อิเกียเปิดตัวเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านสไตล์เรโทร ในเดือนตุลาคม 2557 สินค้าในคอลเล็คชั่นนี้หลายชิ้นมีกลิ่นอายวินเทจแบบสวีเดน เช่น โซฟานุ่มสบาย รุ่น STOCKSUND/สต๊อกซุนด์ ที่เหมาะสำหรับทั้งอพาร์ทเมนต์และบ้านที่อยู่กันเป็นครอบครัว เพิ่มความคลาสสิกให้โซฟา ด้วยปลอกหมอนอิงรุ่น DORTHY/ดอร์ทธี ลายใบไม้ดอกไม้สไตล์ย้อนยุค ผลิตจากป่านรามีแสนทนทาน

ลาเซีย เชอร์ล็อค ผู้จัดการสโตร์อิเกีย บางนา กล่าวว่า “สินค้าใหม่ของอิเกียที่จะเริ่มจำหน่ายในเดือนตุลาคมนี้ นอกจากดีไซน์ที่ดูสวยแล้ว ยังช่วยประหยัดพื้นที่ และใช้งานได้หลากหลาย เป็นสไตล์ที่ดูนานแค่ไหนก็ไม่น่าเบื่อและถูกใจคนทุกยุคทุกวัย”

จัดโต๊ะอาหารให้ดูสวยสไตล์เรโทร ด้วยชามรุ่น DUKNING/ดูคนิ่ง ที่ดีไซเนอร์ ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากลวดลายและงานเย็บปักถักร้อยของชาวสวีเดนในอดีต ผลิตจากสโตนแวร์แต่งลายนูนและเคลือบสีสันสวยงามน่าใช้

เพิ่มบรรยากาศอบอุ่นและจัดระเบียบครัวคุณให้เข้าที่ ด้วยชั้นแขวนผนัง รุ่น GAMLEBY/กัมเลเบ ที่ให้บรรยากาศแบบบ้านโรงนาของชาวสวีเดนในอดีต สวยด้วยสไตล์รัสติกที่เน้นความงามตามธรรมชาติของวัสดุ ทั้งยังผลิตจากไม้สน จึงทนทานและยิ่งใช้นานยิ่งสวย

นอกจากนี้ อิเกียยังเตรียมสินค้าสำหรับเด็กๆ สมาชิกคนสำคัญของครอบครัว เด็กๆ สามารถเล่นเป็นเจ้าของร้านค้าในจินตนาการ ด้วยเครื่องคิดเงินของเล่นพลังงานแสงอาทิตย์ รุ่น DUKTIG/ดุกติก ที่ประกอบด้วยเครื่องคิดเลขและธนบัตร พร้อมให้เด็กๆ เล่นสนุกและพัฒนาทักษะด้านคณิตศาสตร์ไปพร้อมๆ กัน

เกี่ยวกับอิเกีย

บ้านเป็นสถานที่สำคัญที่สุดในโลกสำหรับทุกๆ คน เพราะบ้านเป็นพื้นที่ส่วนตัวแสนสบายที่ครอบครัวอยู่อาศัยร่วมกัน เป็นที่พบปะสังสรรค์ของเพื่อนฝูง และเป็นที่ที่ลูกรักจะเติบโตขึ้นเพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว ผลิตภัณฑ์ของอิเกียทำให้บ้านของคุณเป็นบ้านที่น่าอยู่ และเป็นสถานที่ที่คุณใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น

ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งขึ้นในประเทศสวีเดนเมื่อปี 1943 อิเกียได้นำเสนอเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านที่มีรูปแบบหลากหลาย ดีไซน์สวยงาม พร้อมทั้งประโยชน์ใช้สอยคุ้มค่า ในราคาที่ผู้คนทั่วไปสามารถเป็นเจ้าของได้ ปัจจุบัน อิเกียมีมากกว่า 356 สาขา ในกว่า 44 ประเทศทั่วโลก

เกี่ยวกับบริษัท อิคาโน่ จำกัด

บริษัท อิคาโน่ จำกัด เป็นส่วนหนึ่งของอิคาโน่กรุ๊ป และได้รับอนุญาตบริหารจัดการสโตร์อิเกียจาก Inter IKEA Systems B.V. โดยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์และดำเนินกิจการสโตร์อิเกียในสิงคโปร์ (2 แห่ง) มาเลเซีย และประเทศไทย รวมทั้ง ศูนย์การค้าที่อยู่ติดกับสโตร์อิเกียในประเทศไทยและมาเลเซีย อิคาโน่กรุ๊ปเป็นกลุ่มบริษัทอิสระที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1988 บริหารงานโดยครอบครัวคัมปราด เพื่อดูแลและพัฒนาธุรกิจด้านบริการทางการเงิน อสังหาริมทรัพย์ ประกันภัยและค้าปลีก โดยมีวิสัยทัศน์ในการสรรค์สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า เรายึดมั่นในการทำงานร่วมกันเพื่อการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ภายใต้ความเรียบง่ายและเป็นธรรม เพื่อสะท้อนคุณค่าไปสู่ลูกค้า ผู้ร่วมงาน และบริษัทของเรา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม www.ikanogroup.com

อิเกียคำนึงถึงความปลอดภัยและความสบายใจของผู้บริโภคเป็นสำคัญ โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครองที่ไว้วางใจเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กของอิเกีย

ตัวอย่างเช่น เตียงเด็กอ่อนรุ่นใหม่ของอิเกีย ต้องผ่านการทดสอบความปลอดภัยกว่า 28 ครั้ง รวมทั้งการทดสอบความทนทาน ด้วยการจำลองการกระโดดของเด็กบนเตียง 7,000 ครั้ง เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยก่อนนำออกวางจำหน่ายจริง

กัญพัชญ์ เทโพทอง หัวหน้าแผนกสินค้าเด็ก อิเกีย บางนา อธิบายว่า อิเกียมีค่านิยมสี่ประการใน  การผลิตสินค้าเด็ก ได้แก่ ‘การไม่ปล่อยผ่านถ้าไม่ปลอดภัย’ (Zero tolerance policy) การออกแบบโดยคำนึงถึงความต้องการของเด็ก ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และความรู้ ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเด็ก

ในโอกาสนี้ กัญพัชญ์ได้แนะนำแคมเปญ “Living with Children” รวมทั้งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับเด็ก และแผนกเด็กโฉมใหม่ ที่อิเกีย บางนา

“เพราะเราเชื่อว่า เด็กๆ คือคนสำคัญที่สุดในโลก เราจึงออกแบบและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ขึ้นโดยคำนึงถึงความต้องการของเด็กๆ จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ดีๆ ซึ่งเด็กๆ จะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน สำหรับอิเกียแล้ว การเล่นสนุกคือการเรียนรู้ที่สำคัญ และการนอนหลับเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของพวกเขา”

กัญพัชญ์ เทโพทอง อธิบายกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์เด็กเพิ่มเติมว่า “เราใส่ใจออกแบบผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น โดยยึดจากมุมมองของเด็กเป็นหลัก อย่างตอนเราผลิตโมบายรูปสัตว์ ดีไซเนอร์ของเราได้นอนบนเตียงเพื่อหามุมที่เด็กๆ จะเห็นหน้าสัตว์ต่างๆ ในโมบายได้อย่างชัดเจนที่สุด นอกจากนี้เรายังเลือกใช้สีสดใสเพื่อกระตุ้นพัฒนาการการมองเห็นของเด็กทารกอีกด้วย”

อิเกียเน้นด้านความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เสมอ

“เด็กๆ อาจไม่ได้คิดถึงความปลอดภัย เราจึงคิดเผื่อมาให้ครบ โดยผลิตภัณฑ์อิเกียแต่ละชิ้นจะต้องผ่านการประเมินความเสี่ยง นับตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงการวางจำหน่าย ตลอดจนมีการปรับปรุงพัฒนาอยู่ตลอดเวลา”

“ตัวอย่างเช่น เราผลิตหมึกปากการุ่น MÅLA/มัวล่า ที่นำเข้าปากได้โดยไม่เป็นอันตราย เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลเวลาเด็กๆ ใช้ปากกาและอาจเผลอนำเข้าปาก นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์อิเกียยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และผลิตจากวัสดุที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะหรือสารพิษต่อโลก”

ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญนับเป็นจุดแข็งอย่างหนึ่งของอิเกีย โดยความรู้ความเชี่ยวชาญของเรานั้นเกิดจากการวิจัยและการสำรวจในระดับสากล ตลอดจนการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเด็ก ทั้งด้านจิตวิทยา การศึกษา อายุรศาสตร์ สังคมวิทยา และสถาปัตยกรรมศาสตร์

ไม่นานมานี้ เราได้จัดทำ Play Report ซึ่งเป็นการสำรวจครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของอิเกีย เกี่ยวกับพฤติกรรมการเล่นของเด็กๆ โดยสำรวจจากเด็กและผู้ปกครองกว่า 11,000 คน ใน 25 ประเทศ ซึ่งรวมเอเชียด้วย

ผลการสำรวจทำให้อิเกียสามารถผลิตสินค้าที่ตรงกับความต้องการของเด็กๆ 3 ช่วงอายุ คือ 0-2 ขวบ 3-7 ขวบ และ 8-12 ขวบ ซึ่งอยู่ในวัยเริ่มพัฒนาบุคลิกภาพ ค้นหาความสนใจของตัวเองและต้องการใช้เวลาอยู่กับเพื่อนมากขึ้น

ลาเซีย เชอร์ล็อค ผู้จัดการสโตร์ อิเกีย บางนา กล่าวว่า “กรุงเทพฯ เป็นมหานครที่น่าตื่นตาตื่นใจ เต็มไปด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ คงไม่มีที่ไหนในโลกเหมาะจะเปิดป๊อปอัพสโตร์เท่าที่นี่อีกแล้ว” เรามองหาย่านจำหน่ายสินค้าปลีกที่คึกคักและมีชีวิตชีวา เราจึงเลือกสยามสแควร์เพราะเป็นที่ที่มีคนพลุกพล่านทุกวัน

ป๊อปอัพสโตร์จะเป็นศูนย์รวมความสนุกแบบอินเตอร์แอ็คทีฟ ความบันเทิง กิจกรรมสำหรับครอบครัว และพื้นที่จำลองส่วนต่างๆของบ้าน เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องนอนใหญ่ ห้องนอนเด็ก ตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอิน ห้องครัวและห้องรับประทานอาหาร” ในพื้นที่ป๊อปอัพสโตร์ขนาด 580 ตารางเมตรยังมีไอเทมขนาดเล็กอย่างตุ๊กตาและของใช้ในครัวให้เลือกช้อปกัน

เรามีพื้นที่ให้ข้อมูลแบบอินเตอร์แอ็คทีฟที่ผู้เข้าชมสามารถดูแคตตาล็อกอิเกีย 2014 บนไอแพด ออกแบบห้องในมุมมองเสมือนจริงด้วยเฟอร์นิเจอร์อิเกีย สวมชุดประจำชาติสวีเดนแล้วถ่ายรูปไว้แชร์ให้เพื่อนๆหรือนั่งพักผ่อน เล่นเกมส์ ฟังเพลง และชิมมีทบอลและน้ำลินกอนเบอร์รี่ของสวีเดนในโซนห้องทานอาหาร

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมบันเทิงสนุกๆสำหรับครอบครัวอย่างเวิร์คช็อปดีไอวายและเวิร์คช็อปเพ้นท์กรอบรูปสำหรับเด็ก

ข่าวดีสำหรับคนเล่นกล้อง สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต สามารถร่วมแข่งขันเพื่อชิงรางวัลทริปเที่ยวสวีเดนสำหรับ 2 ท่าน เพียงถ่ายรูปคู่กับเฟอร์นิเจอร์ที่ป๊อปอัพสโตร์และเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดียวกันที่สโตร์อิเกีย บางนา แล้วโพสต์ลงบนเฟซบุคหรืออินสตาแกรม #IKEAPOPUPSTORE ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.IKEA.co.th/popupstore

เพื่อเพิ่มบรรยากาศความสนุกสนาน อิเกียจัดมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังอย่าง ตุ๊กตา แอนด์ มินิแบนด์ เอ-อีวา วิช ออน เอิร์ท และ ชิลลิ่ง ซันเดย์ ที่เวทีในป๊อปอัพสโตร์

มิสเชอร์ล็อคบอกว่า การเปิดอิเกียป๊อปอัพสโตร์เป็นการเน้นย้ำคำมั่นสัญญาของอิเกียในการเข้าถึงลูกค้าคนไทยกลุ่มต่างๆ ให้ได้ “เราต้องการนำเสนอสินค้าให้เข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุดและหวังว่าการยกอิเกียมาไว้ใจกลางกรุงเทพฯ จะทำให้ลูกค้าจำนวนมากเท่าที่จะเป็นไปได้ ได้สัมผัสประสบการณ์การช้อปแบบอิเกีย”

อิเกียป๊อปอัพสโตร์ตั้งอยู่บริเวณลานหน้าฮาร์ดร็อคคาเฟ่ สยามสแควร์ และจะเปิดบริการไปจนถึงวันที่ 8 ธันวาคมนี้

หลังจากที่สยามสแควร์ เตรียมพบกับอิเกียป๊อปอัพสโตร์แห่งที่ 2 ที่อเวนิว รัชโยธิน ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2013 – 2 กุมภาพันธ์ 2014 ร่วมแบ่งปันความสนุกและประสบการณ์การช้อปกับอิเกียได้แล้ววันนี้

ผู้ประกอบการผ้าไหมไทยเตรียมจับตาโครงการใหม่ของ TCDC โดยครั้งนี้ร่วมมือกับ Charme Investments ของอิตาลี คิดค้นและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้สู่การผลิตจริงของคนไทย ตั้งเป้าพัฒนาผ้าไหมไทยให้ตอบโจทย์ลูกค้าระดับโลก

โดยความร่วมมือดังกล่าวเป็นผลมาจากการเดินทางเยือน เมืองมิลาน ประเทศอิตาลีของ นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรและคณะ เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีได้เข้าเยี่ยมชม โชว์รูมของ Poltrona Frau และ Cassina แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับโลกภายใต้การบริหารของกลุ่ม Charme Investments พร้อมพูดคุยนาย Matteo di Montezemolo ซีอีโอของ Charme Investments เพื่อหาแนวทางการนำวัสดุไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผ้าไหมไทยเพื่อนำมาผลิตเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่ง โดยได้มอบหมายให้ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ หรือ TCDC เป็นหน่วยงานพัฒนาและจัดทำโครงการดังกล่าวร่วมกับบริษัท Charme Investments

นายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผู้อำนวยการศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ กล่าวว่านับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการพัฒนาวัสดุไทยให้มีคุณภาพและมีเป้าหมายชัดเจน คือ การสร้างมาตรฐานให้เป็นที่ยอมรับของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ระดับสูง ซึ่งผ้าไหมไทยมีความสวยงามและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่น แต่การพัฒนาไปสู่การผลิตเพื่อธุรกิจสากล จำเป็นต้องได้รับการวิจัยและพัฒนาในด้านต่างๆ เช่น ความทนทาน ความมันวาว สีสัน รวมถึงกรรมวิธีการผลิตต่างๆ ตั้งแต่การเลือกสรรเส้นใย จนกระทั่ง การออกแบบลวดลาย สีสัน ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ซึ่งที่สุดแล้ว ย่อมนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้เชิงลึกต่อภาคการผลิตสิ่งทอของไทยทั้งกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP โดยเป็นการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาผ้าไหมให้นำไปใช้ในรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลายยิ่งขึ้นในอนาคต และเป็นการก้าวไปสู่การผลิตเพื่ออุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ระดับสูง ที่มีกลุ่มลูกค้าชัดเจน

ขณะที่ นาย Matteo di Montezemolo ซีอีโอของ Charme Investments เชื่อมั่นว่า ขั้นตอนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Charme Investments ซึ่งนำเสนอคุณภาพของสินค้า ผ่านการผสมผสานระหว่างทักษะ – วัสดุ – เทคโนโลยี จะสามารถใช้ได้กับการพัฒนาผ้าไหมไทย โดยเมื่อทำงานร่วมกับกลุ่มนักออกแบบชั้นดีที่เข้าใจในธุรกิจและการผลิต รวมทั้งใช้นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน

โดย ปัจจุบัน บริษัท Charme Investments ซึ่งมีแบรนด์ในเครือรวม 7 แบรนด์ ได้แก่ Poltrona Frau, Cassina, Cappellini, Thonet, Gufram, Alias, Nemo แต่ละแบรนด์ ถูกตลาดอย่างแม่นยำสู่ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ผ่านความเข้าใจที่ลึกซึ้งในบริบทของตลาดผู้บริโภคที่ต่างกันตำแหน่งสินค้าที่วางตำแหน่งทางการชัดเจนและการบริหารความลุ่มหลง (Passion) คือสองปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความสำเร็จของ Charme Investments บริษัทเจ้าของแบรนด์ดังมากมายในวงการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แบรนด์ Poltrona Frau ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1912 นับเป็นแบรนด์ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ชั้นนำ และเก่าแก่ของโลก นอกจากนั้น ในปัจจุบันยังเป็นผู้ผลิตเก้าอี้โดยสารภายในรถไฟความเร็วสูง Trenitalia, สายการบิน Japan Airlines, Singapore Airlines และ Etihad Airways รวมถึงเบาะรถยนต์ของเฟอร์รารี่ด้วย

นายวีระชัย คุณาวิชยานนท์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทยและนายสุภัทร พันธิสุนทร รองเลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และกรรมการสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทย ประกาศความพร้อมในการจัด TFIC Furniture Outlet 2013

นายวีระชัย คุณาวิชยานนท์ กล่าวว่า การจัดงานจำหน่ายสินค้าเฟอร์นิเจอร์ TFIC Furniture Outlet ประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นทุกปี เนื่องจากมีความโดดเด่นที่แตกต่างจากงานเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ เพราะเป็นเอาท์เล็ตตัวจริงเสียงจริงจากผู้ผลิตโดยตรง ที่ได้ระดมเฟอร์นิเจอร์คุณภาพมาตรฐานส่งออก มาให้ผู้บริโภคได้เลือกสรรหลากหลายสไตล์ และที่สำคัญ คือ จำหน่ายในราคาโรงงาน ซึ่งหากไม่ใช่ผู้ผลิตโดยตรงจะไม่สามารถลดราคาได้มากขนาดนี้

“TFIC Furniture Outlet ในปีนี้ยืนหยัดจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 9 โดยใช้พื้นที่จัดงาน 15,000 ตรม. มีผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์มาร่วมงานกว่า 100 บริษัท เพื่อจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ดัง คุณภาพส่งออกในราคาโรงงาน ลดพิเศษสูงสุด 70% ในวันที่ 25-29 กันยายนนี้ ที่ฮอลล์ 2-4 อิมแพค เมืองทองธานี ซึ่งสินค้าที่นำมาจำหน่ายจะมีความหลากหลายให้เลือกตามความต้องการ อาทิ เฟอร์นิเจอร์สำหรับที่พักอาศัย สำนักงาน สวน เฟอร์นิเจอร์สำหรับเด็ก รวมทั้งของตกแต่งบ้านและสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสินค้าบางชิ้นไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย เนื่องจากผลิตเพื่อส่งออกโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ในงานยังมีโปรโมชั่นสำหรับผู้ชำระเงินด้วยบัตรเครดิตธนาคารกรุงศรีและกสิกรไทย รับสิทธิผ่อน 0% 10 เดือน และยังได้รับเงินคืนสูงสุดถึง 36,000 บาท โดยสามารถรวมบิลได้ทุกร้านตลอดงานทั้ง 5 วัน ซึ่งคาดว่าในงาน TFIC Furniture Outlet 2013 จะมีผู้ชมงานกว่า 60,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10% และคาดว่าจะมียอดขาย 150 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 25%” นายวีระชัย กล่าว

นายวีระชัย กล่าวเพิ่มเติมถึงทิศทางของตลาดเฟอร์นิเจอร์ในประเทศว่า ตลาดเฟอร์นิเจอร์ในปีนี้ยังอยู่ในช่วงขาขึ้นต่อเนื่องจากปี 2555 ซึ่งคาดว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 10-15% โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือการขยายตัวของซัพพลายที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่เกิดขึ้นจำนวนมาก ประกอบกับปัจจุบันมีเครื่องมือทางการเงินที่เข้าถึงผู้ซื้อบ้านมากขึ้นทำให้ผู้ซื้อสามารถตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยได้เร็วขึ้น

อิเกีย (IKEA) บริษัทนำเข้าและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านจากประเทศสวีเดน จัด ‘เวิร์คช้อปสอนทำมงกุฎดอกไม้’ หรือ ‘krans’ เฉลิมฉลองเทศกาลมิดซอมมาร์ (Mid Summer) ของสวีเดน และเปิดโอกาสให้คนไทยได้มีส่วนร่วมกับวัฒนธรรมน่ารักๆ โดยได้รับความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมจากลูกค้าและบุคคลทั่วไปเป็นจำนวนมาก ณ อิเกีย บางนา เมื่อเร็วๆ นี้

เทศกาลมิดซอมมาร์เป็นเทศกาลที่ชาวสวีเดนให้ความสำคัญเป็นอันดับสองรองจากเทศกาลคริสต์มาส โดยวันมิดซอมมาร์อีฟจะตรงกับวันศุกร์ที่ใกล้วันที่ 24 มิถุนายนที่สุด ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของเทศกาลวันหยุดที่ครอบครัวจะมาพบปะทานอาหาร สังสรรค์ และเต้นรำด้วยกันตามประเพณีแล้ว ชาวสวีเดนจะเริ่มต้นวันมิดซอมมาร์อีฟด้วยการนำดอกไม้มาร้อยเป็นพวงมาลัยและมงกุฎเพื่อสวมใส่ในวันเทศกาล

ติดตามกิจกรรมสนุกๆแบบนี้ได้ที่ www.IKEA.co.th และ www.facebook.com/IKEAThailand

เป็นเรื่องปกติที่อิเกียจะมีแค็ตตาล็อกเล่มโตออกมาให้ลูกค้าอิเกียเป็นไอเดียแต่งบ้านจากสารพัดสินค้าของอิเกีย แต่ตอนนี้แค็ตตาล็อกสินค้าของอิเกีย เพิ่มประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภค ผ่าน IKEA Interactive Catalogue ที่ดาวน์โหลดทาง iTune แอปฯ นี้มี 2 ฟังก์ชันการใช้งานที่โดดเด่น 1.ภายในแอปฯ จะมีสินค้า Interactive อยู่ประมาณ 40-45 ไอเท็ม

สินค้าพวกนี้ผู้เล่นสามารถลากเฟอร์นิเจอร์พวกนี้ไปไว้ในหน้าใดก็ได้ของแค็ตตาล็อกเพื่อดูความเหมาะสมของการจัดวาง อีกฟังก์ชันก็คือการเอาสินค้าไปวางไว้ทาบกับมุมห้องของผู้เล่นได้เลย ผ่านเทคโนโลยีกล้อง นับเป็นวิธีการสร้างประสบการณ์ที่ดีด้วยแอปพลิเคชั่นที่ทำให้เรื่องแต่งบ้านยิ่งสนุก

อย่างไรก็ตาม แอปฯ นี้ยังไม่สามารถพาผู้บริโภคไปสู่การซื้อโดยตรงจากแอปฯ เพราะถ้าอยากใช้บริการ E-Commerce ของอิเกียก็ต้องเข้าไปที่เว็บไซต์โดยตรงอยู่ดี Lena Simonsson-Berge, Global Communication Manager, IKEA กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “ทุกวันนี้เว็บไซต์ของอิเกียได้จากโทรศัพท์แล้วสั่งซื้อของได้จากทางนั้นเลย แต่เราก็อยากให้ Shop ของเราเป็นเป้าหมายของผู้บริโภคอยู่ดี เพราะไม่มีอไรจะสำคัญไปกว่าการได้สัมผัส ทดลอง และรู้สึกของจริง”

กรมส่งเสริมการส่งออก เชิญชวนผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ ร่วมแสดงสินค้าในงาน TIFF 2013 งานเฟอร์นิเจอร์ที่ทุกคนรอคอย เพื่อเจรจาธุรกิจกับคู่ค้าและหาพันธมิตรใหม่เพื่อต่อยอดธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์สู่กลุ่มเป้าหมาย จัดระหว่างวันที่ 13-17  มีนาคม 2556 ที่อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 อิมแพค เมืองทองธานี เปิดรับสมัครผู้ร่วมแสดงสินค้าตั้งแต่ 20 สิงหาคมนี้ถึง 11 มกราคม 2556 

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า TIFF 2013 เป็นงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับการยอมรับว่ายิ่งใหญ่ที่สุดและรวมเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ล้ำสมัยมากที่สุดของไทยที่ผู้ซื้อทั้งไทยและต่างประเทศรอคอยที่จะมาชมงาน โดยกรมส่งเสริมการส่งออก ได้ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทย จัดขึ้นเพียงปีละครั้ง ต่อเนื่องเป็นปีที่ 17 เพื่อแสดงศักยภาพการผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่มีคุณภาพและฝีมือการดีไซน์ที่สวยงามของผู้ผลิตชาวไทยสู่สายตานักธุรกิจชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่จะเดินทางมาเจรจาธุรกิจ 

งาน TIFF 2013 จะจัดขึ้นที่อิมแพค เมืองทองธานี ภายใต้คอนเซ็ปต์ Inspire in side out ที่สื่อความหมายว่าผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไทยสามารถสร้างสรรค์แรงบันดาลใจเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ซื้อได้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกแบบ การเลือกสรรวัตถุดิบ รวมไปถึงกระบวนการผลิต โดย    3 วันแรก คือ 13-15 มีนาคม 2556 เป็นวันเจรจาการค้า ส่วน 2 วันหลัง คือ 16-17 มีนาคม 2556 เป็นวันจำหน่ายปลีก ซึ่งได้ตั้งเป้าหมายว่าจะมีผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์มาร่วมแสดงในงานกว่า 200 บริษัท 720 คูหา และจะมีผู้เดินทางมาจากนานาประเทศเพื่อชมและซื้อสินค้า อาทิ ญี่ปุ่น อเมริกา สหภาพยุโรป อินเดีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา แคนาดา ออสเตรีย และอาเซียน ซึ่งจะมีทั้งผู้ซื้อ ผู้นำเข้า นักธุรกิจในวงการเฟอร์นิเจอร์ เจ้าหน้าที่แผนกจัดซื้อในธุรกิจบ้านจัดสรร โรงแรม และรีสอร์ต เป็นต้น 

ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมงาน ติดต่อได้ที่โทร.02 345 1269-70 หรือ 02 973 3411-2 ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคมนี้ถึงวันที่ 11 มกราคม 2556 ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.thailandfurniturefair.com