเนินงานที่น่าผิดหวังในปี 2019 ทีมผู้บริหารได้ประเมินว่าธุรกิจของเรากำลังเติบโตไปในแบบที่ไม่ดีต่อองค์กรเเละไร้ระเบียบวินัย

โดย Expedia จะปลดพนักงานราว 12% คิดเป็น 3,000 คนทั่วโลก ในจำนวนนี้กว่า 500 คน คือพนักงานที่ปฏิบัติงานที่สำนักงานใหญ่ในเมืองซีแอตเติลของสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังจะลดการใช้ตัวแทนการขายด้วย เพื่อให้องค์กรมีความคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งพนักงานที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้จะได้รับเงินชดเชยและยืดระยะเวลาการคุ้มครองของประกันสุขภาพ

ทั้งนี้ ในปี 2019 Expedia มีพนักงานทั่วโลก 25,400 คน เพิ่มขึ้น 1,100 คน จากสิ้นปี 2018 มีเเพลตฟอร์มในเครือหลายเเบรนด์อย่าง HomeAway, Hotels.com, Orbitz, Travelocity เเละ Vrbo

สำหรับการปรับลดพนักงานครั้งนี้ คาดว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับลดค่าใช้จ่ายราว 300-500 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้ได้ภายในปี 2020 ตามที่ Barry Diller ประธานบริษัทเคยประกาศไว้เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากผลประกอบการของปีที่เเล้วค่อนข้างน่าผิดหวัง

ณ สิ้นปี 2019 บริษัทมีรายได้ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.8 แสนล้านบาท) ยอดขายเพิ่มขึ้น 8% กำไรสุทธิ 4% และกำไรต่อหุ้น 6% เเต่ไตรมาสที่แล้วมีกำไรสุทธิลดลง 4% และกำไรต่อหุ้นลดลง 1%

อย่างไรก็ตาม เเม้ช่วงต้นปีธุรกิจการท่องเที่ยวทั่วโลกจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการเเพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ (Covid-19) เเต่ทาง Expedia ระบุว่าการปรับลดพนักงานครั้งนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรค Covid-19 เเต่อย่างใด ซึ่งบริษัทยังไม่ประกาศคาดการณ์ผลประกอบการประจำปีนี้ เนื่องจากยังต้องรอประเมินผลกระทบก่อน

 

ที่มา : geekwire , cnbc , cna

]]>
1265824
4 เทรนด์ “การท่องเที่ยว” แห่งทศวรรษนี้ เจน “อัลฟ่า” และเทคโนโลยีจะพลิกโฉมการเดินทาง https://positioningmag.com/1261182 Sun, 19 Jan 2020 20:16:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1261182 ทศวรรษ 2020s มาถึงพร้อมกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและเจนเนอเรชั่นใหม่ Expedia Group จึงศึกษาวิจัยและคาดการณ์เทรนด์ “การท่องเที่ยว” แห่งทศวรรษนี้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

นิค แอนดรูส์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบริหารการตลาดของ Expedia Group รีแคปย้อนหลังในช่วงสิบปีที่ผ่านมาก่อนว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นภาคธุรกิจหนึ่งที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย และมีเทรนด์เด่นที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาคือ “การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์” รวมถึง “การแข่งขันทำตลาด” ที่หนักหน่วงและเริ่มนำเทคโนโลยีผู้ช่วยเสมือน เช่น Alexa หรือ Google Assistant เข้ามาเป็นตัวแปรในการค้นหาการเดินทางและจองที่พักแล้ว

สำหรับ ทศวรรษต่อไป จะมีอะไรที่เป็น เทรนด์โดดเด่นด้านการท่องเที่ยว บ้าง Expedia ได้ระบุไว้ดังนี้

 

1.เจน “อัลฟ่า” จะมีอิทธิพลสูงต่อการท่องเที่ยว

เจนเนอเรชั่น อัลฟ่า หรือ เจนเอ คือผู้ที่เกิดหลังปี 2553 (ปัจจุบันคือเด็กๆ วัยไม่เกิน 10 ปี) แต่บรรดาบุตรหลานเหล่านี้คือผู้มีอิทธิพลตัวจริงเมื่อครอบครัวจะแพลนทริปเที่ยว

จากการวิจัยของ Expedia ในกลุ่มผู้ปกครองไม่ว่าจะเป็นรุ่นพ่อแม่หรือรุ่นปู่ย่าตายาย กว่าครึ่งหนึ่งของคนกลุ่มนี้ตอบว่าพวกเขาเลือกสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมท่องเที่ยวนั้นๆ เพราะลูกหลานเจนเอนำคอนเทนต์ท่องเที่ยว จากสื่อออนไลน์หรือโทรทัศน์มาให้ชม แม้ว่าผู้ใหญ่จะเป็นคนตัดสินใจขั้นสุดท้าย แต่เห็นได้ชัดว่ากลุ่มลูกหลานมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ

แล้วทริปท่องเที่ยวแบบครอบครัวสำคัญอย่างไร? ปรากฏว่า 83% ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกนั้นท่องเที่ยวเป็นครอบครัว

เจนอัลฟ่านั้นมักจะเป็นเด็กที่เกิดมาโดยมีพ่อแม่เป็นเจนวายซึ่งชอบการท่องเที่ยวอยู่แล้ว และมักจะมีการศึกษาที่ดีขึ้นและเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวยกว่าในอดีต ดังนั้นเมื่อคนกลุ่มนี้จะวางแผนทริปครอบครัว ความสะดวกสบายจึงสำคัญกว่าเรื่องราคา ยกตัวอย่างเช่น กว่าครึ่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวเหล่านี้เลือกวิธีการเดินทางนั้นๆ เพราะเป็นวิธีที่เร็วที่สุดไม่ใช่ถูกที่สุด อีก 40% เลือกที่พักนั้นๆ ด้วยเหตุผลหลักคือตรงความต้องการของครอบครัวและทำเลดีที่สุด

นอกจากนี้ เมื่อมองไปในอนาคต 10 ปีข้างหน้า เจนอัลฟ่าจะมีอายุราว 20 ปี คนกลุ่มนี้จะเริ่มออกเที่ยวเอง คาดการณ์ว่าพวกเขาเหล่านี้จะใช้ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อท่องเที่ยว โดยอาจจะต้องการสำรวจพื้นที่จุดหมายปลายทางแบบเสมือนจริงก่อนวางแผนทริป หรือต้องการบอทขั้นสูงที่สามารถวางแผนการเดินทางให้ได้ในคลิกเดียว และต้องตรงตามความต้องการเฉพาะบุคคลตั้งแต่เรื่องที่พักจนถึงร้านอาหาร

 

2.ทำงานไปเที่ยวไป+เดินทางเพื่อไปทำงาน

Expedia พบว่า ออฟฟิศแบบเข้า 9 โมง ออก 5 โมงจะยังมีอยู่ แต่สิ่งที่เป็นเทรนด์มากขึ้นเรื่อยๆ คือ การทำงานที่ไม่ต้องเข้าออฟฟิศทำให้คนจำนวนมากขึ้นสามารถเดินทางท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กับทำงานได้

(photo: senivpetro / Freepik)

ในอีกมุมหนึ่ง แม้ว่าเทคโนโลยีอย่างการประชุมทางไกลหรือส่งงานผ่านระบบออนไลน์จะทำให้การทำงานนอกออฟฟิศเกิดขึ้นได้ แต่การนัดประชุมเป็นระยะเพื่อพบเจอกันก็ยังสำคัญ เนื่องจากมนุษย์ก็ยังต้องการสัมผัสตัวคนจริงๆ อยู่ ทำให้ “ทริปเดินทางเพื่อธุรกิจ” จะยิ่งมีมากขึ้นเพื่อนำคนเหล่านี้ไปประชุมงาน (และอยู่เที่ยวต่อไปด้วยเลย)

สำหรับผู้ประกอบการ นี่จึงเป็นโอกาสในการพัฒนาที่พักให้ตรงกับความต้องการของคนกลุ่มนี้ที่มาทำงานด้วยและท่องเที่ยวด้วย เช่น Wi-Fi คุณภาพดีในที่พัก เป็นต้น

 

3.”สนามบิน” กลายเป็นประเด็นใหญ่

ที่จริงเทรนด์นี้เริ่มเกิดขึ้นแล้ว นั่นคือนักท่องเที่ยวจะไม่ยึดติดกับสนามบินที่ตัวเองคุ้นเคย แต่ยอมเปลี่ยนไปสนามบินอื่น (ซึ่งอาจจะไกลบ้านกว่า) ถ้าหากราคาตั๋วเครื่องบินถูกกว่าหรือสะดวกสบายมากกว่า เช่น มีแถวตรวจผู้โดยสารและรักษาความปลอดภัยสั้นกว่า มีร้านอาหารดีกว่า ที่จอดรถสะดวก มีร้านให้ช้อปปิ้ง เป็นต้น

จากเทรนด์ดังกล่าว จึงเป็นไปได้ว่าสนามบินจะกลายเป็นธุรกิจที่ต้องแข่งขันกัน โดยในกลุ่มที่ย้ายสนามบินเพื่อความสะดวกจะมีความต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกที่สนามบินสูงขึ้น เช่น บริการช่องตรวจความปลอดภัยแบบวีไอพี รถรับส่งตรงจากอาคารผู้โดยสารไปที่ประตูเครื่อง จองแพ็กเกจอาหารไว้รับประทานก่อนขึ้นเครื่อง เป็นต้น

 

4. Staycation จะได้รับความนิยมมากขึ้น

ในอดีตการพักผ่อนอยู่บ้านในช่วงวันหยุดคือคู่แข่งของธุรกิจท่องเที่ยว แต่ปรากฏว่าทริปแบบ “Staycation” หรือการย้ายที่ไปพักผ่อนท่องเที่ยวในจังหวัดของตัวเองหรือจังหวัดใกล้ๆ กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่นักเดินทางชาวไทย ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีมากสำหรับผู้ประกอบการที่พัก เพราะแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ไปไหนไกลแต่ก็มีการจองที่พักแน่นอน

เทรนด์นี้จะยิ่งได้รับความนิยมขึ้นจากปัจจัยบวก เช่น สภาพถนนเดินทางได้ง่าย นักท่องเที่ยวเริ่มใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและต้องการเดินทางด้วยรถยนต์แทนที่เครื่องบินเพราะปล่อยคาร์บอนน้อยกว่า หรือต้องการท่องเที่ยวแบบประหยัดทำให้เลือกไปสถานที่ใกล้ๆ ก็พอ

เมื่อรู้ “อินไซต์” นักท่องเที่ยวเช่นนี้แล้ว ผู้ประกอบการสามารถปรับทั้งตัวที่พักและการตลาดเพื่อให้ตรงใจคนรุ่นใหม่กันได้เลย!

]]>
1261182
“เอ็กซ์พีเดีย” สู้ตลาดท่องเที่ยวออนไลน์ ด้วยบริการใหม่-แพลตฟอร์มครบ https://positioningmag.com/1095984 Thu, 30 Jun 2016 04:45:36 +0000 http://positioningmag.com/?p=1095984 ในตลาดการจองห้องพัก หรือแพ็กเกจท่องเที่ยวผ่านช่องทางออนไลน์ หรือเรียกกันว่าเทคโนโลยีด้านการท่องเที่ยว ในปัจจุบันเรียกว่ามีการแข่งขันสูงพอสมควร มีหลายเว็บไซต์ที่ให้บริการที่เป็นทั้งรายใหญ่ๆ อย่าง Agoda, Booking, TripAdvisor และอื่นๆ อีกมากมาย

เอ็กซ์พีเดีย (Expedia) เป็นอีกหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดการท่องเที่ยวออนไลน์ มีจุดแข็งที่มีเว็บไซต์ในเครือข่ายมากมายกว่า 200 เว็บไซต์ และมีการใช้งาน 75 ประเทศทั่วโลก ใน 35 ภาษา

เมื่อการแข่งขันมีสูงขึ้น เอ็กซ์พีเดียจึงต้องต่อสู้ในตลาดด้วยหลายๆ กลยุทธ์ด้วยกัน อย่างแรกต้องมีหลายแพลตฟอร์มเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในหลายดีไวซ์ ทั้งคอมพิวเตอร์, โมบายล์, แท็บเล็ต และมีการออกบริการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ประกอบการโรงแรม และลูกค้าที่จองโรงแรม

ใน 2558 ที่ผ่านมา ทางเอ็กซ์พีเดียได้ลงทุนอย่างมหาศาลด้วยงบการตลาด 119,000 ล้านบาท ตัวเลขนี้ไม่ใช่ตัวเลขที่ผิดพลาดอย่างแน่นอน เป็นการลงทุนหลักแสนล้านไปกับเว็บไซต์ภายในเครือทั้งหมด โดยส่วนใหญ่ทุ่มงบไปกับสื่อโฆษณาทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ และสื่อนอกบ้าน รวมไปถึงการลงทุนด้านเทคโนโลยีอีกราว 30,000 ล้านบาท ที่เอ็กซ์พีเดียต้องลงทุนมหาศาลขนาดนี้ก็เพื่อต้องการสร้างเครือขายเทคโนโลยีการท่องเที่ยวให้ใหญ่ที่สุดในโลก และต้องการเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ผู้บริโภคเลือกใช้

ล่าสุดได้เพิ่มบริการ Realtime Feedback เพื่อให้ลูกค้าที่เข้าพักโรงแรมได้คอมเมนต์ หรือให้คำแนะนำโรงแรมได้ในทันทีระหว่างที่เข้าพัก เพื่อให้ทางโรงแรมได้เห็นกระแสตอบรับในทันทีและสามารถปรับปรุงแก้ไขได้ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งบริการนี้ทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจเพิ่มขึ้น 10%

พิมพ์ปวีณ์ นพกิจกำจร ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการตลาดเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป กล่าวว่าจริงๆ ตลาดนี้ไม่มีผู้เล่นที่ชนะคนเดียว เหมือนทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดขึ้นอยู่กับความต้องการผู้บริโภค การที่ใครมีบริการที่ตอบโจทย์มากกว่าก็ได้ใจผู้บริโภคไป การแข่งขันตรงนี้ก็ต้องทำให้เราต้องพัฒนาบริการให้ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าและโรงแรม เราก็ต้องได้โรงแรมที่เป็นพาร์ตเนอร์เพิ่มขึ้น โรงแรมก็ได้ลูกค้าเพิ่มขึ้น

ปัจจุบันเอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ปในประเทศไทยมีโรงแรมที่เป็นพาร์ตเนอร์รวมกว่า 9,000 แห่ง ซึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงในตอนนี้ก็คือเรื่องโมบายล์ มีการเติบโตสูงถึง 75% ในตอนนี้เว็บไซต์มีทราฟฟิกจากโมบายล์ 45% และมีการจองห้องพักผ่านโมบายล์ 22% และคาดว่าจะมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

Open_travelnew

]]>
1095984
Expedia ต้อง “ครบ” ถึงแตกต่าง https://positioningmag.com/14586 Tue, 10 Apr 2012 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=14586

เมื่อการท่องเที่ยวคือธุรกิจที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศ ดังนั้นผู้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนท่องเที่ยวจึงต้องหากลยุทธ์เพื่อสร้างความต่างจากรายอื่น เช่นเดียวกับการเปิดตัวธุรกิจในไทยของแอร์เอเชียเอ็กซ์พีเดียผู้ให้บริการเว็บไซต์ Expedia.co.th ธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์รายใหญ่ ที่ชูจุดเด่นด้วยการนำเสนอแพ็กเก็จท่องเที่ยวราคาประหยัด ซึ่งรวมทั้งที่พักและสายการบินไว้ด้วยกัน เป็น One Stop Service ในที่เดียว

เหตุผลที่ แดน ลินน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอร์เอเชียเอ็กซ์พีเดีย จำกัด เลือกไทยเป็นจุดหมายที่ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลังจากเปิดตัวสำนักงานใหญ่ที่สิงคโปร์ไปเมื่อปีที่แล้ว เพราะเห็นการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานว่า มีมูลค่าประมาณ 8 หมื่นล้านบาทต่อปี แบ่งเป็นการซื้อขายระหว่างผู้ประกอบการกับผู้ซื้ออยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะโตขึ้น 4-5 พันล้านบาท ประกอบกับพฤติกรรมของคนไทยที่ชื่นชอบการเลือกโปรโมชั่นท่องเที่ยวคุ้มค่า ราคาประหยัด ซึ่งตรงกับการทำตลาดของแอร์เอเชียเอ็กซ์พีเดีย 

“คนไทยจำนวนมากชอบซื้อของออนไลน์ โดยเฉพาะเรื่องท่องเที่ยว แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยมีใครนำเสนอบริการที่รวมทั้งที่พักและตั๋วเครื่องบินไว้ด้วยกันอย่างครบวงจร ซึ่งคนไทยมีอัตราการจองเรื่องท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 30% ของทุกปี แต่ส่วนมากจะเป็นการจองตั๋วเครื่องบิน” แดน เอ่ยถึงจุดเด่นของเว็บไซต์  Expedia.co.th  พร้อมเสนอทางเลือกให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกที่พักหรือตั๋วเครื่องบินอย่างเดียวก็ได้ 

รวมทั้งการเป็นพันธมิตรกับโรงแรมกว่า 145,000 แห่ง และสายการบินกว่า 400 สายการบินทั่วโลก ดังนั้น กลุ่มเป้าหมายของ Expedia คือนักท่องเที่ยวที่มีความต้องการหลากหลาย เพราะมีโรงแรมและสายการบินให้เลือกตั้งแต่ระดับหรูหราไปจนถึงราคาประหยัดสำหรับนักเดินทางที่ชอบความสมบุกสมบันสไตล์แบ็กแพ็ก พร้อมมีข้อมูลเชิงลึกและการรีวิวโรงแรมจากนักท่องเที่ยวที่เคยไปพักเพื่อประกอบการตัดสินใจ การันตีราคาส่วนลดที่มากกว่าตัวแทนท่องเที่ยวรายอื่นๆ 10-20% รวมทั้งมีการจัดโปรโมชั่น Big Sale ปีละ 4-5 ครั้ง ซึ่งให้ส่วนลดกว่า 40-50% 

เบื้องต้นใช้งบลงทุน 20 ล้านบาท ใช้พัฒนาเว็บไซต์ให้เชื่อมโยงกับช่องทางต่างๆ การหาคอนเนกชั่นกับสายการบิน โรงแรม การจ้างพนักงาน รวมถึงการทำโฆษณาผ่าน TVC ถึง 2 เวอร์ชั่นที่สื่อถึงข้อดีของแพ็กเกจท่องเที่ยวราคาประหยัดจนกระตุ้นให้อยากออกไปพักผ่อนจนต้องรีบลางานไปทันที 

แอร์เอเชียเอ็กซ์พีเดีย เป็นการร่วมทุนระหว่างสายการบินแอร์เอเชียและเอ็กซ์พีเดีย อิงค์ ผู้ให้บริการเว็บไซต์ Expedia.com เพื่อต้องการนำเสนอแพ็กเกจที่พักพร้อมสายการบินในราคาประหยัดไว้ด้วยกัน ซึ่งการร่วมทุนกับสายการบินนี้เป็นกลยุทธ์ที่ Expedia ใช้ในทุกประเทศ โดยแอร์เอเชียเอ็กซ์พีเดียทำธุรกิจในประเทศอินเดีย ญี่ปุ่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกลุ่มอาเซียนตะวันออก 

ปัจจุบัน เว็บไซต์ตัวแทนท่องเที่ยวซึ่งทำตลาดในไทยที่เหล่านักเดินทางนิยมใช้บริการบ่อยๆ ได้แก่ Agoda.com, Booking.com ทั้ง 2 รายนี้บริหารโดย Priceline.com เว็บไซต์ท่องเที่ยวชั้นนำจากอเมริกา ซึ่งมีจุดแข็งที่การเป็นพันธมิตรกับโรงแรมจำนวนมากทั่วโลก ด้าน hotelguidethailand.com เป็นเว็บไซต์ตัวแทนท่องเที่ยวสัญชาติไทยที่ให้บริการจองห้องพักโรงแรมในประเทศเท่านั้น โดยมี Voucher ส่วนลดเพิ่มให้กว่า 50% และ hostelworld.com ตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์จากต่างชาติรายนี้มีโรงแรมให้เลือกหลากหลายแต่เน้นที่กลุ่มลูกค้าแบ็กแพ็กเป็นหลักพร้อมการันตีห้องพัก 100% ซึ่งเว็บไซต์ตัวแทนท่องเที่ยวทั้งหมดนี้ให้บริการและส่วนลดเฉพาะการจองห้องพักและโรงแรมเท่านั้น

cellpadding=”2″ cellspacing=”2″>

href=”http://www.expedia.co.th/” target=”_blank”>Expedia.co.th Official
Launch    28 กุมภาพันธ์ 2555 Positioning เว็บไซต์ตัวแทนท่องเที่ยวที่ให้บริการจองที่พัก
โรงแรม และสายการบินแบบ One Stop Service Target หลากหลาย
เพราะมีทั้งโรงแรมและสายการบินให้เลือกทุกรูปแบบ
แล้วแต่ความต้องการของนักท่องเที่ยว Strategy บริการแบบ One Stop Service
ที่เว็บไซต์ตัวแทนท่องเที่ยวรายอื่นในไทยยังไม่มี Competitor target=”_blank”>Agoda.com, target=”_blank”>Booking.com, href=”http://www.hotelsguidethailand.com/home/home.php?l=th
target=”_blank”>hotelguidethailand.com และ href=”http://www.hostelworld.com/” target=”_blank”>hostelworld.com

]]>
14586