Microsoft – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 08 Mar 2024 08:25:41 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Linkedin มีรายได้จากสมาชิกพรีเมียมมากกว่า 60,000 ล้านบาทแล้ว ผู้บริหารชี้ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังตึงตัว https://positioningmag.com/1465602 Fri, 08 Mar 2024 07:21:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1465602 ลิงค์อิน (Linkedin) แพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มุ่งเน้นด้านธุรกิจ ได้เปิดเผยรายได้จากสมาชิกพรีเมียมนั้นมีมากกว่า 60,000 ล้านบาทแล้ว นอกจากนี้ผู้บริหารของบริษัทยังชี้ถึงตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังตึงตัว ทำให้มีการแข่งขันในการหางานไม่น้อย ซึ่งส่งผลถึงรายได้ของบริษัท

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวว่า ลิงค์อิน (Linkedin) แพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มุ่งเน้นด้านธุรกิจ ได้เปิดเผยรายได้สมาชิกพรีเมี่ยมในปี 2023 อยู่ที่ 1,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราวๆ 60,360 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้เปิดเผยตัวเลขดังกล่าวเป็นครั้งแรกหลังจากที่อยู่ใต้ชายคาของ Microsoft

การเปิดเผยตัวเลขรายได้จากสมาชิกแบบพรีเมียมดังกล่าวถือเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ Microsoft ได้เข้าซื้อกิจการของ Linkedin ในปี 2016 ด้วยเม็ดเงินมากกว่า 26,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งปกติตัวเลขดังกล่าวนั้นจะเปิดเผยเพียงแค่รายได้ของบริษัท ซึ่งอยู่ภายใต้ผลประกอบการของ Microsoft

รายได้ของ Linkedin ในปี 2023 ที่ผ่านมามีมากกว่า 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยรายได้มากถึง 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐคือการขายโซลูชันเกี่ยวกับการจ้างงานให้กับฝ่ายบุคคลของบริษัทต่างๆ ทั่วโลก ขณะที่รายได้สมาชิกพรีเมี่ยมนั้นอยู่ที่ 1,700 ล้านเหรียญสหรัฐ

ในเดือนพฤศจิกายนปี 2023 ที่ผ่านมา Linkedin เตรียมนำเทคโนโลยี AI มาช่วยสมาชิกแบบ Premium ที่จ่ายเงินให้กับแพลตฟอร์มว่าตัวเองเหมาะสมกับตำแหน่งงานที่รับสมัครหรือไม่ และตัวระบบเองยังสามารถแนะนำให้มีการเพิ่มหรือแปลงข้อมูลของสมาชิก เพื่อที่จะสามารถแข่งขันกับผู้สมัครงานรายอื่นได้

ปัจจุบัน Linkedin มีสมาชิกทั่วโลกมากถึง 1,000 ล้านคน โดย 80% เป็นผู้ใช้งานนอกสหรัฐอเมริกา แต่ถ้าหากต้องการเป็นสมาชิกแบบพรีเมียมจะต้องจ่ายเงิน 39.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ซึ่งมีฟังก์ชันในการหางาน หรือแม้แต่ช่วยอำนวยความสะดวกมากกว่า

นอกจากนี้ Reuters ยังได้สัมภาษณ์ Dan Shapero ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Linkedin โดยเขากล่าวว่าจำนวนสมาชิก Linkedin แบบพรีเมียมเพิ่มขึ้น 25% ในปี 2023 ที่ผ่านมา แม้ว่าบริษัทจะไม่ได้ให้ตัวเลขที่แน่นอนก็ตาม

ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Linkedin ยังกล่าวถึงพฤติกรรมของคนหางานจากข้อมูลขอบริษัทพบว่ามีผู้สมัครงานอย่างน้อย 2 ตำแหน่ง ในตำแหน่งงานที่เปิดในแพลตฟอร์ม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดงานในสหรัฐอเมริกาจะยังค่อนข้างตึงตัวอยู่ไม่น้อย

เขายังกล่าวเสริมว่า สิ่งที่ Linkedin รู้คือ เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในวงกว้าง จึงมีคนที่พยายามทำให้แน่ใจว่าพวกเขามีความสามารถในการได้ตำแหน่งงานที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และพวกเขา (คนที่หางาน) รู้สึกตื่นเต้นในสิ่งดังกล่าว

ซึ่งปัจจัยดังกล่าวนั้นเป็นส่วนหนึ่งทำให้รายได้จากสมาชิกแบบพรีเมียมของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นนั่นเอง

]]>
1465602
FTC สอบสวนบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง เรื่องการลงทุนและจับมือเป็นพันธมิตรด้าน AI อาจกระทบการแข่งขันได้ https://positioningmag.com/1460410 Fri, 26 Jan 2024 07:44:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1460410 คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้อาศัยข้อกฎหมายเพื่อเข้าสอบสวนบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งเรื่องการลงทุนและจับมือเป็นพันธมิตรด้าน AI ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวชี้ว่าอาจกระทบการแข่งขัน และส่งผลกระทบกับผู้บริโภคได้

คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (FTC) ได้สอบสวนบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง จากประเด็นการลงทุนและจับมือเป็นพันธมิตรในเรื่องปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยให้เหตุผลว่าอาจกระทบการแข่งขันได้ หลังจากการเข้ามาของ AI อาจทำให้เกิดความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีมากขึ้น

สำหรับบริษัทเทคโนโลยีที่โดน FTC เข้าสอบสวนได้แก่ Amazon, Alphabet, Microsoft, OpenAI รวมถึง Anthropic

การสืบสวนดังกล่าว FTC เข้าสอบสวนบริษัทเทคโนโลยีในตลาดหลายบริษัทเกี่ยวกับการลงทุนและการจับมือเป็นพันธมิตรระหว่างบริษัทเทคโนโลยีด้าน AI กับบริษัทเทคโนโลยีโดยเฉพาะผู้ให้บริการ Cloud รายใหญ่ เพื่อต้องการทราบถึงกาลงทุนนั้นมีความเสี่ยงที่จะบิดเบือนกลไกตลาด หรือการแข่งขันหรือไม่

ในด้านของการจับมือเป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยี ทาง FTC จะสอบสวนว่าการร่วมมือกัน หรือการทำงานร่วมกันนั้นมีระบบการทำงาน หรือการตัดสินใจของแต่ละฝ่าย เพื่อที่จะทราบถึงอิทธิพลของอีกฝ่ายว่ามากน้อยเพียงใด และผลดังกล่าวกระทบกับผู้บริโภคในระยะยาวหรือไม่

FTC ยังได้อ้างข้อกฎหมายที่สามารถขอตรวจสอบบริษัทต่างๆ ได้ และได้กล่าวว่าการเข้ามาของเทคโนโลยี AI ก็ไม่สามารถเป็นข้อยกเว้นได้ ซึ่งคณะกรรมการของ FTC มีมติเอกฉันท์ 3-0 เสียง เพื่อใช้ข้อกฎหมายดังกล่าวเพื่อเข้าตรวจสอบบริษัทเทคโนโลยี

Lina Khan ประธานของ FTC ได้กล่าวว่า “ในประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ สามารถสร้างตลาดใหม่ๆ และการแข่งขันที่ดีได้” และเธอยังกล่าวเสริมว่า FTC จะใช้ประสบการณ์ในการกำกับดูแลธุรกิจอื่นๆ จะช่วยให้หน่วยงานกำกับดูแลรายนี้สามารถสอบสวนเรื่องดังกล่าวได้

ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ได้เริ่มขยับตัวมากขึ้นจากการเข้ามาของ AI ไม่ว่าจะเป็นกรณี Microsoft ได้ลงทุนกับ OpenAI เจ้าของแพลตฟอร์ม ChatGPT มากถึง 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือแม้แต่ Amazon และ Alphabet ที่ได้ลงทุนใน Anthropic บริษัทด้าน AI อีกรายเป็นเงินรวมกันหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ

การเข้าสอบสวนดังกล่าวบริษัทเทคโนโลยีแต่ละแห่งจะมีเวลา 45 วันในการตอบประเด็นข้อสงสัยของ FTC 

ที่มา – CNBC, The Register, Axios

]]>
1460410
พลังเอไอ! ดัน ‘Microsoft’ แซงหน้า ‘Apple’ ขึ้นแท่นเป็น “บริษัทมูลค่าสูงสุดในโลก” https://positioningmag.com/1458717 Sun, 14 Jan 2024 13:33:16 +0000 https://positioningmag.com/?p=1458717 หนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ทำให้ ไมโครซอฟต์ (Microsoft) บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของโลกโดดเด่นขึ้นไปอีกกในช่วงที่ผ่านมาก็คือ การลงทุนใน OpenAI ผู้พัฒนา ChatGPT ทำให้ไมโครซอฟต์สามารถนำเอไอไปใช้กับผลิตภัณฑ์ของตัวเองได้ ทำให้ล่าสุด ไมโครซอฟต์ได้ขึ้นแท่นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก

ไมโครซอฟต์ ขึ้นแท่นเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก หลังจากที่หุ้นพุ่งขึ้น +3% ในสัปดาห์นี้ ทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทอยู่ที่ 2.89 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนหุ้นของแชมป์เก่าอย่าง Apple ลดลงมากกว่า -3% ทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทลดลงเหลือ 2.87 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

นักวิเคราะห์ของ Piper Sandler มองว่า ไมโครซอฟต์ได้รับการสนับสนุนจากโมเมนตัมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เอไอที่เติบโตเต็มที่ที่สุด โดยเฉพาะจากการลงทุนใน OpenAI และการเพิ่มฟีเจอร์ด้านเอไอออกมาอย่างสม่ำเสมอ ทำให้นักลงทุนเชื่อว่าจะได้โอกาสจากการเติบโตของเอไอที่เป็นเทคโนโลยีสำคัญของโลกในตอนนี้

ขณะที่ Apple เองนั้นมีข่าวที่ส่งผลกระทบหลายอย่าง อาทิ การฟ้องร้องเรื่องการละเมิดสิทธิบัตรเทคโนโลยีของ Apple Watch จนถูกห้ามขายในอเมริกา และบทวิเคราะห์ของธนาคาร Barclays ที่ปรับลดมูลค่าของแอปเปิลลง เป็นต้น

ทั้งนี้  Apple เป็นบริษัทมหาชนที่มีมูลค่ามากที่สุดมานานกว่าหนึ่งปี หลังจากที่ Saudi Aramco บริษัทน้ำมันเคยขึ้นเป็นันดับ 1 ของโลกในช่วงเวลาสั้น ๆ ส่วนไมโครซอฟต์เคยขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดของโลกในปี 2018 และ 2021

Source

]]>
1458717
ปีแห่งพีซีเอไอ! ‘Microsoft’ เตรียมเพิ่มคีย์ ‘Copilot’ สำหรับเรียกผู้ช่วย ‘เอไอ’ ถือเป็นการอัปเดตแป้นพิมพ์ครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี https://positioningmag.com/1457779 Fri, 05 Jan 2024 02:21:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1457779 หลังจากที่ ChatGPT เอไอสุดอัจฉริยะที่พัฒนาโดย OpenAI สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วโลก ทำให้ Microsoft ยอมควักเงิน 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ลงในทุนกับ OpenAI ทำให้ Microsoft สามารถใช้โมเดลของ OpenAI กับผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ ล่าสุด Microsoft เตรียมเพิ่มคีย์ Copilot สำหรับเรียกผู้ช่วยเอไอ

หลังจากที่ ไมโครซอฟท์ (Microsoft) บริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ ได้ประกาศว่า ปีนี้จะเป็น ปีแห่งพีซีเอไอ ล่าสุด บริษัทได้เปิดเผยว่าจะ เพิ่มปุ่ม Copilot สำหรับพีซีระบบปฏิบัติการ Windows รุ่นใหม่บางรุ่น สำหรับเรียกใช้งานเอไอแชทบอทเพื่อถามคำถามหรือช่วยร่างอีเมลได้

“นี่จะไม่เพียงทำให้ประสบการณ์การใช้คอมพิวเตอร์ของผู้คนง่ายขึ้น แต่ยังขยายให้มากขึ้นอีกด้วย ทำให้ปี 2024 เป็นปีแห่งพีซีแบบเอไอ และคีย์ใหม่นี้จะทำให้การมีส่วนร่วมของ Copilot ในแต่ละวันของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น” Yusuf Mehdi รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดผู้บริโภคของ Microsoft กล่าว

การเพิ่มปุ่มใหม่บนคีย์บอร์ดของพีซี Windows นี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ครั้งแรก นับตั้งแต่ Microsoft เพิ่มคีย์ Windows ในปี 1994 โดยปุ่ม Copilot นั้นจะวางอยู่โลโก้ด้านขวาล่างของคีย์บอร์ดใกล้กับ Space bar และปุ่ม Alt และแน่นอนว่า Copilotเอไอแชทบอทจะขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีพื้นฐานของ OpenAI หลังจากที่ Microsoft ลงทุน 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่ผ่านมา หลังจากที่ Microsoft ลงทุนใน OpenAI บริษัทก็ได้นำเทคโนโลยีเอไอมาใช้กับการทำงานของโปรแกรมตระกูล Microsoft Office ไม่ว่าจะเป็น Outlook, PowerPoint, Excel และ Word โดยใช้ชื่อว่า Copilot ซึ่งจะช่วยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน อาทิ Word สามารถช่วยร่างเอกสาร, ปรับภาษาให้เป็นทางการขึ้นหรือน้อยลง PowerPoint สามารถนำเนื้อหาจาก Word มาสร้างสไดล์ พร้อมใส่ภาพที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น

‘ไมโครซอฟท์’ เตรียมใส่ความสามาถ ‘ChatGPT’ ใน ‘Microsoft Office’ เชื่อจะเปลี่ยนวิธีการทำงานคนนับล้าน

อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ Copilot ยังไม่ได้เปิดให้บริการในทุกประเทศ ดังนั้น ถ้าใครที่ซื้อพีซีรุ่นใหม่ที่มีปุ่ม Copilot แต่ยังไม่มีฟีเจอร์ดังกล่าวให้ใช้ การกดปุ่ม Copilot จะเป็นการเปิด Windows Search แทน

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของ Microsoft นั้นเกิดก่อนการประชุมเทคโนโลยี CES ในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดตัวการอัปเดตผลิตภัณฑ์เอไอเพิ่มเติมจากหลาย ๆ บริษัท เนื่องจากปีที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ต่างเร่งพัฒนาและบูรณาการเครื่องมือเอไอ เข้ากับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของตน

Source

]]>
1457779
เกือบหมดบริษัท! พนักงาน 650 คนของ “OpenAI” ลงชื่อขู่ “ลาออก” ตามซีอีโอเก่าไปทำงานที่ “Microsoft” https://positioningmag.com/1452648 Tue, 21 Nov 2023 05:26:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1452648 พนักงานของ “OpenAI” ลงชื่อขู่ “ลาออก” ตามซีอีโอเก่าไปทำงานที่ “Microsoft” หลังจากบอร์ดบริหารสั่งปลดฟ้าฝ่าทั้งซีอีโอ “Sam Altman” และผู้ร่วมก่อตั้ง “Greg Brockman” ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ล่าสุดรายชื่อพนักงานที่พร้อมลาออกตามนายเก่าพุ่งขึ้นถึง 650 คน จากจำนวนพนักงานทั้งบริษัท 770 คน

เมื่อสัปดาห์ก่อนมีข่าวช็อกวงการเทค เมื่ออยู่ ๆ บอร์ดบริหาร “OpenAI” ประกาศปลดทั้งซีอีโอ “Sam Altman” และผู้ร่วมก่อตั้ง “Greg Brockman” ออกจากตำแหน่ง

แต่ทั้งคู่ก็ไม่ต้องเคว้งนาน เพราะ “Microsoft” เข้ามาเสนองานใหม่ทันที โดยให้ไปเป็นผู้นำ “ทีมงานวิจัย AI ขั้นสูง” ของบริษัทย่อยที่จะตั้งขึ้นใหม่

ไม่ใช่แค่ Altman และ Brockman เท่านั้น แต่ดูเหมือน Microsoft จะเปิดออฟฟิศพร้อมรับคนทั้งบริษัท OpenAI ให้ตามนายเก่าไปที่บริษัทย่อยแห่งใหม่ด้วย

ข้อมูลนี้อ้างอิงจากในเนื้อความ “จดหมายเปิดผนึก” ของพนักงาน OpenAI เอง ในจดหมายนี้ระบุถึงความไม่พอใจของพนักงานต่อบอร์ดบริหารที่สั่งปลด Altman และ Brockman พร้อมขู่ว่าถ้าบอร์ดไม่แต่งตั้งทั้งคู่กลับสู่ตำแหน่งเดิม พนักงานตามรายชื่อด้านล่างจดหมายนี้จะขอ “ลาออก” และจะไปร่วมงานกับ Microsoft ซึ่งให้ความมั่นใจมาแล้วว่าจะรับพนักงาน OpenAI ทั้งหมดเข้าทำงานในบริษัทย่อยใหม่ที่เปิดให้กับ Altman และ Brockman

ครั้งแรกที่จดหมายเปิดสู่สาธารณะ จากพนักงาน 770 คนของบริษัท OpenAI มีถึง 500 คนที่ลงชื่อขู่ลาออก จากนั้นจำนวนชื่อก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนล่าสุดสูงถึง 650 คน เรียกว่าแทบจะหมดบริษัท

OpenAI ลาออก
Sam Altman อดีตซีอีโอ OpenAI (Photo: Shutterstock)

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่พนักงาน OpenAI จะได้ลาออกจริง ๆ นั้นมีสูงมาก เพราะบอร์ดบริหารได้ตัดสินใจเลือกไปแล้วและไม่มีท่าทีจะคืนคำ พร้อมทั้งตั้งซีอีโอคนใหม่ขึ้นมาบริหารแล้ว

ฝั่ง Microsoft นั้นกำลังอยู่ระหว่างตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาโดยจะยื่นตำแหน่ง “ซีอีโอ” ให้กับ Altman ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องไม่ค่อยปกติของ Microsoft เพราะโดยทั่วไปแล้วบริษัทนี้จะให้ตำแหน่งระดับซีอีโอกับแผนกขนาดใหญ่ เช่น Microsoft Gaming หรือบริษัทขนาดใหญ่ที่เข้าไปเทกโอเวอร์มา เช่น LinkedIn, Github ดังนั้น การให้ตำแหน่งซีอีโอกับ Altman พร้อมกับดึงคนทั้งหมดของ OpenAI มาให้ด้วย เป็นเหมือนสัญญาณที่บอกว่าความเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ของ Microsoft

การเปิดตัว Altman กับ Brockman ให้มารั้งตำแหน่งหัวหน้าทีม AI ขั้นสูงของ Microsoft เกิดขึ้นในเวลาเพียงสัปดาห์เดียวหลังบริษัทประกาศว่าบริษัทจะพัฒนา “ชิป AI” ของตนเอง เพื่อให้ชิปนี้สามารถใช้ฝึกโมเดลภาษาได้ และลดการพึ่งพิง Nvidia ลง โดยก่อนหน้านี้ Altman เองก็เริ่มเสนองาน TPU เพื่อแข่งกับ Nvidia ให้กับนักลงทุนต่าง ๆ มาแล้วสักพักหนึ่ง

สาเหตุที่บอร์ดบริหารสั่งปลด Altman กับ Brockman นั้นคาดว่ามาจากความไม่พอใจที่ทั้งคู่เร่งรีบผลักดันผลิตภัณฑ์ AI ออกสู่ตลาดเร็วเกินไป จนอาจจะควบคุมไม่ได้และเป็นอันตรายต่อสังคม โดยมีหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI อย่าง “Ilya Sutskever” ที่เป็นคนผลักดันบอร์ดบริหารให้ปลดสองคนนี้ออกจากตำแหน่ง

ล่าสุด Sutskever กลับลำมา “ลงชื่อ” ในจดหมายขู่ลาออกของพนักงานกับเขาด้วย พร้อมบอกผ่าน X (ทวิตเตอร์) ว่าเขา “รู้สึกเสียใจอย่างมากที่มีส่วนร่วมในการกระทำของบอร์ดบริหาร” และ “ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายบริษัท OpenAI เลย”

Source

]]>
1452648
Linkedin นำเทคโนโลยี AI มาช่วยสมาชิกแบบ Premium หางานได้ถูกใจ ตรงกับความสามารถตัวเอง https://positioningmag.com/1450341 Thu, 02 Nov 2023 02:35:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1450341 ลิงค์อิน (Linkedin) เตรียมนำเทคโนโลยี AI มาให้บริการกับสมาชิกแบบ Premium เพื่อช่วยให้หาตำแหน่งงานได้โดนใจมากขึ้น รวมถึงแนะนำในการจัดการด้านโปรไฟล์ของสมาชิก นอกจากนี้ยังผนึกบริการของ Microsoft Bing เข้ามาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการหาข้อมูลต่างๆ

Linkedin เครือข่ายสังคมที่เน้นไปยังด้านธุรกิจเป็นหลัก ประกาศเตรียมที่จะนำเทคโนโลยี AI มาช่วยสมาชิกแบบ Premium ที่จ่ายเงินให้กับแพลตฟอร์มว่าตัวเองเหมาะสมกับตำแหน่งงานที่รับสมัครหรือไม่ และตัวระบบเองยังสามารถแนะนำให้มีการเพิ่มหรือแปลงข้อมูลของสมาชิก เพื่อที่จะสามารถแข่งขันกับผู้สมัครงานรายอื่นได้

สมาชิกของ Linkedin แบบ Premium นั้นจะได้รับฟังก์ชันใหม่จากระบบ AI ไม่ว่าจะเป็นการสรุปหน้า Feed ว่าใน Post ต่างๆ นั้นมีโอกาสใหม่ๆ ในการทำงานของสมาชิกหรือไม่ หรือการผูกกับผลิตภัณฑ์อย่าง Microsoft Bing บริการค้นหาข้อมูลที่ Microsoft ได้ลงทุนกับเทคโนโลยี AI อย่างหนัก ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการหาข้อมูลต่างๆ

นอกจากนี้บริษัทยังได้นำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการวิเคราะห์ว่าตำแหน่งในการสมัครงานนั้นเหมาะสมหรือไม่ หรือแม้แต่ช่วยในการหาตำแหน่งงานที่เหมาะสม ไปจนถึงการช่วยเหลือในเรื่องการเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน เพื่อที่จะทำให้สมาชิกหางานที่ชื่นชอบแหละเหมาะสมได้

Tom Cohen ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Linkedin ได้โพสต์ว่า การนำเทคโนโลยี AI เข้ามานั้นถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งใหม่ พลังของ AI จะเป็นพันธมิตรที่สำคัญของผู้ใช้งานในทุกคำถามและการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับอาชีพของพวกเขา และเขาก็ตื่นเต้นกับมัน

ในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาบริษัทได้นำ AI มาใช้ในส่วนของภาคธุรกิจที่ต้องการเปิดรับพนักงาน โดยเทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทเหล่านี้หาผู้สมัครงานได้ตรงใจบริษัทมากขึ้น หรือแม้แต่การนำ AI เข้ามาช่วยสมาชิกในการเขียนโปร์ไฟล์ให้ดึงดูดบริษัทที่ต้องการสมัครงานมากกว่าเดิม

ปัจจุบัน Linkedin มีสมาชิกทั่วโลกมากถึง 1,000 ล้านคน โดย 80% เป็นผู้ใช้งานนอกสหรัฐอเมริกา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ฯ รายดังกล่าวยังได้กล่าวเสริมว่า ด้วยจำนวนสมาชิกที่มีจำนวนมากขนาดนี้ยังได้สร้างระบบนิเวศในการมีส่วนร่วมเพื่อช่วยสร้างในด้านงาน ด้านธุรกิจ หรือแม้แต่ด้านเศรษฐกิจ 

]]>
1450341
ไม่ต้องพึ่งใคร! ‘Microsoft’ กำลังพัฒนาชิป AI ของตัวเองเพื่อลดต้นทุน https://positioningmag.com/1428176 Fri, 21 Apr 2023 06:37:51 +0000 https://positioningmag.com/?p=1428176 ถึงกับยอมทุ่มเงินสูงถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อลงทุนใน Open AI ผู้สร้าง ChatGPT แต่ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะ Microsoft บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของโลกกำลังพัฒนาชิป AI ของตัวเอง เพื่อลดการพึ่งพาบริษัทคู่ค้า เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่สูง

มีรายงานว่าบริษัท ไมโครซอฟท์ (Microsoft) กำลังซุ่มพัฒนนาชิป AI ของตัวเองที่สามารถใช้เพื่อฝึกโมเดลภาษาขนาดใหญ่โดยใช้ชื่อว่า Athena เพื่อหลีกเลี่ยงการพึ่งพาบริษัทผู้ผลิตชิปอย่าง Nvidia เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่สูง โดยจากข้อมูลของรายงานพบว่า ไมโครซอฟท์ไม่ได้เพิ่งคิดเรื่องนี้ แต่บริษัทได้พัฒนาชิปอย่างลับ ๆ ตั้งแต่ปี 2019 แล้ว

นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า พนักงานของไมโครซอฟท์และ OpenAI บางส่วนสามารถเข้าถึงชิปเหล่านี้แล้วเพื่อทดสอบว่าชิปเหล่านี้ทำงานได้ดีเพียงใดสำหรับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ล่าสุดอย่าง GPT-4

ปัจจุบัน Nvidia เป็นซัพพลายเออร์หลักของชิปเซิร์ฟเวอร์ AI ในขณะนี้ คิดเป็นสัดส่วนถึง 95% โดยบริษัทต่าง ๆ ต่างแย่งกันซื้อชิปเหล่านี้ และประมาณการว่า OpenAI จะต้องการ GPU A100 ของ Nvidia มากกว่า 30,000 ตัว ซึ่งราคาล่าสุดของชิป Nvidia ตัวนี้คาดว่าจะมีราคาสูงถึง 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.3 ล้านบาท เลยทีเดียว

ดังนั้น ไม่ว่าการแข่งขันเพื่อพัฒนา AI Chatbot จะรุนแรงแค่ไหน คนที่ได้ประโยชน์ที่สุดก็คือ Nvidia จึงไม่แปลกที่ ไมโครซอฟท์จะเริ่มพัฒนาชิปของตัวเองเพื่อหวังจะประหยัดเงินในการผลักดัน AI ของตนได้ โดยมีการคาดการณ์ว่า การผลิตชิปของตัวเองจะช่วยประหยัดถึง 1/3 ของค่าใช้จ่าย

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่า ไมโครซอฟท์จะให้บริการชิปเหล่านี้แก่ลูกค้า Azure cloud ของตนหรือไม่ แต่ผู้ผลิตซอฟต์แวร์กำลังวางแผนที่จะทำให้ชิป AI ของตนพร้อมใช้งานในวงกว้างมากขึ้นภายใน Microsoft และ OpenAI ในช่วงต้นปีหน้า ไมโครซอฟท์ยังมีแผนที่จะพัฒนาชิปอีกหลายรุ่นในอนาคต

จริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่ไมโครซอฟท์คิดจะทำชิป AI ของตัวเอง ในกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีหลายรายที่ทำชิปของตัวเองแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Google และ Meta ที่ออกแบบชิป AI ของตัวเอง โดยไมโครซอฟท์ถือเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายล่าสุดที่ทำ

Source

]]>
1428176
‘ไมโครซอฟท์’ เตรียมใส่ความสามาถ ‘ChatGPT’ ใน ‘Microsoft Office’ เชื่อจะเปลี่ยนวิธีการทำงานคนนับล้าน https://positioningmag.com/1423705 Fri, 17 Mar 2023 05:13:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1423705 หลายคนน่าจะได้สัมผัสกับความฉลาดของ ChatGPT กันไปแล้ว เพราะตั้งแต่เปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ภายใน 2 เดือนก็มีผู้ใช้งานกว่า 100 ล้านคน จนบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft (ไมโครซอฟท์) ถึงกับทุ่มเงิน 1 หมื่นล้านดอลลลาร์ลงทุนใน Open AI ผู้พัฒนา ChatGPT ล่าสุด ไมโครซอฟท์ก็จะนำ ChatGPT ไปใส่ใน Microsoft Office

Microsoft ได้เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของ ChatGPT มาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของโปรแกรมตระกูล Microsoft Office ไม่ว่าจะเป็น Outlook, PowerPoint, Excel และ Word โดยมั่นใจว่าจะช่วยเปลี่ยนวิธีการทำงานของคนนับล้านในแต่ละวัน

ผู้ใช้ Microsoft 365 จะสามารถใช้ AI ‘Co-pilot’ ฟีเจอร์ใหม่ที่สร้างขึ้นบนเทคโนโลยีเดียวกันกับที่พัฒนา ChatGPT ซึ่งจะช่วยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน อาทิ

  • Word: สามารถช่วยร่างเอกสาร, ปรับภาษาให้เป็นทางการขึ้นหรือน้อยลง, หรือเติมเอกสารจากโครงร่างที่กำหนด
  • Excel: สร้างตารางจากโครงสร้างที่กำหนด, สร้างกราฟจากข้อมูลที่ต้องการ, ให้ปัญญาประดิษฐ์ช่วยเขียนสูตรทำนายค่าต่าง ๆ
  • PowerPoint: นำเนื้อหาจาก Word มาสร้างสไดล์ พร้อมใส่ภาพที่เกี่ยวข้อง, ย่อการนำเสนอให้สั้นลง
  • Outlook: สรุปอีเมลที่ยังไม่ได้อ่าน, ช่วยร่างอีเมลตอบกลับ ถามประเด็นที่ต้องการ, แก้ไขอีเมลให้สั้นลง
  • Teams: สรุปเนื้อหาการประชุม, สรุปข้อดีข้อเสียที่คุยกัน, สรุปหัวข้อที่พูดคุยกันพร้อมหาสิ่งที่ต้องทำต่อไป

ปัจจุบัน ฟีเจอร์ดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบกับลูกค้าเพียง 20 ราย เท่านั้น ทั้งนี้ การประกาศฟีเจอร์ใหม่ของ Microsoft มีขึ้นหนึ่งเดือนหลังจากนำคุณสมบัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่คล้ายกันมาสู่ Bing หรืออย่าง Google ก็ได้ประกาศว่าจะนำ AI มาสู่เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพเช่น Gmail, Sheets และ Docs แสดงให้เห็นว่าในปัจจุบัน AI ได้กลายเป็นอาวุธใหม่ ของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

สำหรับ ChatGPT ถือเป็นแพลตฟอร์ม AI Chatbot ที่ได้เปิดตัวในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยภายใน 2 เดือนหลังจากเปิดตัวก็มีผู้ใช้มากถึง 100 ล้านคน และในเดือนนี้ ChatGPT กำลังจะออก ChatGPT 4 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ ซึ่งจะเพิ่มความสามารถในการโต้ตอบกับผู้ใช้ที่ป้อนข้อมูลเป็นภาพได้ ในขณะที่รุ่นก่อน ๆ สามารถโต้ตอบได้ในรูปแบบข้อความเท่านั้น

]]>
1423705
Microsoft ปลดพนักงานมากถึง 10,000 ราย ให้เหตุผลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย ลงทุนด้าน AI https://positioningmag.com/1415896 Thu, 19 Jan 2023 04:27:09 +0000 https://positioningmag.com/?p=1415896 ยักษ์ใหญ่ IT อีกรายจากสหรัฐอเมริกาอย่าง Microsoft นั้นล่าสุดได้มีการปลดพนักงานมากถึง 10,000 ราย คิดเป็นสัดส่วน 5% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด ตามหลังบริษัทเทคโนโลยีหลายรายที่ต้องลดต้นทุนในส่วนของพนักงานออกไป หลังจากสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจดูไม่สดใสในช่วงหลังจากนี้

การประกาศดังกล่าวนั้น Satya Nadella ซึ่งเป็น CEO ขอ Microsoft กล่าวว่าช่วงเวลาดังกล่าวนี้ถือเป็นช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านสำคัญในช่วงที่ผ่านมาคือบริษัทหลายแห่งเริ่มเปลี่ยนผ่านเข้าสู่โลกดิจิทัลมากขึ้น เพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

หัวเรือใหญ่ของ Microsoft ได้กล่าวเสริมว่า อย่างไรก็ดีในช่วงที่ผ่านมาบริษัทหลายแห่งเริ่มที่จะใช้ความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลกกำลังสู่สภาวะถดถอย แต่คลื่นของการเปลี่ยนผ่านนั้นกำลังก้าวเข้ามาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ AI ที่บริษัทจะต้องสร้างผลลัพธ์และลงทุนในโอกาสระยะยาว

เหตุผลดังกล่าวทำให้บริษัทต้องมีการปลดพนักงาน ซึ่งคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งนี้มากถึง 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยพนักงานจะได้สวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลอีก 6 เดือน ได้หุ้นของบริษัทอีก 6 เดือน รวมถึงเงินชดเชยจากบริษัทที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด

หลังจากนี้ Microsoft จะจัดสรรเงินทุนไปลงทุนในด้านต่างๆ มากขึ้น ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการลงทุนใน OpenAI เจ้าของ ChatGPT ด้วยมูลค่ามากถึง 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือแม้แต่เตรียมเงินทุนในดีลการซื้อกิจการบริษัทเกมอย่าง Activision Blizzard แม้ว่าจะอยู่ในกระบวนการตรวจสอบของหน่วยงานกำกับดูแลก็ตาม

การปลดพนักงานของ Microsoft ครั้งนี้นั้นตามหลังการปลดพนักงานของบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Amazon ที่ประกาศปลดพนักงานหลักหมื่นคน Meta หรือแม้แต่ Twitter ซึ่งบริษัทเหล่านี้ได้ให้เหตุผลคล้ายคลึงกันในเรื่องของรายได้ที่ลดลง รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจ

ที่มา – Reuters, BBC

]]>
1415896
ลือ! ‘ไมโครซอฟท์’ เตรียมทุ่ม 1 หมื่นล้านดอลลาร์ลงทุน ‘OpenAI’ ผู้พัฒนา ChatGPT https://positioningmag.com/1415091 Wed, 11 Jan 2023 03:35:47 +0000 https://positioningmag.com/?p=1415091 นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2022 หลายคนกำลังฮือฮากับความฉลาดของ ChatGPT เอไอแชทบอทที่สามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถตอบคำถามได้เกือบทุกเรื่อง แม้แต่ขอให้ตั้งคำถามหรือเขียนสคริปต์การเรียนการสอนโดยที่เราไม่ต้องหาข้อมูลเอง ด้วยความฉลาดล้ำขนาดนี้ ไมโครซอฟท์ เลยเตรียมทุ่มเงินถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อลงทุน

ไมโครซอฟท์ (Microsoft) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลกวางแผนที่จะลงทุน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในบริษัท OpenAI ซึ่งเป็นองค์กรที่พัฒนางานวิจัยเกี่ยวกับด้านปัญญาประดิษฐ์ผู้พัฒนาเอไอ ChatGPT และถ้าไมโครซอฟท์สามารถลงทุนได้ จะทำให้ OpenAI มีมูลค่าที่สูงถึง 29,000 ล้านดอลลาร์

แม้จะยังไม่มีความชัดเจนว่าข้อตกลงดังกล่าวจะได้ข้อสรุปเมื่อไหร่ แต่ทางไมโครซอฟท์วางแผนที่จะปิดดีลให้ได้ภายในสิ้นปี 2023 นี้ อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงของการลงทุนจากไมโครซอฟท์นั้นค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งมีการเปิดเผยถึงรายละเอียดของการลงทุนว่า ไมโครซอฟท์จะได้รับส่วนแบ่ง 75% จากผลกำไรของ OpenAI จนกว่าจะได้รับเงินคืนจากการลงทุน หลังจากนั้นบริษัทจะส่วนแบ่งหุ้น 49% ใน OpenAI ส่วนนักลงทุนอื่นถือรวมกัน 49% และบริษัทแม่ที่ไม่แสวงหากำไรถือ 2%

การที่ไมโครซอฟท์ลงทุนใน ChatGPT นั้น คาดว่าจะช่วยเพิ่มความสามารถในการค้นหาเว็บบนแพลตฟอร์ม Bing ของบริษัทที่ปัจจุบันมีส่วนแบ่งเพียงเล็กน้อยในตลาดเสิร์ชเอนจิ้นทั่วโลก ดังนั้น ChatGPT จะช่วยให้ไมโครซอฟท์สามารถแข่งขันกับ Google ที่เป็นผู้นำตลาดโลก โดยชูจุดเด่นด้านความสามารถในการค้นหาขั้นสูง

Source

]]>
1415091