Fortnite – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 02 Nov 2022 00:55:43 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Ralph Lauren เปลี่ยนโลโก้บนอกเสื้อเป็นรูป “ลามะ” จากเกม Fortnite ดึงลูกค้าวัยรุ่น https://positioningmag.com/1406241 Tue, 01 Nov 2022 12:23:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1406241 หลังก่อตั้งแบรนด์มา 55 ปี ล่าสุด Ralph Lauren เปลี่ยนโลโก้บนอกเสื้อโปโลจากรูปคนขี่ม้าเป็นรูปคนขี่ลามะ ในคอลเล็กชันพิเศษที่คอลแลปกับเกม Fortnite เปลี่ยนมู้ดแบรนด์เพื่อเจาะตลาดคนรุ่นใหม่

ภาพจำของโลโก้ Ralph Lauren บนอกเสื้อโปโลคือภาพของชายคนหนึ่งขี่ม้าเล่นกีฬาโปโล แต่ภาพที่เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์นี้กำลังจะเปลี่ยนไปในคอลเล็กชันใหม่ที่แบรนด์คอลแลปกับเกม Fortnite

โลโก้ใหม่จะเปลี่ยนสัตว์พาหนะที่ชายคนนี้ขี่จาก “ม้า” มาเป็น “ลามะ” (piñata llamas) ซึ่งเป็นสัตว์ไอคอนของเกม Fortnite เป็นการดีไซน์ใหม่อย่างหนึ่งในการจับมือกันของสองแบรนด์

คอลเล็กชันนี้ แบรนด์ Ralph Lauren ได้เข้าไปดีไซน์เครื่องแต่งกาย “ในเกม” ให้กับ Fortnite และไลน์เสื้อผ้า “ในชีวิตจริง” ก็จะดีไซน์ให้สอดคล้องหรือบางชิ้นก็เหมือนกับที่มีในเกมดิจิทัลเลย

Ralph Lauren โลโก้
การเปลี่ยนโลโก้ในคอลเล็กชันคอลแลปกับ Fortnite

“เดวิด ลอเรน” ประธานเจ้าหน้าที่ด้านนวัตกรรม และลูกชายของผู้ก่อตั้งแบรนด์ บอกว่า การเปลี่ยนโลโก้ไม่ได้มีงานวิจัยหรือโฟกัสกรุ๊ปรองรับด้วยซ้ำ “เราทำงานด้วยหัวใจและสัญชาตญาณของเรา และมันก็รู้สึกว่าถูกต้อง รู้สึกสนุกที่ได้ทำ” ลอเรนกล่าว

การปรับตัวให้แบรนด์แฟชั่นสนุกมากขึ้น และคอลแลปกับโลกดิจิทัล ไม่ได้มีแค่ Ralph Lauren ที่ทำ Fortnite เองเคยคอลแลปกับทั้งแบรนด์ Balenciaga และ Moncler มาแล้ว หรืออย่าง Burberry ก็เป็นพาร์ทเนอร์กับ Roblox และค่ายเกม Mythical Games เพราะแบรนด์แฟชั่นต่างก็ขยับไปอยู่ในที่ที่ลูกค้าอยู่ และลูกค้าของพวกเขาเริ่มจะขยับไปอยู่ในโลกเสมือนจริงกันมากขึ้น

 

แบรนด์ที่จับไลฟ์สไตล์สุดเท่ของคนแต่ละยุค

สำหรับ Ralph Lauren การขยับครั้งนี้ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร เพราะเป็นแบรนด์ที่ตามเทรนด์เทคโนโลยีอยู่ตลอด เดวิด ลอเรน กล่าวว่า แบรนด์นี้ถือเป็นแบรนด์แรกๆ ที่มีเว็บไซต์ และมีเทคโนโลยีโฮโลแกรม วิดีโอเกม ตกแต่งหน้าร้านสาขา

ลอเรนอธิบายว่า การทดลองกับเทคโนโลยีเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพราะฟังก์ชันของตัวเทคโนโลยีเองสักเท่าไหร่ แต่เพราะแฟชั่นนั้นคือ “แรงบันดาลใจ” และแรงบันดาลใจจะเกิดได้เมื่อแบรนด์เล่าเรื่องของตนเองได้ดี เทคโนโลยีเหล่านี้จึงเป็นวิธีหนึ่งในการเล่าเรื่องของแบรนด์

โลโก้ Ralph Lauren
เสื้อโปโลในชีวิตจริงของคอลเล็กชันคอลแลป

เรื่องราวของแบรนด์ Ralph Lauren เมื่อมาจับมือกับ Fortnite จึงถูกชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงกับวิธีคิดของแบรนด์ที่มีมาตั้งแต่จุดเริ่มต้น โดยลอเรนคนลูกเล่าถึงแรงบันดาลใจในการตั้งแบรนด์ของคนพ่อว่า ในยุคทศวรรษ 60s พ่อของเขาได้ชมภาพยนตร์เรื่อง The Thomas Crown Affair และในหนังมีฉากเด็ดคือฉากขี่ม้าตีโปโล ซึ่งสะท้อนไลฟ์สไตล์ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ชมยุคนั้น

ตัวเอกในหนังเป็นผู้ชายที่รวยมากจนวางแผนปล้นธนาคารเพื่อความตื่นเต้นเท่านั้น เขาอาศัยอยู่ในแวดวงสังคมชั้นสูงในรัฐนิวอิงแลนด์ และลอเรนคนพ่อก็ได้ไอเดียขึ้นมาว่า ใครๆ ก็อยากจะเป็นเหมือนตัวเอกในหนัง เขาจึงสร้างแบรนด์เสื้อผ้าที่จะช่วยให้คนมีไลฟ์สไตล์แบบนั้นบ้าง

แต่ในเจนเนอเรชันนี้ วัยรุ่นคงไม่สนจะไรกับการขี่ม้าตีโปโลกันอีกแล้ว ความเท่ของคนยุคนี้คือชีวิตเมตาเวิร์สในเกม Fortnite นี่แหละ ในเกมที่ใช้สไตล์สีสันสดใส สู้กันด้วยปืนอวกาศ คือโลกใหม่ที่มาแทนที่ภาพยนตร์เรื่อง The Thomas Crown Affair

คอลเล็กชันของ Ralph Lauren ในเกม Fortnite

ลอเรนเชื่อว่าเมตาเวิร์สจะเป็นสื่อกลางใหม่ในการสื่อสารแบรนด์ เหมือนกับภาพยนตร์ โทรทัศน์ หรือสิ่งพิมพ์ ลอเรนคาดว่าความจริงเสมือน (Virtual Reality) จะติดตลาดในไม่ช้า

ไม่ว่าสื่อกลางจะเปลี่ยนไปแค่ไหน แบรนด์เสื้อผ้าก็ยังมีปลายทางสุดท้ายคือต้องขายสินค้าให้ได้ ทำให้การพูดคุยกับเจนเนอเรชันใหม่คือเรื่องสำคัญ ในโลกเสมือนของ Fortnite หากต้องการชุดแบรนด์ Ralph Lauren ในเกม จะต้องจ่ายในราคา 1,500 VBUX (สกุลเงินในเกมนี้) และมีเซ็ตเครื่องประดับขายในราคา 1,300 VBUX ด้วย ขณะที่ในโลกจริง บริษัทจะขายหมวกและเสื้อโปโลปักโลโก้ใหม่ขี่ลามะในราคา 60-188 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,260-7,090 บาท)

Source

]]>
1406241
‘Sony’ ทุ่มเงิน 250 ล้านดอลลาร์ฯ ลงทุนใน ‘Epic Games’ เจ้าของเกม ‘Fortnite’ https://positioningmag.com/1287241 Fri, 10 Jul 2020 07:55:13 +0000 https://positioningmag.com/?p=1287241 ยังไม่ทันได้วางขาย ‘Play Station 5’ แต่ล่าสุด ‘Sony’ ก็ประกาศทุ่มเงินถึง 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน ‘Epic Games’ บริษัทที่อยู่เบื้องหลังเกม ‘Fortnite’ และ ‘Gears of War’

Sony ผู้ผลิตคอนโซลของ PlayStation ได้ทุ่มเงินกว่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7,500 ล้านบาท แลกกับการถือหุ้นจำนวน 1.4% ใน Epic Games ซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมวิดีโอเกม โดยมีซอฟต์แวร์ Unreal game-engine ที่เป็นตัวขับเคลื่อนเกมชั้นนำของโลก อีกทั้งยังมี Store เกมออนไลน์ที่แข่งขันกับ Steam

“ไม่มีตัวอย่างที่ดีไปกว่าเกม Fortnite ที่ปฏิวัติวงการ จะเห็นว่าเทคโนโลยีอันทรงพลังของ Epic ในด้านต่าง ๆ เช่น กราฟิก ถือเป็นระดับแนวหน้าของการพัฒนาเอ็นจิ้นเกมด้วย Unreal Engine ยังไม่รวมถึงนวัตกรรมอื่น ๆ” Kenichiro Yoshida CEO Sony กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี

Kenichiro Yoshida CEO Sony

จากการลงทุนครั้งนี้ Sony จะสำรวจโอกาสในการร่วมมือกับ Epic เพื่อสร้างความพึงพอใจและสร้างมูลค่าให้กับผู้บริโภคและอุตสาหกรรมในวงกว้างไม่ใช่แค่ด้านเกมเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสื่อความบันเทิงดิจิทัลอื่น ๆ ที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วด้วย

“เรามองเห็นสิ่งที่กว้างกว่าแค่เกม แต่สามารถใช้งานมากขึ้นในการผลิตสื่อต่าง ๆ เพื่อป้อนสู่ตลาดความบันเทิงที่แตกต่างกัน สิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับธุรกิจต่าง ๆ ภายใน Sony” Piers Harding-Rolls หัวหน้าฝ่ายวิจัยเกมที่ Ampere Analysis กล่าว

อย่างไรก็ตาม การลงทุนดังกล่าวไม่ได้ทำให้ Sony เป็นเจ้าของเกม โดยเกมของ Epic ยังสามารถเผยแพร่บนแพลตฟอร์มอื่นได้ ทั้งนี้ ด้วยการลงทุนเข้าซื้อหุ้นของ Sony ทำให้มูลค่าของ Epic Games เพิ่มขึ้นเป็น 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 50,000 ล้านบาทไทย

CNBC / vg247

]]>
1287241
เกมเมอร์เซ็ง! เหตุ 2 เกมดัง ‘Fortnite’ และ ‘Dota 2’ ยกเลิกการแข่งขันเพราะ ‘COVID-19’ https://positioningmag.com/1276633 Sun, 03 May 2020 05:42:51 +0000 https://positioningmag.com/?p=1276633 แม้อุตสาหกรรมเกมจะเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้ผลบวกจาก COVID-19 เพราะคนไปไหนไม่ได้ ทำให้มีการเล่นเกมที่เพิ่มขึ้น เเต่สำหรับอุตสาหกรรม ‘E-Sport’ ที่ปัจจุบันมีมูลค่าถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์ต้องได้รับผลกระทบเสียเเล้ว เนื่องจากไม่สามารถจัดแข่งขันได้ โดยล่าสุดมี 2 เกมที่ออกมาประกาศคือ ‘Fortnite’ และ ‘Dota 2’ ซึ่งเป็นเกมที่มีรายการทัวร์นาเมนต์ที่มีเงินรางวัลสูงสุดในโลกอีกด้วย

Epic Games ผู้พัฒนา Fortnite ได้กล่าวว่า เนื่องจากข้อจำกัดของการแข่งขันแบบออนไลน์ข้ามภูมิภาค ดังนั้น ‘Fortnite World Cup 2020’ จึงถูกยกเลิก ขณะที่กิจกรรมที่เหลือทั้งหมดรวมถึง Champion Series (FNCS) Cash Cups และกิจกรรมออฟไลน์ทั้งหมดจะจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์แทนในช่วงที่เหลือของปี

ขณะเดียวกัน Valve Software ซึ่งเป็นผู้พัฒนา Dota ได้ประกาศว่า การแข่งขัน Dota 2 หรือ ‘The International’ ทัวร์นาเมนต์ใหญ่สุดและมีเงินรางวัลสูงสุดในโลก ได้ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยการแข่งขันอาจจะเกิดขึ้นใน 2021

“เราได้ทำการสำรวจความเป็นไปได้ของวันต่าง ๆ แต่เป็นไปได้ว่าการแข่งขันจะเกิดขึ้นในปี 2021 เนื่องจากสถานการณ์ที่ยังไม่แน่นอน ข้อจำกัดในการรวบรวมผู้เข้าแข่งขันท้องถิ่น รวมถึงนโยบายการเดินทางทั่วโลก”

The International คือการแข่งขันชิงแชมป์โลกประจำปี esports สำหรับ Dota 2 โดยปกติจะมีขึ้นในเดือนสิงหาคมและการแข่งขันครั้งแรกที่เคยจัดขึ้นในปี 2011

Source

]]>
1276633
สงครามสตรีมมิ่งทีวี เมื่อ Netflix ต้องเจอคู่แข่ง Disney + Fortnite ชิงคนดู https://positioningmag.com/1211091 Tue, 29 Jan 2019 10:48:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1211091 แม้ Netflix ยังคงเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่อนาคตของผู้ให้บริการความบันเทิงทางสตรีมมิ่งเจ้าใหญ่แห่งวงการ ยังต้องเจอกับคู่แข่งที่น่ากลัวในอนาคตอันใกล้นี้ ทั้งสตรีมมิ่งที่ว่ากันว่ากำลังจะสร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการของ Disney รวมถึงคู่ต่อสู้ที่ทาง Netflix เชื่อว่าน่าหวั่นเกรงกว่าอินเทอร์เน็ตทีวีเจ้าใดๆ อย่าง Fornite ด้วย

ปัจจุบันตัวเลขของสมาชิก Netflix ยังเพิ่มขึ้นอย่างสูงในทุก ไตรมาส รวมแล้ว Netflix มีผู้ subscribe มากถึง 148 ล้านคน เฉพาะในไตรมาสที่ 4 ของปี 2018 ก็มีคนยอมจ่ายเงินให้กับ Netflix เพิ่มถึง 10 ล้านคน ซึ่งนับว่าสูงกว่าที่หลาย ฝ่ายคาด

ตัวเลขสมาชิกของ Netflix ยังนำคู่แข่งอยู่ค่อนข้างห่าง ทั้ง Hulu ที่มีสมาชิกอยู่ 20 ล้านคน ส่วนบริการวิดีโอออนดีมานด์ของ HBO ที่ชื่อว่า HBO Now ก็มีสมาชิกอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านคนเท่านั้น Amazon Prime มีสมาชิกอยู่ 100 ล้านคน แต่ส่วนใหญ่ก็เน้นรับบริการส่วนอื่น ของ Amazon ควบคู่ไปด้วย แต่ในอนาคตอันใกล้ Amazon Prime ก็น่าจะสร้างสีสันให้กับวงการได้ไม่น้อย เพราะตอนนี้ก็มีการเตรียมรายการเด่น เอาไว้เหมือนกัน รวมถึงซีรีส์ The Lord of the Rings ด้วย

Disney+ ว่าที่คู่ปรับอันดับ 1 ของ Netflix 

แต่นอนว่าที่คนจับตามองกันมากที่สุดก็คือ Disney+ ของ Disney ที่จะเริ่มเปิดให้บริการที่สหรัฐฯ ในเดือน .. ที่จะถึงนี้

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Disney ได้กว้านซื้อคอนเทนต์เอาไว้มากมายรวมเป็นเงินหลายหมื่นล้านเหรียญฯ ทั้งแต่ LucasFilm ที่ทำให้ Disney เป็นเจ้าของทั้ง Star Wars และ Indiana Jones เช่นเดียวกับ Marvel Studios ที่ Disney ครอบครองกิจการ และใช้ Marvel ได้อย่างคุ้มค่าสุด ตอนนี้ส่งให้ตอนหนัง Marvel Cinematic Universe กลายเป็นไก่ที่ออกไข่เป็นทองคำ และทำเงินให้กับบริษัทอย่างมหาศาล

Disney ยังเพิ่งจะทุ่มเงินมหาศาลในการเข้าครอบครองกิจการของ Fox จนได้ลิขสิทธิ์หนังแฟรนไชส์ชุดดัง มากมาย ไล่กันมาตั้งแต่ Aliens, Predetor, Avatar และอื่น อีกมากมาย รวมถึงได้ผนวก X-Men เข้ากับจักรวาล Marvel ด้วย

ตามการคาดเดา Disney+ จะมีซีรีส์ให้ชมทั้งหมด 7,000 ตอน และหนังประมาณ 500 เรื่อง รวมถึง Captain Marvel ที่จะมีฉายแบบเอ็กคลูซีฟทาง Disney+ โดย Disney มีแผนที่วาง Disney+ เอาไว้เป็นความบันเทิงสำหรับครอบครัว ซึ่งจะเน้นรายการในเรต G, PG และ PG-13 เป็นหลัก ส่วนเนื้อหาซึ่งผู้ใหญ่กว่านั้น จะไปเผยแพร่ทาง Hulu ได้มาจากการซื้อกิจการของ Fox ด้วย

Disney+ จะมีอะไรให้ดูบ้าง

แต่หนังและซีรีส์ที่จะเป็นจุดขายจริง ของ Disney+ ก็คือผลงานใหม่แกะกล่องที่สร้างสำหรับ Disney+ โดยเฉพาะ ซึ่งตอนนี้ก็ประกาศกันมาแล้วหลายเรื่อง ทั้ง Lady and the Tramp ฉบับ Live Action ส่วน The Sword in the Stone กับ Peter Pan ฉบับ Live Action ก็อยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาโครงการกันอยู่ นอกจากนั้นก็ยังจะมีฉบับรีเมกของหนังดัง อย่าง 3 Men and a BabyFather of the BrideHoney, I Shrunk the Kids และ The Parent Trap ให้ชมกันด้วย

ส่วนซีรีส์ก็จะมีซีรีส์จากหนังสือยอดฮิต High Fidelity รวมถึงเวอร์ชั่นซีรีส์ของหนังฮิต จาก Disney อย่าง Mighty Ducks กับ Monsters, Inc. s

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วเชื่อว่า อาวุธหนัก ของ Disney+ ก็น่าจะเป็นเนื้อหาจาก Marvel และ Star Wars นั่นเอง โดย Disney ได้ จอน ฟาฟโร มาช่วยสร้างซีรีส์ The Mandalorian ด้วยทุนระดับ 100 ล้านเหรียญฯ กับเรื่องราวในจักรวาล Star Wars ที่จะไม่ได้มีเจไดเป็นตัวละครเด่นอีกแล้ว แต่จะเน้นไปที่กลุ่มนักล่าค่าหัวสุดเท่แห่งดาว แมนดาลอเรียน แทน นอกจากนั้นก็ยังจะมีซีรีส์ภาคต้นของ Rogue One ที่ได้ ดิเอโก ลูน่า กลับมารับบทเป็นตัวละคร แคเซียส แอนเดอร์ อีกครั้งด้วย

ส่วนทาง Marvel ก็จะมีทั้งซีรีส์ของตัวละคร ฟัลคอน, วินเทอร์ โซลด์เยอร์ และ โลกี มาให้ชมกัน ซึ่งแฟน ของทั้งสองแฟรนไชส์ก็น่าจะพร้อมจ่ายเงินทันทีที่ Disney+ ให้บริการ เพื่อชมรายการเหล่านี้

แต่ที่น่าจะสร้างความแตกต่างให้กับ Disney+ ได้ก็น่าจะเป็นความบันเทิงเสริมจากทาง ESPN+ ที่อยู่ในเครือเดียวกัน

แบรนด์ ESPN โด่งดังในวงการกีฬานามาน ซึ่งก็เชื่อว่า ESPN+ ที่เริ่มให้บริการมาตั้งแต่เดือน เม.. ปีก่อนจะสร้างความแตกต่างให้กับ Disney+ ได้ เพราะสุดท้ายการถ่ายทอดสดกีฬาก็ยังเป็นเรือธงที่สำคัญของธุรกิจโทรทัศน์ในขณะนี้ และจะสร้างความแตกต่างให้ Disney+ ได้มากพอสมควร

คู่แข่งที่แท้จริงของ Netflix

แต่สุดท้ายแล้วคู่แข่งของ Netflix อาจจะไม่ใช่ HBO, Hulu, Amazon Prime หรือ Disney+ ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็ว นี้ แต่เป็น Fortnite เกมออนไลน์สุดฮิตต่างหาก

Netflix เพิ่งจะบอกผ่านจดหมายข่าวถึงผู้ถือหุ้นว่า เรากำลังแข่งกับ Fortnite (และแพ้ด้วย) มากกว่าแข่งกับ HBO” โดย Netflix อธิบายถึงเหตุการณ์เมื่อเร็ว นี้ที่ YouTube ไปไม่กี่นาทีในเดือน .. ในช่วงเวลาดังกล่าวตัวละครของผู้ชม Netflix เพิ่มขึ้นนิดหน่อย แต่ตัวเลขคนที่เข้าไปเล่นเกม Fortnite กลับพุ่งกระฉูด!!

ต้องยอมว่าเทคโนโลยีทำให้คนมีกิจกรรมอื่นๆ หน้าจอมากกว่าการเพียงดูความบันเทิงเพียงอย่างเดียวเหมือนแต่ก่อน และธุรกิจเกมก็เติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งแน่นอนว่า Fortnite คือเกมที่เติบโตอย่างร้อนแรงที่สุด Netflix จึงเชื่อว่าคู่แข่งของบริษัทก็คือความบันเทิงหน้าจอใด ก็ตามที่จะแย่งเวลาของลูกค้าไป

ซึ่งตามข้อมูลของ Netflix แล้ว ปัจจุบันผู้บริโภคใช้เวลากับ YouTube วิดีโอสตรีมมิ่งแบบฟรี มากที่สุดชนิดไร้คู่แข่ง ซึ่ง Netflix ก็ยอมรับตรง ว่าคนกลุ่มนี้ถ้าไม่ได้ดู YouTube ก็เลือกที่จะเล่นเกม มากกว่าที่จะจ่ายเงินดู Netflix

แม้จำนวนสมาชิกจะเพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจ แต่คนในวงการก็เริ่มเป็นห่วงว่าสุดท้ายแล้ว Netflix อาจจะเดินไปถึงจุดอิ่มตัวได้ในเร็ว นี้ วอลสตรีตเองก็เชื่อว่าการจำนวนสมาชิกของ Netflix ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดมานาน ใกล้ถึงสุดอิ่มตัวแล้ว โดยเฉพาะในตลาดหลักอย่างสหรัฐอเมริกาที่ถึงตอนนี้คนอเมริกันถึง 50% ได้สมัครเป็นสมาชิกของ Netflix ไปแล้ว กลุ่มเป้าหมายหลัก ก็แทบจะจ่ายเงินให้ Netflix กันไปหมดเรียบร้อยแล้ว การที่จะดึงให้คนที่เหลืออีก 50% มา subscribe จึงไม่ใช่เรื่องง่าย

อนาคตของ Netflix ยังดูสดใส แต่สงคราสตรีมมิ่งที่กำลังจะมาถึงก็น่าจะดุเดือดอยู่ไม่น้อย เพราะสุดท้ายแล้วคงจะเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ชมจะจ่าย subscribe ให้กับอินเทอร์เน็ตทีวีทุก เจ้าพร้อมกัน.

Source

]]>
1211091