Thomas Bach ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) กล่าวว่า คำถามที่อยู่ในใจใครหลายคนตอนนี้ คือ นักกีฬาทุกคนจะสามารถ “ทำตามความฝัน” ในการเข้าร่วมเเข่งโอลิมปิกในอีก 10 เดือนข้างหน้านี้ได้หรือไม่ โดยพวกเรากำลังพยายามทำงานอย่างเต็มที่ ร่วมกับพันธมิตรทั้งหลายเเละสหายชาวญี่ปุ่น เพื่อให้เเน่ใจว่าโตเกียวโอลิมปิก จะยังคงดำเนินไปได้ด้วยความปลอดภัยเเละเหมาะสมกับสถานการณ์โลกหลังการเเพร่ระบาดของ COVID-19
“โตเกียว ยังคงเป็นเมืองที่มีการเตรียมความพร้อมเพื่อการจัดแข่งกีฬาไว้อย่างดีที่สุด โดยเรื่องสุขภาพและความปลอดภัย เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุด”
ประธาน IOC กล่าวอีกว่า ทีมผู้จัดกำลังโฟกัสไปที่การพัฒนาเครื่องมือ เพื่อรับมือกับไวรัสโคโรนาในทุกสถานการณ์ ซึ่งจะพัฒนาวิธีการตรวจหาเชื้อไวรัสและคิดค้นวัคซีนให้ได้ในเร็ววันนี้
“เรากำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดแข่งกีฬาโอลิมปิกอย่างปลอดภัย ไม่ว่าสถานการณ์โลกในช่วงฤดูร้อนปีหน้าจะเป็นเช่นไรก็ตาม”
กำหนดการล่าสุดของโตเกียว โอลิมปิก จะเริ่มขึ้นในวันที่ 23 กรกฎาคม 2021 ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นเเละทีมผู้จัดงานกำลังปวดหัวกับการเตรียมงานใหม่ เพราะจะต้องปรับค่าใช้จ่ายในทุกด้าน ตั้งแต่สนามแข่งไปจนถึงการขนส่ง ท่ามกลางงบประมาณที่บานปลายไปมากแล้ว
โดยกำลังหาวิธีที่จะ “ลดความอลังการ” ในการเเข่งขันลง ซึ่งในพิธีเปิดอาจจะต้องมีความกระชับ มีการจำกัดจำนวนผู้ชม เน้นความเรียบง่ายเป็นหลัก
ข้อจำกัดของการจัดงานครั้งนี้ คือต้องคำนึงถึง “ต้นทุนเเละความปลอดภัย” ในการจัดแข่งขันโอลิมปิกที่ถูกเลื่อนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
]]>
ผู้สนใจสามารถร่วมสนุกกับกิจกรรม “Pepsi Football Splash” ได้ง่ายๆ เพียงซื้อ “แก้วทัมเบลอร์เป๊ปซี่ลายการ์ตูนเน็ทเวิร์คอเมโซนพร้อมเครื่องดื่ม” ในราคาเพียง 99 บาท ณ สวนน้ำการ์ตูนเน็ทเวิร์ค อเมโซน รับสิทธิ์ร่วมกิจกรรมฟรี! พร้อมลุ้นรับของรางวัลมากมาย ตลอดเดือนกรกฎาคมนี้เท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สวนน้ำการ์ตูนเน็ทเวิร์ค อเมโซน หรือทาง http://www.facebook.com/CNAmazone
]]>
ชื่อ ฟรากัส (Fracas) สื่อถึงอารมณ์และความตื่นเต้นที่จะเกิดขึ้นในการแข่งขันรอบน็อคเอาท์อย่างคาดเดาไม่ได้ได้รับการถ่ายทอดออกมาเป็นสีแดงที่มีพลังผสานด้วยสีดำกลายมาเป็นดีไซน์ของลูกฟุตบอล ฟรากัส แซม แฮนดี้ รองประธานฝ่ายออกแบบ ได้อธิบายแนวคิดที่อยู่เบื้องหลังผลงานในครั้งนี้ว่า “สำหรับฟรากัส เราอยากจะเพิ่มความเข้มลงไปรวมทั้งองค์ประกอบที่จะสื่ออารมณ์ความรู้สึกจะเกิดขึ้นในการแข่งขันฟุตบอลในรอบน็อคเอ้าท์ ซึ่งที่ผ่านมา ลูกฟุตบอลโบเชอร์ (Beau Jeu) จะเป็นเรื่องของการสื่อถึงการมีกลยุทธ์หรือเทคนิคในการเล่น ทำอะไรก็ได้เพื่อให้ทีมเข้ามายังรอบน็อคเอาท์นี้ได้ ซึ่งฟรากัสก็จะแตกต่างออกไป เพราะถึงเสียงเชียร์ของผู้ชมจำนวนมหาศาล อารมณ์ความตื่นเต้นในสนามราวกับผู้ชนะ”
ทั้งนี้ ส่วนประกอบหลักที่ใช้ในลูกฟุตบอล “โบเชอร์” รวมทั้ง “ฟรากัส” นั้น ผ่านการพัฒนามาเป็นระยะเวลากว่า 1 ปีครึ่ง ใช้วัสดุที่ดีที่สุดเช่นเดียวกับบราซูก้า (Brazuca) ที่เป็นลูกฟุตบอลอย่างเป็นทางการในการแข่งขันฟุตบอลโลกฟีฟ่า (FIFA World Cup) ที่ใช้การเข้ารูปด้วยแถบนวัตกรรมใหม่ ลูกฟุตบอลที่ใช้ลงแข่งจริงทั้งสองลูกนี้ ใช้วัสดุผิวและการวางบล็อกที่ดีขึ้นที่จะช่วยให้ยึดเกาะได้ดีขึ้นและมองเห็นได้ชัดขึ้นขณะที่ลูกลอยอยู่ในอากาศ ในระหว่างกระบวนการพัฒนานี้ ลูกบอลทั้งสองต่างผ่านการทดสอบโดยนักฟุตบอลชื่อดังมากมาย อาทิ กาเรธ เบลและอิเกร์ กาซียัส อีกด้วย
ชมวิดีโอลูกฟุตบอลฟรากัสเพิ่มเติมได้ที่ https://youtu.be/Vjby55BQD9Q
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถชมได้ที่ adidas.com/football หรือเฟซบุ๊ค facebook.com/adidasfootball รวมทั้งร่วมติดตามและพูดคุยผ่านทางทวิตเตอร์ได้ที่@adidasfootball
เกี่ยวกับ อาดิดาส ฟุตบอล
อาดิดาส ผู้นำด้านกีฬาฟุตบอลของโลก และเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการและผู้สนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาฟุตบอลทั่วโลก อาทิ ฟุตบอลโลก ฟีฟ่า คอนเฟอร์เดเรชั่น คัพ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ ยูฟ่ายูโรเปี้ยน แชมเปี้ยนชิพ นอกจากนั้น อาดิดาส ยังสนับสนุนทีมฟุตบอลจากยุโรป อาทิ แชมป์เวิลด์คัพอย่างเยอรมนี แชมป์บอลยูโรอย่างสเปน ทีมเบลเยียม รัสเซีย สวีเดน เดนมาร์ก เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ นอกจากนั้นยังสนับสนุนนักเตะระดับโลกอย่าง ลีโอเนล เมสซี, กาเรธ เบล, โทมัส มุลเลอร์,หลุยส์ ซัวเรซ, เจมส์ โรดริเกซ, ดีอาโก้ คอสต้า และเมสซุส โอซิล
]]>รายการ “ศึกนวมทองคำ” จะสัญจรไปตั้งเวทีมวยทั่วประเทศไทยและยังเป็นการแข่งขันมวยไทยแบบ 3 ยก เพื่อความสนุกตื่นเต้น แต่หัวใจของรายการยังคงเป็นการแข่งขันจริงๆ คัดเลือกและประกบมวยด้วยความยุติธรรม เพื่อให้การแข่งขันออกมาสมน้ำสมเนื้อโดยจะออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 16.20-18.00 น. เริ่มศึกแรก 3 มิถุนายนนี้เช่นเดียวกับรายการ “พีพีทีวี มวยไทย ไฟท์ ไนท์” เป็นการแข่งขันมวยไทย 3 ยกเช่นกันแต่จะเพิ่มความมันส์ในส่วนของคู่ชกที่จะมีทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ เพิ่มความหลากหลายด้วยนักชกผู้หญิง ปักหลักเวทีไว้ที่ สนามอาคารอเนกประสงค์ เทศบาลบางปลา จ.สมุทรสาคร โดยจะออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 18.20-20.00น. และสำหรับรายการมวยเจ้าเก่าอย่าง “ศึกราชดำเนินซุปเปอร์ไฟท์” ก็ยังคงเน้นการแข่งขันแบบมวยในตำนาน แบบ 5 ยก แต่ย้ายเวลาออกอากาศเป็นวันอาทิตย์ เวลา 18.20 – 20.00 น. และยังคงทรงคุณค่าในแบบฉบับมวยราชดำเนินเช่นเดิม
สำหรับรายการศึกนวมทองคำ และ พีพีทีวี มวยไทย ไฟท์ ไนท์ นอกจากจะรับชมผ่านทางหน้าจอแบบสดๆแล้ว ยังสามารถเข้าไปร่วมเชียร์กันแบบติดขอบเวทีได้โดยไม่มีค่าผ่านประตู โดยผู้ชมสามารถรับชมการถ่ายทอดมวยทั้ง 3 รายการนี้ได้ทาง PPTV HD ช่อง 36 หรือแอพพลิเคชั่น PPTV BEYOND และ WWW.PPTVTHAILAND.COM
]]>รับชมมัลติมีเดียเพิ่มเติม ได้ที่ http://en.prnasia.com/mnr/treasurywine_201605.shtml
ความร่วมมือคร้ังนี้นับเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของ วู้ล์ฟ บลาสส์ ในการเดินหน้าในการสนับสนุนแวดวงการกีฬาในภูมิภาคดังกล่าว หลังจากได้ลงนามข้อตกลงร่วมกับสมาคมบาสเก็ตบอลแห่งชาติของจีน และสมาคมเบสบอลอาชีพในญี่ปุ่นและเกาหลีไปเมื่อไม่นานมานี้ ทั้งนี้วู้ล์ฟ บลาสส์จะเข้าถึงบรรดาแฟนกีฬาในตลาดหลักๆ เหล่านี้ผ่านแคมเปญอันน่าตื่นเต้นในหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการจัดโปรโมชั่นตามร้านค้า การออกผลิตภัณฑ์โดยใช้แบรนด์ร่วมกัน การแจกของรางวัล การสร้างกระแสในสื่อดิจิตอลและโซเชี่ยลมีเดีย รวมถึงการจัดกิจกรรมสำหรับผู้บริโภค
โรเบิร์ต ฟอยด์ ประธานและกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา และละตินอเมริกา บริษัท เทรสเชอรี่ ไวนส์ เอสเทรทส์เจ้าของแบรนด์วู้ล์ฟ บลาสส์กล่าวว่า “วู้ล์ฟ บลาสส์มีความสัมพันธ์กับแวดวงการกีฬามาอย่างยาวนาน และมีความมุ่งมั่นในการไล่ล่าความสำเร็จ เราจึงรู้สึกตื่นเต้นที่ได้มีส่วนร่วมกับกีฬาอันดับหนึ่งของโลก และเป็นพันธมิตรกับหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จสูงสุดในโลกอย่างทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยวู้ล์ฟ บลาสส์จะนำแคมเปญระดับโลก ‘Here’s To The Chase’ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยกย่องการตามล่าความสำเร็จและชัยชนะ มาสร้างสีสันผ่านความร่วมมือกับสโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้ในครั้งนี้ และเราตั้งตารอที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการคว้าถ้วยแชมป์มาครองเพิ่มเติม และเฉลิมฉลองความสำเร็จของทีมด้วยไวน์วู้ล์ฟ บลาสส์อันโด่งดัง”
คริส แฮทเชอร์ หัวหน้าไวน์เมกเกอร์ของวู้ล์ฟ บลาสส์ กล่าวว่า “ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ผลิตไวน์ที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของออสเตรเลีย วู้ล์ฟ บลาสส์ไม่เคยหยุดยั้งที่จะก้าวขึ้นเป็นสุดยอดผู้ผลิตไวน์ เช่นเดียวกับแมนเชสเตอร์ซิตี้ที่พยายามรักษามาตรฐานการเล่นฟุตบอลที่สวยงามที่สุดในโลกไว้อย่างต่อเนื่อง”
เดเมี่ยน วิลลอห์บี้ รองประธานและผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมือภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของซิตี้ฟุตบอลมาร์เก็ตติ้ง กล่าวว่า “วู้ล์ฟ บลาสส์ เป็นผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมไวน์ซึ่งมีความใส่ใจในการรักษาความสม่ำเสมอของคุณภาพและคุณลักษณะของแบรนด์เช่นเดียวกันกับเรา ความร่วมมือครั้งใหม่นี้มอบโอกาสอันน่าตื่นเต้นให้กับเราที่จะได้ใกล้ชิดกับแฟนๆ และผู้บริโภค ซึ่งเราตั้งตารอที่จะได้ทำงานร่วมกับ วู้ล์ฟ บลาสส์ เพื่อเติบโตในแนวทางใหม่และสร้างสรรค์ไปด้วยกัน”
ในฐานะผู้สนับสนุนเครื่องดื่มอย่างเป็นทางการ (Official Wine Partner) ของแมนเซสเตอร์ซิตี้ วู้ล์ฟ บลาสส์ จะสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นคอลูกหนังผู้ชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ ด้วยฐานแฟนบอลกว่า 240 ล้านคนในเอเชีย ตะวันออกกลางและแอฟริกา รวมถึงผู้ติดตามในโซเชี่ยลมีเดียอีกหลายล้านคน แมนเชสเตอร์ซิตี้จะเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคทั้งเก่าและใหม่ได้รู้จักไวน์วู้ล์ฟ บลาสส์มากขึ้น และร่วมสร้างจิตวิญญาณแห่งการไล่ล่าความสำเร็จไปพร้อมๆกันสามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.mcfc.co.uk
]]>บี เตชะอุบล มหาเศรษฐีชาวไทย เดินทางเข้าประชุม “ลับสุดยอด” กับ ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี ประธานใหญ่ของ “ปีศาจแดงดำ” เอซี มิลาน เรียบร้อยแล้ว โดยมีข่าวลือว่าจะขอซื้อหุ้นสโมสร เพิ่มเป็น 51 เปอร์เซ็นต์ เพื่ออำนาจในการบริหารทั้งหมด
หลังจากที่ ผู้บริหาร บริษัท ไทย ไพร์ม เดินทางไปยัง ประเทศ อิตาลี เพื่อพูดคุยทำสัญญาปิดดีล เทคโอเวอร์สโมสร เอซี มิลาน ให้สำเร็จ ก่อนขึ้นเดือน โดยมีผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ที่ติดตามเรื่องนี้เป็นระยะ
ล่าสุดมีภาพเผยว่า บี เตชะอุบล ได้ไปพบกับ แบรืลุสโคนี เรียบร้อยแล้ว ที่โรงแรมหรูใจกลางเมือง มิลาน โดยการประชุมในครั้งนี้ ยังไม่ได้มีการเปิดเผยว่าจะสำเร็จหรือไม่ เนื่องจากเป็นการประชุมที่ “ลับสุดยอด” มาก
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า บี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวใน อิตาลี ก่อนเข้าประชุมกับ แบร์ลุสโคนี ว่าเขาเตรียมที่จะซื้อหุ้นจำนวน 51 เปอร์เซนต์ ที่ราคา 500 ล้านยูโร (2 หมื่นล้านบาท) เพื่อที่จะมีสิทธิ์ในการบริหารสโมสรทั้งหมด
ที่มา http://manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9580000049400
“สปีโด” แบรนด์ชุดว่ายน้ำคนไทยคุ้นเคยดี เพราะได้ทำตลาดในไทยมายาวนานหลายสิบปี โดยมีบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในเครือสหพัฒน์เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่าย แต่ล่าสุดสปีโดได้เวลาเปลี่ยนมือสู่ บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด ภายใต้เครือเซ็นทรัล กรุ๊ป ในการรับช่วงต่อ หลังจากสัญญากับทาง ไอ.ซี.ซี. ได้หมดลงเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา
กลยุทธ์ทางการตลาด และโพสิชั่นของ “สปีโด” อาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก เพราะแต่เดิมแล้วสปีโดมุ่งเน้นการทำตลาดในส่วนของเซ็กเมนต์ Performance คือชุดว่ายน้ำสำหรับนักกีฬา หรือผู้ที่ว่ายน้ำเป็นอาชีพ เป็นสัดส่วนถึง 70% ส่วนชุดว่ายน้ำแบบแฟชั่นมีสัดส่วนเพียง 30%
แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงหลักๆ จะเป็นในเรื่องของ 1.เป็นสินค้านำเข้าทุกชิ้น ทำให้คุณภาพของสินค้าดีขึ้น แต่ก็มีราคาที่อาจจะสูงขึ้น 10% แล้วแต่รุ่น จากที่ปกติมีการผลิตในประเทศถึง 90% และนำเข้า 10% 2.การจัดแต่งหน้าร้าน จะมีการจัดร้านแบบแยกเซ็กเมนต์ของชุดว่ายน้ำอย่างชัดเจน เช่น เพอร์ฟอร์แมนซ์ แฟชั่น หรือแอคเซสเซอรี่ จากแต่เดิมที่มีการแขวนรวมกัน ทำให้เกิดการสับสน 3.เพิ่มจุดขายผ่านช่องทางห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัล ในปีนี้ตั้งเป้าวางจำหน่ายให้ครบ 105 สาขา สามารถเปิดไปแล้ว 36 สาขา
การที่ซี อาร์ ซีฯ ได้สปีโดมาเสริมทัพนั้น คาดว่าจะตั้งเป้าการเติบโตอีก 30% จากรายได้ของกลุ่มชุดว่ายน้ำ 700 ล้านบาทในปี 2557 และจากเดิมที่สปีโดครองตลาดชุดว่ายน้ำที่ 30% ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 40% ในปี 2558
คริสเตียโน โรนัลโด เพิ่งสร้างสถิติเป็นบุคคลที่ได้รับการกดไลค์บน Facebook ครบ 100 ล้านครั้ง ส่งผลให้เขาเป็นผู้ชาย นักกีฬาและนักฟุตบอลที่ได้รับความชื่นชอบสูงสุดบน Facebook เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษนี้ โรนัลโดได้แชร์วิดีโอบนเพจของเขาเพื่อขอบคุณแฟนๆ
โรนัลโดกล่าวถึงความสำเร็จครั้งนี้ว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับยอดไลค์ครบ 100 ล้านครั้งบน Facebook นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่ผมได้รับความสำเร็จที่น่าทึ่งอีกอย่างหนึ่งของชีวิต และได้เชื่อมต่อกับแฟนๆ ทั่วโลก ผมขอขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่คอยสนับสนุนและเป็นแรงบันดาลใจให้ผมมาโดยตลอด”
นับตั้งแต่เปิดเพจบน Facebook ในปีพ.ศ. 2552 โรนัลโดได้แบ่งปันเรื่องราวความสำเร็จระดับมืออาชีพต่างๆ ของเขารวมไปถึงชีวิตส่วนตัวกับแฟนๆ มาอย่างต่อเนื่อง ผู้ชื่นชมโรนัลโดจึงสามารถติดตามวิถีชีวิตของนักฟุตบอลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของโลกได้อย่างใกล้ชิด โดยกิจกรรมต่างๆ บน Facebook ที่ใช้เชื่อมต่อกับแฟนๆ ในแบบฉบับของโรนัลโด ได้แก่:
· ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา (ฤดูร้อนของต่างประเทศ) โรนัลโดโพสต์ภาพขณะฉลองวันเด็กกับลูกชาย ภาพที่น่ารักนี้ได้รับการกดไลค์มากกว่า 3.4 ล้านครั้งและเป็นภาพที่ได้รับไลค์มากที่สุดของเขาอีกด้วย
· ตลอดหลายปีที่ผ่านมา โรนัลโดมักจะแชร์ความรู้สึกของเขาเมื่อได้รับรางวัลชนะเลิศต่างๆ รวมถึง รางวัล FIFA Balon D´or เมื่อเดือนมกราคม 2557 และ UEFA Best Player in Europe Award ในเดือนสิงหาคม 2557
· ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลกในบราซิล โรนัลโดอัพเดทการเดินทางและนัดการแข่งขันของทีมให้แฟนๆ รับทราบอย่างสม่ำเสมอ โดยมีรูปแบบโพสต์ที่หลากหลายตั้งแต่รูปคู่กับภาพเหมือนของเขาที่แกะสลักลงบนเมลอน ไปจนถึงภาพถ่ายกับเพื่อนร่วมทีมโปรตุเกส
· โรนัลโดยังได้แชร์ช่วงเวลาพิเศษระหว่างเขากับแฟนสาวอิริน่า เชค เช่น ดินเนอร์เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม และทริปที่ทั้งคู่ไปพักผ่อนด้วยกันเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา
เพื่อให้เห็นภาพว่ากลุ่มแฟนของโรนัลโดมีจำนวนมากเพียงใด เราได้แนบอินโฟกราฟฟิกที่แสดงสถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับความโด่งดังของโรนัลโดบน Facebook มากับอีเมลฉบับนี้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น แฟนกว่า 100 ล้านคนของโรนัลโด…
· ต้องใช้สนามเบร์นาบิว สเตเดียม (สนามท้าแข้งของเรอัล มาดริด) ถึง 1,170 สนาม จึงจะสามารถรองรับได้หมด
· หากสร้างทีมฟุตบอล จะมีมากกว่า 90 ล้านทีม และถ้าจับคู่แข่งขันต้องพบกันมากกว่า 4.5 ล้านนัด
· หากยืนจับมือกันสามารถล้อมรอบโลกได้มากถึง 4 รอบ
· สามารถเติมเต็มพื้นที่ของประเทศโปรตุเกสได้มากกว่า 10 ครั้ง
อาดิดาส ผู้นำแบรนด์กีฬาระดับโลก ส่งกิจกรรมสนุกๆ เอาใจคนขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส ด้วยกติกาง่ายๆ ใครตาดีเห็นรถไฟฟ้าขบวนที่มีลวดลาย อาดิดาส บูสท์ (adidas boost) เพียงถ่ายรูปตัวคุณคู่กับรถไฟฟ้าสายบูสท์ พร้อมให้คำนิยามสั้นๆ เกี่ยวกับ “บูสท์” มาสั้นๆ ไม่จำกัดความครีเอทีฟ ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดวัย ไม่ว่าคุณจะนั่ง จะนอน จะมีท่าทีเด็ดสุดเก๋อะไร แล้วเลือกรูปที่คุณคิดว่าใช่ พร้อมคำบรรยายที่ใครอ่านแล้วต้องกดไลค์ แล้วโพสต์ลงเฟซบุ๊ค หรือ อินสตราแกรม ของคุณเอง แล้วแฮชแท็ก #BoostYourRunTH ระหว่างวันที่ 1 – 30 กันยายน ศกนี้ เท่านั้น แล้วมาดูกันว่ารูปของใครโดนใจกรรมการมากที่สุด 5 คน เตรียมตัวรับ adidas boost ราคา 5,590 บาท ไปเตรียมวิ่งกันคนละหนึ่งคู่ โดยผลการร่วมสนุกจะประกาศอย่างเป็นทางการบน เฟซบุ๊คของอาดิดาส https://www.facebook.com/adidasTH ในวันที่ 1 ตุลาคม 2557 นี้ และ พิเศษ สำหรับน้องๆ อายุ 7-14 ปี ที่ใส่ Hashtag#BoostYourRunKidTH ลุ้นรับ รองเท้า boost for kid เพิ่มอีก 5 รางวัล
เกี่ยวกับ อาดิดาส กรุ๊ป
อาดิดาส ผู้ผลิตและออกแบบชุดกีฬา รองเท้า และอุปกรณ์กีฬาระดับโลก เป็นแบรนด์กีฬาชั้นนำของโลก อาดิดาสเป็นหนึ่งในแบรนด์ของอาดิดาสกรุ๊ป ซึ่งมีแบรนด์สินค้าที่ประกอบไปด้วย รีบอค เทเลอร์เมด ร็อกพอร์ท และรีบอค-ซีซีเอ็ม ฮ็อกกี้ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมือง แฮร์โซเกเนารัช ในประเทศเยอรมนี โดยอาดิดาสมีพนักงานทั่วโลกกว่า 46,300 คน โดยเมื่อปี 2555 มียอดขายกว่า 14.9 พันล้านยูโร
อาดิดาส ผู้นำแบรนด์กีฬาระดับโลก เปิดศักราชใหม่แก่วงการรองเท้าวิ่งรุกตลาดรองเท้ากีฬาสำหรับเด็ก ส่ง ENERGY BOOST โดยเฉพาะสำหรับเด็กและเยาวชน เพื่อตอบสนองข้อเรียกร้องจากกลุ่มผู้ปกครอง เนื่องจากปัจจุบัน ผู้ออกกำลังโดยการวิ่ง มีการนำพาบุตรหลานมาร่วมออกกำลังกายร่วมด้วยมากยิ่งขึ้น ครั้งนี้จึงนับเป็นครั้งแรกของ อาดิดาส ที่นำเทคโนโลยี BOOST
พื้นรองเท้าวิ่งที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีพื้นรองเท้าที่สามารถคืนพลังให้กับการวิ่งได้มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา มาใช้กับผลิตภัณฑ์รองเท้าวิ่งสำหรับเด็ก อาดิดาส ENERGY BOOST
สำหรับเด็ก มีวางจำหน่ายในราคา 4,990 บาท
สำหรับ ENERGY BOOST สำหรับเด็ก (เอนเนอร์จี บูสท์
) คือ รองเท้าวิ่งที่นำเทคโนโลยีพื้นรองเท้าบูสท์ มาใส่ลงไปในรองเท้าวิ่งแบบเต็มรูปแบบ นับเป็นรองเท้าวิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา เอกสิทธิ์เดียวของอาดิดาส โดย ENERGY BOOST
(เอนเนอร์จี บูสท์
) สำหรับเด็กจะช่วยลดแรงกระแทก และขณะเดียวกันสามารถคืนพลังให้กับการวิ่ง แบบที่ไม่เคยมีพื้นรองเท้าชนิดใดทำได้มาก่อน
นายวรรวรธน์ เตชะมนตรีกุล ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท อาดิดาส (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ENERGY BOOST นับเป็นรองเท้าวิ่งรุ่นแรกที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับเด็ก นับเป็นตัวแทนของรองเท้าวิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการค้นคว้า วิจัย และ ความห่วงใยจากอาดิดาส ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานที่เหมาะกับเด็กโดยเฉพาะ โดย “ENERGY BOOST
ช่วยและป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อเข่า หรือลดอาการบาดเจ็บ เนื่องมาจากการที่เด็กและเยาวชนอาจจะมีลักษณะการวิ่งที่ไม่ถูกวิธี ซึ่งBOOST
คือพื้นรองเท้าที่จะช่วยซับแรงกระแทกได้ดีที่สุดในวงการรองเท้ากีฬาวิ่ง นับเป็นข้อแตกต่างพิเศษที่อาดิดาสเป็นเจ้าแรกที่คิดค้นได้ นอกจากนี้ ยังลบข้อจำกัดด้านอุณหภูมิ ที่สามารถทนกับสภาวะอากาศได้มากกว่าพื้นรองเท้าแบบ EVA ถึง 3 เท่า จึงมอบประสบการณ์การวิ่งที่คงตัวพร้อมกับความสบายที่มากกว่าเดิมให้กับผู้สวมใส่
อาดิดาส ENERGY BOOST สำหรับเด็ก มีวางจำหน่ายในราคา 4,990 บาท ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เฉพาะสาขา ดังต่อไปนี้ ร้านอาดิดาส สปอร์ต เพอร์ฟอร์แมนซ์ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์, แผนกสำหรับเด็ก ณ สยามพารากอน, โตคิว, เซ็นทรัล เฟซติวัล พัทยาบีช, ซุปเปอร์สปอร์ต เซ็นทรัลเวิลด์, ซุปเปอร์สปอร์ต เซ็นทรัล ลาดพร้าว, ซุปเปอร์สปอร์ต เซ็นทรัล ชิดลม, ซุปเปอร์สปอร์ต เซ็นทรัลภูเก็ต เฟซติวัล,ซุปเปอร์สปอร์ต จังซีลอน